ตูม! ชิงอิ่งชกหมัดไปและร่างของหุ่นเชิดตัวนี้ก็เริ่มแตกออก
โหวหมิงตกใจกับพลังโจมตีของชิงอิ่งยิ่งนัก หุ่นเชิดตัวนี้แข็งแกร่งอย่างไม่ธรรมดา
ตราบใดที่ยังมีชีวิตย่อมมีความหวัง โหวหมิงกัดฟันและกล่าวว่า “ถอย!”
ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเสียงดังว่า “พวกเจ้าคิดจะถอย ฝันไปเถอะ!”
คนของตำหนักตงจี๋หันมาหาพวกเขา คนของสำนักหุ่นปีศาจจำใจต้องระเบิดหุ่นเชิดของตนเองอย่างช้ำใจ
ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงหลบหนีด้วยวิธีนี้เท่านั้น
ตูม!
หุ่นเชิดแต่ละตัวถูกจุดระเบิดและปล่อยควันสีดำหนาบดบังมุมมองของพวกเขาออกมา
เมื่อพวกเขาพุ่งออกไป คนของสำนักหุ่นปีศาจก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
สำหรับเทือกเขาเมฆามืดนี้ คนเหล่านี้ของสำนักหุ่นปีศาจคุ้นเคยมากกว่าพวกเขาอย่างชัดเจน การหลบหนีนี้ เกรงว่าการที่พวกเขาจะตามได้ทันนั้นคงเป็นไปได้ยาก
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวว่า “ไม่ต้องตามไปแล้ว หาที่ซ่อนตัวและพักผ่อนเสียก่อนเถอะ”
“ขอรับ! นายน้อยอวิ๋นซิว”
ตอนนี้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ถูกเปิดเผยแล้ว เหล่านักปรุงยาต่างพากันกล่าวว่า “นายน้อยอวิ๋นซิว ดูเหมือนว่าอยู่ที่นี่พวกข้าก็ไม่ได้มีประโยชน์แล้ว พวกข้าออกไปกันก่อนได้หรือไม่”
“ใช่แล้ว! สาวน้อยผู้นี้เก่งกาจ เรื่องอากาศเป็นพิษนายน้อยอวิ๋นซิวให้นางจัดการก็ได้แล้ว พวกเรา…”
เมื่อมองไปที่ชายขี้ขลาดแต่ละคนตรงนี้ ดวงตาของเฟิงอวิ๋นซิวก็ฉายแววเย็นชา
ถ้าไม่ใช่เพราะความอดทนที่ดีของเขา เกรงว่าเขาคงจะจัดการพวกเขาแต่ละคนไปนานแล้ว
ในเวลานี้เองมู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “ใครบอกว่าพวกเจ้าไร้ประโยชน์แล้ว”
นักปรุงยาเหล่านี้ของตำหนักโอสถกล่าวว่า “ความสามารถของพวกเราไม่ได้ดีเท่าของแม่นางมู่ ดังนั้น…”
“ความสามารถของพวกท่านไม่ดีเท่าข้า ทุกคนที่มีตาย่อมรู้ดี แม้ว่าทักษะการปรุงยาของพวกท่านนั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่เมื่อมีอันตราย พวกท่านก็ยังสามารถเป็นโล่ขวางเอาไว้ได้ ว่าไหมนายน้อยอวิ๋นซิว?” มู่เฉียนซีหันกลับมามองเฟิงอวิ๋นซิว
คิดจะใช้พวกเขาเป็นโล่ อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นถึงนักปรุงยาที่มีเกียรติ!
เมื่อฟังคำพูดของมู่เฉียนซีใบหน้าของพวกเขาต่างก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
มู่เฉียนซีกล่าวต่อว่า “ในเมื่อมาแล้วเป็นขยะ ก็ต้องใช้ขยะให้เป็นประโยชน์เสียหน่อย คิดจะจากไปเช่นนี้ พวกเจ้าเพ้อฝันไปหน่อยแล้วกระมัง!”
ใช้ขยะให้เป็นประโยชน์!
คำพูดของมู่เฉียนซีทิ่มแทงหัวใจของพวกเขาทำให้พวกเขาทั้งหมดอยากที่จะหนีไปในทันที
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวว่า “ในเมื่อมาทำภารกิจด้วยกันกับข้าแล้ว ถ้าจะตายก็ต้องตายด้วยกัน ถ้าจะรอดก็ต้องรอดด้วยกัน คิดอยากจะออกจากกองทัพตอนนี้…”
“ได้ พวกเจ้าก็แค่กินยาพิษฆ่าตัวตายซะ!”
