มู่เฉียนซีมองไปที่โพรงขนาดใหญ่นั้นและกล่าวว่า “มังกรเพลิงเก่งกาจจริง ๆ พวกเราไปกันเถอะ!”
ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในเกาะว่านเซินฉง ก็ได้กลิ่นอายของมังกรหลายกลิ่นอายที่ใกล้เข้ามา
เมื่อพวกเขาได้เห็นร่างของหญิงสาวชุดม่วงผู้หนึ่งพาเด็กหนุ่มชุดดำผู้หนึ่งเข้ามา พวกเขาก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “สองคนนี้ช่างดูแปลกหูแปลกตายิ่งนัก!”
“ร่างของหญิงสาวชุดม่วงผู้นั้นมีพลังวิญญาณธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งมาก เป็นคนของเผ่ามังกรอัคคี”
“เผ่ามังกรอัคคีมีมังกรแม่ลูกที่หน้าตางดงามเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดแล้ว”
มู่เฉียนซีมองไปที่คนเหล่านั้นที่กำลังล้อมชมนางอยู่ ดูเหมือนพวกเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าพวกนางเป็นคนของเผ่ามังกรอัคคีเสียแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าคงจะเป็นคนของเผ่ามังกรไม้น่ะสิ ข้าต้องการพบหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้า พวกเจ้านำทางข้าไปได้หรือไม่?”
มังกรเหล่านี้ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “อะไรนะ นะ นาง นางต้องการพบหัวหน้าเผ่าของพวกเราอย่างนั้นเหรอ”
“คนรุ่นหลังของเผ่ามังกรอัคคีเดี๋ยวนี้ช่างกำเริบสืบสานอย่างไม่ยำเกรงต่อสิ่งใดมากเกินไปหน่อยแล้วกระมัง”
“……”
มู่เฉียนซีไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพวกเขากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่
มังกรไม้เหล่านี้กล่าวว่า “นี่ เจ้า ท่านหัวหน้าเผ่าของพวกข้าไม่ว่างที่จะมาพบเจ้าหรอกนะ ข้าว่าเจ้ารีบกลับเผ่ามังกรอัคคีของเจ้าไปเถอะ!”
“ใช่! รูปร่างหน้าตาของเจ้าก็ดูงดงามยิ่งนัก แถมยังพาเด็กน้อยเช่นนี้มาที่เผ่ามังกรไม้ของพวกข้าอีก ข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะได้รับบาดเจ็บเอาได้!”
“รีบไปซะเถอะ! พวกข้าจะถือว่าไม่เห็นพวกเจ้าก็แล้วกัน!”
มู่เฉียนซีกับเฮยเย้าหันมองหน้ากันคราหนึ่ง นี่มันอะไรกัน?
เผ่ามังกรสายเลือดที่สูงศักดิ์ที่สุดควรจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันสิถึงจะถูก! เหตุใดตอนนี้ถึงได้ดูเหมือนว่าเป็นศัตรูกันก็มิปาน
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่ไป! ข้ามีเรื่องสำคัญต้องการเจอหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าจริง ๆ”
“หึ ๆ ๆ! ไม่ไปก็ดี! ตอนนี้พวกเจ้าอยากจะไปก็ไปไม่รอดแล้วล่ะ”
“ข้าสาบานเอาไว้นานแล้วว่าหากมังกรเผ่ามังกรอัคคีของพวกเจ้าย่างกรายเข้ามาในเผ่ามังกรไม้ของข้าอีก ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปแน่”
“……”
มู่เฉียนซีก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เดิมทีนิสัยของเผ่ามังกรไม้จะนุ่มนวลและอ่อนโยน แต่เหตุใดตอนนี้ถึงได้ดุร้ายเช่นนี้ล่ะ!
ตกลงมังกรของเผ่ามังกรอัคคีไปท้าทายพวกเขาไว้อย่างนั้นเหรอ?
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นแม่มังกรแล้ว แต่พวกเจ้าก็เป็นมังกรของเผ่ามังกรอัคคี ข้าคิดว่าพวกข้าก็ไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจใดแล้ว”
“ลงมือเถอะ! ครั้งนี้ข้าจะต้องสั่งสอนพวกเจ้าให้หนัก”
“……”
มู่เฉียนซีเหลือบมองพวกเขาและกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นผู้ใหญ่มานานแล้วหรือไม่?”
“ข้าเพิ่งจะเป็นผู้ใหญ่แค่สามร้อยปี!”
“ข้าห้าร้อยปีแล้ว”
“……”
มังกรไม้เหล่านี้ตอบทีละคน
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าเพิ่งจะเป็นผู้ใหญ่มาแค่ปีกว่าเอง พวกเจ้าแน่ใจแล้วเหรอว่าจะสู้กับข้า ต่อให้พวกเจ้าสู้กับข้าจริง ๆ และต่อให้พวกเจ้าเผ่ามังกรไม้จะเอาชนะข้าได้ แต่พวกเจ้าก็ต้องอับอายขายขี้หน้าแน่!”
“เพิ่งจะเป็นผู้ใหญ่แค่ปีเดียว!”
“นี่ยังเด็กเกินไปแล้ว”
“แล้วเจ้ามาทำไม รีบไปสิ พวกข้าขี้เกียจจะลงมือกับเจ้า”
มู่เฉียนซีพบว่ามังกรของเผ่ามังกรไม้นั้นไม่ได้มีนิสัยดุร้ายโดยชาติกำเนิด แต่คาดว่าจะถูกเผ่ามังกรอัคคีท้าทายจนทนไม่ได้มากกว่า
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ามีเรื่องที่สำคัญมากจริง ๆ ต้องการพบหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้า ตอนนี้ข้าจะไปได้หรือยัง”
“เจ้ายังเด็กนัก และยังไร้เดียงสามากนัก ท่านหัวหน้าเผ่าของพวกข้าไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการจะเข้าพบแล้วจะพบได้นะ”
“อีกอย่างตอนนี้ท่านหัวหน้าเผ่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ไม่มีเวลามาพบสาวน้อยอย่างเจ้าหรอก!”
“……”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วพลางกล่าว “แล้วถ้าหากข้ายืนกรานว่าจะพบให้ได้ล่ะ?”
“เช่นนั้นไม่ว่าเจ้าจะยังเด็กแค่ไหน ก็ต้องผ่านพวกข้าไปให้ได้ก่อน”
พลังของมังกรไม้เหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอเลย อย่างน้อยก็เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าระดับหก ถึงแม้ว่าจะไม่มียอดฝีมืออย่างสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดและสัตว์เทพ แต่นางคนเดียวไม่สามารถจัดการพวกเขาทั้งหมดได้แน่
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “พวกเจ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่ว่าจะเอาเช่นนี้?”
“ใช่!”
“ข้าเรียกตัวช่วยได้หรือไม่?”
“ได้สิ”
ในตอนนี้เถาวัลย์เหล่านั้นได้ปิดกั้นไปโดยสมบูรณ์แล้ว ต่อให้เจ้าหนูนี่ต้องการหาตัวช่วย ตัวช่วยของนางก็ไม่มีทางมาถึงเร็วแน่นอน
ผลลัพธ์คือคนผู้นี้เพิ่งจะกล่าวจบ เงาดำร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นและโจมตีเขาจะหมดสติไปทันที
สำหรับมังกรไม้เหล่านี้ มู่เฉียนซีกลับไม่ได้ฆ่าแต่อย่างใด
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “จิ่วเยี่ย เราลงมือกันเถอะ! แต่เจ้าก็ระวัง ๆ หน่อยล่ะ”
จิ่วเยี่ยกล่าวเสียงขรึมว่า “เถาวัลย์ป้องกันเผ่าของเผ่ามังกรไม้เหล่านี้สามารถบดบังกลิ่นอายของข้าได้ ผลกระทบที่ได้รับน้อยมาก!”
“ซี ไม่ต้องเป็นกังวล!”
มู่เฉียนซีตื่นเต้นขึ้นแล้ว “เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย เราเริ่มกันเถอะ!”
นางหันมองเฮยเย้าและกล่าวว่า “เฮยเย้า ถึงแม้ว่าเจ้าจะยังเด็ก แต่ภาระที่เจ้ากำลังแบกอยู่นั้นมันไม่ง่ายเลย การต่อสู้ในครั้งนี้ เจ้าก็ต้องร่วมด้วย”
เฮยเย้าพยักหน้าพลางกล่าว “ขอรับ! ข้าเองก็ไม่อยากเอาแต่หลบอยู่ข้างหลังท่านมู่”
ตูม!
มู่เฉียนซีลงมือแล้ว ในเมื่อพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นมังกรอัคคี ก็ปล่อยให้พวกเขาเข้าใจผิดคิดเช่นนั้นไปก็แล้วกัน!
หากใช้พลังธาตุวารี คาดว่าตัวตนที่นางเป็นมนุษย์ก็คงจะถูกเปิดเผยขึ้นได้
“มังกรเพลิงสังหาร!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“ทักษะโยวหลัว!”
ตูม ปัง ปัง!
การโจมตีของมู่เฉียนซีนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ว่าพลังวิญญาณไม่เพียงพอ ต้องการจะเอาชนะมังกรไม้เหล่านี้มันไม่ง่ายเลย
แต่จิ่วเยี่ยลงมือได้อย่างรวดเร็วยิ่งนัก ทุกที่ที่เขาย่างกรายไป มังกรไม้เหล่านี้ก็หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ
พรสวรรค์ของเฮยเย้านั้นดีมาก ทว่าการต่อสู้ตัวต่อตัว ความแข็งแกร่งแค่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งนั้นยังไม่พอ
แต่มังกรไม้เหล่านี้กลับประเมินศัตรูต่ำไป ไม่ทันระวังก็ถูกเด็กน้อยผู้นี้ลอบโจมตีสำเร็จ
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
เสียงการต่อสู้ทางด้านนี้แน่นอนว่าได้ดึงดูดความสนใจของมังกรไม้ตัวอื่น ๆ แล้ว
“นี่มันพลังธาตุอัคคี เผ่ามังกรอัคคีมาท้าทายอีกแล้ว”
“ไม่สิ! นอกจากพลังธาตุอัคคีแล้วยังมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งอยู่อีกกลิ่นอายหนึ่งด้วย”
“……”
เมื่อมังกรไม้อีกกลุ่มหนึ่งได้มาถึง มังกรไม้กลุ่มแรกก็ถูกมู่เฉียนซีและพวกโจมตีจนพ่ายแพ้ไปแล้ว
“เผ่ามังกรไม้ของพวกเราแพ้แล้ว”
พวกเขามองมู่เฉียนซีและกล่าวอย่างอยากจะลองว่า “ข้ารับคำท้าทายของพวกเจ้า มาลองฝีมือกันสักตั้งเถอะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่ได้อยากจะท้าทายพวกเจ้าสักหน่อย ข้าแค่อยากพบหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้า”
“หากแม้แต่กับพวกข้า พวกเจ้ายังสู้ไม่ได้ เช่นนั้นพวกเจ้าก็ไม่มีทางสู้ท่านหัวหน้าเผ่าของพวกข้าได้หรอก ฉะนั้นก็มาลงมือกันเลยดีกว่า!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีดำคล้ำด้วยความโกรธ นางบอกแล้วเหรอว่านางจะท้าประลองกับหัวหน้าเผ่าของพวกเขา
มู่เฉียนซีไม่ได้พูดเช่นนั้น แต่มังกรไม้เหล่านี้กลับคาดเดาไปเองว่าเป็นเช่นนั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ได้ ข้าเอาชนะพวกเจ้าได้แน่”
ในตอนนี้จิ่วเยี่ยสามารถลงมือได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวต่อสิ่งใด และนางเองก็ได้ยืดเส้นยืดสายด้วย
เฮยเย้าเองก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งด้วยเช่นกัน เช่นนั้นก็สู้กับพวกเขาสักตั้ง!
เมื่อถึงตอนนั้นเผ่ามังกรไม้ถูกจิ่วเยี่ยโจมตีไปทั้งหมด พวกเขาก็อย่าคิดว่ารังแกกันเกินไปก็แล้วกัน
ปัง ปัง ปัง!
ตูม!
ครั้นแล้วพวกเขาก็เริ่มต่อสู้กัน จากนั้นเผ่ามังกรไม้อีกกลุ่มหนึ่งก็พากันมาอีกกลุ่ม
อันที่จริงแล้วสายเลือดเผ่าราชานั้นมีไม่มากนัก เพราะสายเลือดบริสุทธิ์นั้นเกิดมาก็จะมีโอกาสเป็นผู้สืบทอดมากกว่าเผ่าอื่น
ในการต่อสู้ครั้งนี้ การหลอมรวมเลือดของเฮยเย้านั้นยิ่งราบรื่นขึ้นเรื่อย ๆ และจู่ ๆ เขาก็เลื่อนขั้นได้แล้ว
มังกรไม้เหล่านั้นกล่าวขึ้นด้วยความตกตะลึงว่า “เจ้าเด็กผู้นี้เลื่อนขั้นแล้ว!”
“เขายังไม่ได้โตเป็นผู้ใหญ่กระมัง! ดูเหมือนว่าจะเลื่อนขั้นเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสองแล้ว”
“พรสวรรค์นี้ ไม่เลวเลย! น้อยนักที่จะมีมังกรที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่เลื่อนขั้นได้เช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วตั้งแต่กำเนิดจนกว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่นั้นความแข็งแกร่งจะอยู่ในขั้นคงที่”
“ข้าก็ดูไม่ออกเลยว่าเขาเป็นมังกรเผ่าใดกันแน่!”