“ตุ้ม!” เสียงกลองสิ้นสุดการประลองได้ดังขึ้น
และมู่เฉียนซีก็เอายาลูกกลอนเม็ดสีขาวราวหยกออกมาเม็ดหนึ่ง “ข้าหลอมสำเร็จแล้ว!”
ในวินาทีสุดท้าย นางหลอมยาออกมาได้สำเร็จ
เพียงแต่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์กระมัง! เพราะมันไม่ได้เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดแต่อย่างใดเลย
พวกเขาแหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า บนท้องฟ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
นี่น่าจะเป็นยาลูกกลอนธรรมดา ๆ เม็ดหนึ่งเท่านั้น แม้แต่ปรมาจารย์จางเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน
ทรมานมานาน และสิ้นเปลืองสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าไปมากมาย เขาคิดว่าสาวน้อยผู้นี้จะหลอมยาลูกกลอนอันล้ำค่าออกมาซะอีก
กลับคิดไม่ถึงว่ามันจะไม่ใช่ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์!
ในขณะที่มู่เฉียนซีเดินลงมาจากแท่นปรุงยา จู่ ๆ ก็มีคนพบเรื่องที่น่าตกตะลึงขึ้น
“พระเจ้า! ต้นไม้ใบหญ้าบริเวณรอบ ๆ เหี่ยวเฉาลงแล้ว นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
“จริง ๆ ด้วย! เหี่ยวเฉาร่วงโรยหมดเลย”
“……”
และในตอนนี้ทุกคนก็ค้นพบแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใบหญ้าที่เปราะบางหรือว่าจะเป็นต้นไม้ที่แข็งแกร่ง ในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าได้สูญเสียพลังชีวิตไปก็มิปาน
มีคนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดและกล่าวว่า “นี่…นี่หรือว่าจะเป็นปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่มู่เฉียนซีหลอมยาลูกกลอนเม็ดนั้นออกมา”
“ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่ง แต่กลับแย่งชิงพลังชีวิตของต้นไม้ใบหญ้าไปได้ ต่อให้เป็นยาลูกกลอนระดับสูงก็เกรงว่าจะไม่ใช่ยาที่ดีนัก”
ทันทีที่คำพูดนี้จบลง คนผู้นี้ก็เหมือนกับถูกตบหน้าฉาดใหญ่
เพราะภายในชั่วพริบตาเดียว ต้นไม้ใบหญ้าที่เหี่ยวเฉาเหล่านั้นก็ฟื้นฟูมีพลังชีวิตใหม่ขึ้นมา
พวกมันแข็งแกร่งและสดชื่นกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก และความเร็วในการเติบโตก็รวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
“พระเจ้า! เป็นไปได้ยังไง?”
“ข้าหลอมยามาเป็นเวลานับพันปีก็ยังไม่เคยเห็นยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย”
“นี่มันน่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
“……”
เมื่อได้เห็นกับปรากฏการณ์ตรงหน้า พวกเขาล้วนแต่คาดไม่ถึง
และมู่เฉียนซีก็ได้ส่งมอบยาลูกกลอนไปแล้ว
นางก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
ทว่า เมื่อนึกถึงประสิทธิภาพของยาลูกกลอนขั้นสวรรค์เม็ดนั้น มู่เฉียนซีก็คิดว่าการปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดนี้เป็นเรื่องปกติที่ควรจะเกิดขึ้น
การประลองได้สิ้นสุดลงแล้ว กรรมการตัดสินก็เริ่มทำการตัดสินขึ้น
ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่งที่ศิษย์พี่หวงฝู่ผู้นั้นหลอมออกมาถูกจัดให้อยู่ในอันดับหนึ่งชั่วคราว
จากนั้นก็มีคนที่เหนือกว่าเขาแล้ว
มีนักปรุงยาคนหนึ่งก็หลอมยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่งออกมาเช่นกัน ทว่า คุณภาพนั้นกลับดีกว่ายาลูกกลอนของศิษย์พี่หวงฝู่มาก
คนผู้นี้อยู่ในอันดับหนึ่งอย่างมั่นคง ต่อมา ต่อให้เป็นยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่งเฉกเช่นเดียวกัน แต่คุณภาพของยาก็ไม่อาจเหนือกว่าของศิษย์พี่หวงฝู่ได้
เพราะถึงแม้ว่าระดับของยาลูกกลอนเหล่านั้นจะได้มาตรฐาน แต่คุณภาพก็แย่กว่าของศิษย์พี่หวงฝู่มาก
มู่เฉียนซีเป็นคนที่ส่งมอบยาลูกกลอนเป็นคนสุดท้าย และแน่นอนว่ายาลูกกลอนของนางก็ต้องถูกตรวจสอบเป็นคนสุดท้าย
“ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับหนึ่ง คุณภาพสมบูรณ์แบบที่สุด!”
