เรื่องส่วนตัวหรอหย่วนจิ้งจือหัวเราะเบา ๆ และยืนขึ้น
ตอนเดินผ่านเฉินอิน เขาเหลือบมองเฉินอิน สายตาเหมือนจะชมเธอว่ายอดจริงๆแม้แต่บอสใหญ่ยังจับติด
เฉินอินโดนมองจนหน้าแดง ตอนที่มองไปที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า หัวใจเต้นแรงพูดไม่ออก
ประธานซังเธอทักทายเบา ๆ ชำเลืองมองแล้วหันหน้าหนีไม่กล้าสบตาอีก
นั่งสิซังหลินจวินพูดอย่างเรียบ ๆ
เฉินอินนั่งลงตรงข้ามกับเขาคนสองคนถูกคั่นด้วยโต๊ะตรงกลางเฉินอินรู้สึกเพียงว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วมาก
ชายคนนั้นกุมมือวางบนโต๊ะ ดวงตาของเธอมองไปที่นิ้วของเขา – มือนั้นเรียวยาวและสวยงามจริงๆและหาที่เปรียบไม่ได้
“เธอสนิทกับซังอวี้หรอ”
“ห้ะ?”คำถามที่กะทันหันของเขาทำให้เฉินอินได้สติ “ท่านหมายถึงน้องท่านประธานซังใช่ไหมคะ ”
“เท่าที่ผมรู้คุณดื่มด้วยกันเมื่อคืนนี้”
ริมฝีปากของเฉินอินเปิดขึ้นเล็กน้อย
เธอไม่อยากจะเชื่อเลย ประธานซังรู้ความเคลื่อนไหวของเธอได้อย่างไร?
“ประธานซังรู้ได้ยังไงคะว่าเมื่อวานฉันกับน้องท่านประธานซังอยู่ด้วยกัน”
“มีวิธีแหละ”ซังหลินจวินตอบแบบเรียบๆ
อย่างไรก็ตามคำตอบแบบนี้เฉินอินได้ยินก็คิดว่าคนละเรื่อง
เธอโกรธมากและตอบว่า: “ฉันกับน้องท่านประธานซังจริงๆแล้วไม่ได้สนิทกันเลย เมื่อคืนมันเป็นเรื่องบังเอิญ อย่างไรก็ตามจะไม่มีครั้งต่อไป! ฉันเป็นคนไม่ชอบกินเหล้า ไม่สิถ้าจะให้ถูกฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยซ้ำ ”
เฉินอินกล่าวอย่างกระตือรือร้น
ในตอนท้ายเธอรู้ว่าตัวเองตื่นเต้นไปหน่อย “ขอโทษค่ะ ท่านประธานซัง ฉันพูดมากเกินไป”
“แบบนี้แหละดีแล้ว”ซังหลินจวินมองไปที่เธอใบหน้าของเขาเย็นชาเช่นเคย “หลังจากนี้ฉันหวังว่าคุณจะอยู่ให้ห่างจากซังอวี้มากที่สุด”
เมื่อเฉินอินเดินออกจากห้องทำงานใบหน้าของเธอก็แดง เธอเหมือนจะลอยอยู่บนก้อนเมฆทุกอย่างรู้สึกไม่จริง
หย่วนจิ้งจือเห็นเธอออกมาก่อนจะเข้าไป
หัวเราะ“ ทำอะไรกับสาวน้อยคนนั้น? ตอนมาก็ดีๆอยู่หรอก แต่ตอนออกไปแก้มแดงเชียว ”
“ หยุดพูดเรื่องไร้สาระ”
“ ฉันไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ ฉันไม่เคยเห็นพนักงานคนไหนที่มาพบเป็นการส่วนตัวมาก่อน ทำไม คุณชอบผู้หญิงแบบนี้หรอ? ”
ซังหลินจวินดับก้นบุหรี่ในมือ “ฉันไม่สนใจสาวๆ”
“ชอบผู้ใหญ่หน่อยหรอ”
ซังหลินจวินไม่ได้พูดอะไรสักคำและใบหน้าเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
เธอนับว่าเป็นผู้ใหญ่ไหมนะ
ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ทั้งหมด
บางครั้งก็ดูไร้เดียงสา แต่คนที่ไร้เดียงสาในความคิดของเขานั้นน่ารักจริงๆ
ฮัลโหล คิดถึงใครอยู่? “หย่วนจิ้งจือหยิบเอกสารและโบกมือตรงหน้าเขา
เขาได้สติลุกขึ้น “ฉันไปก่อนนะ ถ้ามีเรื่องอะไรเดี๋ยวโทรหา”
เฮ้ย วันนี้มาหาฉันที่นี้เพื่อตามหาสาวน้อยคนนี้เหรอ? ไหนตัวเองบอกว่าไม่ชอบสาวๆ ”
ซังหลินจวินไม่สนใจเขาและเดินออกจากห้องทำงาน
————
เฉินเฉียวออกมาจากโรงแรมและไปที่สถานีตำรวจเพื่อแจ้งตำรวจ
หลังจากสอบถามข้อมูลพื้นฐานและรู้ว่าเธอไม่ได้รับอันตรายหรือสูญเสียอะไร จึงไล่เธอกลับ
เฉินเฉียวรู้สึกรำคาญเล็กน้อยแต่ก็ช่วยไม่ได้
กลับถึงบ้าน พักผ่อนทั้งวัน กินยาตรงเวลา ร่างกายดีขึ้นมาก
ห้าโมงเย็นเฉินอินก็โทรมา
“พี่คะ คืนนี้ฉันเลี้ยงข้าวพี่ถือว่าขอบคุณที่มารับฉันเมื่อวาน”น้ำเสียงของเฉินอินตื่นเต้นมาก
