คนของตำหนักตงจี๋ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้ามาก่อเรื่องในเมืองเป่ยหานเช่นนี้ ดวงตาของกู้ไป๋อีเคร่งขรึมลง
กู้ไป๋อีจะออกไป แต่กลับถูกเหลิ่งหนิงจือขวางเอาไว้
“ท่านไป๋อี นายท่านบอกเอาไว้ว่าท่านอย่าได้ลงมือ!”
“ไม่เป็นไร!” เขาตัดสินใจแล้วว่าแม้แต่หม้อเทพนิรันดร์เขาก็จะแย่งชิงมาจากเป่ยกงจั๋วให้ได้ แล้วเขาจะไปสนใจข้อตกลงระหว่างเป่ยกงจั๋วกับมู่หลิงหลางทำไมกัน
เหลิ่งหนิงจือกล่าว “นายท่านบอกเอาไว้ว่าหากท่านยืนยันที่จะช่วย ก็ขอให้ท่านแปลงกายเสียก่อน!”
หากพูดถึงการแปลงกายของมู่เฉียนซีแล้ว นางมีของไม่น้อยเลย
กู้ไป๋อีเองก็เข้าใจนาง นางไม่อยากให้เขาต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง ดังนั้นเขาจึงยอมรับในการแปลงกายนี้
เฟิงอวิ๋นซิวเองก็ได้ยินเสียงนี้แล้ว เขากล่าว “นี่มันเสียงผู้อาวุโสลู่ ยอดฝีมือระดับสูงสุดของตำหนักตงจี๋หนิ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาถึงเมืองเป่ยหานเช่นนี้ ข้า…”
ซวนอีกล่าว “นายน้อย มีท่านหัวหน้าตำหนักเป่ยหานอยู่ ไม่เป็นอะไรหรอกขอรับ! นายน้อยอย่าได้ลงมือตอนนี้เลย อีกอย่างตอนนี้ท่านหมอปีศาจก็อยู่ คนที่ต้องเสียเปรียบเกรงว่าจะเป็นพวกเขาต่างหาก”
ในขณะที่ผู้อาวุโสลู่กำลังใช้อำนาจบาตรใหญ่บีบบังคับ องครักษ์เงาของตระกูลมู่ก็ลงมือแล้ว อีกทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งทั้งสามคนอีกด้วย!
ความแข็งแกร่งของทั้งสามคนนี้ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง มียอดฝีมือระดับสูงสุดสองคน และชิงอิ่งก็เป็นยอดฝีมือที่มีกำลังการต่อสู้ระดับสูงสุดเช่นกัน
ตูม!
ไม่นานนัก ยอดฝีมือทั้งสามคนนี้ก็มีคู่ต่อสู้แล้ว
“บัดซบ! หอหมอปีศาจมียอดฝีมือระดับสูงสุดโผล่มาอีกคนได้ยังไงกัน!”
“ชายผู้นี้ดูคุ้นหน้าคุ้นตานัก เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้!”
“……”
หากพวกเขารู้ว่าชายผู้นี้ที่พวกเขากล่าวถึงคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศ เกรงว่าพวกเขาคงจะตกตะลึงพรึงเพริดจนรีบกล่าวยอมแพ้เป็นแน่!
พวกเขาจะต้องต้านไว้ให้ได้จนกว่ากองกำลังเสริมจะมาถึง โชคดีที่เขามองการณ์ไกลให้หัวหน้าตำหนักส่งกำลังคนมาเพิ่ม
เกิดการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ในเมืองเป่ยหานเช่นนี้ ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งตำหนักเป่ยหานย่อมรู้เรื่องแน่นอน
“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด หอหมอปีศาจมียอดฝีมือระดับสูงสุดเพิ่มมาอีกคนแล้วขอรับ เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นมหาจักรพรรดิระดับสูงสุดขอรับ เป็นคนที่คุ้นตาคุ้นตามาก เราจะไปช่วยหรือไม่ขอรับ?”
“ท่านหัวหน้าตำหนักแค่ไม่ให้พวกเราเข้าไปก้าวก่ายเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ช่วยเหลือแต่อย่างใด รอดูสถานการณ์ไปก่อนก็พอ”
“ขอรับ!”
ผู้อาวุโสสูงสุดมองไปยังทิศทางของหอหมอปีศาจ พลางกล่าวเสียงต่ำว่า “หอหมอปีศาจมียอดฝีมือระดับสูงสุดเพิ่มมาอีกคน ไม่รู้ว่าหมอปีศาจผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด”
ด้านนอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่มู่เฉียนซีกลับปรุงยาด้วยความสงบเป็นอย่างมาก
พรวด!
พรวด!
“…..”
ยอดฝีมือระดับสูงสุดของตำหนักตงจี๋สามคนได้รับบาดเจ็บจนกระอักเลือดคำโตออกมาแล้ว!
สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไป เห็น ๆ กันอยู่ว่าชายหญิงสองคนนี้ยังดูเป็นหนุ่มสาวอายุยังน้อย แต่เหตุใดถึงได้มีพลังที่น่ากลัวถึงเพียงนี้
หากกองกำลังสนับสนุนยังมาไม่ถึง พวกเขาคาดว่าคงต้องตายอยู่ที่นี่เป็นแน่
ไม่นานนัก กลิ่นอายที่กดขี่ข่มเหงสามร่างพลันพัดกระโชกเข้ามา ผู้อาวุโสลู่เผยสีหน้าดีอกดีใจขึ้น
ทันใดนั้นชายชราผมหงอกสามท่านก็ได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ น้ำเสียงอันแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้น
“นึกไม่ถึงเลยว่าหอหมอปีศาจก็มีความสามารถด้วย แต่ความสามารถเพียงน้อยนิดเช่นนี้ กลับกล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับตำหนักตงจี๋ ช่างไม่รู้จักประมาณตนเอาซะเลย!”
แน่นอนว่ากองกำลังระดับสามมีผู้อยู่เบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ ปกติแล้วชายชราเหล่านี้ล้วนแต่เก็บตัวฝึกบำเพ็ญทั้งสิ้น แต่เพราะการปรากฏของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ พวกเขาจึงได้ปรากฏตัวออกมา
หากได้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มา ก็จะได้รับความดีความชอบอันใหญ่หลวง ได้รับความยกย่องชื่นชมยิ่งกว่าการที่พวกเขาเก็บตัวฝึกบำเพ็ญมานับพันปีเสียอีก
กู้ไป๋อีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไป๋อู๋ห่ายไม่ได้มาด้วย
หากไป๋อู๋ห่ายมา เขาก็จะได้ลงมือฆ่าไปด้วยเสียเลย ตำหนักตงจี๋ก็จะกลายเป็นมังกรหัวขาดไปช่วงหนึ่ง
ขณะเดียวกันนั้นเองไป๋อู๋ห่ายที่อยู่ในตำหนักตงจี๋แดนไกลก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ!
ตูม! ชายชราสามคนนี้เข้ามาขวางการโจมตีของกู้ไป๋อี ชิงอิ่งและพวกเอาไว้!
“พวกเจ้าสามคนเข้าไปตามหาตัวมู่เฉียนซีก่อน ส่วนข้าจะขวางสามคนนี้เอาไว้เอง!”
“ตกลง! ผู้อาวุโสสี่!”
การป้องกันของหอหมอปีศาจนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ต่อให้แข็งแกร่งเพียงใดก็ยากที่จะขวางยอดฝีมือระดับสูงสุดได้!
ถึงแม้ว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดเหล่านี้จะถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บก็ตาม
“ขวางพวกมันไว้ อย่าให้พวกมันไปรบกวนท่านผู้นำตระกูลได้เด็ดขาด!” เหล่าองครักษ์เงาเริ่มใช้อาวุธลับมากมายโจมตี จากนั้นก็เปิดค่ายกลโจมตี!
“หลีกไป อาศัยเพียงแค่พวกเจ้า คิดว่าจะขวางพวกข้าได้งั้นเหรอ!” เจ้าสำนักเทียนหลิงตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราด
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ในขณะที่พวกเขากำลังจะบุกเข้าไปในหอหมอปีศาจ มู่เฉียนซีก็ปรุงยา และหลอมยาลูกกลอนออกมาสำเร็จแล้ว
การเคลื่อนไหวด้านนอกดุเดือดมาก มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ว่าหอหมอปีศาจกำลังสั่นสะเทือน
ร่างของมู่เฉียนซีแปลงกายเป็นตัวเองและเคลื่อนไหวพุ่งไปที่ประตู เมื่อเห็นเจ้าสำนักเทียนหลิงกับผู้อาวุโสลู่กำลังใช้พลังกดขี่ข่มเหงอยู่ นางก็กล่าวขึ้นว่า “ได้ยินว่าพวกเจ้ามาหาข้าเหรอ”
“ท่านผู้นำตระกูล!” องครักษ์เงาล่าถอยกลับไปคุ้มกันด้านหน้ามู่เฉียนซี
เจ้าสำนักเทียนหลิงมองหญิงสาวชุดม่วงที่อยู่ตรงหน้าและกล่าวว่า “สาวน้อย ข้าคิดว่าเจ้าจะเอาแต่มุดหัวแอบอยู่ในห้องซะอีก! นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะกล้าออกมาอย่างไม่กลัวตายเช่นนี้ ก็ดี! ข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปลากตัวเจ้าออกมา”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “หอหมอปีศาจของข้าไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าคิดอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป!”
“สาวน้อย เจ้าสามคนนั่นถูกคนของพวกข้าขวางเอาไว้แล้ว ข้าจะคอยดูว่าตอนนี้ยังจะมีใครหน้าไหนมาช่วยเจ้าได้อีก!”
ทันใดนั้นเอง น้ำเสียงอันเย่อหยิ่งเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ใครบอกเจ้าว่าไม่มีใครปกป้องนางล่ะ!”
ร่างในชุดเขียวร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นด้านหน้ามู่เฉียนซี ผมยาวสีเขียวเทาสยายลงมาราวกับผ้าไหมเนื้อดี ดวงตาสุกใสสีเขียวอ่อนดูบริสุทธิ์ไร้มลทินราวกับภูตน้อยที่มิเคยเฉียดกายเข้าใกล้ความมัวหมองใด ๆ ก็มิปาน
ท่าทางความพิเศษเช่นนี้ ทำให้พวกเขานึกถึงคนคนหนึ่งขึ้นได้
“หมอปีศาจมู่ซี!”
“เจ้าคือหมอปีศาจมู่ซี!”
“……”
“พูดจาไร้สาระมากเกินไปแล้ว!” แววตาของอาถิงพลันลึกล้ำขึ้น
ทันทีที่เขาลงมือ พลังอันแข็งแกร่งที่ไม่อาจต้านทานได้ก็โจมตีพวกเขาจนกระเด็นลอยออกไปจากหอหมอปีศาจ!
พลั่ก พลั่ก พลั่ก!
ยอดฝีมือระดับสูงสุดสามคนที่ถูกส่งเข้าไป นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกโจมตีออกมาจนหน้าตามอมแมมเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกมาพร้อมกันอีก!
คนอื่นเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มหน้าตางดงามดุจดั่งทวยเทพผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
ดวงตาสีเขียวอ่อนคู่นั้นมองไปที่พวกเขาราวกับพวกเขาเป็นเพียงแค่มดปลวกก็มิปาน ความเย่อหยิ่งเหนือทุกสรรพสิ่งนี้ทำให้พวกเขาต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“หมอปีศาจมู่ซี!”
“หมอปีศาจมู่ซีปรากฏตัวแล้ว”
“……”
ทุกคนอุทานขึ้นด้วยความตกใจ
ผู้อาวุโสสี่กล่าว “พวกเจ้าสามคนมันสวะไร้ประโยชน์ แค่คนคนเดียวก็รับมือไม่ได้!”
เจ้าสำนักเทียนหลิงและเหล่าผู้อาวุโสกัดฟันกรอด พุ่งเข้าไปโจมตีชายหนุ่มผู้นั้นอีกครั้ง
พวกเขาไม่เชื่อว่าพวกเขาสามคนจะจัดการกับคนคนเดียวไม่ได้!
อาถิงโบกมือขึ้น ลำแสงสีเขียวอ่อนปกคลุมรอบบริเวณเอาไว้
ริมฝีปากอันงดงามสมบูรณ์แบบนั้นพ่นคำพูดออกมาสี่คำว่า “ย้อนเวลากลับ!”
ภายในชั่วพริบตาเดียว พลังของพวกเขาก็ดูเหมือนว่าจะหายไปจนหมดสิ้น ไม่มีพลังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือร่างกายของเขาพลันเปลี่ยนไปเล็กลงไปเรื่อย ๆ!
ไม่ว่าจะเป็นคนของตำหนักตงจี๋หรือจะเป็นคนของสำนักเทียนหลิง ผู้ที่ไม่ใช่ยอดฝีมือระดับสูงสุดทั้งหมดล้วนแต่กลับกลายเป็นเด็กทารกไปในชั่วพริบตา
ยอดฝีมือระดับสูงสุดหกคนนั้นล้วนแต่ตกใจนิ่งอึ้งไปแล้ว!
นี่มันความสามารถใดกัน?
นี่มันตัวประหลาดอะไรกัน?
อาถิงปรากฏตัวขึ้นด้านหลังสามคนนั้นพร้อมกับกล่าว “จุดจบแห่งชีวิต!”
อายุของพวกเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในชั่วพริบตาเดียวจุดจบแห่งชีวิตของพวกเขาก็มาถึง!
ตุบ ตุบ ตุบ!
ร่างของพวกเขาล้มลงไปกับพื้นราวกับตาเฒ่าที่ไร้เรี่ยวแรง ฟันหลุดร่วงออกจากปากหมดทุกซี่ ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมาได้อีก
ความสามารถของอาถิงทำให้ศัตรูตกตะลึงยิ่งนัก แม้แต่เหลิ่งหนิงจือกับกู้ไป๋อีก็ประหลาดใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นพลังอันแปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนเลย!
.
.