ไป๋เหยียนเอ๋อร์โบกมือขึ้น และกลิ่นหอมจาง ๆ ก็โชยออกมา
มู่เฉียนซีได้กลิ่นหอมนั้นอยู่ไกล ๆ และขมวดคิ้วขึ้น
งานเลี้ยงเล็ก ๆ นั้นก็เพียงแค่ต้องการให้เฟิงอวิ๋นซิวคลายความระแวดระวังลงก็เท่านั้น ที่นี่ เวลานี้ต่างหากที่จะวางยาจริง ๆ
ยาแฝดและยาปลุกกำหนัดชนิดนี้ เกรงว่าจะมีเพียงแค่ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเท่านั้นที่สามารถปรุงออกมาได้
หากผู้ที่วางยาเป็นคนอื่น เฟิงอวิ๋นซิวจะต้องมีการเตรียมพร้อมที่จะหลบหลีกแน่นอน ทว่า เฟิงอวิ๋นซิวมองใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว การเตรียมป้องกันของเขานั้นเป็นศูนย์
มู่เฉียนซีแทบจะโกรธเกรี้ยวกับท่าทางการแสดงออกของเฟิงอวิ๋นซิวในตอนนี้ ความฉลาดของเขาหายไปไหนซะแล้วล่ะ
หากรักใครสักคนมาก ๆ ความรักนั้นสามารถทำให้คนคนหนึ่งมาถึงจุดนี้ได้จริง ๆ เหรอ
ไป๋เหยียนเอ๋อร์เอ่ยปากกล่าว “อวิ๋นซิว ข้าชอบท่าน ข้าจะแต่งงานกันท่าน”
“ท่าน ท่านไปกับข้าเถอะนะ”
ไป๋เหยียนเอ๋อร์ต้องการจะลากเฟิงอวิ๋นซิวเข้าไปในห้อง มู่เฉียนซีที่แอบดูอยู่ในตอนนี้ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว
ต่อให้เฟิงอวิ๋นซิวยินยอม แต่นางไม่มีทางยอมให้ไป๋เหยียนเอ๋อร์เอาเปรียบเขาเป็นอันขาด!
“เงาจันทราหนาวเหน็บ!”
แสงกระบี่สีเงินแสงหนึ่งพุ่งไปที่กรงเล็บนั้นของไป๋เหยียนเอ๋อร์ที่กำลังยื่นออกมาหาเฟิงอวิ๋นซิว
ไป๋เหยียนเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายกระบี่อันเย็นยะเยือกที่คุ้นเคยนั้นเข้าก็รีบหลบหลีกทันที
ฉึก! เสื้อผ้าอาภรณ์อันงดงามและล้ำค่าบนร่างของนางฉีกขาดทันที
ไปเหยียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “มู่หรงเฉียนเยี่ย!”
นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กผู้นี้จะมาทำลายเรื่องดี ๆ ของนาง บัดซบยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “ไป๋เหยียนเอ๋อร์ ไก่ตัวเมียมันก็คือไก่ตัวเมียอยู่วันยังค่ำ ต่อให้สวมเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ทำด้วยขนหงส์อันล้ำค่าก็ไม่มีทางจะกลายเป็นหงส์ไปได้หรอกนะ เจ้าปลอมตัวเพื่อทำให้เฟิงอวิ๋นซิวสับสน แต่ข้าไม่มีทางสับสนแน่”
“อวิ๋นซิว ฆ่าเขาซะ!” ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าว
เฟิงอวิ๋นซิวลงมือกับมู่เฉียนซีโดยไม่ลังเล
ครั้งนี้เขาลงมือกับมู่เฉียนซีโดยที่ไม่ยับยั้งพลังวิญญาณเลย
บนมีดวายุนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งจิตสังหาร นี่เขาต้องการจะฆ่านางจริง ๆ แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “เมื่อวานก็แค่ต่อสู้กันเล่น ๆ ครั้งนี้ได้ต่อสู้กันจริง ๆ ก็ไม่เลวนะ!”
ร่างสองร่างสู้รบปรบมือกันไปมา เนื่องจากเฟิงอวิ๋นซิวนั้นมีเจตนาจะฆ่าจริง ๆ ทุก ๆ ก้าวของมู่เฉียนซีจึงน่าหวาดเสียวและอันตรายเป็นอย่างยิ่ง
ภายในแววตาของไป๋เหยียนเอ๋อร์เผยความลำพองใจออกมา คาดว่าเจ้าเด็กผู้นี้ก็คงจะคิดไม่ถึงว่าเฟิงอวิ๋นซิวจะลงมือฆ่าเขาจริง ๆ!
นางยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของตนเอง ใบหน้านี้ช่างรับมือกับเฟิงอวิ๋นซิวได้ดีอย่างน่าประหลาดใจจริง ๆ นางอยากใช้ใบหน้านี้ไปตลอดแล้วซะแล้วสิ
ทว่า เมื่อนึกขึ้นได้ว่าใบหน้านี้ช่างเหมือนกับใบหน้าของมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก หากใช้ใบหน้านี้ไปตลอด ทุก ๆ วันที่ส่องกระจกดูใบหน้าตัวเอง นางคงต้องโกรธจนบ้าคลั่งเป็นแน่
นางอิจฉามู่เฉียนซีมากที่เกิดมาก็มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้แล้ว สามารถทำให้เฟิงอวิ๋นซิวผู้สูงศักดิ์ทำสิ่งใดเพื่อนางก็ย่อมได้
มีดวายุนั้นทำให้มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บเข้าแล้ว และมู่เฉียนซีเองก็ได้โอกาสเข้าไปใกล้ตัวเฟิงอวิ๋นซิวแล้วเช่นกัน
ผงยากำมือหนึ่งถูกโรยลงไป แก้พิษให้เขาก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เมื่อถูกผงยากระทบร่าง เฟิงอวิ๋นซิวก็ถอยหลังออกไป
สายตาของเขาพลันชัดเจนขึ้นมา ไป๋เหยียนเอ๋อร์ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าพิษของหัวหน้านักปรุงยาจะถูกแก้ได้แล้ว
“อวิ๋นซิว…”
เฟิงอวิ๋นซิวที่กลับมามีสติอีกครั้งในตอนนี้ก็หันไปมองไป๋เหยียนเอ๋อร์ ดวงตาสีอำพันคู่นั้นหดตัวลงมาก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เฟิงอวิ๋นซิว หากว่าเจ้าถูกควบคุมก็ไม่เป็นไร แต่หากเจ้าหลงใหลไปกับของปลอมแล้วละก็ ข้าจะดูถูกเหยียดหยามเจ้าจริง ๆ”
น้ำเสียงของมู่เฉียนซีทำให้เฟิงอวิ๋นซิวสงบลงมาก
“เจ้า รนหาที่ตาย!” มีดวายุอันเย็นยะเยือกพุ่งเข้าไปห้อมล้อมไป๋เหยียนเอ๋อร์เอาไว้
“นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าปลอมตัวเป็นนาง!”
ยาได้หมดฤทธิ์ลงแล้ว ไป๋เหยียนเอ๋อร์ถูกจับได้แล้ว ในตอนนี้เฟิงอวิ๋นซิวไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว
แต่ถึงกระนั้น เฟิงอวิ๋นซิวกลับลงมือไม่ลง!
ตราบใดที่ยังเป็นใบหน้านี้ เฟิงอวิ๋นซิวลงมือไม่ลงจริง ๆ!
ไป๋เหยียนเอ๋อร์ยิ้มขึ้น “นายน้อยอวิ๋นซิวช่างเป็นผู้ที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ้งจริง ๆ ข้าชักจะอิจฉาแม่นางผู้นี้แล้วล่ะสิ!”
“เจ้าชอบนาง แต่กลับครอบครองนางไม่ได้ แล้วเหตุใดถึงไม่ช่วยให้ตัวเองสมหวังล่ะ ข้าสามารถแปลงกายเป็นนางเพื่อที่จะอยู่เคียงข้างเจ้าได้นะ!”
ดวงตาอันสดใสสุกสกาวคู่นั้นของไป๋เหยียนเอ๋อร์จ้องมองไปที่เฟิงอวิ๋นซิว
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรที่จะมีหน้าตาเหมือนนางอย่างนั้นเหรอ?”
“ข้าไม่คู่ควร แล้วเจ้าคิดว่ามู่เฉียนซีคู่ควรเหรอ คราก่อนข้าก็แค่ทำลายค่ายกลส่งตัว เจ้าถึงกับจะฆ่าข้า ก็เพราะว่ารูปร่างหน้าตาของมู่เฉียนซีเหมือนกับนางมากไม่ใช่หรอกเหรอ?” ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าวเย้ยหยัน
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “เหตุใดต้องกล่าวถึงเฉียนซี!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด ท่านผู้นำตระกูลมู่ผู้สง่าผ่าเผยถูกมองกลายเป็นตัวแทนคนอื่น นึกไม่ถึงว่านางจะมีวันนี้เหมือนกัน”
ไป๋เหยียนเอ๋อร์ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ เยาะเย้ยนางต่อหน้านาง คิดว่านางหูหนวกอย่างนั้นเหรอ
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็พุ่งเข้าไปใกล้ไป๋เหยียนเอ๋อร์ เข็มยาเข็มบางเล็กแฉลบใบหน้านาง
“ก็แค่ปลอมตัวไม่ใช่หรอกเหรอ ทำลายไปเสียก็สิ้นเรื่อง เมื่อถึงตอนนั้นก็คอยดูก็แล้วกันว่าอวิ๋นซิวจะลงมือกับเจ้าหรือไม่”
อ๊า! ไป๋เหยียนเอ๋อร์รีบเอามือปิดหน้าตัวเองไว้ ใบหน้าแค่ถูกเข็มยาขีดข่วนพียงเล็กน้อย ไม่ได้เป็นอะไรมาก ทายาเพียงเล็กน้อยรอยแผลก็หายแล้ว
ทว่า…
มือของนางยังไม่ทันเอาออกจากใบหน้า นางก็พบว่าใบหน้าของนางนั้นบวมเป่งขึ้น
ใบหน้าตัวเองยิ่งบวมเป่งมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นหัวหมูก็มิปาน
ไป๋เหยียนเอ๋อร์ที่ใบหน้ากลายเป็นหัวหมู อวัยวะต่าง ๆ บนหน้าอัดแน่นเข้าด้วยกัน ตอนนี้หน้าตานางไม่เหมือนผู้ใดเลย
มู่เฉียนซีกล่าว “เฟิงอวิ๋นซิว ตอนนี้เจ้ายังทำใจที่จะลงมือไม่ได้อีกหรือไม่?”
