“ท่านพ่อ!” เมื่อเห็นจินหลิวกวงเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ เฮยเย้าก็กระวนกระวายใจขึ้น
มู่เฉียนซีกล่าว “ถึงแม้ว่าจะต้องชดใช้ด้วยเผ่ามังกรทั้งเผ่าอย่างนั้นน่ะเหรอ จะไม่เป็นการเห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ”
น้ำเสียงของมู่เฉียนซียังนับว่าอ่อนโยน แต่จิ่วเยี่ยกลับกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เจ้าก็น่าจะรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของเผ่ามังกรในตอนนี้ หากข้าคิดจะทำลายเผ่ามังกรของพวกเจ้ามันไม่ใช่เรื่องยาก พวกเจ้า…”
มู่เฉียนซีห้ามจิ่วเยี่ยเอาไว้ไม่ให้เขากล่าวข่มขู่อีกต่อไป นางกล่าว “ที่เผ่ามังกรไม่อยากมอบคัมภีร์หมื่นคำสาปให้ เพราะเกรงว่าจะมีคนมาสร้างความหายนะให้กับมังกรของแดนมังกร กลายเป็นเครื่องมือแห่งความทะเยอทะยาน แต่ข้าต้องการคัมภีร์หมื่นคำสาปมาก็เพื่อที่จะช่วยชีวิตคน ข้าให้สาบานได้ว่าจะไม่ใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นเป็นอันขาด ได้โปรดพิจารณาอีกครั้ง”
จิ่วเยี่ยกล่าว “ซี ไม่จำเป็นต้องลำบากเช่นนั้น”
จินหลิวกวงมองบุตรชายตัวเองที่มีใจให้กับผู้อื่น อีกทั้งจิ่วเยี่ยผู้อันตราย และมู่เฉียนซีที่จริงใจ
เขากล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ท่านมังกรดำยอมมอบกุญแจเทพเผ่ามังกรให้กับเจ้า เช่นนั้นเขาก็ต้องมีเหตุผลของเขา สิ่งของในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร พวกข้าก็ไม่สามารถปกป้องไปได้ตลอดไป เขาเชื่อในตัวเจ้า พวกข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ท้ายที่สุดจินหลิวกวงก็กล่าวว่า “แต่คลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรอยู่ที่ไหนนั้น ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ก่อนที่เกาะราชามังกรจะถูกปิดผนึกลง ข้าก็เป็นแค่องค์รัชทายาทของเผ่ามังกรทองเท่านั้น ท่านพ่อของข้าต่อสู้กับมังกรปีศาจกลืนสวรรค์จนตาย เขาไม่ได้บอกอันใดกับข้า”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้น “เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง?”
“ท่านพ่อไม่มีทางยอมให้มรดกของเกาะราชามังกรหายสาบสูญไปแน่นอน ดังนั้นก่อนที่ท่านจะตายจากไปท่านได้ทิ้งพลังของท่านและมรดกส่วนหนึ่งของเกาะราชามังกรเอาไว้ ตราบใดที่ผู้สืบทอดมรดกของท่านรับมรดกต่อ เช่นนั้นก็สามารถรู้ได้แล้วว่าคลังเก็บของล้ำค่าของเกาะราชามังกรอยู่ที่ใด”
“ผู้สืบทอดมรดกผู้นั้นก็คือเจ้า” มู่เฉียนซีหันไปมองจินหลิวกวงพลางกล่าว
“ในตอนนี้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดไม่ใช่ข้า ถึงอย่างไรร่างกายของข้าในตอนนี้ก็อ่อนแอมาก” จินหลิวกวงกล่าวอย่างทอดถอนใจเล็กน้อย
เขามองไปที่เฮยเย้าและกล่าวว่า “ลูก เจ้าไปรับมรดกนั้นต่อจากท่านปู่ของเจ้าเถอะ! เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะตัดสินใจเลือกเช่นไร พ่อจะไม่เข้าไปก้าวก่ายเจ้า”
“แต่ว่า มันเป็นของท่านพ่อนะขอรับ” เฮยเย้ากล่าว
“ของของข้า แล้วไม่ใช่ของของเจ้าหรือ เจ้ามีความสามารถมากกว่าพ่ออย่างข้า และเป็นความหวังของเผ่ามังกรของพวกเราได้ ปล่อยวางและไปจัดการเถอะ!”
เฮยเย้ามองไปที่มู่เฉียนซี เขาอยากจะช่วยนาง
ครั้นแล้วเฮยเย้าจึงพยักหน้าและกล่าวว่า “ท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้วขอรับ”
จินหลิวกวงบอกสถานที่ที่ท่านปู่ของเฮยเย้าได้ทิ้งพลังเอาไว้ให้กับเฮยเย้า จากนั้นสุ่ยอู๋ซินก็เข้ามา
เขากล่าวกับจินหลิวกวงว่า “องค์รัชทายาทมังกรทอง แล้วท่านจะไม่มีวันเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้เลย นี่เป็นความหวังเดียวของเผ่ามังกรวารีของพวกเราแล้ว”
ท่านมู่เป็นผู้ทำพันธสัญญากับท่านมังกรวารี เรื่องนี้เขารู้เพียงคนเดียวก็พอแล้ว ไม่อาจบอกผู้อื่นให้รับรู้ได้
หากเผ่ามังกรของพวกเขาได้รับการปกป้องจากท่านมังกรวารี ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับเผ่าเทพ พวกเขาก็ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างประคองให้รอดไปวัน ๆ เช่นนี้
จินหลิวกวงกล่าว “ความหวังเดียวอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อนางได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจถึงเพียงนี้ เช่นนั้นข้าก็ไม่สงสัยแล้วล่ะ”
มู่เฉียนซี เฮยเย้าและพวกเตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้าไปที่เกาะราชามังกร ถึงแม้ว่าจิ่วเยี่ยจะแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรกับสุ่ยอู๋ซิน แต่สุ่ยอู๋ซินก็ตามไปด้วยเช่นกัน
หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีเห็นพวกเขามาก็กระตือรือร้นเป็นพิเศษ จากนั้นก็กล่าวขึ้นว่า “พวกเจ้ามากันแล้ว หลายวันที่ผ่านมานี้ข้ายุ่งวุ่นวายแทบตาย เจ้ามังกรทองนั่นเป็นเช่นไรบ้าง?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ทุกอย่างเรียบร้อยดี ที่พวกเรามาที่เกาะราชามังกรในวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะต้องทำ ปิดเกาะราชามังกร อย่าให้มังกรอื่นย่างกรายเข้ามาได้เป็นอันขาด”
ในขณะที่เฮยเย้ารับพลังของท่านปู่เขา ไม่สามารถให้คนอื่นมารบกวนได้เป็นอันขาด
“อืม!” หัวหน้าเผ่ามังกรไม้ตอบรับ
ไม่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่าหัวหน้าเผ่ามังกรทองได้ทิ้งพลังกับมรดกเอาไว้ คนของกลุ่มเทพเองก็ได้ยินข่าวนี้แล้วเช่นกัน ถึงแม้ว่าเกาะราชามังกรจะปิด แต่พวกเขาก็แอบลักลอบเข้ามาได้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เกาะราชามังกรในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยช่องโหว่มากมาย คิดจะเข้ามาในเกาะราชามังกรนั้นมันเป็นเรื่องง่ายดายมาก
เมื่อมู่เฉียนซีกับเฮยเย้าได้มาถึงสถานที่รับมรดก ซากปรักหักพังนั้นก็มองไม่เห็นถึงความพิเศษแต่อย่างใดเลย
และเมื่อเขากำลังจะกรีดเลือดเพื่อเปิดมรดก ท้องฟ้าก็เกิดแสงสีทองส่องสว่างขึ้น
มังกรดวงตาสีทองตัวหนึ่งได้พุ่งมาจากกลางอากาศ เขากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้าไม่มีสิทธิ์สืบทอดมรดกรับตำแหน่งราชา ข้าต่างหากคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด”
ผู้ที่ย่างกรายมานี้เป็นมังกรทองบริสุทธิ์ นอกจากมังกรทองที่ได้รับบาดเจ็บในเกาะราชามังกรแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเผ่ามังกรทองยังมีมังกรทองตัวอื่นมีชีวิตอยู่อีก
มังกรทองตัวนี้ช่างสว่างแพรวพราวเกินไปแล้ว ทำให้เผ่ามังกรอื่นสังเกตเห็นด้านนี้
“เป็นมังกรทอง!”
“ลำแสงนี้ช่างเป็นสายเลือดที่บริสุทธิ์ยิ่งนัก!”
“ช่างเก่งกาจยิ่งนัก”
มังกรทองตัวนั้นได้กลายร่างลงมาจากกลางอากาศเป็นเด็กหนุ่มวัยสิบห้าสิบหกปี รูปร่างสูงกว่าเฮยเย้าเล็กน้อย
เขาลดสายตาลงมองไปที่เฮยเย้า ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ากับข้าก็มีสายเลือดของเผ่ามังกรทองเหมือนกัน แต่เจ้ามีสายเลือดเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น”
มุมปากของเขายกยิ้มเยาะเย้ยขึ้น “สายเลือดอีกครึ่งของเจ้า หากข้าจำไม่ผิดแล้วละก็ คงเป็นสายเลือดเผ่ามังกรดำเผ่ากระทำกรรมชั่ว ผู้ที่มีสายเลือดเผ่ามังกรดำเผ่ากระทำกรรมชั่วเช่นเจ้า หากได้รับพลังของท่านปู่ก็จะได้เป็นราชาของเผ่ามังกร…”
หากเป็นเมื่อก่อน เมื่อได้ยินผู้อื่นกล่าวถึงเผ่ามังกรดำเช่นนี้ เฮยเย้าก็คงจะรู้สึกเสียใจ และหดหู่ ทว่าในตอนนี้…
เฮยเย้ายืดอกและกล่าวว่า “เจ้าเรียกว่าท่านปู่อย่างนั้นเหรอ เจ้าเป็นใคร?”
ลูกหลานของเผ่ามังกรนั้นค่อนข้างมีน้อย และกว่าจะมีลูกหลานนั้นยากมาก
ท่านปู่มีท่านพ่อเป็นบุตรชายคนเดียวเท่านั้น เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่?
“ท่านแม่ของเจ้าเป็นมังกรดำ แอบขึ้นเตียงท่านพ่อของข้าอย่างไร้ยางอายแล้วให้กำเนิดมังกรเดรัจฉานเช่นเจ้าออกมา ตอนนี้เจ้ายังมีหน้า…”
ผัวะ! เขาไม่ทันกล่าวจบ เฮยเย้าก็ได้ต่อยเขาไปก่อนแล้ว
ดวงตาของเฮยเย้าเปล่งประกายเปลวไฟสีทองออกมา เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ขาไม่สนว่าเจ้าเป็นใครและโผล่หัวมาจากไหน แต่เจ้ากล้าใส่ร้ายป้ายสีท่านแม่ของข้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่”
มังกรทองผู้นี้โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “เจ้าเดรัจฉาน นี่เจ้า…”
“ผนึกมังกรวารี!” เฮยเย้ายังไม่ทันได้ลงมือ มู่เฉียนซีก็ลงมือเสียก่อนแล้ว
มังกรวารีอันเย็นยะเยือกพุ่งตรงไปที่มังกรทองผู้นั้น และเขาก็หลบหลีกด้วยความยากลำบาก
“นี่พวกเจ้ากล้าลงมือกับข้าเหรอ!” เขากล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว
เนื่องจากมู่เฉียนซีกับเฮยเย้าได้ลงมืออย่างกะทันหัน องครักษ์เหล่านั้นของมังกรทองนี้ก็เริ่มเตรียมป้องกันพวกเขาแล้ว
พวกเขากล่าวอย่างมีเหตุมีผลและฉะฉานว่า “ฝ่าบาทของพวกข้าต่างหากที่มีความสามารถที่สุดที่จะได้เป็นราชามังกร พวกเจ้ายังไม่รีบกำจัดมังกรดำกระทำกรรมชั่วผู้นี้อีก”
หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้ามันตัวอะไรถึงกล้ามากล่าววาจาเช่นนี้กับข้า ดูจากท่าทางของพวกเจ้าแล้วก็คงจะเป็นพวกที่กลุ่มเทพส่งมาน่ะสิ จับตัวพวกมันก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
“ขอรับ!”
มังกรเหล่านั้นต่างเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หลังจากที่ย้ายออกจากเผ่ามังกรทองแล้วพวกเขาก็ไม่ได้ลงมือกระทำการใด นี่มันหมายความเช่นไร
มังกรทองผู้นั้นโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว “นี่เจ้าให้พวกเขากินยาสะกดจิตอันใดกันแน่ พวกเขาถึงได้ปฏิบัติต่อเจ้าเช่นนี้!”
ทั้งสี่เผ่าไม่ได้รู้ความลับของมังกรดำแต่อย่างใด แต่พวกเขาเชื่อในตัวของมู่เฉียนซี
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีปฏิบัติตามคำสั่งของนาง มู่เฉียนซีได้ช่วยเหลือเผ่ามังกรไม้เอาไว้ อีกทั้งปิดผนึกมังกรปีศาจกลืนสวรรค์เอาไว้ได้ และส่วนมากก็เป็นมู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยที่เป็นคนลงมือ
ตูม! ครั้นแล้วทั้งสามเผ่าก็เริ่มต่อสู้กับพวกที่ลอบเข้ามาเหล่านี้แล้ว
อย่างไรเสียกำลังคนของพวกเขาก็น้อยกว่า ชั่วครู่หนึ่งก็ถูกโจมตีจากทั่วทุกทิศ มังกรทองน้อยผู้นั้นถลึงตาใส่เฮยเย้าและกล่าวว่า “ขะ ข้า ข้าต้องการสู้กับเจ้า ผู้ใดเป็นฝ่ายชนะ ผู้นั้นจะได้รับพลังของท่านปู่ไป เป็นเช่นไร?”