กู้ไป๋อีรู้ว่ามู่เฉียนซีเป็นกังวล เขาเอ่ยขึ้น “ซีเอ๋อร์ คนเหล่านั้นไม่นับเป็นคนของโลกทั้งสี่ทิศ! ถึงต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดของโลกทั้งสี่ทิศก็ไม่อาจที่จะรับมือกับพวกเขาได้ อีกทั้งพวกเขายังมีจำนวนคนที่มากกว่า เกรงว่ากระบี่เล่มนั้นคงจะต้องตกอยู่ในมือของเฟิงอวิ๋นซิว”
“ข้าจะไปเอง บางทีอาจจะ…”
“ไม่ได้!” มู่เฉียนซีรีบกล่าวขึ้นมา
ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะส่งตัวอารองออกไป ตอนนี้ขาดแค่เพียงเฟิงอวิ๋นซิวผู้เดียวเท่านั้น นางจะปล่อยให้เขาไปเผชิญอันตรายอีกรอบได้อย่างไร
มู่เฉียนซีกล่าว “หมื่นกระบี่ ส่งตัวเสี่ยวไป๋ออกไป ข้า…”
แขนของมู่เฉียนซีได้ถูกเสี่ยวไป๋บีบเอาไว้แน่น “ข้าออกไป ซีเอ๋อร์เจ้าก็ต้องออกไปด้วย”
กู้ไป๋อีจับแขนของมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น กลไกวิญญาณไม่สามารถที่จะส่งตัวเขาออกไปได้เลย
กลไกวิญญาณกล่าวขึ้น “นายท่านไม่ไป ผู้พิทักษ์กระบี่ของท่านก็จะไม่ไป เมืองเหยียนในตอนนี้แปลกประหลาดนัก ขอให้นายท่านจงรีบออกไป”
หมอกสีแดงที่รอบด้านนั้นเข้มข้นขึ้นมาทุกที ทุกก้าวที่เฟิงอวิ๋นซิวก้าวเข้าไปใกล้ มู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ว่าเขานั้นยิ่งอยู่ใกล้กับความตายเข้าไปทุกที
มู่เฉียนซีกล่าว “หมื่นกระบี่ ข้าจะไปที่แท่นบูชาฝังกระบี่”
สีหน้าของกู้ไป๋อีเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก “ซีเอ๋อร์!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ ข้าไม่อาจที่จะเห็นเฟิงอวิ๋นซิวตายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ได้ แม้ว่าพิฆาตวิญญาณนั้นจะน่ากลัว แต่หากจะให้ข้ามองดูสหายของข้าถูกทำร้ายจนตายแล้วหนีไปนั้น ข้าทำไม่ได้จริง ๆ”
กู้ไป๋อีกล่าว “ข้าจะไม่หยุดยั้งเจ้า แต่พวกเราจะไปด้วยกัน!”
“เจ้าจะต้องระวังตัวให้ดี”
กลไกวิญญาณกล่าวขึ้น “นายท่าน ท่านจะไปจริง ๆ หรือ? แท่นบูชาฝังกระบี่ในตอนนี้เป็นดั่งนรกแห่งหนึ่ง”
จะไม่เป็นนรกได้หรือ? โลหิตแดงสดย้อมกระบี่เหล่านั้น ซากศพ ซากปรักหักพังเต็มไปหมดทั่วทั้งพื้นที่ และยังมีผู้บาดเจ็บที่เหลือลมหายใจอีกไม่เท่าไรอยู่มิน้อย
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าจะไป…”
ในตอนนี้เอง เสียงอันไร้เดียงสาเสียงหนึ่งก็ได้ลอยเข้ามา “นายท่านของพี่ชายมังกรวารี ท่านจะไปไม่ได้ ท่านไปไม่ได้จริง ๆ ท่านจะตายเอา หนีจากที่นี่ไปเสียดีหรือไม่?”
เสียงอันไม่คุ้นเคยนี้ทำให้มู่เฉียนซีตะลึงค้าง มันมาจากที่ใดกัน?
ในแขนเสื้อ!
มู่เฉียนซีได้นำเจ้าตัวน้อยออกมาจากด้านในของแขนเสื้อ นางมองมันแล้วถามขึ้น “เจ้าตัวน้อย เป็นเจ้าที่กำลังพูดกล่าวอยู่?”
เจ้าตัวน้อยกล่าว “ข้าได้กินของอร่อยนั้นเข้าไปพลังความสามารถก็ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างเล็กน้อยก็เลยสามารถพูดได้แล้ว นายท่านของพี่ชายมังกรวารีบไปเถิด! ท่านเป็นคนดี ข้าไม่อยากให้ท่านต้องตาย”
มู่เฉียนซีสังเกตได้ถึงคำเรียกกล่าวของมัน “พี่ชายมังกรวารี…เจ้าเป็นใครกัน?”
“ข้า…ข้า…” เจ้าตัวน้อยพูดตะกุกตะกัก จากนั้นก็กล่าวต่อ “ข้าคือมังกรเพลิง”
มู่เฉียนซีตะลึงงัน “มังกรเพลิงผู้เป็นวิญญาณของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ?”