แววตาของเฟิงอวิ๋นซิวพลันเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ หญิงผู้นี้กล้าที่จะปลอมตัวเป็นนาง ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ตูม!
ทว่า กระบวนท่าสังหารของเฟิงอวิ๋นซิวนั้นกลับถูกแสงสีขาวแสงหนึ่งขวางเอาไว้
“เฟิงอวิ๋นซิว นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าลงมือฆ่าบุตรสาวของข้าในตำหนักของข้าเช่นนี้” ไป๋อู๋ห่ายมาได้ทันเวลาพอดี
มู่เฉียนซีชี้ไปที่ไป๋เหยียนเอ๋อด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มและกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก ดึกแล้ว แสงก็ไม่ค่อยดี ดูเหมือนว่าสายตาท่านจะพร่ามัวไป เจ้าหัวหมูที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่บุตรสาวของท่าน”
เจ้าหัวหมู! ไป๋เหยียนเอ๋อร์ได้ยินเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวจนแทบจะกระอักเลือด ดวงตาแดงก่ำมองไปที่มู่เฉียนซี
เจ้าเด็กผู้นี้กล้าเรียกนางว่าเจ้าหัวหมู!
“บุตรสาวของข้า ไม่ว่าจะหน้าตาเปลี่ยนไปเป็นเช่นไรข้าก็จำได้” ไป๋อู๋ห่ายกล่าว
เฟิงอวิ๋นกล่าว “นางกระทำความผิดอันใหญ่หลวง!”
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “ที่นี่คือดินแดนสี่ทิศ นายน้อยอวิ๋นซิวก็ไม่ต้องสนใจกฎมากมายถึงเพียงนั้นก็ได้ เหยียนเอ๋อร์ก็แค่รักเจ้า ก็เลยเลอะเลือนไปชั่วครู่ใช้อุบายนี้กับเจ้า เป็นบุรุษก็ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับสตรีมากมายนักหรอก”
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าว “แล้วหากว่าข้าคิดเล็กคิดน้อยล่ะ?”
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “ข้าก็จะปกป้องบุตรสาวของข้าโดยที่ไม่คำนึงผลที่ตามมา นายน้อยอวิ๋นซิวต้องการจะเป็นศัตรูกับข้าอย่างสมบูรณ์อย่างนั้นเหรอ?”
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ยังหาไม่เจอ หากเป็นศัตรูกับไป๋อู๋ห่ายอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้เรื่องราววุ่นวายก็คงจะตามมาไม่น้อย
ทว่า เรื่องราวในวันนี้ เขาจะปล่อยให้มันผ่านไปง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ได้
เปลวไฟหนึ่งพุ่งออกไป ไป๋อู๋ห่ายเตรียมพร้อมที่จะต่อต้าน และมู่เฉียนซีก็โจมตีไปด้วยทักษะกระบี่
“เงาจันทราคู่!”
ไป๋อู๋ห่ายเห็นวงล้อจันทราสีเงินสองวงนี้ก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเงาจันทราคู่!”
เนื่องจากไป๋อู๋ห่ายตกใจผงะไปครู่หนึ่ง เปลวไฟของเฟิงอวิ๋นซิวจึงพุ่งเข้าไปห่อหุ้มร่างทั้งร่างของไป๋เหยียนเอ๋อร์ไว้
เปลวไฟนี้ไม่เพียงแต่จะแผดเผาเสื้อผ้าอาภรณ์อันงดงามและล้ำค่าของไป๋เหยียนเอ๋อร์ไปเท่านั้น แต่ยังแผดเผาเส้นผมของนางไปจนหมดเกลี้ยง!
ไป๋เหยียนเอ๋อร์โกรธเกรี้ยวจนเป็นลมหมดสติไป เฟิงอวิ๋นซิวบุรุษผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมราวกับไม่ใช่มนุษย์
ดูเหมือนว่าไป๋อู๋ห่ายจะไม่ได้สนใจไปเหยียนเอ๋อร์เลย แต่เขากลับจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี
“ข้ารู้มาตั้งนานแล้วว่าเจ้าเป็นเด็กอายุยังน้อย พรสวรรค์เก่งกาจเพียงนี้ แต่ข้านึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นศิษย์ของสหายเก่าข้า!” ไป๋อู๋ห่ายยิ้มพลางกล่าว
สีหน้าของเฟิงอวิ๋นซิวพลันเปลี่ยนไปทันที แย่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเฉียนเยี่ยจะลงมือต่อหน้าไป๋อู๋ห่าย อีกทั้งยังใช้ทักษะเงาจันทราคู่อีกด้วย!