มู่เฉียนซีได้ใช้ชีวิตเป็นตัวประกันต่ออยู่อีกหลายวัน ก็เห็นคนของกลุ่มเทพได้มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูท่าพวกเขาจะต้องทำภารกิจใหญ่ที่สำคัญมากแน่นอน
ท่านลุงเก๋อกล่าว “นายน้อยกำลังจะมาแล้ว เราไปสร้างความประหลาดใจให้กับนายน้อยเมื่อนายน้อยมาถึงกันเถอะ”
“ดี” คนอื่น ๆ ก็ต่างพากันเห็นด้วย
และแน่นอนว่ามู่เฉียนซีก็ถูกท่านลุงเก๋อพาตัวไปที่ส่วนลึกของหุบเขาทมิฬด้วย ในส่วนลึกของหุบเขาทมิฬนี้มีกระดูกสองชิ้นวางขนานกันอยู่
ท่านลุงเก๋อกล่าว “มังกรคู่วางขนานกันเปิดฟ้าดิน คลังเก็บของล้ำค่าก็อยู่ในที่แห่งนี้”
“ทันทีที่นายน้อยมาถึง ก็จะเปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรนี้ พวกเราเฝ้าที่นี่เอาไว้ให้ดี อย่าให้เกิดความผิดพลาดใด ๆ ขึ้นได้เป็นอันขาด” คนอีกคนหนึ่งกล่าว
ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงถูกเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และตัวประกันอย่างมู่เฉียนซีก็ถูกเฝ้าอยู่ตลอดเวลา
สายตาของนางเหลือบมองไปที่มังกรคู่นั้น นางจะต้องเข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรนั้นให้ได้ก่อนที่นายน้อยผู้นั้นจะมาถึง
จะมัวชักช้าอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องลงมือในคืนนี้เลย
สายลมยามราตรีในหุบเขาแห่งนี้หนาวเย็นมาก มู่เฉียนซีที่ถูกยับยั้งพลังเอาไว้ก็ได้นั่งอยู่ข้างกองไฟ
เสียง แกร่ก! ดังขึ้นหนึ่งครั้ง ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ในขณะที่สะเก็ดไฟในกองฟืนปะทุออกมานั้น กลิ่นหอมจาง ๆ ก็ได้ลอยตลบอบอวลอยู่บริเวณรอบ ๆ นี้
ในยามดึกสงัด ทุกคนล้วนแต่หลับกันลึกมาก
ไม่มีผู้ใดรับรู้ได้ว่ามีเงาร่างดำเงาหนึ่งได้บุกเข้ามาในกระโจมของตัวประกันอย่างมู่เฉียนซีแล้ว
จิ่วเยี่ยได้แก้การยับยั้งพลังให้กับมู่เฉียนซี มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย เราไปหาทางเข้าของคลังเก็บของล้ำค่านี้กันเถอะ!”
มังกรคู่ที่ขนานกันนี้ดูเหมือนกันมาก แต่มีมังกรตัวหนึ่งที่บนหน้าผากมีรอยรอยหนึ่งอยู่
มู่เฉียนซีเอากุญแจเทพเผ่ามังกรออกมา และพบว่ามีลักษณะเหมือนกัน
มู่เฉียนซีกล่าว “ถึงแม้ว่าข้าจะเชื่อมั่นในยาพิษของข้ามาก แต่หากมีคนนอกย่างกรายเข้ามา คงต้องให้เจ้าเป็นคนจัดการ เจ้าแอบซ่อนตัวเฝ้าอยู่ตรงนี้นะ”
“ไม่ได้!” คำตอบของจิ่วเยี่ยมักจะเป็นเช่นนี้อยู่เสมอ
นางกล่าวต่อว่า “ตอนนี้คัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ข้างใน เจ้ายังยับยั้งคำสาปในร่างของเจ้าได้ แต่หากเจ้าเข้าไปใกล้มัน เกรงว่า…”
จิ่วเยี่ยดึงร่างของมู่เฉียนมากอดไว้ในอ้อมกอด เขากล่าวเสียงขรึมว่า “ข้าบอกเจ้าแล้ว ไม่ได้ก็คือไม่ได้! ข้าจะไปกับเจ้า”
“เจ้าเข้าไปก็เป็นตัวถ่วงอยู่ดี เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ดีกว่า!” น้ำเสียงอันเย่อหยิ่งดังขึ้น ลำแสงสีเขียวอ่อนลำแสงหนึ่งได้ห่อหุ้มร่างของมู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยไว้
มู่เฉียนซีมองไปที่ชายหนุ่มผู้งดงามเปรียบประดุจภาพวาดของเหล่าทวยเทพที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านางผู้นั้น “อาถิง!”
อาถิงกล่าว “หญิงอัปลักษณ์ เจ้าหยุดอึ้งได้แล้ว ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้าจะควบคุมเจ้าบ้านี่ได้นานแค่ไหน เจ้ารีบไปเปิดประตูเถอะ!”
มู่เฉียนซี “ได้!”
จิ่วเยี่ยไม่เชื่อฟัง นางจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้ไปก่อนแล้วค่อยมาสารภาพผิดทีหลัง เอาคัมภีร์หมื่นคำสาปมาให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที
มู่เฉียนซีกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ และเสียบกุญแจเทพเผ่ามังกรเข้าไป จากนั้นมังกรที่อยู่ใต้ฝ่าเท้านางตัวนั้นก็ได้อ้าปากขึ้นและกลืนนางเข้าไป
อาถิงรีบตามไป แต่จิ่วเยี่ยกลับช้าไปเพียงก้าวหนึ่ง
เขาอยากจะง้างมือทำลายที่นี่ซะ
แต่เมื่อคิด ๆ ดูแล้วจะเป็นการทำลายแผนของมู่เฉียนซีให้พังลงได้ จนสุดท้ายเขาก็ไม่ได้ลงมือ
สีหน้าของจิ่วเยี่ยน่ากลัวขึ้น เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “ศาลาเรือนรางเก้าชั้น เจ้ามันตัวดี!”
“ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ทำให้ซีได้รับบาดเจ็บเป็นอันขาด มิเช่นนั้นแล้วข้าจะบดขยี้เจ้าให้กลายเป็นเถ้าถ่านแน่ อย่าคิดว่าข้าจะมีเมตตาปรานี!”
ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จิ่วเยี่ยจึงทำได้เพียงแค่แอบซ่อนตัวเฝ้าอยู่ตรงนี้เท่านั้น
เขาเฝ้าอยู่ที่ประตูทางเข้า หากมีผู้ใดกล้าเข้ามาในสถานการณ์ที่องค์ชายจิ่วเยี่ยผู้นี้กำลังอยู่ในอารมณ์ครุกรุ่น มีหวังจะต้องตายและดวงจิตดับสูญเป็นแน่
มู่เฉียนซีที่ถูกมังกรนั้นกลืนไป ได้เข้าไปอยู่ภายในตำหนักที่กว้างใหญ่เหลืองอร่ามแพรวพราวแห่งหนึ่ง
ที่แห่งนี้กว้างใหญ่มาก คิดจะหาคัมภีร์หมื่นคำสาปนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงเริ่มเสาะหาอยู่ในตำหนักนั้น ผลลัพธ์ก็คือตอนนี้อาถิงก็ได้เหลือบไปเห็นสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าส่วนหนึ่งที่วางเต็มอยู่บนชั้น
“นี่ ๆ ๆ! หญิงอัปลักษณ์ ตรงนี้มีของรักของชอบของเจ้าเต็มไปหมดเลย เจ้าจะไม่เอาไปเหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหาคัมภีร์หมื่นคำสาป ของอย่างอื่นอย่าเพิ่งไปสนใจก่อน”
อาถิงกล่าวด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อยว่า “เมื่อก่อนเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ เจ้าหลงใหลหน้าตาอันหล่อเหลาของเจ้านั่นจนสมองเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ เพื่อที่จะช่วยเจ้านั่น แม้แต่ของที่เจ้าชื่นชอบที่สุดเจ้าก็มองข้ามมันไปได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ความปลอดภัยของจิ่วเยี่ยสำคัญที่สุด ถึงแม้ว่าเจ้ากับจิ่วเยี่ยจะไม่ถูกคอกัน แต่ก็อย่ามาหาเรื่องตอนนี้เลยนะ รีบหาเร็วเข้า!”
