เงาร่างสีม่วงนั้นพุ่งผ่านฝูงสัตว์วิญญาณ กระบี่ยาวตัดผ่านไปยังจุดสำคัญของสัตว์วิญญาณเหล่านั้น
เดิมทีอวิ๋นฮวายังคงระมัดระวังอย่างมาก เขากลัวว่าคนงาม ๆ จะได้รับบาดเจ็บ แต่ใครเลยจะคิดว่านางจะไม่เป็นอันตราย
ร่างกายรวดเร็วและตอบสนองได้ไว สัตว์วิญญาณเหล่านั้นไม่สามารถทําร้ายนางได้แม้แต่น้อย
แต่หนานอินนั้น นางกลับตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช แม้จะอยู่ภายใต้การปกป้องของหนานเชาและเหล่าองครักษ์ ใบหน้านางก็ยังเสียโฉมไป
“อ๊าย!” หนานอินร้องด้วยความตกใจจนทําให้เหล่าองครักษ์รู้สึกเจ็บปวดไปด้วย
ตั้งแต่ที่พบกับอวิ๋นฮวาและคนอื่น ๆ มู่เฉียนซีก็มีโอกาสได้ฝึกฝนมากมาย ตอนนี้เมื่อมาถึงหุบเขามรณะ นางก็ไม่จําเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป
— ตูม! ตูม! ตูม! —
แต่สัตว์วิญญาณเหล่านี้ที่ทางเข้าเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้นสำหรับนาง
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปแล้ว ก็เห็นผลไม้สีชมพูอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้า ใบหน้าที่หวาดกลัวของหนานอินก่อนหน้านี้เผยให้เห็นถึงความปีติยินดีทันที
“นั่นมันผลฮวาเหยียน ผลฮวาเหยียน ในที่สุดข้าก็พบมันแล้ว”
ขอเพียงกินผลฮวาเหยียนนี้ นางก็จะสามารถรักษาวัยเยาว์ไว้ได้สิบปี แล้วยังทําให้หน้าตาดูงดงามยิ่งขึ้น เมื่อถึงเวลานั้น หนานอินคิดว่านางจะต้องไม่แพ้เฉียนซีผู้นี้อย่างแน่นอน
หนานเชายิ้ม “โอ้! ช่างเป็นโชคดีของอินอินโดยแท้ พวกเราเพิ่งเข้าสู่หุบเขามรณะก็ได้พบผลฮวาเหยียนแล้ว ดูท่าผลฮวาเหยียนนี้จะมีวาสนากับอินอิน”
หนานเชาเรียกองครักษ์ระดับจักรพรรดิที่อยู่ข้างกายไปเก็บผลฮวาเหยียน แต่ทันทีที่เข้าใกล้ ก็มีสัตว์วิญญาณระดับสามที่คอยปกป้องผลฮวาเหยียนโผล่ออกมา
— ตูม! —
ทันใดนั้นสัตว์วิญญาณระดับสามก็จู่โจม ขณะเดียวกันเหล่าองครักษ์ก็ลงมือโจมตี
— ปัง! ปัง! ปัง! —
อวิ๋นฮวารีบตะโกนขึ้น “ไปช่วยพวกเขาเร็วเข้า!”
เหล่าผู้อาวุโสของจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงจากสํานักอวิ๋นเยียนได้ยินคำสั่งก็เคลื่อนไหว ทว่าในตอนนี้เอง จักรพรรดิเซี่ยก็ลงมือ
เป้าหมายคืออวิ๋นฮวา
— ปัง! —
อวิ๋นฮวาถูกจักรพรรดิเซี่ยโจมตีจนกระเด็นออกมาหลายสิบก้าว เขาจึงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “จักรพรรดิเซี่ย เจ้าหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ?”
“หมายความว่าอย่างไร เจ้ามองไม่เห็นรึ ? ข้าตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากอันตรายของคนอื่น ๆ อย่างไรเล่า” จักรพรรดิเซี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
“เจ้า… เหตุใดเจ้าจึงทําเช่นนี้ สร้างความบาดหมางกับสํานักอวิ๋นเยียนของเรา ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเจ้า” อวิ๋นฮวากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
“หึ ๆ ดูเจ้าไม่พอใจ แต่ใครสน ?”