ทันทีที่ยอดปรมาจารย์ผู้ตรวจสอบกล่าวออกมา ทุกคนก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง!
“เป็นไปได้ยังไง?”
ปรมาจารย์จางเป็นคนแรกที่ออกตัว เขาพรวดเข้าไปและกล่าวว่า “พลังวิญญาณของมู่เฉียนซียังไม่ถึงขั้นมหาจักรพรรดิ การที่นางสามารถหลอมยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ออกมาได้ก็เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากแล้ว แล้วนี่จะเป็นไปได้เช่นไรว่ายาลูกกลอนของนางจะเป็นยาที่สมบูรณ์แบบที่สุด!”
คนอื่น ๆ ต่างก็ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง มู่เฉียนซีสามารถโค่นล้มอันดับก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด
“ปรมาจารย์ทุกท่านเชิญดูเอาเองเถอะ! การตรวจสอบของข้าไม่มีความผิดพลาดแน่นอน”
“เป็นยาลูกกลอนขั้นสวรรค์จริง ๆ!”
“สมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติ! คุณภาพสมบูรณ์แบบจริง ๆ ข้าเป็นคนที่ขี้จู้จี้จุกจิก แต่ยาลูกกลอนเม็ดนี้มันไร้ที่จะติจริง ๆ!”
“สาวน้อยผู้นี้เป็นผู้ประหลาดที่โผล่มาจากที่ใดกัน!” กรรมการตัดสินทุกท่านล้วนแต่จำใจต้องนับถือมู่เฉียนซีจริง ๆ และยอดปรมาจารย์นักปรุงยาท่านหนึ่งของหนึ่งในนั้นเดินมาและกล่าวถามว่า “สาวน้อย ประสบการณ์ของข้านั้นไม่มากพอ ถึงแม้จะรู้ว่ายาเม็ดนี้คงเป็นยาขั้นสูง แต่ดูเช่นไรก็ดูไม่ออกว่ามันเป็นยาอะไร เจ้าช่วยไขข้อสงสัยให้คนเฒ่าอย่างข้ากระจ่างสักหน่อยได้หรือไม่?”
คนอื่นต่างก็สงสัยเช่นกันว่ายาที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดถึงเพียงนี้ได้ ตกลงแล้วมันคือยาอะไรกันแน่
มู่เฉียนซีกล่าว “ยาลูกกลอนเม็ดนี้ เรียกว่ายาต่อชะตาชีวิต”
มีคนพึมพำว่า “ยาต่อชะตาชีวิต เหตุใดข้าถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”
“ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน!”
“แม้แต่ในตำราโบราณก็ไม่มีบันทึกชื่อยานี้”
“……”
มีคนกล่าวถามว่า “ท่านปรมาจารย์มู่ ท่านช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่ายาเม็ดนี้มันมีประโยชน์เช่นไร?”
มู่เฉียนซีกล่าว “มันสามารถช่วยยืดอายุขัยออกไปได้ถึงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าปี เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะยืดอายุขัยออกไป ยาเม็ดนี้จะดูดพลังชีวิตทั้งหมดไปก่อน หลังจากนั้นพลังชีวิตก็เพิ่มขึ้นมาและถึงจะยืดอายุขัยออกไป”
เมื่อได้ยินมู่เฉียนซีกล่าวถึงประโยชน์ของยาเม็ดนี้แล้ว ทุกคนก็เข้าใจทันทีว่าเหตุใดถึงได้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้กับต้นไม้ใบหญ้า ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
“ยืดเวลาได้เกือบจะถึงพันปี!”
“พันปี!”
“……”
ในสนามการประลองนี้มียอดปรมาจารย์นักปรุงยาอยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาชมการประลอง หรือจะเป็นท่านผู้ตัดสิน พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนแต่มาเข้าร่วมการประลองปรุงยาอายุไม่เกินหมื่นปี
นี่แสดงให้เห็นถึงอายุของพวกเขาว่าพวกเขาอายุมากแล้ว
มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า หากชีวิตนี้พวกเขาไม่สามารถแตะต้องระดับสูงสุดได้ ไม่สามารถเพิ่มขั้นขึ้นไปได้ ความจริงแล้วอายุขัยของพวกเขาก็เหลือไม่มากแล้ว
หากสามารถยืดอายุขัยไปได้เกือบพันปี เช่นนั้นก็หมายความว่าพวกเขาจะมีเวลาในการฝึกฝนเพิ่มขึ้นอีกพันปี
เวลานับพันปี อาจจะทำให้พวกเขาได้ลอกคราบใหม่ ทะลวงข้ามขีดจำกัดได้ก็ไม่แน่!