เฉินเฉียวไม่ค่อยพอใจ “เออๆจองร้านไว้นะ เดี๋ยวฉันไป”
เฉินอินส่งที่อยู่ร้านอาหารให้เฉินเฉียว
เฉินเฉียวเปลี่ยนเสื้อผ้าและเรียกรถ รถของเธอนับตั้งแต่ที่เธอไปหาเริ่นหมิงเซวียนในวันนั้นก็จอดอยู่ที่บ้านของปู้และเธอก็ไม่เคยขับมันอีกเลย
รถคันนั้นพ่อตาของเธอปู้หมิงหย่วนเป็นคนให้
ตอนนี้ตัดสินใจหย่าแล้วไม่ต้องการรถอีกแล้ว
เมื่อเฉินเฉียวมาถึงร้านอาหารเฉินอิน ก็โบกมือให้เธอ เฉินอินสั่งอาหาร อันนี้ก็อยากกิน อันนั้นก็อยากกิน
เฉินเฉียวหยุดเธอ “กินแค่สองคนเองสั่งมากเกินไปแล้ว”
“ไม่เป็นไรฉันมีความสุขในวันนี้”
“ วันนี้มีอะไรหรอถึงมีความสุขมาก”
เฉินอินยิ้ม“ พี่รู้ไหม? วันนี้ประธานซังตั้งใจไปหาฉันถึงบริษัทย่อย ”
ซังหลินจวินหรอเฉินเฉียวก็ประหลาดใจเช่นกัน
อืม
“เขาไปหาเธอทำไม”
“ เขาเป็นห่วงฉันมาก เขาไม่ให้ฉันยุ่งกับซังอวี้ พี่คะ เขารู้เรื่องฉันกับซังอวี้ไปดื่มเมื่อคืนด้วยนะ ”
เฉินเฉียวไม่เข้าใจว่าทำไมซังหลินจวินถึงไปกำชับเฉินอินถึงที่นั่น
แต่ถ้าจะบอกว่าซังหลินจวินตกหลุมรักเฉินอินเฉินเฉียวก็ไม่คิดอย่างนั้น
“เธอบอกว่าเมื่อคืนเธอไปดื่มกับซังอวี้หรอ?”
ใช่ แต่ว่าพอนัดฉันแล้วก็หายไปเลย”
สีหน้าของเฉินเฉียวกลายเป็นจริงจัง“ประธานซังของเธอพูดถูก หลังจากนี้อยู่ห่างๆซังอวี้ไว้จะดีกว่า เบียร์ที่พวกเขาให้ฉันดื่มเมื่อคืนถูกใส่ยาถ้าไม่ใช่มีคนช่วยไว้ป่านนี้ฉันคงนอนอยู่โรงบาล ”
เฉินอินตะลึงเมื่อเธอได้ยิน “ยาอะไร?”
“ ยาปลุกเซ็ก”
เฉินอินเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์นี้มาก่อนปากของเธอเปิดกว้าง “ที่แท้ซังอวี้เลวขนาดนี้เลยหรอ”
อืม
“ พี่ เป็นอะไรไหม เมื่อคืน….ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่มั้ย? ”
เฉินเฉียวส่ายหัว“ ฉันเจอคนดี ไม่เป็นไร
แม้ว่าซังหลินจวินจะเคยกระทำกับเธอหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคืนนี้เขาเป็นสุภาพบุรุษและไม่ฉวยโอกาส
เฉินอินถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเธอพูดเช่นนี้
เฉินเฉียวรู้สึกกังวล “ฉันว่าเธอไม่ต้องไปทำงานที่นั่นแล้ว กลับมาบ้านเถอะ”
ไม่เอาเฉินอินปฏิเสธโดยไม่ลังเลและพึมพำ: “ถ้าฉันกลับไปทำงานที่บ้าน ฉันก็ไม่ได้เจอประธานซังสิ”
เฉินเฉียวปวดหัว ทำไมเธอถึงหลงหัวปักหัวปำขนาดนี้
กำลังคิดอยู่ จู่ๆก็มีลูกบอลมากระแทกเท้า เธอเก็บลูกบอลขึ้นมาและเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เธอเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ ทำให้เธอตกตะลึง
คนตัวเล็กถือกระเป๋านักเรียนยืนมองเธออยู่ตรงนั้น
ดูเหมือนเขาจะไม่คิดว่าเป็นเธอและเขาก็ตะลึงเช่นกัน
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นซังโย่วอี
“ พี่ เป็นอะไรหรอ”เฉินอินถาม เธอก็เห็นเด็กน้อยน่ารักมากคนหนึ่งเธอถามว่า “พี่รู้จักหรอ”
เฉินเฉียวไม่ได้พูด
ซังโย่วอีหันกลับและเดินจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา
เฉินเฉียวลุกขึ้นด้วยความเจ็บปวดในใจ
“โย่วอี”เดินน้อยกำลังวิ่งหนีแต่ถูกแขนเรียวๆจับไว้
เสียงนี้มัน …
คือเถียนเถียน
เฉินเฉียวคิดว่าเธอแปลก
ทำไมเธอถึงสนใจเถียนเถียนมากขนาดนี้? เคยได้ยินเสียงทางโทรศัพท์สองครั้งเธอก็จำได้
ไม่น่าละซังโย่วอีเรียบร้อยเชื่อฟังขนาดนั้น เถียนเถียนจูงเขา เขาไม่วิ่งซนแล้ว
“ ทำไมหน้าบึ้งแล้วล่ะ”เถียนเถียนก้มศีรษะลงถามเด็กคนนั้นอย่างอ่อนโยน
ภาพนั้นอ่อนโยนดูเหมือนแม่ที่ดีจริงๆ