มังกรเพลิงตัวน้อยตะลึงงันพร้อมกล่าว “ท่านรู้! รึว่าพี่มังกรวารีเคยพูดถึงข้ามาก่อน?”
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ที่ภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้สรุปแล้วเป็นเจ้าปรากฏตัวขึ้นบนโลกหรือว่าพิฆาตวิญญาณปรากฏตัวขึ้นและก่อให้เกิดภูเขาไฟระเบิดขึ้นมากัน?”
มังกรเพลิงกล่าวด้วยความเศร้าสร้อย “ครั้งนี้เป็นเพราะข้าปรากฏตัวขึ้น เจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นได้ตื่นขึ้นมาตั้งนานแล้ว ไม่ง่ายเลยที่ข้าจะฟื้นตื่นขึ้นมา ข้าอยากที่จะไปหาตัวกระบี่แต่กลับถูกเจ้าพิฆาตวิญญาณจับตัวเอาไว้”
“ฮือ ฮือ ฮือ…” เมื่อเจ้าตัวน้อยนึกถึงสิ่งที่ผ่านมาอันน่ากลัวนั้น มันก็ร้องไห้ออกมา
“เจ้าพิฆาตวิญญาณบัดซบนั่นต้องการที่จะกลืนกินข้า ข้าใช้พลังจนหมดสิ้น ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะฟื้นคืนพลังขึ้นมาได้สักเล็กน้อยและหนีออกมาอย่างสุดชีวิต ถ้าหากมิใช่เป็นเพราะพิฆาตวิญญาณยังไม่ฟื้นคืนพลังขึ้นมาเต็มที่ละก็ ข้าก็คงไม่อาจที่จะหนีออกมาได้เลย หลังจากหนีออกมาแล้ว ข้าก็ได้กลับกลายเป็นอ่อนแอเล็กกระจ้อยอย่างมาก จากนั้นก็ได้มาพบกับท่านเข้า”
“กลิ่นอายของพลังวิญญาณธาตุน้ำบนกายท่านนั้นข้าคุ้นเคยดี จากนั้นก็ได้พบว่าท่านเป็นนายของพี่มังกรวารี ดังนั้นแล้ว…ฮือ ฮือ ฮือ! พี่มังกรวารีจงรีบมาปกป้องข้า”
แปะ! แปะ! น้ำตาของเจ้าหมอนี่ก็เริ่มที่จะหยดลงมาอย่างไม่คิดชีวิต
ในที่สุดก็นับได้ว่ามู่เฉียนซีได้รู้เรื่องความเป็นไปทั้งหมดแล้ว มังกรเพลิงฟื้นตื่นขึ้นมา ส่วนพิฆาตวิญญาณนั้นก็ได้มาถึงอย่างรวดเร็วกว่าผู้ใด เปลวเพลิงนั้นสามารถที่จะหยุดรั้งคนผู้ใดก็ตามเอาไว้ได้ แต่ไม่สามารถที่จะหยุดรั้งพิฆาตวิญญาณได้!
พิฆาตวิญญาณจับตัวมังกรเพลิงเอาไว้ได้แล้วแต่กลับปล่อยให้มันหนีไปได้ ในตอนนี้ผู้แข็งแกร่งจากทั่วโลกทั้งสี่ทิศล้วนแต่ได้รีบรุดมาถึง
มันจึงได้เริ่มก่อเรื่องจำพวกหนึ่งขึ้นมา ทั้งวิหคสามปีกและยังมีสิ่งของล้ำค่าเหล่านั้นที่ทำให้ความเร็วของผู้คนลดช้าลง เพื่อมิให้คนเหล่านั้นมารบกวนการจับตัวมังกรเพลิงของมัน
ส่วนกระบี่เล่มนั้นก็คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่พิฆาตวิญญาณทำมาเอาไว้เป็นเหยื่อล่อ คงเป็นเพราะอารมณ์ไม่ดีด้วยจับตัวมังกรเพลิงไม่ได้ เพื่อที่จะได้ให้มันฆ่าล้างเพื่อระบายอารมณ์
มู่เฉียนซีกล่าว “อย่าร้องไห้! มังกรวารีกำลังหลับใหลอยู่ ในตอนนี้เขาไม่อาจที่จะช่วยอะไรได้เลย!”
มังกระเพลิงตัวน้อยกล่าวด้วยความตกตะลึง “พี่มังกรวารีกำลังหลับใหล เช่นนั้นทำเช่นไรดี? พวกเรารีบหนีกันไปเถอะ!”
“ไม่ได้ ไม่ได้ ถึงต่อให้หนีไปจนสุดขอบฟ้ามหาสมุทรพิฆาตวิญญาณก็จะหาข้าจนพบ” มังกรเพลิงเผยสีหน้าประหนึ่งวันสิ้นโลกมาถึงแล้วก็มิปานออกมา
บึ้ม! ทันใดนั้นทั้งหอหมื่นกระบี่ก็ได้สั่นคลอนขึ้นมา มังกรเพลิงตัวน้อยกล่าว “เสร็จแน่ เสร็จแน่! พิฆาตวิญญาณตามมาแล้ว ข้า…ท่านส่งตัวข้าออกไปแล้วรีบหนีไปเถอะ! มิเช่นนั้นแล้วข้าจะทำให้ท่านต้องตกกระไดพลอยโจรไปด้วย”
มู่เฉียนซีเองก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันกระหายเลือดที่น่ากลัวลอยเข้ามา สีหน้าของกู้ไป๋อีก็ซีเผือดไปพลัน
มู่เฉียนซีถามขึ้น “มังกรเพลิง ถ้าหากว่าเจ้าหลอมรวมกับตัวกระบี่จะสามารถสู้กับพิฆาตวิญญาณได้หรือไม่?”
“ถ้าหากในตอนที่ข้าสมบูรณ์แบบก็คงสามารถสู้กับพิฆาตวิญญาณได้ แต่มาในตอนที่ไม่สมบูรณ์เช่นนี้ หากรวมกับตัวกระบี่และปลอกกระบี่แล้วก็คงจะสามารถประมือได้ ถึงต่อให้ประมือไม่ได้ก็ยังจะสามารถหนีเอาชีวิตรอดได้ แต่ว่าตอนนี้พลังของข้ามีเพียงน้อยนิดเช่นนั้นและยังไร้ซึ่งตัวกระบี่กับปลอกกระบี่…” มังกรเพลิงนั้นอยากที่จะร้องไห้ออกมาจริง ๆ นี่ฟ้าคงจะอยากพิฆาตฆ่ามันเป็นแน่แล้ว
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีก็ได้โยนตัวมันเข้าไปในกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ นางกล่าว “เจ้าจงรีบหลอมรวมกับตัวกระบี่ แล้วก็ยังมีพลังของราชาอัคคีเหยียนจิง เจ้าจงรีบกินรีบฟื้นฟูพลังเร็วเข้า!”
มังกรเพลิงร้องเสียงแหลมขึ้นมา “ตัวกระบี่! ตัวกระบี่กลับอยู่ที่นี่ อร่อยนัก อร่อยนัก…”
“อย่าได้ไร้สาระ เร็วเข้า! มิเช่นนั้นแล้วพวกเราล้วนแต่ต้องตาย!”
“อื้ม! นายท่าน ข้าเข้าใจแล้ว”
ถึงแม้จะมีของศักดิ์สิทธิ์เช่นราชาอัคคีเหยียนจิงนี้อยู่ แต่ก็ไม่สามารถทำให้มังกรเพลิงฟื้นพลังขึ้นมาได้รวดเร็วเช่นนั้น แต่ในตอนนี้ก็ทำได้เพียงช่วงชิงในทุกเศษเสี้ยวเวลาเท่านั้น
ครืน! เมื่อเห็นว่าเทพเจ้าแห่งการฆ่าล้างกำลังจะพุ่งเข้ามาแล้ว
มู่เฉียนซีได้กล่าวขึ้น “หมื่นกระบี่ เปิดการป้องกันขั้นสูงสุด สามารถป้องกันมันเอาไว้นานเท่าไรก็ให้ป้องกันเอาไว้นานเท่านั้น”
“เช่นนั้นข้าจะพังเอานะ” ผู้มาเยือนนั้นเป็นผู้ที่น่าหวั่นพรึงเป็นอย่างมากผู้หนึ่ง
มู่เฉียนซีกล่าว “อย่าได้หวั่น หลังจากนี้ไป หากพังไปแล้วข้าสามารถที่จะซ่อมเจ้าได้”
“อื้ม!”
ถึงแม้ว่าจะเปิดการป้องกันขั้นสูงสุดขึ้นมาแล้ว แต่สถานที่แห่งนี้ก็มิใช่ที่ที่ควรจะอยู่นาน
นางกล่าว “หมื่นกระบี่ ส่งตัวข้าไปที่แท่นหมื่นกระบี่ เร็ว!”
เพราะภาพที่นางเห็นเป็นภาพสุดท้ายนั้นคือเฟิงอวิ๋นซิวกำลังยื่นมือเข้าไปในเปลวเพลิงเพื่อหยิบเอากระบี่มังกรเพลิงปลอมนั้น
ถึงแม้ว่าจะใช้พลังวิญญาณป้องกันร่างกาย และแม้ว่าเขาจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุไฟก็ตาม แต่ในตอนที่เฟิงอวิ๋นซิวยื่นมือเข้าไปนั้น มือข้างหนึ่งของเขาก็ได้ถูกเผาเสียจนเลือดเนื้อเลือนราง
แต่คิ้วของเขานั้นกลับไม่ขมวดเข้าหากันเลยแม้แต่น้อย ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว!
ขอแค่เพียงได้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มา เขาก็จะสามารถกลับไปอยู่ที่ข้างกายนางและทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ได้แล้ว
ปกป้องนาง รักนาง นั่นคือเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ของเขา