สายเลือดมังกรทอง!
ดูเหมือนว่ามีบางอย่างถูกเปิดออกแล้ว และดวงตาสีทองอันสุกสกาวคู่นี้ก็ยิ่งพร่ามัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตุบ! เฮยเย้าเป็นลมหมดสติไปบนเตียง
มู่เฉียนซีรีบตรวจร่างกายให้เขา และนางก็ตกใจขึ้น “เขาหมดสติไปแล้ว เกรงว่าจะเป็นเพราะ…”
“จะรับมรดกในความทรงจำแล้ว”
มู่เฉียนซีเดินออกไปนอกห้องและมองไปที่ท่านเจ้าเมืองอวิ๋นก่อนจะกล่าวว่า “ท่านเจ้าเมืองอวิ๋น ปิดจวนเจ้าเมือง อย่าให้ผู้ใดเข้ามาใกล้จวนเจ้าเมืองได้เด็ดขาด!”
“แล้วเรื่องในคืนนี้ ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้าทั้งหมดแพร่งพรายออกไป มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต”
น้ำเสียงอันแหลมคมนี้ของมู่เฉียนซีขู่บังคับพวกเขาได้ พวกเขารีบกล่าวว่า “ขอรับ ท่านมังกรวารี!”
“ท่านมังกรวารีวางใจได้!”
“……”
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำตามอย่างเชื่อฟัง แต่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้
อย่างไรเสียมังกรดำที่ได้ชื่อว่าเป็นเผ่ากระทำกรรมชั่วที่ถูกรังแกมาโดยตลอด จู่ ๆ กลับกลายมาเป็นเผ่าราชาไปได้ มันช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริง ๆ
ทว่า มีมู่เฉียนซีอยู่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม
มู่เฉียนซีไม่ได้จากไปแต่อย่างใด จิ่วเยี่ยอุ้มนางไปที่บนหลังคาเพื่อเฝ้าดู
มู่เฉียนซีมองจิ่วเยี่ยและกล่าวว่า “บางทีอาจจะมีเบาะแสแล้วก็ได้ จิ่วเยี่ย”
เกาะมังกรราชาถูกปิดผนึกพวกเขาก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะจัดการ กลับคิดไม่ถึงเลยว่าเฮยเย้าจะมีสายเลือดเผ่าราชาอยู่
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
ถึงแม้ว่าจะมีคำสั่งของท่านเจ้าเมืองให้เฝ้าอยู่ แต่ก็ยังมีคนที่อยากรู้อยากเห็นบุกเข้ามา
มู่เฉียนซีกล่าว “ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว จัดการกับปลาที่มันแอบลอดแหสักหน่อยจะดีกว่า!”
พวกเขาทั้งสองคนเข้าไปในมุมมืด แต่คนเหล่านี้ไม่อาจหลบพลังจิตของมู่เฉียนซีพ้น
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟี่บ! แอบเข้ามาเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องแปลงร่างเป็นมนุษย์
เข็มยาอันแหลมคมพุ่งปักเข้าไปที่ผิวหนังของพวกเขา และทำให้พวกเขาโดนพิษและล้มลงไปกับพื้น
“ใคร?”
มู่เฉียนซีถูกจับได้แล้ว และนางก็ได้ชักกระบี่มังกรเพลิงออกมา
“มังกรเพลิงพิฆาต!”
ก่อนที่คนผู้นั้นจะล้มลงเขาได้เห็นร่างของหญิงสาวในชุดม่วงหน้าตางดงามอย่างไร้ที่ติก็ตกใจขึ้น “ท่าน ท่านเป็นมังกรเผ่ามังกรอัคคี!”
“ไม่ใช่สิ ท่านไม่ใช่มังกรวารีหรอกเหรอ?”
เนื่องจากปลอมตัวเป็นมังกรวารี กระบี่มังกรเพลิงจึงไม่ได้ออกจากฝักมานานแล้ว
มู่เฉียนซีลงมือยังพอหลงเหลือศพ แต่การลงมือของจิ่วเยี่ยนั้นทำให้หายสาปสูญไปไม่เหลือร่องรอยเอาไว้เลย
“เฝ้าต่อไป!”
“ขอรับ!”
เฮยเย้าหมดสติไปจนกระทั่งเช้าตรู่ของวันต่อมาเขาเพิ่งจะฟื้นขึ้น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกราวกับได้เกิดใหม่
เขาได้รู้ที่มาของตนเองแล้ว!