“สาวน้อย เจ้าบอกสูตรยานี้ให้กับข้าได้หรือไม่ ข้ายอม…”
“ไม่ ๆ ๆ สาวน้อย เจ้ายอมขายยาเม็ดนี้ให้ข้าได้หรือไม่ ส่วนเงื่อนไข เจ้าต้องการสิ่งใดก็แล้วแต่เจ้าว่าได้เลย”
“สาวน้อย……”
เห็นพวกเขากระวนกระวายใจเช่นนี้แล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ข้าเพิ่งจะประลองเสร็จ พลังจิตก็สูญเสียไปมาก ท่านปรมาจารย์ทุกท่านล้วนแต่ต้องการยาลูกกลอนเม็ดนี้ แต่ในมือข้ากลับมีอยู่เพียงแค่เม็ดเดียว หากขายให้ใครคนใดคนหนึ่งไป ปรมาจารย์ท่านอื่นก็จะเสียใจได้ไม่ใช่เหรอกเหรอ?”
“แล้วตกลงเจ้าจะตัดสินใจเช่นไร!”
“ยาเม็ดนี้ ข้าไม่ยอมละทิ้งไปแน่!”
“……”
ชายชราเหล่านี้ต่างก็เริ่มจ้องมองหน้ากัน ราวกับว่าหากผู้ใดกล้าแย่งชิง คนผู้นั้นก็จะเป็นศัตรูกับเขา เมื่อเห็นนักปรุงยาผู้สูงศักดิ์เหล่านี้แอบต่อสู้แข่งขันกันในใจเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “หลังจากการประลองปรุงยาใหญ่ในครั้งนี้จบลง ข้าจะหลอมยาต่อชะตาชีวิตนี้บางส่วนวางขายที่หอหมอปีศาจ ทุกท่านก็คงจะรู้ดีว่ายาลูกกลอนชนิดนี้ไม่ใช่ยาธรรมดา เพราะฉะนั้นข้าจะไม่รับเป็นหยกวิญญาณ ไม่ว่าหยกวิญญาณจะมากมายเพียงใดก็ไม่ขาย หากท่านใดต้องการ ให้เอาสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่ามาแลก”
นักปรุงยาเหล่านี้เป็นถึงนักปรุงยาที่เก่งกาจในแดนตะวันออก มีชีวิตอยู่มานานหลายปี แน่นอนว่าพวกเขานั้นมีสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าไม่น้อยเก็บสะสมเอาไว้
ในเมื่อพวกเขาปรารถนาที่จะได้ยาต่อชะตาชีวิตนี้ไป เช่นนั้นนางก็จะใช้โอกาสนี้รีดไถของสะสมของพวกเขาก็ไม่เลว ไม่แน่บางทีอาจจะได้สมุนไพรวิญญาณที่นางต้องการมาก็ได้
“ได้ เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้”
“สาวน้อย เจ้าพยายามหลอมออกมาให้มาก ๆ หน่อยล่ะ! พวกข้ากลัวมันจะไม่พอ!”
“……”
เดิมทีจากที่เป็นสนามประลองการปรุงยา ชั่วครู่เดียวก็พลันเปลี่ยนเป็นการเสนอการขายของหอหมอปีศาจเสียแล้ว
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ สีหน้าของปรมาจารย์จางก็ดำคล้ำยิ่งกว่าก้นหม้อเสียอีก เขาจำใจต้องยอมรับจริง ๆ ว่ายาลูกกลอนเม็ดนั้นมันไม่ธรรมดา แต่เขาไม่มีทางที่จะไปขอซื้อยาลูกกลอนจากสาวน้อยผู้นี้เป็นอันขาด
มู่เฉียนซีมองไปที่ปรมาจารย์จางและกล่าวว่า “ท่านปรมาจารย์จาง ท่านควรจะประกาศผลการประลองในครั้งนี้ได้แล้วกระมัง! ข้าอยากจะกลับไปพักผ่อนเต็มทีแล้ว!”
ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาท่านอื่น ๆ ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “นั่นน่ะสิ! สาวน้อยก็เหนื่อยมามากแล้ว รีบประกาศผลที่นางได้อันดับหนึ่งและมอบของรางวัลเถอะ นางจะได้กลับไปพักผ่อน!”
ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ถึงจะสามารถหลอมยาต่อชะตาชีวิตออกมาได้มาก ๆ หน่อย!
ภายใต้การกดดันของยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านี้ ปรมาจารย์จางจึงได้ประกาศผลว่ามู่เฉียนซีคว้าอันดับหนึ่งไปด้วยสีหน้าที่ดำคล้ำ อีกทั้งยังได้มอบรางวัลอันล้ำค่าเป็นสมุนไพรวิญญาณขั้นปฐพีที่หายากให้กับมู่เฉียนซีอีกด้วย
ส่วนคนอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้ไป แต่การพ่ายแพ้ให้กับมู่เฉียนซีนั้น พวกเขาล้วนยอมรับการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ด้วยใจจริง และในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะออกไปจากสนามประลองการปรุงยาในครั้งนี้ น้ำเสียงอันอ่อนโยนเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ซีเอ๋อร์!”