เมื่อข้ามผ่านประตูมาหลายประตู มุ่เฉียนซีก็ได้เห็นมังกรตัวหนึ่งกำลังนอนหลับใหลอยู่ตรงหน้า
เมื่อมู่เฉียนซีเข้าไปใกล้ มังกรตัวนั้นก็เบิกตากว้างขึ้นทันที
“มนุษย์!” น้ำเสียงอันหนักแน่นดังขึ้น
มู่เฉียนซีมองมันอย่างเงียบ ๆ และมันก็ปริปากเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “เจ้ามนุษย์ เจ้ามีกุญแจเทพเผ่ามังกรจนเข้ามาในนี้ได้ ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่คนของเผ่ามังกร แต่ก็นับว่าเป็นคนสำคัญของเผ่ามังกร ดังนั้นข้าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ เจ้าบอกข้ามา เจ้าต้องการสิ่งใดในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร ตราบใดที่เจ้าผ่านการทดสอบ ของสิ่งนั้นก็จะเป็นของเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “สิ่งที่ข้าจะขอมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือคัมภีร์หมื่นคำสาปส่วนหนึ่งที่เผ่ามังกรได้ปกปักษ์รักษาเอาไว้”
มังกรยักษ์โบราณที่เดิมทีกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบก็พลันลุกขึ้นทันที
ชั่วครู่หนึ่ง ลมพายุก็พัดกระโชกไปที่มู่เฉียนซี “เจ้ามนุษย์ เจ้ารู้เอาไว้เลยนะ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่หากเจ้าต้องการเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปไปจากที่นี่ นั่นก็มีเพียงแค่เส้นทางแห่งความตายเส้นทางเดียวเท่านั้น เจ้าพูดคำห้าคำนั่นออกมาแล้ว วันนี้ข้าจะไม่ให้เจ้ามีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่ได้แน่นอน” มังกรยักษ์โบราณกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
อาถิงค่อย ๆ ปรากฏตัวตรงหน้ามู่เฉียนซีอย่างช้า ๆ และมองไปที่มังกรยักษ์โบราณนั้นด้วยความเย่อหยิ่ง
“ตายอย่างนั้นเหรอ! ผู้เป็นพันธสัญญาของข้า เจ้ามีสิทธิ์ที่จะทำให้นางตายได้อย่างนั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของชายหนุ่มกำเริบเสิบสานมาก และเขาก็ไม่เห็นมังกรยักษ์โบราณนี้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
พลันนั้นเขาก็ได้แผ่ซ่านพลังแห่งกาลเวลาอันลึกลับและแข็งแกร่งออกมา
“ศาลานิรันดร์ ท่านศาลาเรือนรางเก้าชั้น” พลังอันแข็งแกร่งนี้ทำให้น้ำเสียงของมังกรยักษ์โบราณสั่นเครือขึ้น
อาถิงกล่าว “เอาของสิ่งนั้นออกมาเถอะ!”
มังกรยักษ์โบราณกล่าว “หากมอบให้กับท่านศาลาเรือนรางเก้าชั้น เผ่ามังกรของพวกเราย่อมวางใจอยู่แล้ว แต่กฎเกณฑ์ที่ควรจะไปก็ต้องไปสักหน่อย ข้าไม่มีทางฆ่าผู้เป็นพันธสัญญาของท่าน แต่นางก็จำเป็นต้องผ่านการทดสอบ”
“ไม่มีปัญหา! มีข้าอยู่ ข้าก็อยากจะดูเหมือนกันว่าเผ่ามังกรของพวกเจ้าจะงัดอุบายเช่นไรออกมา” อาถิงก็ตอบตกลงอย่างสบาย ๆ
มังกรยักษ์โบราณกล่าว “เช่นนั้นก็เชิญด้านใน!”
ร่างของมันได้อันตรธานหายไปต่อหน้าพวกเขา และประตูด้านหลังมันก็ค่อย ๆ เปิดออก หลังจากที่เดินเข้าไปในประตูนั้นแล้ว อาถิงก็กล่าวด้วยความไม่สนใจใยดีว่า “หญิงอัปลักษณ์ เจ้ายังคิดแต่ที่จะเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปให้กับเจ้าหวงจิ่วเยี่ยนั่น ตอนนี้รู้แล้วหรือไม่ว่าของสิ่งนี้มันไม่ได้เอามาได้ง่าย ๆ โชคดีนะที่ข้าตื่นขึ้นมาช่วยเจ้าทัน มิเช่นนั้นเจ้าจะตายยังไงก็ยังไม่รู้เลย”