หลังจากที่มู่เฉียนซีรู้ว่าเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว นางก็มาทันที นางกล่าวถามว่า “เฮยเย้า เจ้ารู้สึกผิดปกติตรงไหนบ้าง!”
“ท่านมังกรวา…” ไม่ทันกล่าวจบเขาก็หยุดชะงักลง
มู่เฉียนซีก็พบถึงความผิดปกติของเขาแล้ว นางกล่าว “หรือว่า เจ้าค้นพบสิ่งใดแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
“ท่านไม่ใช่มังกรวารี ท่านเป็นมนุษย์”
มู่เฉียนซีอดที่จะนับถือความแข็งแกร่งของสายเลือดเผ่าราชาไม่ได้จริง ๆ นี่แค่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมาก็มองออกถึงกายแท้ของนางได้แล้ว
นางสามารถปกปิดเผ่ามังกรทั่วไปได้ แต่ไม่สามารถปกปิดสายตาของเผ่าราชาได้
มู่เฉียนซียอมรับอย่างใจกว้าง “อืม ข้าเป็นมนุษย์ เจ้าจะบอกพวกเขาอย่างนั้นเหรอว่าข้าปลอมตัวเป็นมังกรวารีผู้สูงศักดิ์?”
เฮยเย้าส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่ว่าท่านมู่จะเป็นคนของเผ่ามังกรหรือไม่ ท่านก็เป็นคนคนเดียวที่ดีกับข้านับตั้งแต่ข้าได้ลืมตาดูโลกมา หากไม่มีท่าน อย่าว่าแต่ได้รับมรดกเลย เกรงว่าข้าคงจะตายไปแล้ว”
“เจ้าเป็นสายเลือดเผ่าราชา แล้วตอนนี้เจ้าอายุกี่ปีแล้วล่ะ”
การเติบโตของสายเลือดเผ่าราชานั้นแตกต่างไปจากเผ่ามังกรทั่วไป
มังกรอื่น ๆ ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นรูปร่างแปดเก้าปีได้ แต่เผ่าราชานั้นไม่เหมือนกัน
เฮยเย้ากล่าว “ข้าอายุสิบปี!”
“สิบปีก่อน เกาะราชามังกรถูกปิด!” มู่เฉียนซีตกตะลึงขึ้น
เฮยเย้ากล่าวถามว่า “ท่านมู่ต้องการจะไปเกาะราชามังกรใช่หรือไม่ ขะ ข้า ข้าอาจจะมีวิธี”
ก่อนที่ร่างกายของเขาจะฟื้นฟูเขามีความรู้สึกอยู่อย่างหนึ่งว่า หากเขาสามารถฝึกบำเพ็ญได้ บางทีเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าจะไปที่เกาะราชามังกรเช่นไร
ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะอยากฝึกบำเพ็ญ กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเกือบจะทำให้ตัวเองตายไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “วิธีใด?” มู่เฉียนซีคิดว่าต้องพูดคุยกับเฮยเย้าให้ดี นางกล่าวต่อว่า “ที่พวกเรามาแดนมังกรก็เพื่อที่จะหาของสำคัญบางอย่าง ของสิ่งนั้นคาดว่าจะต้องไปถามหากับผู้อาวุโสของเผ่ามังกรที่เกาะราชามังกรถึงจะรู้ได้ เพราะว่ามันสำคัญมากเกินไปจริง ๆ ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องเอามาให้ได้ แต่ข้าขอรับประกันได้เลยว่าจะไม่เป็นอันตรายต่อเผ่ามังกรของพวกเจ้าแน่นอน”
เฮยเย้ากล่าว “ข้าเชื่อท่านมู่ อันที่จริงข้าก็อยากจะขอความช่วยเหลือจากท่านมู่ด้วยเหมือนกัน” เขาหลับตาลง “ถึงแม้ว่าข้าจะมีมรดกความทรงจำ แต่ข้าก็ไม่อาจรู้ได้ว่าในตอนนั้นมันเกิดเรื่องอันใดขึ้นที่เกาะราชามังกร ท่านพ่อของข้าเป็นองค์รัชทายาทของเผ่ามังกรทอง ท่านแม่ข้าคือมังกรดำ เมื่อครั้งที่ข้าได้กำเนิดเกิดมา เกาะราชามังกรได้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น”
“เกาะราชามังกรถูกปิดทั้งเกาะ ข้าถูกส่งตัวออกมา ต้องการจะเปิดเกาะราชามังกรใหม่ จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากเผ่ามังกรใหญ่ทั้งสี่”
“เผ่ามังกรวารี เผ่ามังกรทอง เผ่ามังกรดิน และเผ่ามังกรไม้”
“รวมถึงข้าที่เป็นผู้สืบทอดของเผ่ามังกรทองด้วย ถึงจะสามารถเปิดเกาะราชามังกรได้อีกครั้ง บนเกาะราชามังกรมีของที่น่ากลัวมากอยู่สิ่งหนึ่ง ต่อให้มีพลังของเผ่ามังกรทั้งห้าก็ไม่สามารถต้านทานได้ มิเช่นนั้นเผ่ามังกรทองก็คงจะไม่ถูกปิดผนึกเอาไว้บนเกาะราชามังกรหรอก ท่านมู่ ท่าน ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าจะเปิดเกาะราชามังกร?”