— ตูม! —
แรงกดดันของจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า การกักขังด้วยพลังน้ำแข็งทําให้เลือดของอวิ๋นฮวาถูกแช่แข็ง
จักรพรรดิเซี่ยผู้นี้ช่างเป็นคนที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก ความแข็งแกร่งของตัวเองยังไม่ถึงจุดสูงสุดของจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า อย่างไรก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ต่อให้ระดับถึงก็ใช่ว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้ เพราะพลังน้ำแข็งหิมะของจักรพรรดิเซี่ยแข็งแกร่งอย่างมาก
— ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! —
เวลานี้ ผู้อาวุโสของสํานักอวิ๋นเยียนกระโดดออกมา “เจ้าหนู เจ้าช่างกล้าหาญนัก ถึงกับกล้าลงมือกับศิษย์คนโตของสํานักอวิ๋นเยียน”
แรงกดดันของผู้อาวุโสอย่างจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าผู้นี้ ไม่ได้ทําให้จักรพรรดิเซี่ยถอยออกไป ทั้งสองคนต่อสู้อย่างไม่ยอมกัน
— ตูม! ตูม! —
เดิมทีหุบเขามรณะก็วุ่นวายมากพอแล้ว ยิ่งพวกเขาสู้กันก็ยิ่งเละยิ่งวุ่นวายเสียยิ่งกว่าโจ๊ก
ในที่สุดองครักษ์ของราชวงศ์แคว้นหนานเชาก็เก็บผลฮวาเหยียนมาได้
หนานอินถือผลฮวาเหยียนอย่างมีความสุข นางดีใจที่ตนเองจะได้กลายเป็นสตรีงามอันดับหนึ่งของทวีปเซี่ยโจวในไม่ช้านี้แล้ว
นางกล่าวว่า “พี่ใหญ่อวิ๋น ในเมื่อพวกเราได้ผลฮวาเหยียนมาแล้ว เช่นนั้นก็รีบไปกันเถอะ”
อวิ๋นฮวาเหลือบมองหนานอิน นางคิดจริง ๆ หรือว่าพวกเขาจะมาหุบเขาแห่งความตายเพียงเพื่อเก็บผลวิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ให้นาง
อวิ๋นฮวากล่าวขึ้น “ตอนนี้ยังไปไหนไม่ได้ ดอกบัวกำเนิดเก้าวิญญาณที่แม่นางซีตามหายังหาไม่พบเลย”
หนานอิน “นางอยากหา ก็ให้นางหาไปคนเดียวสิ! พี่ใหญ่อวิ๋น พวกเราอย่าไปสนใจเด็กบ้านั่นเลย พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ มีสัตว์วิญญาณมากมายในหุบเขามรณะแห่งนี้ อินอินกลัว…”
หนานอินมองอวิ๋นฮวาพลางทำท่าทางให้ดูน่าสงสาร แต่อวิ๋นฮวาไม่สนใจแม้แต่น้อย เขากล่าวว่า “ข้ารับปากกับแม่นางซีไว้ อย่างไรก็จะต้องทําให้ได้”
หนานอิน “พี่ใหญ่อวิ๋น นางเด็กบ้านี่เรียกจักรพรรดิเซี่ยมาสู้กับพี่ใหญ่ ตอนนี้อันตรายมาก ข้ากลัวว่า… ข้ากลัวว่าพี่ใหญ่อวิ๋นจะตกอยู่ในอันตราย พวกเรารีบไปเถอะ! ”
อวิ๋นฮวาขมวดคิ้ว กล่าวว่า “หนานอิน อย่างไรเสียข้าก็มีผู้อาวุโสของสํานักอวิ๋นเยียนคอยปกป้อง ยังจะกลัวจักรพรรดิเซี่ยอีกรึ ? หากเจ้ากลัว เจ้าก็กลับไปคนเดียว”
กลับไปคนเดียวเช่นนั้นมันอันตรายมาก
หนานอินรีบกล่าวขึ้น “ไม่! ข้าจะอยู่กับพี่ใหญ่อวิ๋น”
ไม่ว่าอย่างไรอวิ๋นฮวาก็จะช่วยมู่เฉียนซีหาดอกบัวกำเนิดเก้าวิญญาณ ทำให้หนานอินจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างดุดัน
“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า เป็นเพราะเจ้า! หากเจ้าทําให้พี่ใหญ่อวิ๋นตกอยู่ในอันตราย ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าวอะไรไม่ออก เดิมทีก็อยากจะแยกทางกันอยู่แล้ว อีกอย่าง นางไม่ได้เป็นฝ่ายร้องขอให้ใครมาช่วยอะไรตั้งแต่แรก น่าเบื่อนัก!
ใครจะไปคิดว่าอวิ๋นฮวาผู้นี้จะติดหนึบเสียยิ่งกว่า ‘กาว’ เหนียว ๆ ที่ไม่สามารถสลัดทิ้ง
อวิ๋นฮวากล่าวกับมู่เฉียนซีอย่างอ่อนโยน “แม่นางซีไม่ต้องกังวล ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไม่ทิ้งเจ้าไว้คนเดียว ข้าจะช่วยเจ้าตามหาดอกบัวกำเนิดเก้าวิญญาณเอง”
มู่เฉียนซี “จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกเจ้าหรอก พวกเจ้ากลับไปเถอะ”
“แม่นางซี เจ้าอย่าได้เกรงใจไปเลย เจ้าอยู่ในหุบเขามรณะคนเดียวมันอันตรายเกินไป”
อวิ๋นฮวาเป็นห่วงมู่เฉียนซีมาก ทําให้หนานอินรู้สึกเกลียดชังจนขบฟันแน่น
เด็กสาวผู้นี้ไม่ควรเก็บไว้ หากนางไม่ยอมไสหัวไปละก็ นางจะต้องฉวยโอกาสตอนที่หุบเขามรณะวุ่นวายทําให้นางตายไปโดยไร้ซึ่งซากศพ
ส่วนอวิ๋นฮวานั้นไม่จากไปอย่างแน่นอน เพราะเขามาไกลตั้งพันลี้ และเสี่ยงอันตรายมาถึงที่นี่ มิใช่เพียงเพราะผลฮวาเหยียนเพื่อความงามผลเดียว
หลังจากหยุดพักได้สักครู่ พวกเขาและคนอื่น ๆ ก็ออกเดินทางต่อไป
ความสามารถขององครักษ์วังหลวงแคว้นหนานเถิงนั้นธรรมดา ๆ แต่ทว่าผู้อาวุโสแห่งสำนักอวิ๋นเยียนได้ปกป้องพวกเขาอย่างแข็งกร้าวราวกับกำแพงทองแดงหน้าผาเหล็กก็มิปาน พวกเขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
การโจมตีของจักรพรรดิเซี่ยในครั้งนี้ไม่สำเร็จ เขาจึงได้เปลี่ยนเส้นทางไป ซึ่งนั่นทำให้อวิ๋นฮวาพอใจเป็นอย่างมาก
จักรพรรดิเซี่ยมีดีที่ไหนกัน ? รอให้เขาได้เข้าไปในหอเทพเพื่อรับพลังก่อน เมื่อพลังพุ่งไปถึงขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าเมื่อไหร่ จักรพรรดิเซี่ยก็มิอาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้
สำหรับผลฮวาเหยียน มู่เฉียนซีเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะโผล่มาเช่นนี้ นางนั้นไม่ได้สนใจแต่อย่างใด แต่ปรากฏว่าอวิ๋นฮวากล่าวขึ้นมา
“แม่สาวน้อย ผลที่ขาวราวกับหยกที่ด้านหน้านั้นคือผลร้อยวิญญาณ ข้าจะไปเก็บมาให้เจ้า แต่เจ้าต้องตอบตกลงเข้าสำนักอวิ๋นเยียนเป็นเช่นไร ?”
ผลไม้วิญญาณเพียงหนึ่งผล แต่กลับคิดอยากจะให้นางเข้าสำนักอวิ๋นเยียน เขาก็ช่างคิดออกมาได้
มู่เฉียนซีนั้นยังคงไม่กินเหยื่อเช่นเดิม นางกล่าว “ข้าไม่ตกลงเพราะข้าจะไปเก็บเอาเอง”
“เจ้า…”
หนานอินรีบกล่าว “พี่ใหญ่อวิ๋น นางอยากไปเองก็ให้นางไปเองเถอะ”
หนานอินคิดว่าประเดี๋ยวก็มีสัตว์วิญญาณพวกหนึ่งออกมาฉีกมู่เฉียนซีเป็นชิ้น หากเป็นเช่นนั้นก็ยิ่งดี หนานอินนึกคิดอย่างตื่นเต้นอยู่ในใจ
อวิ๋นฮวาเองก็คิดในใจ เด็กสาวผู้นี้ไม่ได้พบเจอความลำบากสักหน่อยก็ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความดีของเขา ให้นางพบกับความลำบากเสียหน่อยก็ได้
อวิ๋นฮวา “สาวน้อย เจ้าไปสิ แต่ระวังความปลอดภัยด้วย”
“อืม” มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อยและพุ่งตรงไปที่ผลร้อยวิญญาณ แม้ว่าผลร้อยวิญญาณจะไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของท่านอาเล็ก แต่มันเป็นผลไม้วิญญาณระดับปฐพี สามารถนำไปปรุงยาได้
มู่เฉียนซีค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้