ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 79 ผมชอบคุณก็พอ

กลัวหรอคนตัวเล็กเลิกคิ้วอย่างมีความสุข แต่ก็ยังแตะๆมือเธออย่าไม่สบายใจ”ไปนั่งพักข้างๆกันเถอะ”

เฉินเฉียวนั่งลงข้างๆเขา

เด็กน้อยหันหลังวิ่งหนีโดยมีกระเป๋านักเรียนอยู่บนหลัง

เฉินเฉียวรู้สึกกังวลและกำลังจะลุกขึ้นตาม เห็นว่าเขาเอาเงินไปซื้อน้ำขวดแล้วกลับมายื่นให้เธอ

หัวใจของเฉินเฉียวรู้สึกอบอุ่น แค่เด็กน้อยคนนี้ไม่โกรธเธอ เธอก็รู้สึกว่าโลกนี้สดใสแล้ว

เธอดื่มน้ำสองอึกแล้วถามเขาว่า “คุณอยากดื่มไหม”

“ผมไม่ดื่ม”เขาส่ายหัว

เฉินเฉียวปิดขวดน้ำใส่กระเป๋านักเรียนแล้วเอากระเป๋านักเรียนไป

“ มืดแล้วกลับบ้านกันเถอะ”

ซังโย่วอีที่เล่นจนพอใจแล้วพยักหน้า

เฉินเฉียวจูงมือเขาอีกมือนึงถือกระเป๋านักเรียนเดินออกไป

“พี่เฉียว กี่โมงแล้วครับ”เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นถาม

เฉินเฉียวใช้มือที่ถือกระเป๋านักเรียนอยู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กำลังจะดูเวลา ก็ตะลึง

โทรศัพท์มือถือของเธอกำลังต่อสายอยู่ในขณะนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรไปเป็นของซังหลินจวิน พอดูดีๆแล้วก็เห็นว่าโทรตั้งหนึ่งชั่วโมงกว่าๆแล้ว

เฉินเฉียวไม่แน่ใจว่าเธอเผลอกดไปโดนแล้วโทรหาเขา หรือว่าเขาโทรมาแล้วเธอเผลอกดรับ แต่ว่าไม่ว่าจะยังไงเธอรู้สึกประหลาดใจมาก

เธอไม่เข้าใจทำไมปลายสายไม่ยอมวางสาย

“ พี่เฉียวเด็กน้อยเห็นเธอจ้องโทรศัพท์แบบงงๆเลยเอ่ยปากถาม

เฉินเฉียวรู้สึกตัว “จะสองทุ่มแล้ว เดี๋ยวพี่ขอโทรศัพท์แปปนะ”

อืมเด็กน้อยไม่ถามต่อ คนสองคนเดินออกจากสวนสนุก

เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นไปมา มีชีวิตชีวามากขึ้น มองดูลูกโป่งทรงแปลกๆ ลูบๆคลำๆไปตามทาง อารมณ์ดีสุดๆ

เฉินเฉียวเอาโทรศัพท์แนบที่หูของเธอและพูดเบา ๆ : “ฮัลโหล”

ไม่ตอบสนอง

บางครั้งก็มีเสียงของคนแปลกหน้าเล็ดลอดออกมา เรื่องที่กำลังพูดคือเรื่องเกี่ยวกับงาน

เฉินเฉียวส่งเสียง ‘ฮัลโหล’ อีกครั้งและตัดสินใจถ้าเขาไม่ตอบเธอจะวางสาย บางทีมันอาจจะเป็นการโทรไปที่นั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ

ฮัลโหลตอนคิดว่าไม่มีใครตอบ โทรศัพท์ก็มีคนพูด

เสียงของซังหลินจวิน เสียงทุ้มและอ่อนโยน

เฉินเฉียวหัวใจเต้นเล็กน้อยก่อนจะถามว่า “คุณกำลังประชุมอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

อืม ใช่สองทุ่มกว่าแล้วยังประชุมอยู่ นึกภาพออกเลยว่าจะเหนื่อยแค่ไหน

“โทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า”

ซังหลินจวินยิ้มจาง ๆ “ผมไม่ได้โทรหาคุณ”

เอ่อ…

ถ้างั้นคงเป็นเธอที่เป็นคนโทร เฉินเฉียวรู้สึกอายเล็กน้อย“ สงสัยฉันเผลอไปกดโดน ตะกี้อยู่สวนสนุกกับโย่วอี น่าจะกดไปโดน ”

“ ฉันได้ยินแล้ว”เสียงของซังหลินจวินผ่อนลง

“ ประธานซัง คุณฟังอย่างนี้มาหนึ่งชั่วโมงกว่าๆเลยหรอ”

ประมาณนั้น

มุมริมฝีปากของเธอกระตุก “คุณว่างขนาดนั้นเลยหรอ?”

เมื่อนึกถึงผู้ชายคนนี้ได้ยินเสียงกรีดร้องของตัวเอง เธอก็รู้สึกอาย

“ คุณคิดว่าฉันว่างไหมล่ะ”ซังหลินจวินไม่ตอบแต่ถามกลับ

เฉินเฉียวเงียบ แน่นอนว่าเขาไม่ได้ว่าง จากนั้นได้ยินเขาพูดว่า: “นานๆทีจะได้ยินคุณร้องแบบนั้น”

“มีอะไรน่าฟัง”เธอไม่เข้าใจ

เขากลับตอบว่า “ฉันชอบก็พอแล้ว”

เฉินเฉียวตะลึง ยืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงนั้นรู้สึกเพียงว่าในหัวใจเธอมีลูกขนเป็ดแปรงหัวใจของเธอเบา ๆ ทำให้ทุกอย่างคัน

ในบรรยากาศที่มีเสียงดังและวุ่นวายยังคงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นรัว

“ฉันไม่รบกวนคุณประชุมแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ”เฉินเฉียววางสายโทรศัพท์อย่างรีบร้อนเมื่อเธอไม่รู้ว่าจะตอบเขาอย่างไร

เธอยืนถือโทรศัพท์อยู่ตรงนั้นสักพักความตื่นเต้นในใจก็ค่อยๆคลายลง

————

เฉินเฉียวพาเด็กออกจากสวนสนุกในขณะที่รถของเหล่าฟู่จอดรออยู่ที่หน้าประตูทางเข้าสวนสนุก

เมื่อเห็นพวกเขามาเหล่าฟู่ก็ลงจากรถเปิดประตูและกล่าวทักทายพวกเขา: “คุณเฉิน”

“รอนานไหมคะ”เฉินเฉียวรู้สึกผิด ทุกคนกำลังหิว

ไม่นานครับเหล่าฟู่ตอบ หันกลับมามองเด็กคนนั้น“ สนุกไหมครับ?”

สนุกครับถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ซังโย่วอีท่าทางดูมีความสุขไม่โกรธเหมือนแต่ก่อน เอากระเป๋านักเรียนเข้าไปในรถแล้วก็ปีนขึ้นรถ

เหล่าฟู่ยิ้มและพูดกับเฉินเฉียว: “ผมรู้ว่าเฉินเฉียวทำได้”

เฉินเฉียวยิ้ม

ที่จริงเธอไม่มีวิธีอะไรเลย แต่เด็กคนนี้ง้อง่าย!

เฉินเฉียวส่งเด็กน้อยกลับไปที่ จิ้งหย่วน และกำลังจะพาเขาไปกินข้าวเย็น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

หลูตงซิ้งเป็นคนโทรมา

เฉินเฉียวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็รับสาย

หลูตงซิ้งทักทายเธอและกล่าวว่า “ผู้อำนวยการเฉิน ตอนนี้อยากจะนัดคุณทานข้าวไม่สายเกินไปใช่ไหม จริงๆอยากจะโทรหาคุณตั้งนานแล้ว แต่ว่าโทรยังไงก็โทรไม่ติด ”

เฉินเฉียวเดาว่าตอนนั้นเธอน่าจะติดสายกับซังหลินจวิน

“ประธานหลูมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

ไม่ใช่ธุระอะไรหรอก คุณเฉินเป็นเหมือนดาวนำโชคของหลูตงซิ้ง ผมควรจะเลี้ยงข้าวคุณตั้งนานแล้ว

เฉินเฉียวเดาว่าคำเชิญของหลูตงซิ้ง สำหรับตัวเธอตอนนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเพื่อเจอซังหลินจวิน

หลังจากที่เธอลาออกจางานแล้ว ก็ต้องติดต่อลูกค้าเก่าไว้บ้าง ถึงหลูตงซิ้งไม่ได้เชิญเธอแต่เดี๋ยวเธอก็ต้องเชิญหลูตงซิ้ง

หลังจากคิดเรื่องนี้เฉินเฉียวก็ตกลง “ถ้าอย่างนั้นประธานหลูบอกที่อยู่ฉันมาแล้วกันค่ะ เดี๋ยวฉันจะไป”

“ ไป่ฮวาซินฮุ่ยที่เดิม ห้อง03. พอคุณเฉินมาถึงจะมีคนมารับที่หน้าประตู ”

โอเคค่ะ แล้วเจอกันค่ะ

เฉินเฉียววางสาย

ซังโย่วอีเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวที่ใหญ่กว่าหน้าเขา“ พี่จะไปแล้วหรอ?”

อืม เรื่องงาน

เด็กน้อยเบ้ปาก “พี่ยุ่งตลอดเลยเนอะ”

“ คุณก็ยุ่งไม่ใช่หรอ อย่าลืมทำการบ้านนะ”เฉินเฉียวบีบใบหน้าเล็ก ๆ ของเขา “ตอนนี้ฉันเป็นคนที่ไม่มีเงินเดือน ต้องตั้งใจทำงานเลี้ยงตัวเอง”

ซังโย่วอีมองเธออย่างจริงจัง“ พี่คุณ พี่จนมาเลยหรอ”

“ เมื่อเทียบกับพ่อของคุณแล้ว ฉันยากจนสุดๆไปเลยเธอไม่ได้พูดมั่ว เธอไม่มีเงินออมมากนักตอนนี้เธอต้องทำงานด้วยตัวเองและเงินออมทั้งหมดของเธอเอามาใช้หมดแล้ว ในการจองอาคารสำนักงานต้องดูให้ดีๆ

ซังโย่วอีกระพริบตาโตอย่างไร้เดียงสาอีกครั้ง“ ถ้างั้นก็ให้พ่อผมเลี้ยงเถอะ พ่อผมเก่งมากๆ เลี้ยงพี่ไหวแน่นอน”

เฉินเฉียวตกใจและหัวเราะ เด็กไร้เดียงสาอะไรเช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นคนที่เขาอยากจะดูแลจริงๆก็คือคุณเถียนคนนั้น นับประสาอะไรกับเธอ

เหล่าฟู่กินอาหารไม่กี่คำแล้วจะไปส่งเธอ เฉินเฉียวปฏิเสธ แต่เหล่าฟู่ขับรถไปที่หน้าประตูรอเธออยู่แล้ว

เฉินเฉียวให้เขาส่งเธอไปที่ทางเข้าไป่ฮวาซินฮุ่ย

หลูตงซิ้งรอเธออยู่ที่นั่นตั้งนานแล้ว หลูตงซิ้งยิ้มและถามว่า “คุณเฉิน ถ้าผมดูไม่ผิดรถคันนั้นเป็นรถของตระกูลซังใช่ไหม

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset