ฉ่า! ผนึกของกระบี่มังกรเพลิงถูกเปิดออก มู่เฉียนซีถือกระบี่ยาวเล่มสีแดงฉานอยู่ในมือ
เมื่อคนอื่นเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “กระบี่เล่มนี้…เหตุใดกระบี่เล่มนี้มันถึงได้เหมือนกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ถึงเพียงนี้!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์สองเล่ม ตกลงเล่มไหนเป็นของจริง เล่มไหนเป็นของปลอมกันแน่?”
“ต้องเป็นเล่มที่เจ้าบ้านั่นถือแน่ ๆ ที่เป็นของจริง มิเช่นนั้นคงไม่แข็งแกร่งจนน่ากลัวถึงเพียงนี้หรอก!”
มู่เฉียนซีกล่าว “มังกรเพลิง เราต้องทำให้สุดความสามารถแล้วล่ะ!”
เสียงของมังกรเพลิงดังขึ้น “นายท่าน ข้าจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อจะจัดการกับกระบี่ปลอมที่เจ้าพิฆาตวิญญาณนี่สร้างขึ้นมาให้ได้”
ทันที่ที่กระบี่มังกรเพลิงขยับ พลังของมู่เฉียนซีก็แข็งแกร่งขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าผู้ใดที่อยู่ในสนามรบนี้!
“มังกรเพลิงสังหาร!”
เมื่อเปลวไฟอันแดงฉานพุ่งออกไป จิตสังหารของเจ้าสำนักจื่อเหลยพลันน่าเกรงขามขึ้น
เขากล่าวเย้ยหยันว่า “เหอะ ๆ ๆ! ที่แท้ตัวกระบี่ก็อยู่ในมือเจ้านี่เอง เจ้าคิดว่าตัวกระบี่กับเจ้าสวะไร้ประโยชน์นั่นจะเอาชนะทาสกระบี่ของข้าได้เหรอ ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว…”
“มังกรเพลิงสังหาร!” เขาใช้กระบวนท่าโจมตีเดียวกัน มังกรเพลิงสีแดงฉานได้บดขยี้มังกรเพลิงตัวนั้นของมู่เฉียนซี!
และในตอนนี้เอง มังกรวารีสีฟ้าอันเย็นยะเยือกตัวหนึ่งก็พุ่งมาจากด้านหลังของเขา
นี่ต่างหากที่เป็นการโจมตีที่แท้จริงของมู่เฉียนซี!
พลังธาตุวารีอันบริสุทธิ์คือศัตรูตัวฉกาจที่แท้จริงของธาตุอัคคีสังหาร เจ้าสำนักจื่อเหลยรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว!
ปัง!
การลอบโจมตีนี้ไม่เป็นผล และเขาก็ได้ลงมืออีกครั้ง
“ครั้งนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าได้มีโอกาสตอบโต้ได้อีก!”
บัวอัคคีสีแดงฉานบานสะพรั่งเหนือหัวของมู่เฉียนซี
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ นึกไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะไม่ได้ต่อต้าน อีกทั้งยังกวัดแกว่งกระบี่มังกรเพลิงและโจมตีไปที่เจ้าสำนักจื่อเหลยอีก
“ซีเอ๋อร์…” กู้ไป๋อีจะพุ่งเข้าไป แต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
เหตุใดนางถึงได้เสี่ยงถึงเพียงนี้ นางมีอาวุธวิญญาณเป็นเกราะป้องกัน แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวของคู่ต่อสู้ก็ใช่ว่าอาวุธวิญญาณป้องกันของนางจะสามารถต้านทานได้
จื่อโยวกับซิงเฉินไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ของมู่เฉียนซีเลย มีท่านสุ่ยจิงอิ๋งอยู่ด้วย การโจมตีนี้ไม่สามารถทำอะไรนางได้
แต่สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วงกลับเป็นตัวพวกเขาเอง หากเยี่ยรู้เรื่องในวันนี้เข้า คาดว่าพวกเขาคงต้องตายอย่างอนาถเป็นแน่!
ตูม! บัวอัคคีสีแดงฉานได้ห่อหุ้มมู่เฉียนซีไว้
ในขณะที่คนอื่นคิดว่าอัจฉริยะแห่งหอหมอปีศาจผู้นี้จะต้องกลายเป็นผุยผงนั้น แต่นางกลับพุ่งออกมาจากเปลวไฟนั้นได้อย่างปลอดภัย
เมื่อกระบี่มังกรเพลิงขยับ แกร๊ง! กระบี่ทั้งสองที่เหมือนกันก็ได้เข้าปะทะกันขึ้นมาแล้ว
“มังกรเพลิง!”
กระบี่มังกรเพลิงในมือของมู่เฉียนซีได้ทุ่มพลังไปทั้งหมด เปลวไฟสีแดงฉานพุ่งออกไปจากปลายกระบี่ และกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ปลอมเล่มนั้นกับเจ้าสำนักจื่อเหลยก็ถูกครอบคลุมไว้
อ๊า! เจ้าสำนักจื่อเหลยส่งเสียงร้องโหยหวนดังลั่นขึ้น
ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน เสียง ฉ่า! ดังขึ้น กระบี่ยาวในมือของเจ้าสำนักจื่อเหลยเล่มนั้นเริ่มแตกสลายและกลายเป็นผุยผงลงในที่สุด!
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นทันที “กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ถูกทำลายลงแล้ว”
“ถูกทำลายได้เช่นนี้ไม่ใช่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เป็นแน่ กระบี่ที่อยู่ในมือสาวน้อยนั่นต่างหากที่เป็นของจริง”
ไป๋อู๋ห่ายกล่าว “ทุกท่าน กระบี่ที่สาวน้อยผู้นั้นถืออยู่เป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่แท้จริง พวกเราต้องแย่งมันมาให้ได้”
มู่เฉียนซีเพิ่งจะฆ่าปีศาจคลั่งกระหายที่คุกคามชีวิตพวกเขาไปได้ แต่ในตอนนี้พวกเขากลับเกิดความละโมบโลภมากขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะไป๋อู๋ห่าย และคนชุดขาวเหล่านั้น!
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ! พวกเขาพุ่งออกไปลงมือกับมู่เฉียนซี และผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตำหนักเป่ยหานที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็ไม่ได้สนใจสายตาการเข่นฆ่าคู่นั้นของกู้ไป๋อีอีกแล้ว เขาพุ่งไปที่มู่เฉียนซีเช่นกัน
จื่อโยว ซิงเฉินและกู้ไป๋อีต่างก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว พิฆาตวิญญาณก็ไม่รู้ว่าซ่อนตัวอยู่ที่ใด ถึงแม้ว่าจะทำลายกระบี่ปลอมเล่มนั้นได้แล้ว แต่สถานการณ์ของนางกลับยิ่งน่าอนาถมากกว่าเมื่อครู่มาก
โชคดีที่ทำลายกระบี่เล่มนั้นได้ การยับยั้งในบริเวณโดยรอบก็ถูกปลดออกแล้ว และตอนนี้มู่เฉียนซีสามารถสื่อสารกับกลไกวิญญาณได้แล้ว
“หมื่นกระบี่ รีบส่งพวกข้าออกไปเร็วเข้า!”
“ขอรับนายท่าน!”
กลไกวิญญาณหมื่นกระบี่ส่งพวกเขาออกไป และคนเหล่านั้นที่คิดจะแย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไปจากนางก็หมดหวังลงแล้ว
พวกเขากล่าวเสียงขรึมว่า “ไล่ตามไปเร็วเข้า!”
กลไกวิญญาณหมื่นกระบี่ส่งมู่เฉียนซีและพวกไปที่เมืองด้านบน กลไกวิญญาณกล่าวว่า “เมื่อครู่ข้าถูกพลังอันแข็งแกร่งนั้นยับยั้งเอาไว้ จึงช่วยอะไรไม่ได้เลย”
“เจ้าโหดร้ายนั่นยับยั้งเจ้า เจ้าไม่สามารถทำอะไรได้มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าข้าจะทำลายทาสกระบี่ของเจ้าหมอนั่นได้แล้ว แต่มันก็ยังซ่อนตัวอยู่ที่นี่แน่นอน เราอยู่ที่นี่นานไม่ได้แล้ว”
“แต่ว่าต้องจัดการเจ้าหมอนี่ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
มู่เฉียนซีมองดูมือที่เกือบจะพิการคู่นั้นของเฟิงอวิ๋นซิว นางรู้ดีว่านักปรุงยาของตำหนักตงจี๋เหล่านั้นไม่สามารถช่วยเฟิงอวิ๋นซิวได้แน่
จื่อโยวกล่าว “คนงาม ข้าว่าตอนนี้เรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนจะดีกว่านะ! อย่ามัวแต่สนใจว่าเจ้านี่จะพิการหรือไม่เลยนะ ยังมีชีวิตรอดกลับไปได้ก็นับว่าดีแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช้เวลาไม่นานหรอก”
“พวกเจ้าก็อยู่รักษาตัวที่นี่ก่อนเถอะ ส่วนคนพวกนั้นไม่มีทางหาที่นี่เจอภายในเวลาชั่วยามครึ่งแน่นอน”
มู่เฉียนซีเตรียมสมุนไพรวิญญาณมาอย่างดี นางปรุงยารักษาออกมาได้สำเร็จอย่างรวดเร็วที่สุด จากนั้นก็รีบทำแผลให้พวกเขา และกำจัดพิษนั้นให้กับเฟิงอวิ๋นซิว
“นายท่าน มีคนออกมาจากเมืองด้านล่างแล้ว หลายคนมีพลังแข็งแกร่งมากด้วย” กลไกวิญญาณกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “หมื่นกระบี่ เจ้าสามารถส่งพวกข้าไปที่ไหนได้บ้าง?”
“ส่งได้แค่เขตนอกเมืองเหยียนเท่านั้น ออกจากเมืองเหยียนแล้ว นายท่านออกไปทางที่มาก็ได้แล้ว”
ทำได้แค่ออกไปจากเมืองเหยียน ช้าเกินไป!
คนอื่นจะตามทันได้ง่าย บางทีเจ้าพิฆาตวิญญาณอาจจะรอดักอยู่ที่นอกเมืองก็ได้!
มู่เฉียนซีกล่าว “จื่อโยว เสี่ยวไป๋ เป้าหมายของพวกมันคือข้า ข้าจะให้หมื่นกระบี่ส่งเจ้าพวกเจ้าออกไป! ส่วนข้าจะล่อพวกมันไปอีกทาง”
กู้ไป๋อีกล่าว “เจ้าคนเดียวมันอันตรายเกินไป ไม่ได้เด็ดขาด!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เสี่ยวไป๋ ต่อให้เจ้าไม่เห็นด้วยมันก็ไม่มีประโยชน์หรอก ข้าเป็นท่านเจ้าเมืองแห่งเมืองเหยียน หากข้าต้องการส่งพวกเจ้าออกไป พวกเจ้าไม่มีทางปฏิเสธได้!”
ภายใต้สายตาอันโกรธเกรี้ยวของกู้ไป๋อี มู่เฉียนซีให้กลไกวิญญาณหมื่นกระบี่ส่งพวกเขาออกไปจากเมือง
เมื่อรับรู้ได้ถึงกลื่นอายอันแข็งแกร่งหลายร่างกำลังใกล้มาถึง มู่เฉียนซีก็กล่าวขึ้นว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง ส่งข้าไปในที่ที่ไกล ๆ หน่อย!”
“อืม!”
แสงสีฟ้าอ่อนห่อหุ้มร่างของมู่เฉียนซีเอาไว้ ภายในชั่วพริบตาเดียวนางก็อันตรธานหายไปจากเมืองเหยียนแล้ว
ร่างในชุดขาวหลายร่างเคลื่อนไหวมาอย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็ต้องตกตะลึงขึ้น “กลิ่นอายได้หายไปแล้ว เห็น ๆ กันอยู่ว่าเมื่อครู่ยังอยู่ตรงนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะหายตัวไปได้เร็วถึงเพียงนี้”
“ต้องไปได้ไม่ไกลแน่นอน รีบตามไปเร็วเข้า!” ในขณะที่พวกเขาพุ่งพรวดออกไปนั้น ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายอันแปลกประหลาดกลิ่นอายหนึ่ง เป็นกลิ่นอายคาวเลือดทำให้พวกเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