หากจิ่วเยี่ยสามารถไปอยู่อีกโลกหนึ่งได้ มู่เฉียนซีก็คงจะยัดเยียดให้เขาไปอยู่ที่โลกอื่นแล้ว
จิ่วเยี่ยกล่าว “แดนนรกก็ไกลมากพอแล้วล่ะ”
นางกล่าวต่อว่า “ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าพวกมันจะเปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรได้ยังไงในเมื่อไม่มีกุญแจเทพเผ่ามังกรเช่นนั้น ถึงแม้ว่าเราจะได้คัมภีร์หมื่นคำสาปมาแล้ว แต่ก็ยังต้องแฝงตัวกับพวกมันไปก่อน เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกนะ!”
ไหนยังจะมีไข่มุกมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์อีก ต้องรวมตัวกันกับมังกรวารี นางต้องเข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรอีกครั้งและต้องเอาของสิ่งนั้นมาให้ได้
“อืม!” สำหรับแผนการของมู่เฉียนซีนั้น เขาไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด
จากนั้นมู่เฉียนซีก็กลับไปในกระโจมของตนเอง เช้าวันต่อมาเมื่อคนเหล่านี้ตื่นขึ้นมา พวกเขาก็ไม่ได้พบถึงความผิดปกติใดของมู่เฉียนซี
ยามเช้าตรู่ ก็มีคนมารายงานข่าว
“นายน้อยมาถึงแล้ว!”
“ในที่สุดนายน้อยก็มาถึงสักที”
มู่เฉียนซีที่อยู่ในหมู่ของกลุ่มคนเหล่านี้มองไปที่บุรุษที่มีอายุราวยี่สิบปีผู้หนึ่งที่กำลังเดินย่างกรายเข้ามาและถูกล้อมรอบไปด้วยข้าบริพาร
ข้างกายของเขามีทั้งคนของเผ่ามังกร และอีกส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่คนของเผ่ามังกร
รูปร่างหน้าตาของบุรุษผู้นี้ไม่เลวเลย ดวงตาที่แคบยาวคู่นั้นแฝงไปด้วยลำแสงแปลกประหลาด สายตาของเขาเหลือบมองไปที่คนเหล่านี้ และสุดท้ายก็จับจ้องมาที่มู่เฉียนซี
“หญิงสาวผู้นี้เป็นใคร?”
ท่านลุงเก๋อหรี่ตายิ้มพลางกล่าวว่า “นายน้อย สาวน้อยผู้นี้เป็นถึงอัจฉริยะของเผ่ามังกรวารีเชียวนะขอรับ! ข้าคิดว่านางเหมาะสำหรับการฝึกฝนของนายน้อย ดังนั้นก็เลยจับตัวนางมา…”
ฉึก!
ท่านลุงเก๋อยังไม่ทันกล่าวจบ จู่ ๆ กลิ่นอายอันเย็นยะเยือกก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
ร่างของท่านลุงเก๋อถูกฟันขาดเป็นสองท่อนอย่างน่าสังเวชภายในชั่วพริบตาเดียว เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกไปรอบ ๆ
มู่เฉียนซีร่นตัวหลบหลีกไม่ให้เลือดสาดกระเซ็นโดนตัวนาง นางตกใจสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย กระบวนท่าเมื่อครู่นี้ช่างคุ้นเคยยิ่งนัก!
คนผู้นี้ใช้พลังแห่งมิติ!
เรียกปาว ๆ อยู่ได้ว่านายน้อย! ตกลงแล้วเขาเป็นนายน้อยที่โผล่มาจากที่ใดกัน!
ใบหน้าของคนอื่น ๆ ต่างก็เผยความหวาดกลัวออกมา ท่านลุงเก๋อที่เดิมทีควรจะได้รับคำเชยชมและความดีความชอบผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกนายน้อยผู้นี้ฆ่าตายอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้
นายน้อยผู้นี้กล่าวว่า “ข้าเกลียดคนโง่ที่ไม่รู้จักแยกแยะความสำคัญที่สุด คนโง่เขลาเช่นนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว”
คนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนี้แล้ว ต่างก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าเปล่งเสียงพูดแม้แต่น้อย
สายตาของเขากวาดมองไปที่มู่เฉียนซี “รูปร่างหน้าตาไม่เลวเลย อีกทั้งยังเป็นคนของเผ่ามังกรวารีซะด้วย สามารถใช้ประโยชน์ได้! เฝ้านางเอาไว้ให้ดี รอให้ข้าได้ของมาเมื่อไหร่ ข้าจะจัดการกับหญิงสาวผู้นี้เอง”
“ขอรับ!”
เนื่องจากเขาได้กล่าวคำพูดนี้ออกมา คนที่เฝ้ามู่เฉียนซีจึงเยอะมากกว่าเดิม
เขาย่างเท้าก้าวเดินไปข้างหน้า และมองไปที่มังกรคู่นั้นก่อนจะกล่าวว่า “คลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรเป็นสถานที่ที่ไม่มีผู้ใดทำลายได้ แต่ในสายตาของข้าแล้ว มันก็ไม่เท่าไหร่!”
“ข้าเป็นถึงผู้ครอบครองมิติ คลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรนี้ไม่มีทางขวางคนอย่างข้าได้”
ทันใดนั้น นายน้อยผู้นี้ก็กลายร่างเป็นกายแท้ เป็นมังกรขนาดใหญ่ตัวสีดำขลับตัวหนึ่งทันที แต่บนร่างของเขากลับมีผิวที่มีสีสันหลากสี แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่มังกรดำ
มู่เฉียนซีพึมพำอยู่ในใจ เจ้าหมอนี่ช่างเหมือนกับมังกรปีศาจจ่านคงยิ่งนัก อีกทั้งยังมีพลังแห่งมิติอีกด้วย คาดว่าต้องมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับมังกรปีศาจจ่านคงเป็นแน่
ร่างของเขาได้ก่อตัวเป็นกระแสน้ำวนอยู่กลางอากาศ
มู่เฉียนซีรู้สึกราวกับว่ารอบตัวเขามีวิญญาณนับไม่ถ้วนกำลังร้องโหยหวนอยู่ เจ้าหมอนี่ฝึกบำเพ็ญวิชาลับเช่นนี้ ต้องใช้วิธีการบางอย่างที่รุนแรงเป็นแน่
จากนั้น มิติมิติหนึ่งก็ถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์
เสียงของนายน้อยผู้นี้ดังก้องขึ้นว่า “ตอนนี้เข้าไปได้แล้ว! ของทุกอย่างในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรนี้ ล้วนแต่เป็นของพวกข้า”
ถึงแม้ว่าด้านในจะมีการทดสอบมากมายเพียงใด แต่พวกเขากลับไม่เกรงกลัวเลย!
ขอเพียงแค่เข้าไปได้ ทุกอย่างก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว
ครั้นแล้ว ยอดฝีมือเกือบทั้งหมดของกลุ่มเทพก็ได้เข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร
เหลือเพียงแค่ไม่กี่คนที่อยู่เฝ้ามู่เฉียนซี
อย่างไรเสียการแย่งชิงของล้ำค่าในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร ข้าบริพารจะไม่ลงมือทั้งหมดได้อย่างไรกันล่ะ
เมื่อแน่ใจแล้วว่าบริเวณรอบ ๆ ไม่มีคนของกลุ่มเทพคนอื่น ๆ อยู่ มู่เฉียนซีจึงเริ่มลงมือทันที
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาของมู่เฉียนซีพุ่งออกไปลอบโจมตีคนเหล่านี้
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง!”
การโจมตีอย่างกะทันหันของอู๋ตี้กับเสี่ยวหง ทำให้พวกเขารับมือไม่ทันแม้แต่คนเดียว
“นี่เจ้า…เจ้ากล้า…” คนที่เหลือต่างก็จ้องมองไปที่มู่เฉียนซี
เห็น ๆ กันอยู่ว่าก่อนหน้านี้นางเป็นตัวประกันที่เชื่อฟังมากผู้หนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้จะตอบโต้ขึ้นแล้ว
พลังของนางไม่ได้ถูกยับยั้งแต่อย่างใด ฉวยโอกาสในตอนที่ไม่มียอดฝีมืออยู่ตอบโต้ ช่างเป็นโอกาสที่ดียิ่งนัก
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “มีอะไรที่คนอย่างข้าไม่กล้าล่ะ!”
กระบี่มังกรเพลิงได้กวัดแกว่งตัดผ่านอากาศ มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “บัวแดงพิฆาต!”
เสียง ตูม! ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น บัวอัคคีอันแดงฉานได้ระเบิดออกมา
“เจ้า…นี่เจ้าไม่ใช่มังกรวารีหรอกเหรอ? เหตุใดถึงเป็นมังกรอัคคีไปได้!” พวกเขายิ่งตกตะลึงพรึงเพริดมากขึ้น
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ก็มังกรวารีน่ะสิ!”
มังกรวารีสีฟ้าอันเย็นยะเยือกตัวหนึ่งพุ่งออกมา มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเย็นชาว่า “ผนึกมังกรวารี!”
พลังธาตุวารี และพลังธาตุอัคคีได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างของมู่เฉียนซี คนเหล่านี้เห็นเช่นนี้เข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว
“เจ้าไม่ใช่คนของเผ่ามังกร เจ้าไม่ใช่…”
“ในที่สุดพวกเจ้าก็ทายถูกสักทีนะ แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องลงนรกแล้วล่ะ!” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
“ข้าจะสู้จนตัวตาย!”
ขณะเดียวกันผู้อาวุโสของเผ่ามังกรวารีก็ได้ไปรายงานเรื่องนี้ให้กับสุ่ยอู๋ซินทราบ “ท่านหัวหน้าเผ่า ทางด้านนั้นมีพลังธาตุอัคคีกับพลังธาตุวารีแผ่ซ่านออกมาขอรับ คาดว่าท่านมู่น่าจะลงมือแล้ว”
สุ่ยอู๋ซินกล่าว “ในเมื่อท่านมู่ลงมือแล้ว พวกเราก็รีบออกเดินทางไปรวมตัวกับท่านมู่เถอะ!”
เมื่อพวกเขามาถึงก็ได้เห็นศพนับสิบที่นอนกองอยู่บนพื้น นอกจากพวกเขาแล้ว คนของกลุ่มเทพกลับไม่ได้อยู่ที่นี่
หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าว “พวกคนของกลุ่มเทพล่ะ?”
เดิมทีคิดว่าจะได้ต่อสู้กับคนของกลุ่มเทพเหล่านั้นสักตั้ง กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่เจอพวกมันสักคน
มู่เฉียนซีชี้ไปทางด้านหลังของนางพลางกล่าว “พวกมันเข้าไปแล้ว”
หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าว “เป็นไปได้ยังไง พวกมันไม่มีกุญแจเทพเผ่ามังกรแล้วเข้าไปได้ยังไง คลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรพวกเราเป็นสถานที่ที่โจมตีได้ยากที่สุดแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “การใช้พลังโจมตีนั้นมันไม่ง่าย แต่สำหรับเจ้านั่นที่สามารถทะลุมิติได้และเปิดทางมิติไปนั้นมันไม่ใช้เรื่องยาก”
“เป็นไปไม่ได้ เว้นแต่ผู้พิทักษ์นิรันดร์ผู้ครอบครองมิติลงมือเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าไปได้ ส่วนอย่างอื่นต่อให้มีพลังแห่งมิติก็ไม่สามารถเข้าได้! มิเช่นนั้นคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรพวกเราก็คงจะถูกคนบุกเข้าไปกวาดเรียบแล้ว” หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าวด้วยความตกใจ
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาทำได้ยังไง เจ้าหมอนั่นเป็นมังกรที่มีพลังแห่งมิติ มันใช้ร่างของมันก่อตัวเป็นกระแสน้ำวน และเปิดทางให้กับคนของกลุ่มเทพเหล่านั้นเข้าไป”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีกล่าวว่า “มังกรที่มีพลังแห่งมิติ เป็นเผ่ามังกรปีศาจจ่านคง เผ่ามังกรปีศาจจ่านคงเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกับกลุ่มเทพตั้งนานแล้ว การที่เขาช่วยกลุ่มเทพนั้นเป็นเรื่องปกติมาก แต่การที่เขาสามารถเปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรได้นั้น จนตอนนี้พวกเราก็ยากที่จะเชื่อได้”
“เพราะว่าเขาไม่เพียงแต่เป็นมังกรปีศาจจ่านคงเท่านั้น แต่ยังมีสายเลือดของเผ่าเทพอีกด้วย!”
“เพราะว่าเพื่อเปิดคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร จึงได้อบรมเลี้ยงดูกุญแจสำคัญนี้มากว่าหลายหมื่นปี”
“เพราะว่าเขาได้ฝึกฝนวิชาลับมิติอันชั่วร้ายที่สุดได้สำเร็จ!” จิ่วเยี่ยใช้น้ำเสียงอันเย็นชาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดนี้