ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 1254 ธิดาศักดิ์สิทธิ์เสียหน้า

ฉึก! เข็มยาแทงเข้าที่บาดแผลของมัน

ความสามารถของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกอย่างมันควรจะต้านทานพิษของมนุษย์ได้

แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น! มันคิดผิด

จู่ ๆ มันก็รู้สึกได้ว่าเรี่ยวแรงกำลังของตัวเองค่อย ๆ อ่อนแอลง อู๋ตี้รู้ว่ามันโดนพิษแล้ว

และในตอนนี้อู๋ตี้ก็เจอตำแหน่งที่อยู่ของผนึกวิญญาณแล้ว

กรงเล็บอันแหลมคมนั้นแทงทะลุเกราะป้องกันของลิงหิมะ จากนั้นก็ควักผนึกวิญญาณออกมา

โฮ่ก!

“เอาผนึกวิญญาณของข้าคืนมา”

ลิงหิมะแทบจะบ้าคลั่งขึ้นแล้ว มันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดเจ้าแมวตัวนี้ถึงได้แทงทะลุเกราะป้องกันของมันได้ง่ายดายนัก แต่ผนึกวิญญาณของมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

มิเช่นนั้นมันต้องตายแน่นอน!

และในขณะที่มันจะโจมตีอู๋ตี้นั้น อู๋ตี้ก็แปลงกายเป็นเงาสีขาวรีบหนีไปทันที

มันกระโจนไปอยู่ในอ้อมกอดของมู่เฉียนซี ก่อนจะยิ้มพลางกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่านที่ช่วย ข้าได้มาแล้ว”

ปัง! ร่างใหญ่มหึมานั้นของลิงหิมะล้มลงไปบนพื้นดิน

มันยังคงจ้องเขม็งไปที่มู่เฉียนซี ก่อนจะเบนสายตาจ้องมองไปที่แมวน้อยสีขาวราวหิมะตัวนั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของมู่เฉียนซี

“เอาผนึกวิญญาณข้าคืนมา เอาของข้าคืนมา…”

อู๋ตี้กล่าว “ไม่ได้หรอกนะ!”

อู๋ตี้ถือผนึกวิญญาณด้วยท่าทางดุร้าย ก่อนจะกัดกลืนมันเข้าไป

แกร่ก! เมื่อได้ยินเสียงนี้ ลิงหิมะก็แทบบ้า

ดวงตาของมันเริ่มพร่ามัวขึ้น มันคำรามขึ้นว่า “เจ้ามนุษย์ เจ้า…เจ้าจะต้องไม่ตายดี”

อู๋ตี้กัดกลืนไปเพียงไม่กี่คำก็หมดเกลี้ยง มันแสยะปากพลางกล่าว “เจ้าลิงลามก กล้าสาปแช่งนายท่านของข้า”

“ไปหาไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีเถอะ! นั่นมันของดีเลยนะนั่น”

เสี่ยวหงหาถ้ำของลิงหิมะเจอแล้ว และของที่อยู่ในส่วนลึกของถ้ำก็คือไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีนั่นเอง

ไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีนั้นมีขนาดเท่าถ้วยเล็ก ๆ ใบหนึ่งเท่านั้น มู่เฉียนซีหยิบมันขึ้นมาเก็บใส่ขวดอย่างไม่เกรงใจ

มือของนางล้วงลงไปที่ก้นบ่อน้ำนั้น

นางตกใจสะดุ้งขึ้นเล็กน้อย “พลังธาตุน้ำแข็งที่นี่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีเสียอีก ข้างล่างนี้มีสิ่งใดอยู่เหรอ?”

เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ข้าจะลองล้วงออกมาให้นายท่านดูเองขอรับ”

เสี่ยวหงใช้เปลวไฟจุดพื้นดินทั้งหมดนี้ และพบว่ามีมิติเล็ก ๆ มิติหนึ่งอยู่ด้านล่าง

ในมิติเล็ก ๆ นี้ มีไข่มุกสีฟ้าเม็ดหนึ่งลอยอยู่

มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาไข่มุกนี้มาก ก่อนนางจะกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรวารี”

และดูเหมือนไข่มุกเม็ดนั้นจะรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง

เดิมทีมันอยู่ในสภาพที่แน่นิ่ง แต่จู่ ๆ มันก็ทำลายมิตินั้นและปรากฏขึ้นตรงหน้ามู่เฉียนซี

“นายท่านระวัง!” อู๋ตี้กับเสี่ยวหงมองไข่มุกนั้นอย่างระแวดระวัง

มู่เฉียนซีรู้สึกว่าไข่มุกเม็ดนี้แผ่ซ่านพลังธาตุน้ำแข็งอันแข็งแกร่งออกมา มันกล่าว “นี่มันไม่ใช่ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรวารี!”

แม้ว่าสิ่งนี้จะมิใช่ไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรวารี แต่มันก็มีไหวพริบที่ดีมาก มันพุ่งไปที่มู่เฉียนซี และหมุนรอบข้อมือมู่เฉียนซี

นิ้วของนางสวมแหวนมังกรเทพวารีอยู่

น้ำได้หลอมตัวรวมกันเป็นน้ำแข็ง น้ำแข็งละลายเป็นน้ำ หรือว่าไข่มุกน้ำแข็งนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันกับแหวนมังกรเทพวารี

มู่เฉียนซีเก็บมันเอาไว้ในแหวนมังกรเทพวารี และในขณะที่มันเข้าไปนั้น มู่เฉียนซีรู้สึกหนาวเย็นขึ้นที่ปลายนิ้ว

ต่อมา น้ำเสียงอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

“มังกรวารีขอบคุณนายท่านมากที่หาไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งเจอ มีไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็งคอยสนับสนุน มังกรวารีจะตื่นขึ้นมาให้เร็วที่สุด จะไม่ให้เจ้าพิฆาตวิญญาณก่อเรื่องได้อีก”

สีหน้าของมู่เฉียนซีเผยความดีใจออกมา นี่เป็นไข่มุกน้ำแข็งที่มีรูปร่างเหมือนกับไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรวารีมาก นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นไข่มุกศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำแข็ง มีประโยชน์ต่อมังกรวารีมาก

พิฆาตวิญญาณเป็นผู้ที่นางเกรงกลัวที่สุดในโลกอย่างแน่นอน เว้นเสียจากนางจะทิ้งกระบี่มังกรเพลิงไป มิเช่นนั้นนางก็ไม่อาจหนีพ้นจากการตามไล่ล่าของเจ้าหมอนั่นได้แน่นอน

แต่กระบี่มังกรเพลิงเป็นสหายรบคู่หูนางที่สุดแล้ว นางจะทิ้งมันไปได้อย่างไรล่ะ

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ข้าจะตั้งตารอคอย!”

การเดินทางในอาณาจักรน้ำแข็งครั้งนี้ ได้ของดีมาอย่างไม่คาดคิดไม่น้อยเลย

“น้องชิงเอ๋อร์!”

“น้องชิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”

“ชิงเอ๋อร์…”

อวี้ปิงชิงฟื้นขึ้นมาแล้วก็ได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นเคยกำลังเรียกนางอยู่

เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็เห็นนายน้อยเจ็ดและพวก อวี้ปิงชิงกล่าว “ท่านปู่ล่ะ?”

นายน้อยเจ็ดกล่าว “ผู้อาวุโสสูงสุดและพวกไม่ได้มา แต่ลิงหิมะนั่นตายแล้ว พวกเราปลอดภัยแล้ว”

อวี้ปิงชิงรีบลุกขึ้น เนื่องจากนางถูกลิงหิมะนั่นฉีกกระชากเสื้อผ้าจนขาดหลุดรุ่ย ทันทีที่ลุกขึ้นร่างของนางก็เปลือยเปล่า

ผ้าคลุมหน้าถูกกระชากออกไปแล้วเช่นกัน ทำให้นายน้อยทั้งสามเห็นใบหน้าของนางแล้ว

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของอวี้ปิงชิง “พวกเจ้าหันหลังไปเดี๋ยวนี้!”

“อืม!” พวกเขาหันหลังไปอย่างเชื่อฟัง แม้ว่าหญิงสาวตรงหน้าจะดูน่าดึงดูดใจมากเพียงใด แต่พวกเขาก็ไม่ยอมดูหมิ่นชิงเอ๋อร์เด็ดขาด

อวี้ปิงชิงเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ เมื่อเดินไปข้างหน้าก็เห็นร่างเจ้าลิงหิมะบัดซบนั่นถูกฆ่าตายไปแล้ว

ในอาณาจักรน้ำแข็งแห่งนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมาตรงนี้ได้

สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไปมาก “แย่แล้ว ไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปี!”

คนผู้นั้นฆ่าลิงหิมะตายแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะต้องเอาไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีไปแล้วเป็นแน่

ในขณะที่พวกเขาหาถ้ำของลิงหิมะเจอและกำลังจะเข้าไปนั้น ร่างของชายหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากถ้ำนั้นพอดี

นายน้อยเจ็ดและพวกเห็นมู่เฉียนซีก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าเป็นใคร?”

มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “ข้าแค่ผ่านมาทางนี้”

“เจ้าต้องเอาไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีไปแล้วเป็นแน่แท้ เอาออกมาเดี๋ยวนี้”

มู่เฉียนซีเอาขวดผลึกใสขวดหนึ่งออกมา และในขวดนั้นก็มีไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีสีขาวขุ่นแผ่ซ่านความเย็นยะเยือกออกมาอยู่

นางแกว่งขวดไปมาอย่างช้า ๆ และกล่าวว่า “ไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีที่เจ้าว่า คือสิ่งนี้เหรอ”

นายน้อยเจ็ดจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก “แม้ว่าเจ้าจะเป็นคนเอาไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีมาได้ แต่เจ้าก็ต้องเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

นายน้อยเจ็ดเตรียมจะแย่งชิงไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีมาเพื่อเอาความดีความชอบ เพื่อจะให้หญิงงามเอาตัวเข้าแลก

แต่ใครจะรู้ว่าเพียงแค่มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวตัวเล็กน้อยก็สามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

เดิมทีนายน้อยเจ็ดก็ถูกลิงหิมะโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เมื่อเขาโจมตีไม่โดนตัวเป้าหมายร่างของเขาก็เซจนล้มลงไป

ตุบ! หิมะแปดเปื้อนไปทั่วทั้งหัวเขา

นายน้อยหกและนายน้อยห้ามองมู่เฉียนซีอย่างพิจารณา ความเร็วของเจ้าหนุ่มผู้นี้ในเมื่อครู่รวดเร็วมาก

สามารถเอาชนะสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกได้ ไม่อ่อนหัดแน่นอน

ตอนนี้พวกเขาล้วนแต่บาดเจ็บสาหัสกันหมด เกรงว่าจะไม่ใช่สู้ต่อสู้ของคนผู้นี้

อวี้ปิงชิงก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ครั้นแล้วนางจึงย่างเท้าเดินมาด้วยท่าทางที่สง่างาม และกล่าวว่า “คุณชายท่านนี้ก็เป็นผู้เข้าร่วมการคัดเลือกเข้าตำหนักในครั้งนี้ด้วยกระมัง! มีความสามารถเอาไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีไปได้ ช่างโชคดียิ่งนัก”

“หากคุณชายยอมมอบไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีให้กับข้า ข้าในฐานะธิดาศักดิ์สิทธิ์สามารถยกเว้นการทดสอบให้คุณชายได้ แล้วคุณชายก็จะเข้าสู่ตำหนักเป่ยหานได้”

หากผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดนี้ของธิดาศักดิ์สิทธิ์เข้า พวกเขาจะต้องใจสั่นรีบมอบไขกระดูกน้ำแข็งหมื่นปีนี้ให้นางแต่โดยดีแน่นอน

อวี้ปิงชิงและนายน้อยทุกคนก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉียนซีจะตอบกลับด้วยท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มว่า “ธิดาศักดิ์สิทธิ์คิดจะใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?”

นายน้อยเจ็ดและพวกเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ เจ้าหนุ่มผู้นี้บ้าไปแล้วแน่ ๆ!

พวกเขาไม่เคยเห็นบุรุษใดกล้าปฏิเสธชิงเอ๋อร์มาก่อนเลย

แม้แต่อวี้ปิงชิงเองตอนนี้ก็เผยสีหน้าประหลาดใจออกมาแล้ว นับตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยมีใครทำให้นางเสียหน้ามาก่อน แถมคนผู้นี้ยังกล่าววาจาว่านางใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอีก! มือของอวี้ปิงชิงในตอนนี้จิกกระโปรงตัวเองแน่นด้วยความคับแค้นใจ

.

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset