หลิงเฟิงกล่าว “เพราะหม้อยาชั่วร้ายนั่น มันเป็นหม้อยากลืนกินพลังจิต”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่รู้ว่าหัวหน้าหุบเขาจางคิดจะทำสิ่งใดอยู่กันแน่ แต่ข้าก็สามารถรักษาเจ้าจนหายดีแล้ว ส่วนเจ้าก็ไปบอกเขาให้เอาของตอบแทนนั้นมาให้ข้าซะเถอะ!”
หลิงเฟิงเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ “เจ้าบ้าไปแล้วเหรอ เจ้าไม่กลัวเขาจะลงมือกับเจ้าเหรอ! เจ้าสามารถรักษาให้ข้าหายได้ ฝีมือการปรุงยาของเจ้าต้องแข็งแกร่งมากแน่ ๆ และเจ้าก็จะต้องกลายเป็นอาหารของหม้อยานั่น”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวท่านพ่อของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
เหลิ่งหนิงจือที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แผ่ซ่านพลังวิญญาณอันแข็งแกร่งออกมา หลิงเฟิงเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ “มหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงสุด!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เพราะฉะนั้น ทางที่ดีเจ้าควรจะเชื่อฟังข้านะ มิเช่นนั้นแล้ว ข้าที่ทำให้เจ้าฟื้นขึ้นมาได้ ก็สามารถทำให้เจ้าหลับใหลไปได้เช่นกัน”
หลิงเฟิงสูดลมหายใจลึกเข้าปอด บางทีนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนก็ได้
เขากล่าว “ข้าจะพาเจ้าไป!”
ถึงแม้ว่าหลิงเฟิงจะฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่เส้นปราณพลังของเขาถูกทำลาย ไม่มีพลังจิตเหลืออยู่เลย อีกทั้งความแข็งแกร่งก็ไม่เหลือแม้แต่น้อย เมื่อถึงตอนนั้นก็ไม่กลัวอุบายของเขา
หลิงเฟิงเดินออกไป และถามกล่าวกับองครักษ์ที่เฝ้าเวรยามอยู่ด้านนอกว่า “ข้าต้องการพบท่านพ่อข้า”
เมื่อองครักษ์เฝ้าเวรยามผู้นั้นเห็นหลิงเฟิงก็ตกใจนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเรียกเขาเสียงดังว่า “นายน้อย!”
“นายน้อยฟื้นแล้ว”
“……”
พวกเขาล้วนแต่คิดว่าตนเองนั้นกำลังฝันไป นักปรุงยาที่มาหลายท่านล้วนแต่หลอมยาล้มเหลวทั้งสิ้น อีกทั้งยังพูดอีกว่าไร้หนทางรักษานายน้อยแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ นายน้อยจะฟื้นขึ้นมาได้เช่นนี้
หลิงเฟิงกล่าว “อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระอยู่เลย ข้าต้องการพบท่านพ่อข้า!”
“ข้าน้อยจะไปรายงานท่านหัวหน้าหุบเขาประเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
“นายน้อยเข้าไปพักผ่อนเถอะขอรับ!”
“……”
องครักษ์เฝ้าเวรยามรีบไปหาท่านหัวหน้าหุบเขาด้วยความรีบร้อน แต่พวกเขากลับไม่เจอท่านหัวหน้าหุบเขาแล้ว
“นายน้อยขอรับ พวกเราไม่รู้ว่าท่านหัวหน้าหุบเขาอยู่ที่ไหน หรือว่าท่านหัวหน้าหุบเขาจะไปหานักปรุงยามารักษานายน้อยก็ได้นะขอรับ”
หลิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มเย้ยหยันขึ้น ไปหานักปรุงยาให้เขาอย่างนั้นเหรอ
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “เจ้าไปดูหน่อยสิว่ายอดปรมาจารย์นักปรุงยาท่านอื่น ๆ ยังอยู่หรือไม่ ?”
“นี่มัน…แม่นางมู่…”
“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางมู่จะอยู่ที่นี่!”
“……”
แม่นางมู่มาจากหอหมอปีศาจ พวกเขานั้นย่อมรู้ดีอยู่แล้ว อย่างไรเสียนางก็เป็นหญิงสาวที่รูปร่างหน้าตางดงามอย่างไร้ที่ติที่มองแล้วไม่อาจละสายตาได้เลย
หลิงเฟิงกล่าว “ไปทำตามที่แม่นางมู่บอก”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีมองหลิงเฟิงและกล่าวว่า “เจ้าเป็นนักปรุงยา ท่านพ่อของเจ้าก็เป็นนักปรุงยาด้วยใช่หรือไม่?”
หลิงเฟิงกล่าว “ใช่! เขาก็เป็นนักปรุงยาเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่เคยมีใครรู้มาก่อนก็เท่านั้น ไม่มีผู้ใดที่จะปิดบังจิตใจอันละโมบโลภมากได้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว”
น้ำเสียงของหลิงเฟิงที่กล่าวออกมานั้นราวกับว่าไม่ได้พูดถึงท่านพ่อของตัวเองเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเหมือนเป็นศัตรูที่เขาเกลียดชังจนเข้ากระดูกอย่างไรอย่างนั้น
ไม่นานนัก องครักษ์ก็เข้ามารายงานว่า “นายน้อยขอรับ ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านั้นก็ไม่อยู่แล้วด้วยขอรับ”
“ช่างน่าแปลกยิ่งนัก ดึก ๆ ดื่น ๆ เช่นนี้แล้ว พวกเขาจะไปไหนกันได้?”
“……”
หลิงเฟิงตกตะลึงขึ้น ไม่อยู่แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “นายน้อยหุบเขา เจ้ารู้หรือไม่ว่าหุบเขาปีกสวรรค์มีสถานที่ลับที่ใดบ้าง ท่านพ่อของเจ้าเอาตัวนักปรุงยาไปมากมายถึงเพียงนี้ เกรงว่าจะทำการใหญ่”
หลิงเฟิงกล่าว “สถานที่ลับ ข้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน จะไปหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไปสิ ข้ายังไม่ได้ผลวิญญาณหัวใจซ่อนเร้นเลย อีกอย่างข้าก็รู้สึกแปลกใจกับหม้อยานั่นมากด้วย”
หลิงเฟิงพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะฟังเจ้า”
“ไปกันเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
ณ มิติอันกว้างใหญ่มิติหนึ่ง มีเพียงแค่แสงเทียน บริเวณรอบ ๆ มืดสลัวมาก
และในที่แห่งนี้ นักปรุงยาผู้เย่อหยิ่งแต่ละคนต่างนอนราบไปกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
พวกเขามองไปที่บุรุษผู้สุขุมผู้นั้นและกล่าวว่า “หัวหน้าหุบเขาจาง นี่เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”
“หัวหน้าหุบเขาจาง นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าวางยาพิษพวกข้าเช่นนี้”
“……”
ท่านหัวหน้าหุบเขาผู้จริงใจซื่อสัตย์ และใจกว้างผู้นั้น ในตอนนี้กลับกลายเป็นบุรุษหน้าตาโหดร้ายไปแล้ว
“หากวันนี้พวกเจ้าหลอมยาอย่างเชื่อฟัง ข้าก็คงไม่ต้องยุ่งยากจับพวกเจ้ามาที่นี่หรอก” หัวหน้าหุบเขากล่าวเสียงขรึม
นักปรุงยาเหล่านี้ล้วนแต่เกิดความงุนงงสงสัยกันทั้งหมด พวกเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าที่ท่านหัวหน้าหุบเขาพูดออกมานั้นหมายความว่าเช่นไร
“หัวหน้าหุบเขาจาง ปล่อยพวกเราไปเถอะ! เจ้าต้องการสิ่งใดพวกเราล้วนแต่ยอมทั้งนั้น แม้กระทั่งยาลูกกลอนขั้นสวรรค์…”
“หัวหน้าหุบเขาจาง ข้ายินยอมที่จะเป็นนักปรุงยาของหุบเขาปีกสวรรค์ของพวกเจ้า ได้โปรดปล่อยพวกเราเถอะ!”
“……”
หัวหน้าหุบเขาจางกล่าวดูถูกเหยียดหยามว่า “สวะอย่างพวกเจ้าไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าแม้แต่น้อย ประโยชน์ของพวกเจ้า ก็เป็นได้แค่อาหารของนายท่านก็เท่านั้น”
หัวหน้าหุบเขาจางเอาหม้อยาสีดำขลับออกมาจากมิติ และหม้อยานี้ก็พลันใหญ่ขึ้นขนาดเท่าครึ่งร่างมนุษย์
ในมิติที่มืดสลัวนี้ ทันทีที่หม้อยานี้ปรากฏออกมา พวกเขาก็อดที่จะหนาวสั่นไม่ได้
“หึ ๆ ๆ! ครั้งนี้เอานักปรุงยามาไม่น้อยเลยจริง ๆ รีบมาให้ข้ากินซะโดยดีเถอะ ข้าหิวโหยยิ่งนัก” มีเสียงแปลกประหลาดดังก้องออกมาจากหม้อยานี้
ยอดปรมาจารย์นักปรุงยาเหล่านี้เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ “มะ หม้อยานี่ พูดได้!”
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ…”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พวกเขาได้เห็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ พวกเขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ แต่กลับรู้สึกตกใจกลัว เนื่องจากพวกเขารู้สึกได้ว่าหม้อยานี้อันตรายมาก
หัวหน้าหุบเขาจางกล่าว “นายท่าน คนมากมายเช่นนี้ ท่านพอใจแล้วหรือไม่ ยอมรับข้าเป็นนายได้แล้วหรือไม่”
ไม่เพียงแต่เป็นมหาวัตถุเทพศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังเป็นมหาวัตถุเทพศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ได้มีเจ้านายอีกด้วย
อย่างไรเสีย การที่ต้องการได้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่มีกลไกวิญญาณเช่นนี้มายอมรับเจ้านายนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย!
“ข้าบอกแล้ว หากให้ข้ากินอิ่ม ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นเจ้านาย เจ้าให้ข้ากินก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน!”
หัวหน้าหุบเขาจางกล่าว “ตกลง!”
เขายื่นมือไปจับคนคนหนึ่ง และโยนเข้าไปในหม้อยาทันที
พวกเขาล้วนแต่ถูกยาพิษกันแล้วทั้งสิ้น ร่างกายไร้เรี่ยวแรง และไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหัวหน้าหุบเขาจางเลย
อ๊า! หลังจากที่เสียงกรีดร้องหยุดลง เขาก็ถูกพลังหนึ่งโยนร่างออกมา
ยังมีลมหายใจอยู่ ทว่า พลังจิตกับพลังวิญญาณกลับไหลเวียนอย่างบ้าคลั่ง
สีหน้าของคนอื่น ๆ ต่างซีดเผือด มองไปที่หัวหน้าหุบเขาจางและกว่าด้วยความโกรธว่า “เจ้ามันบ้าไปแล้ว เพื่อหม้อยาชั่วร้ายนี้ นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะเอาพลังจิตกับพลังวิญญาณของพวกเราไปเป็นอาหารของหม้อยานี่”
“เพื่อบรรลุเป้าหมาย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะทำลายพวกเราโดยไม่รู้สึกผิดเช่นนี้! เจ้ายังมีความเป็นคนอยู่อีกหรือไม่!”
“……”
พวกเขาถูกยาพิษจนไม่อาจต้านทานได้ ทำได้เพียงแค่ต่อว่าด่าทอเท่านั้น
หัวหน้าหุบเขาจางกล่าว “พวกเจ้าหยุดพูดจาใหญ่โตได้แล้ว พวกเจ้าไม่มีโอกาสนี้เหมือนกับข้า หากว่าเจ้ามีโอกาส ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าก็จะทำเหมือนอย่างที่ข้าทำ!”
“ฮ่า ๆ ๆ! นี่เป็นถึงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพเชียวนะ! ขอเพียงแค่ได้เป็นเจ้านายของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ ข้าก็จะกลายเป็นนักปรุงยาผู้แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนสี่ทิศ! หุบเขาปีกสวรรค์ก็จะได้เป็นกองกำลังระดับสาม
“การที่พวกเจ้าได้เป็นอาหารของนายท่าน ก็นับว่าเป็นเกียรติและความโชคดีของพวกเจ้าแล้ว!”
กล่าวจบ เขาก็จับนักปรุงยาอีกคนขึ้นมา และในขณะที่เขากำลังจะโยนคนผู้นั้นลงไปในหม้อ จู่ ๆ น้ำเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“หัวหน้าหุบเขาจาง เจ้าจะทำสิ่งใดมันก็เรื่องของเจ้านะ แต่ผลวิญญาณหัวใจซ่อนเร้นที่รับปากเอาไว้ เอามาให้ข้าก่อนได้หรือไม่?”
ร่างชุดสีม่วงร่างหนึ่งปรากฏขึ้นภายในห้องลับหลังภูเขาของหุบเขาปีกสวรรค์ พลันนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างขึ้นและกล่าวด้วยความตกใจว่า “จะ เจ้า เจ้ามาได้ยังไง?”
.