ใบหน้าของเฟิงอวิ๋นซิวแข็งทื่อและเย็นชาจนทำให้คนเหล่านี้รู้เลยว่าเขาคงจะไม่ใจอ่อนแน่
พวกเขาจึงรีบถอนคำพูดในทันที
“พวกเราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยนายน้อยอวิ๋นซิวทำลายสำนักหุ่นปีศาจ!”
“ข้ารอ…”
“……”
ผู้อาวุโสสูงสุดมองไปที่มู่เฉียนซีและยิ้มพลางกล่าวว่า “ทักษะการปรุงยาของสาวน้อยทำให้เจ้าขยะเหล่านี้รู้สึกอับอาบจนไม่รู้จะมุดตัวไปอยู่ที่ไหน ข้าเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะจัดการกับอากาศพิษของเทือกเขาเมฆามืดนี้ได้ง่าย ๆ!”
“ใช่แล้ว! พรสวรรค์ในการปรุงยาของแม่นางมู่นั้นหาได้ยากมาก เกรงว่าคงมีเพียงอัจฉริยะตัวเล็ก ๆ ผู้นั้นของตำหนักโอสถของเราที่พอจะสามารถเทียบได้”
“ไม่ทราบว่าแม่นางมู่มาจากกลุ่มกองกำลังไหน”
มู่เฉียนซียิ้ม “ข้าไม่ได้มาจากกองกำลังไหน เป็นเพียงแค่เจ้าของหอหมอปีศาจอีกคนหนึ่งเท่านั้น ต่อไปถ้าผู้อาวุโสทุกท่านไปที่หอหมอปีศาจเพื่อซื้อยา ข้าสามารถให้ส่วนลดแก่พวกท่านได้!”
ผู้อาวุโสสูงสุดตะลึงงัน “หอหมอปีศาจ เจ้าเด็กมู่หรงเฉียนเยี่ยนั่นก็ดูเหมือนจะมาจากหอหมอปีศาจเช่นกัน! ร้านขายยาเล็ก ๆ นี่ไม่ธรรมดาเลย!”
“หอหมอปีศาจสามารถมีอัจฉริยะทั้งสองผู้นี้ได้ ก็ไม่รู้ว่าหมอปีศาจที่เล่าขานกันผู้นั้น จะน่าหวาดกลัวขนาดไหน” ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ เองก็กล่าวเสียงเข้มขึ้นมา
มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าหนึ่งคนแปลงร่างเป็นสามคนจะค่อนข้างลำบาก แต่กลับสามารถทำให้หอหมอปีศาจยิ่งดูลึกลับจนผู้คนหวาดกลัวมากขึ้น และหอหมอปีศาจก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นจนมิอาจคาดเดาได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เม็ดยาต้านอากาศพิษที่ข้าเพิ่งใช้ไปนั้นยังไม่สมบูรณ์แบบ และยังต้องปรุงยาน้ำและยาเม็ดบางส่วนขึ้นใหม่อีกครั้ง อวิ๋นซิว เจ้าคุ้มกันข้าด้วย”
คนอื่น ๆ ตะลึงงัน “ยังไม่สมบูรณ์แบบ! แต่ข้ากลับไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใด ๆ!”
“นี่มันยังดีกว่ายาของตำหนักโอสถมากมายนัก แต่กลับบอกว่ายังไม่สมบูรณ์แบบ เป็นไปไม่ได้กระมัง!”
“……”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ อากาศพิษก็ยิ่งหนาแน่นขึ้นเท่านั้นและเพื่อให้แน่ใจว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ในฝั่งของเรานั้นจะแข็งแกร่งพอ ย่อมต้องลดผลกระทบจากอากาศพิษให้เหลือน้อยที่สุด”
มู่เฉียนซีไปปรุงยาและทดลองกับอากาศพิษนี้อีกครั้ง นางสามารถปรับแต่งมันออกมาได้ดียิ่งขึ้น
นางปรับแต่งเม็ดยาออกมาได้อย่างรวดเร็ว จนคนอื่น ๆ เองก็รู้สึกเหลือเชื่อ
“ปรับแต่งออกมาได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้…”
แม้ว่าความเร็วจะรวดเร็วมาก แต่ใบหน้าของมู่เฉียนซีนั้นยังปกติอยู่ ราวกับว่าไม่ได้เปลืองแรงเลยแม้แต่น้อย
หลังจากมู่เฉียนซีแจกจ่ายยาเสร็จแล้ว เฟิงอวิ๋นซิวก็เริ่มพูดถึงข้อตกลงต่อไป
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวว่า “สำนักหุ่นปีศาจรู้แล้วว่าพวกเรากำลังมาและคราวนี้พวกเขาจะต้องกลับไปอย่างน่าสังเวช ก่อนที่จะหาอาณาเขตของสำนักหุ่นปีศาจเจอ ข้ากลัวว่าจะมีการลอบโจมตีอยู่นับไม่ถ้วน ระหว่างทางต้องระมัดระวังให้ดี”
“ใช่!”
“ไม่ต้องกังวลใจ ออกเดินทางเถอะ! แน่นอนว่าไม่สามารถให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวมากนัก”
กองทัพก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งและอากาศพิษก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ นักปรุงยาเหล่านั้นที่ไม่ได้รับเม็ดยาของมู่เฉียนซี ในเวลานี้ก็ไม่สามารถยืนหยัดต่อไปได้ไหวแล้ว
“กินยา ก่อนมาปรมาจารย์จางได้ให้ยาพิเศษแก่พวกเราไว้”
“ใช่แล้ว! มีเม็ดยานี้ พวกเราจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน ยาเม็ดของปรมาจารย์จางไม่มีทางเลวร้ายไปกว่าของสาวน้อยผู้นั้นอย่างแน่นอน”
“……”
พวกเขากินยาที่ตัวเองมีอยู่ แต่ผลกลับไม่ดีนัก
พวกเขาอยู่ท้ายสุดของกองทัพ ณ เวลานี้ต้องการกลับทางเดิม แต่เมื่อพวกเขาหันกลับไปไม่ได้ไกลนัก ใบมีดลมก็ได้ปาดเข้าที่คอของพวกเขาอย่างไร้ปราณี
ฟุ่บ! ชายคนหนึ่งล้มลงกับพื้นทันที
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวอย่างเฉียบคมว่า “ถึงพวกเจ้าจะเป็นนักปรุงยาของตำหนักโอสถ แต่เมื่อกลายเป็นคนหนีทัพ ก็ต้องตายเท่านั้น ข้าจะไม่ไว้ชีวิตอย่างแน่นอน”
หัวใจของพวกเขาสั่นระรัว พวกเขากล่าวอย่างหวั่นกลัวว่า นายน้อยอวิ๋นซิว พวกเราไม่กล้าอย่างแน่นอน!”
การหลบหนี ก็คือเส้นทางสู่ความตาย
ก้าวไปข้างหน้าพวกเขาก็ต้องตาย และสิ่งเดียวที่จะสามารถช่วยพวกเขาได้ก็มีเพียง…
พวกเขามองไปที่หญิงสาวในชุดสีม่วงผู้นั้นที่เดินอยู่ข้าง ๆ เฟิงอวิ๋นซิวและรีบพุ่งเข้าไปพร้อมกับกล่าวว่า “แม่นางมู่ ช่วยด้วย!”
“พวกเราทนอากาศพิษนี้ไม่ไหวแล้ว ขอได้โปรดมอบยาให้แก่เราด้วย”
“หากเคยล่วงเกินอะไรไป พวกเราไม่ได้ตั้งใจ โปรดแม่นางมู่อย่าได้ถือสา พวกเราเลย…”
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ! เพื่อรักษาชีวิตรอด พวกเขาวางความหยิ่งยโสของพวกเขาลงและคุกเข่าลงต่อหน้ามู่เฉียนซีทีละคน
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าบอกเจ้าแล้ว ถึงเวลาก็อย่าได้มาอ้อนวอนข้า”
พวกเขาตัวสั่นและแทบจะมุดหัวของพวกเขาลงในพื้นดิน
“แม่นางมู่ พวกเรารู้ผิดแล้ว”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาหลายเข็มบินออกไปและจรดลงบนแขนของพวกเขา
ในดวงตาของพวกเขาส่องประกายแวววาว พวกเขาได้รับการช่วยชีวิตแล้ว
“ขอบคุณมากแม่นาง ขอบคุณ…”
พวกเขาพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกมู่เฉียนซีขัดจังหวะ มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเจ้าคงไม่คิดว่า เมื่อครู่ข้าช่วยชีวิตพวกเจ้ากระมัง”