มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจมาก “ข้าสู้กับเจ้า?”
ไม่เพียงแต่มู่เฉียนซีเท่านั้นที่ประหลาดใจ มังกรอื่นก็ประหลาดใจและตกใจขึ้นเช่นกัน
“ท่านหัวหน้าเผ่า นี่ท่านว่ายังไงนะ ท่านจะต่อสู้กับแม่นางน้อยผู้นี้เหรอขอรับ”
“ท่านหัวหน้าเผ่า ท่านไม่ได้ลงมือมานานแล้ว และครั้งนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะลงมือกับสาวน้อยผู้นี้”
“สาวน้อยผู้นี้อายุยังน้อย พลังไม่แข็งแกร่งพอ เกรงว่าหัวหน้าเผ่าคงจะลงมือได้เพียงแค่ไม่กี่กระบวนท่า!”
ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีก็คิดว่าตนเองหูฝาดไปแล้ว อย่างไรเสียหัวหน้าเผ่ามังกรวารีก็ไม่ได้ลงมือมานานมากแล้ว
ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าของเขาอยากที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ประลองฝีมือกับหัวหน้าเผ่ามังกรวารี หัวหน้าเผ่ามังกรวารีก็ไม่ตอบตกลง
ทว่า ตอนนี้…
เขารีบกล่าวขึ้นว่า “ท่านหัวหน้ามังกรวารี ท่านมู่เป็นมนุษย์คนนึง เพิ่งจะอายุครบสิบหกปี เพิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ได้ไม่นาน พลังความแข็งแกร่งอย่างมากก็เทียบเท่ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามเท่านั้น เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน!”
ต่อให้เป็นหัวหน้าเผ่าทั้งห้าเผ่า ก็ไม่มีผู้ใดรู้ได้ว่าพลังของหัวหน้าเผ่ามังกรวารีนั้นแข็งแกร่งถึงขั้นใด
จิ่วเยี่ยยืนขวางหน้ามู่เฉียนซีไว้ ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกนั้นมองไปที่สุ่ยอู๋ซิน “หากจะสู้ ข้าก็จะร่วมด้วย!”
พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งวังมังกรวารี
สุ่ยอู๋ซินกล่าว “สิ่งที่ข้าต้องการ ไม่ใช่ต่อสู้กับเจ้า”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี
“เจ้ากับข้า เรามาสู้กันสักตั้ง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ขอเพียงแค่ให้ข้าพอใจก็พอ แล้วข้าจะตอบตกลงช่วยเปิดเกาะราชามังกรให้มังกรทองน้อยนี่”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เหตุใดถึงต้องเป็นข้า?”
“ก็เพราะว่าเจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวารีอย่างไรล่ะ”
มู่เฉียนซีตกใจขึ้นเล็กน้อย หรือว่าหัวหน้าเผ่ามังกรวารีจะค้นพบบางอย่างแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “ตกลง! ขอตอบรับการท้าประลอง”
“ข้ามีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอันใด?”
“เจ้าต้องใช้พลังวิญญาณธาตุวารีต่อสู้กับข้า”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีไม่มีทางท้าประลองกับมู่เฉียนซีอย่างไร้เหตุผลแน่นอน ต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่นอน
แววตาของจิ่วเยี่ยยิ่งทวีความเย็นยะเยือกมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าสามารถทำให้เจ้าหายสาบสูญไปในตอนนี้ได้!”
มู่เฉียนซีดึงจิ่วเยี่ยห้ามเขาเอาไว้ นางกล่าวเสียงต่ำว่า “จิ่วเยี่ย ข้าจะสู้กับเขาก่อนสักตั้ง หากว่าเป็นเช่นนั้นจริง…”
“ข้าก็จะแข็งแกร่งขึ้น”
“ซี!” ให้นางต่อสู้กับผู้ที่มีเจตนาร้ายแฝงอยู่ อีกทั้งพลังความแข็งแกร่งก็ยากจะรู้ได้เช่นนี้ เขาไม่วางใจจริง ๆ!
“ท่านมู่!” เฮยเย้าเองก็ไม่วางใจเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”
สามารถจัดการได้โดยที่ไม่ต้องลงแรงมากก็ดีเหมือนกัน มู่เฉียนซีมองไปที่สุ่ยอู๋ซินและกล่าวว่า “ตกลง! ข้ายอมรับเงื่อนไข!”
“เช่นนั้นก็มาเริ่มกันได้เลย!”
กล่าวจบ หัวหน้าเผ่ามังกรวารีก็กระโจนขึ้นกลางอากาศ
ชุดคลุมยาวของเขาโบกสะบัดไปมาตามสายลม และดูเหมือนว่าเขาไม่คิดจะกลายร่างเป็นมังกร
ด้วยพลังของเขา ต่อให้ไม่ได้กลายร่างเป็นกายแท้ก็สามารถรับมือกับมู่เฉียนซีได้
มู่เฉียนซีก็กระโจนตัวขึ้นไปกลางอากาศ และลงมือแล้ว!
พลังธาตุวารีได้โคจรขึ้นอย่างบ้าคลั่ง นางรู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหัวหน้าเผ่ามังกรวารี แต่นางก็ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถ!
“ผนึกมังกรวารี!”
ภายใต้การสนับสนุนของเผ่ามังกรวารี พลังทักษะวิญญาณธาตุวารีของนางจึงแข็งแกร่งกว่าที่นางได้จินตนาการเอาไว้มาก
มังกรสีฟ้าตัวหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นสู่กลางอากาศ เมื่อได้เห็นกับมังกรวารีตัวหนึ่ง หัวหน้าเผ่ามังกรวารีก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจจนดวงตาแทบจะถลนออกมาก็มิปาน
“นี่มัน มังกรที่ก่อตัวมาจากพลังธาตุนี่ เหตุใดถึงได้เหมือนกับกายแท้ของท่านหัวหน้าเผ่าถึงเพียงนี้!”
“นั่นน่ะสิ! เหมือนกันมาก นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว!”
“สาวน้อยผู้นี้เป็นมนุษย์จริงเหรอ?”
ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีได้เย็นคำพูดของพวกเขาเหล่านี้ก็ตกตะลึงขึ้น “พวกเจ้า…พวกเจ้าบอกว่ามังกรตัวนั้นเหมือนกับหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าอย่างนั้นเหรอ”
เขาไม่เคยเห็นกายแท้ของหัวหน้าเผ่ามังกรวารีมาก่อนเลย และดูเหมือนว่าหัวหน้าเผ่าของเขาก็ยังไม่เคยเห็นเช่นกัน
“พวกเรา…พวกเราก็ไม่เคยเห็นตัวจริง แต่เคยเห็นศิลาสลักของเผ่าพวกเรา มันเหมือนมากจริง ๆ!”
“บางทีอาจจะเป็นเพราะการแปลงกายของสาวน้อยผู้นี้บังเอิญเหมือนกับท่านหัวหน้าเผ่าก็ได้”
“……”
เฮยเย้าไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย ส่วนจิ่วเยี่ยในตอนนี้มองไปที่คนที่อยู่กลางอากาศผู้นั้นด้วยสายตาที่อันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีมองไปที่มังกรวารีที่พุ่งทะยานเข้ามานั้น มุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย และเขาก็ไม่คิดจะหลีกเลี่ยงแต่อย่างใด
เขาเอ่ยปากกล่าวว่า “ไม่เพียงแต่จะช้าเท่านั้น พลังของเจ้ายังไม่เพียงพออีกด้วย เพียงเท่านี้ยังทำให้ข้าพอใจไม่ได้”
เขายกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า จากนั้นคมศรน้ำนับไม่ถ้วนก็พุ่งขึ้นกลางอากาศ
มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวร่างกายหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
กำแพงน้ำแข็งอันเย็นยะเยือกได้ขวางคมศรน้ำเหล่านี้เอาไว้
ทันใดนั้นเอง มู่เฉียนซีก็ปรากฏตัวขึ้นอีกทางด้านหนึ่ง นางตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “มังกรวารีพิฆาต!”
มังกรสีฟ้าตัวหนึ่งพุ่งไปทางหัวหน้าเผ่ามังกรวารีอย่างบ้าคลั่ง และได้พัวพันกับเขาอีกครั้ง
“เหมือน เหมือนมาก!”
บนโลกใบนี้มันจะมีเรื่องที่บังเอิญได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ?
ถึงแม้ว่าทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีของมู่เฉียนซีจะแข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ยังคงทำอะไรหัวหน้าเผ่ามังกรวารีไม่ได้
จากนั้น เขาก็เริ่มโจมตีกลับ!
เขายังไม่ได้ใช้พลังอย่างสุดกำลัง แต่ก็ทำให้มู่เฉียนซียากที่จะรับมือได้แล้ว
“ผนึกมังกรวารี!”
“มังกรวารีพิฆาต!”
พลังวิญญาณดูเหมือนจะใช้อย่างไรก็ใช้ไม่หมด และมู่เฉียนซีก็เคลื่อนไหวโจมตีอย่างต่อเนื่อง
การโจมตีของหัวหน้าเผ่ามังกรวารีดูเหมือนจะอันตรายเป็นหมื่นเท่า แต่เมื่อตกลงมาอย่างบ้าคลั่งกลับทำอะไรมู่เฉียนซีได้ไม่มากนัก
อย่างมากก็แฉลบตัดเสื้อของนางเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น จิ่วเยี่ยก็ทนที่จะไม่ลงมือไม่ได้
พลังรอบตัวเขาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ดูเหมือนว่าหัวหน้าเผ่ามังกรวารีจะรับรู้ได้แล้ว มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “เอาล่ะ พอแล้ว ไม่สู้แล้ว”
บุรุษผู้นั้นเป็นคนที่ห่วงใยนางมาก ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่นางห่วงใยมากเช่นกัน เขาไม่อยากต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับบุรุษผู้นี้
อีกอย่าง ร่างกายของในตอนนี้ไม่ค่อยจะดีมากนัก
มู่เฉียนซีตกตะลึงขึ้น นางกล่าว “แค่นี้ก็จบแล้วเหรอ”
“ที่ข้าต่อสู้กับเจ้า ไม่ใช่เพื่อตัดสินแพ้ชนะ ข้าเพียงแค่อยากจะดูทักษะวิญญาณของเจ้าก็เท่านั้น”
“ดูทักษะวิญญาณของข้า นี่เจ้ามีจุดประสงค์ใดกันแน่” นางรู้สึกว่าหัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้นี้ต้องค้นพบอะไรบางอย่างแล้วเป็นแน่
เมื่อเห็นว่านางระมัดระวังเช่นนี้ หัวหน้าเผ่ามังกรวารีก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า “เจ้าอยากจะเห็นกายแท้ของข้าหรือไม่!”
มังกรเหล่านั้นของเผ่ามังกรวารีต่างก็ตกตะลึงจนดวงตาเบิกกว้าง “อะไรนะ ท่านหัวหน้าเผ่าจะให้สาวน้อยผู้นั้นดูกายแท้!”
“พวกเราเป็นผู้อาวุโสมานานหลายหมื่นปีแล้ว ท่านหัวหน้าเผ่ายังไม่เคยให้พวกเราได้ดูกายแท้เลยสักครั้ง!”
“ท่านหัวหน้าเผ่าให้สาวน้อยผู้นี้ดูกายแท้ หรือว่าจะชอบสาวน้อยผู้นี้เข้าแล้ว!”
ผลลัพธ์ก็คือ องค์ชายจิ่วเยี่ยยิ่งทวีความโกรธมากขึ้นแล้ว
ร่างในชุดดำเคลื่อนไหวขึ้น และเขาก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ กอดมู่เฉียนซีเอาไว้ในอ้อมแขน
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกของเขานั้นมองไปที่หัวหน้าเผ่ามังกรวารี และตอบแทนมู่เฉียนซีว่า “ไม่จำเป็น!”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าไม่ได้ถามเจ้า!”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีไม่ได้มีเจตนาร้าย ในตอนที่ต่อสู้กัน นางก็รู้สึกได้แล้ว บางทีการที่ได้เห็นกายแท้ของเขาอาจจะทำให้นางได้รู้ถึงเหตุผลก็ได้ว่าเหตุใดเขาถึงได้ทำเช่นนี้
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ตกลง!”
จิ่วเยี่ยที่กอดมู่เฉียนซีอยู่ก็ยิ่งกอดนางแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
ทันใดนั้นพลังธาตุวารีบริเวณรอบ ๆ ก็พลันเข้มข้นขึ้น
มู่เฉียนซีเห็นมังกรที่ทรงพลังตัวหนึ่งอยู่กลางอากาศ มังกรวารีอันสูงศักดิ์กำลังมองนางด้วยความอ่อนโยน
รูปร่างของมังกรตัวนี้ช่างคุ้นหน้าคุ้นตายิ่งนัก
นี่ไม่ใช่ร่างของพลังธาตุวารีของนางหรอกเหรอ ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีกล่าวขึ้นว่า “เหมือน เหมือนเกินไปแล้ว ฮ่า ๆ ๆ! หัวหน้าเผ่าของข้ายังไม่มีโอกาสได้เห็นกายแท้ของหัวหน้าเผ่ามังกรวารีเลย นึกไม่ถึงเลยว่าข้าจะได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว”