เธอเดินเข้าลิฟท์ตอนที่เธออยู่ในลิฟท์คนเดียว เธอเลยเปิดโทรศัพท์
ข้อความธรรมดา ๆ : ถึงแล้วโทรหาผมด้วย
คำทั้งหกคำทำให้ เฉินเฉียว รู้สึกงุนงงว่านี่มันเป็นคำที่ใช้ระหว่างแฟน
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซังหลินจวินยังห่างไกลจากการเป็นแฟน
คนหนึ่งเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอีกคนเป็นผู้ชายที่มีคู่หมั้นแล้ว ทั้งคู่ไม่ได้โสด
เฉินเฉียวคิดสักพักแล้วกดโทร แต่หลังจากนั้นยังไม่ได้จะได้ต่อเธอก็กดตัดสาย
จากนั้นปิดเครื่อง
เธอกลัวถ้าเปิดเครื่องแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะโทรออกอีกครั้ง
เธอไม่อยากล้ำเส้นจริงๆ
เฉินเฉียวหยิบชุดนอนเข้าไปอาบน้ำ หลังจากผ่านกิจกรรมที่ดุเดือดคืนนี้ในวิลล่าร่างกายของเธอยังคงเหนียวเหนอะหนะจนถึงตอนนี้ชุดชั้นในของเธอก็ยังเปื้อนสิ่งนั้นของเขา
เธอรู้สึกอับอาย
อาบน้ำแล้วเอาผ้าไปซักในที่สุดกลิ่นของเขาก็หายไป
เธอนอนพลิกไปพลิกมาหลายครั้งอยู่บนเตียง
เจียงฉยงฉยงกลับมากลางดึก เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวข้างนอก แต่ไม่ได้ลุกขึ้น จนกระทั่งจู่ๆก็บุกเข้ามาในห้องนอนเธอ
เจียงฉยงฉยงขดตัวเป็นลูกบอลและมุดเข้าไปในผ้าห่มของเธอโดยไม่เปิดไฟ
เธอครึ่งหลับครึ่งตื่นทำอะไรไม่ถูก “พี่เธอซื้อที่นอนนุ่มสบายขนาดนั้นให้แล้ว เธอยังจะมานอนเบียดกับฉันอีก”
ที่นอนที่เจียงฉยงฉยงนอนนั้นเจียงอี้ฝานสั่งจากสวิตเซอร์แลนด์ว่ากันว่ามีมูลค่าถึงหกหลัก เป็นเพราะเจียงฉยงฉยงเคยกลับไปบ่นว่าเธอมักจะนอนไม่หลับ
ทุกครั้งที่เฉินเฉียว เห็นเจียงอี้ฝานตามใจเจียงฉยงฉยง เธอแอบโกรธตัวเองที่ไม่มีพี่ชายดีๆแบบนี้บ้าง
อย่าพูดถึงเขาเลยเจียงฉยงฉยงพูดอย่างโมโห
เฉินเฉียวตอบด้วยความงุนงง “ทำไมล่ะ ทะเลาะกับพี่ชายอีกแล้วหรอ?”
เจียงฉยงฉยงไม่ได้พูด แต่เพียงแต่กอดเฉินเฉียว
เฉินเฉียวให้กำลังใจตบบ่าเธอผ่านผ้าห่มเหมือนเด็กๆ“ เอาล่ะๆ อย่าทะเลาะกันสิ เธอดูสิพี่เธอดีกับเธอขนาดไหน เธอบอกว่าอยากกินอะไร เขาก็จะซื้อส่งมาให้ทันที เธอบอกว่านอนไม่หลับ พี่เธอก็ส่งเตียงนุ่มๆมาให้ เธอบอกว่าอยากเปิดบริษัทกับฉัน พี่เธอก็ออกเงินให้ทันทีแล้วยังแนะนำเส้นสายให้อีก ฉันว่ามีอย่างเดียวที่เขาทำไม่ได้คือเอาดาวบนฟ้ามาให้เธอ พี่ชายที่แสนดีแบบนี้หาได้ที่ไหน ”
เจียงฉยงฉยงสูดหายใจ“ ฉันรู้ว่าเขาดีกับฉัน แต่ …เขาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ ”
เมื่อพูดประโยคหลังเธอก็หลั่งน้ำตา
เฉินเฉียวเงียบ“ พี่ชายดุเธออีกแล้วหรอ?”
เจียงฉยงฉยงเงยหน้าขึ้นจากผ้านวม“ เฉียวเฉียว เธอคิดว่าพี่ดีกับฉันแบบนี้ เป็นเรื่องปกติหรอ?”
เฉินเฉียวถึงกับผงะ“ อะ …อะไรกัน
“ ฉันหมายความว่าพี่ชายทุกคนปฏิบัติต่อน้องสาวของตัวเองเหมือนเจียงอี้ฝานหรอ?”
“ หมายถึงเขาดูแลเธอหรอ?”เฉินเฉียวพยายามไม่ปล่อยให้ตัวเองคิดมั่วซั่ว “คนบางคนชอบควบคุมคนอื่นหรือไม่ก็เขาชินกับการมองว่าเธอเป็นเด็ก เลยชอบเข้ามาก้าวก่ายชีวิตเธอ ถ้าเธอไม่ชอบจริงๆ ลองหาโอกาสคุยกับเขาดู ”
“แต่พี่ชายจูบน้องสาวตัวเองได้หรอ”
เฉินเฉียวตกใจ
เจียงฉยงฉยงร้องไห้ด้วยความเศร้าและตกใจ “มันไม่เหมือนจูบแก้มหรือหน้าผากแบบตอนเด็ก แต่เป็นการจูบปากฉัน!”
เฉินเฉียวไม่ง่วงนอนอีกต่อไปเธอลุกขึ้นจากเตียงแล้วเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟข้างเตียง
เจียงฉยงฉยงก็ลุกขึ้นจากเตียง เธอร้องไห้เหมือนเด็กที่ถูกรังแก
หลังจากพูดจบก็อดกลั้นไว้ไม่ได้อีกต่อไปและน้ำตาก็ไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ
เฉินเฉียวไม่กล้าถามอะไรอีกเธอรีบดึงทิชชู่จากเตียงแล้วยื่นให้เธอ
“ เฉียวเฉียวฉันไม่คิดว่าจูบแรกของฉันจะถูกพี่ชายของฉันพรากไป ฉันเธอก็ไม่ได้พูดต่อนอนบนตักของเฉินเฉียวร้องไห้
แต่ในขณะนี้เฉินเฉียวรู้สึกตกใจและไม่สามารถหาคำพูดปลอบโยนได้
เจียงอี้ฝานดีกับฉยงฉยงมาหลายปีแล้วคงไม่….
เฉินเฉียวรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน! หัวใจของฉยงฉยงนั้นบริสุทธิ์มากไม่น่าแปลกใจที่เธอรับไม่ได้
หลังจากนั้นไม่นานเฉินเฉียวก็พูดว่า “ฉยงฉยง ใจเย็น ๆ ก่อนฉันรู้ว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่การร้องไห้แก้ปัญหาไม่ได้นะ พวกเราค่อยๆแก้ไขปัญหาดีกว่า ”
เจียงฉยงฉยงสูดน้ำมูก แล้วเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่อฟัง
เฉินเฉียวมองไปที่เธออย่างไม่แน่ใจและถาม: “พวกเธอสองคน …แค่จูบนอกจากนั้นไม่มีเรื่องอื่นอะไรอีกแล้วใช่มั้ย? ”
“หมายความว่ายังไงเรื่องอื่น”
เฉินเฉียวถอนหายใจ “เธอว่าไงล่ะ?”
เธอมีปฏิกิริยาและส่ายหัวอย่างรุนแรง ราวกับว่านั่นกำลังทำให้ความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างเธอกับเจียงอี้ฝานเสื่อมเสียเธอตะโกน“ ไม่แน่นอน! เขาเป็นพี่ชายของฉัน เฉียวเฉียวเธอคิดอะไรอยู่”
“ไม่มีอะไรก็ดี”เฉินเฉียวโล่งอกและถาม “พี่ชายของเธออธิบายให้เธอฟังหรือยัง”
“ ฉันไม่อยากฟังคำอธิบายของเขา!”เจียงฉยงฉยงกล่าวว่า: “ฉันปิดโทรศัพท์แล้วและฉันไม่อยากได้ยินเสียงของเขาอีกฉันเกลียดเขา!”
“ แล้วเธอกลับมาได้ยังไง?”
“เขาให้คนขับรถพาฉันมาส่ง”
เฉินเฉียวพยักหน้า“ คุณควรฟังคำอธิบายของเขา คืนนี้เขาดูเหมือนจะเมามากเขาอาจจะแค่เมา ”
เจียงฉยงฉยงกัดริมฝีปากล่างครุ่นคิดสักพักและถามเฉินเฉียว”เป็นไปได้ไหมที่เขาเห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงคนอื่น”
“……อาจจะเป็นไปได้นะ ”
เมื่อฟังการวิเคราะห์ของเฉินเฉียวดูเหมือนเธอจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเธอก็กล่าวขึ้นอีกครั้ง “แต่ฉันไม่ชอบให้เขาจูบฉันเหมือนผู้หญิงคนอื่น! เกลียดจริงๆ เฉียวเฉียว ฉันทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะสู้หน้าพี่ชายฉันยังไง ถ้าฉันบอกให้พ่อแม่รู้นะเขาคงเอาพี่ฉันตายแน่ ”
เฉินเฉียวกำลังคิดว่าถ้า เจียงอี้ฝานแค่เมาและปฏิบัติกับเธอเหมือนผู้หญิงคนอื่นก็ยังเข้าใจได้
อย่างน้อยก็เป็นแค่ความเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเจียงอี้ฝานนั้นเมาและเมื่อเมาคำพูดก็จะเป็นความจริง
เฉินเฉียวปลอบเจียงฉยงฉยง ด้วยความกังวลในใจ เดี๋ยวก็เจียงฉยงฉยงกับเจียงอี้ฝาน เดี๋ยวก็ซังหลินจวินกับเถียนเถียน
คืนนี้เธอแทบไม่ได้นอนอีกเลย
วันรุ่งขึ้นเธอตื่น แต่เช้า เจียงฉยงฉยง ยังคงหลับอยู่และไม่ตื่น
หลังจากที่เธอซักผ้าเสร็จเธอก็เปิดโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าเมื่อคืนซังหลินจวินโทรหาเธอหรือเปล่า
เมื่อคิดถึงเขาเฉินเฉียวก็นึกถึงเรื่องนั้น เธอส่ายหัวปัดความคิดเหล่านั้นเรียกโทรหาเจ้าของตึกสำนักงานเตรียมตัวเซ็นสัญญา
สัญญาเป็นไปด้วยดีและตกลงราคาทั้งหมดแล้ว เฉินเฉียวเซ็นสัญญากับเจ้าของในร้านกาแฟจ่ายเงินมัดจำแล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เฉินเฉียวเหลือบมองโทรศัพท์บนหน้าจอและรับโทรศัพท์โดยไม่ลังเล