เป็นสิ่งที่เผ่าราชามังกรและเผ่ามังกรอื่น ๆ ต่างก็หวาดกลัว มู่เฉียนซีตกใจนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
จิ่วเยี่ยคว้าตัวมู่เฉียนซีพลางกล่าว “มีข้าอยู่!”
นอกจากคำสาปที่อยู่ในร่างแล้ว อย่างอื่นสำหรับเขานั้นก็ล้วนไม่มีความหมายอันใดเลย
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เฮยเย้า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะถามข้า แต่เจ้าต้องถามตัวเจ้าเอง”
“บรรพบุรุษของเจ้าปิดผนึกเกาะราชามังกรเอาไว้โดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใดเพื่อที่จะไม่ให้ของสิ่งนั้นออกมาเป็นหายนะให้เผ่ามังกรของพวกเจ้ากระมัง! เจ้าบอกวิธีพวกข้าว่าจะเปิดเกาะราชามังกรเช่นไร และถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นจริง ๆ จะทำเช่นไร?”
สายตาที่บริสุทธิ์นั้นของเขามองไปที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ข้าก็แค่อยากจะช่วยท่าน!”
มู่เฉียนซีกล่าว “วางใจเถอะ! ข้าเข้าไปในเกาะราชามังกรแน่ และข้าก็จะไม่ทำให้เผ่ามังกรตกอยู่ในอันตรายเด็ดขาด”
พวกเขาเพิ่งจะพูดคุยกันเสร็จ ทันใดนั้นเองกลิ่นอายอันแข็งแกร่งหลายร่างก็ใกล้เข้ามา
ท่านเจ้าเมืองอวิ๋นรีบมาทันที เขากล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “ท่านมังกรวารี แย่แล้ว! พลังมังกรของเผ่าราชานั้นทำให้มังกรของเกาะมังกรอื่น ๆ รับรู้ได้ ตอนนี้มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยได้แห่กันมาแล้วขอรับ”
“มีแม้กระทั่งมังกรที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด เกรงว่าพวกเราจะต้านไว้ไม่ไหว!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าพาเฮยเย้าหนีไปได้ แต่เจ้าต้องจำเอาไว้ให้มั่นว่าต้องปิดเรื่องนี้เอาไว้ให้สนิท พวกนั้นก็คงจะไม่ล่วงเกินพวกเจ้า”
ท่านเจ้าเมืองอวิ๋นกล่าว “ท่านมังกรวารี หากท่านจะล่อศัตรู พวกข้ายอมสู้จนตัวตายกับพวกมันยังดีซะกว่า อาจจะ…”
“อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระอยู่เลย ข้ารู้ตัวเองดี! ออกจากเกาะลอยฟ้าไม่มีสิ่งใดต้องเป็นกังวล พวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านเจ้าเมืองอวิ๋น เผ่ามังกรดำกระทำกรรมชั่วหรือไม่ ท้ายที่สุดพวกเจ้าก็จะได้รู้ความจริง อย่าได้หลงเชื่อเรื่องเหล่านั้นเพียงแค่ผิวเผิน”
ท่านเจ้าเมืองอวิ๋นรู้สึกสับสนเล็กน้อย มังกรดำมีความผิด นี่เป็นความคิดที่หยั่งรากลึกของพวกเขา
แต่หากเผ่ามังกรดำได้กระทำกรรมชั่วเช่นนั้นจริง เหตุใดมังกรน้อยตัวนี้ถึงได้มีสายเลือดเผ่าราชากันล่ะ
มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย เฮยเย้า เรารีบไปกันเถอะ!”