ในตอนนี้หญิงงามผู้นี้ก็ลงมือแล้ว ลมกระโชกแรงพัดผ่านลำคอของมู่เฉียนซีไป
ฉึก! ขณะเดียวกันสองมือของมู่เฉียนซีก็ฉีกเสื้อผ้าของเขาออกแล้ว และแน่นอนว่าหมั่นโถวขาวผ่องสองลูกนั้นก็เผยออกมาให้เห็นแล้ว
หญิงงามชุดสีชมพูผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าหน้าอกจะแบนราบเช่นนี้!
มู่เฉียนซีร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว และกล่าวว่า “นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งจุ้ยเมิ่งชวนที่ผู้คนร่ำลือกันจะเป็นชายไปได้”
หญิงงามผู้นี้หลับตาลงพลางกล่าว “ถึงแม้ว่ากายของข้าจะเป็นชาย แต่ใจข้าเป็นหญิง หากคุณชายไม่รังเกียจข้าแล้วละก็ ข้า…”
ฟึ่บ! จู่ ๆ มีดเล่มหนึ่งก็พุ่งวนไปด้านหลังมู่เฉียนซี และโจมตีเขาจากทางด้านหลัง
หญิงงามผู้นี้ดูท่าทางน่าสงสารมาก แต่กระบวนท่าที่ใช้นั้นล้วนแต่เป็นกระบวนท่าฆ่าสังหารทั้งสิ้น!
ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวไปมาหลบหลีกคมมีดนั้นเอาไว้ได้
ทว่า ต่อมาก็มีกลิ่นอายสังหารพุ่งเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง
“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ทุกกระบวนท่าของแม่นางเซียวล้วนแต่เป็นกระบวนท่าสังหาร และมู่เฉียนซีก็ไม่มีทางประเมินนางต่ำไปแน่นอน
ปัง ปัง ปัง!
มู่เฉียนซีสกัดการโจมตีอาวุธลับของนางได้ แม่นางเซียวยิ้มพลางกล่าวว่า “สมกับที่เป็นประมุขน้อยเฉียนเยี่ยนจริง ๆ แม้ว่าระดับพลังวิญญาณจะต่ำ แต่ก็จัดการได้ยากมาก”
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อคนงามรู้ว่าฝีมือข้าไม่ธรรมดา ก็ยอมรามือไปเสียเถอะ! หากข้าไม่ทันระวังเผลอทำใบหน้าที่งดงามดั่งหยกของคนงามเสียหายเข้า เกรงว่า…”
“ข้าว่า คนที่ควรรามือน่าจะเป็นประมุขน้อยเฉียนเยี่ยมากกว่านะ ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ?” คนงามยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างงุนงงว่า “รู้สึกอะไรเหรอ?”
“ตั้งแต่ข้าเข้าใกล้ท่าน ท่านก็โดนพิษของข้าตั้งนานแล้ว และในห้องนี้ก็เต็มไปด้วยพิษ ต่อให้ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะใช้ยาลูกกลอนวิเศษมาตั้งแต่เด็กก็ตาม ตอนนี้หากท่านคิดจะใช้พลังวิญญาณแล้วละก็ พิษก็จะกำเริบแน่นอน!”
สีหน้าของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนไปทันที “ข้านึกไม่ถึงเลยจริง ๆ นี่เจ้า…”
“ฉะนั้น การที่ข้าจะเอาชีวิตประมุขน้อยเฉียนเยี่ย มันก็ง่ายเพียงนิดเดียว…”
ทันทีที่ร่างชุดสีชมพูเคลื่อนไหว มีดเล่มหนึ่งที่อยู่ระหว่างนิ้วของนางก็พุ่งไปทางมู่เฉียนซีทันที
แต่กลับนึกไม่ถึงว่าในตอนนี้มู่เฉียนซีจะเคลื่อนไหวได้ ร่างในชุดขาวพลันเคลื่อนไหว กระบี่ยาวเล่มหนึ่งถูกชักออกมาจากฝัก และคมกระบี่ก็ทาบทับลงมาที่คอของแม่นางเซียวแล้ว
แม่นางเซียวเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ “เจ้า…นี่เจ้าไม่ได้โดนพิษเหรอ!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “แม่นางเซียว ข้าลืมบอกเจ้าไปว่าอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ ข้าใช้มาจนเบื่อแล้ว พิษแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”
“ดูท่า ข้าจะประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย!”
คมกระบี่ของมู่เฉียนซีกรีดคอเขาจนเป็นรอยเลือด “แม่นางเซียว บอกมาเถอะว่าเหตุใดเจ้าถึงลงมือฆ่าข้า ข้าเป็นคนที่ไม่อยากทำร้ายคนสวย ๆ เช่นนี้ หากเจ้ายอมบอก บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้!”
“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย คิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดหลอกลวงของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
พิษของเขา ใช้รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง กลับนึกไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้มันจะใช้ไม่ได้ผล
ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดสิบแปดปีผู้นี้ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นยอดฝีมือในการใช้พิษด้วย!
ทันใดนั้นเอง แม่นางเซียวที่พลังวิญญาณอยู่ในระดับกลาง จู่ ๆ พลังก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ร่างอันงดงามแพรวพราวในตอนนี้พลันถูกปกคลุมไปด้วยหมอกพิษสีดำ
“ตอนแรกข้าก็อยากจะใช้วิธีอ่อนโยนกับประมุขน้อยเฉียนเยี่ยสักหน่อย แต่นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะจัดการได้ยากเช่นนี้ ฉะนั้นข้าจำเป็นต้องหยาบคายแล้วล่ะ!”
ภายในชั่วพริบตาเดียว พลังของเขาก็ถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า
พลังอันตรายพัดกระโชกทำให้กระบี่ในมือมู่เฉียนซีกระเด็นหลุดจากมือไป
ขวั่บ! กระบี่กระเด็นออกไปแล้ว
มู่เฉียนซีรีบร่นตัวถอยหลังหลบ จากนั้นมีดนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็พุ่งไปที่มู่เฉียนซี
ความเร็วเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่มู่เฉียนซีจะหลบหลีกได้ทัน!
และในขณะที่คมมีดเหล่านั้นกำลังจะพุ่งทำร้ายมู่เฉียนซี จู่ ๆ เสียง ปัง! ก็ดังขึ้น ลูกประคำสีเหลืองลูกหนึ่งพุ่งเข้ามาทางหน้าต่าง
ปัง ปัง ปัง! ลูกประคำวนไปมากลางอากาศ ไม่นานนักก็สามารถสกัดอาวุธลับเหล่านี้ได้
ร่างในชุดเหลืองกระโจนเข้ามา เพียงแต่ว่าตอนนี้เสื้อผ้าอาภรณ์ของเขาขาดรุ่งริ่งราวกับผ้าขี้ริ้วก็มิปาน
แต่แน่นอนว่ารูปร่างหน้าตางดงามเช่นนี้ ไม่ว่าจะสวมใส่ชุดอะไรก็ย่อมดูดีเสมอ!
ดวงตาของมู่เฉียนซีเบิกกว้างด้วยความตกใจ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะตื่นขึ้นมาแล้ว!
นางมั่นใจในพิษของตัวเองมาก ไม่มีทางตื่นขึ้นมาเร็วเช่นนี้ได้แน่นอน
อินรั่วเฉินกล่าว “เฉียนเยี่ย ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”
แม่นางเซียวยิ้มพลางกล่าวว่า “โอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินช่างจิตใจดีงามจริง ๆ ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจงใจมอมเหล้าท่าน แถมยังเอาสาวใช้รูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่าชังถึงสองคนไปปรนนิบัติท่าน ต้องการทำลายความบริสุทธิ์ผุดผ่องของท่าน นึกไม่ถึงเลยว่าท่านยังจะปกป้องเขาอีก”
อินรั่วเฉินกล่าว “ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีเหตุและผลเสมอ อาตมาไม่เก็บมาใส่ใจ”
คำตอบนี้ทำให้แม่นางเซียวที่จงใจจะสร้างความบาดหมางถึงกับพูดไม่ออก!
และคนที่พูดไม่ออกเช่นเดียวกันนั้นก็คือมู่เฉียนซี เหตุใดเจ้าหมอนี่ถึงดูเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย มันทำให้นางรู้สึกว่าสิ่งที่นางทำมาทั้งหมดในวันนี้สูญเปล่า
เมื่อครู่ ถึงแม้ว่าอินรั่วเฉินจะไม่ลงมือ แต่นางก็ไม่เป็นอะไรแน่นอน แต่อินรั่วเฉินกลับชิงลงมือเสียก่อนแล้ว!
ก็เป็นอย่างที่เขาพูดไว้ มีเหตุก็ต้องมีผล หากเจ้าหมอนี่ไม่ไล่ล่าตามแย่งชิงวิญญาณกระบี่มังกรเพลิงกับนางที่เมืองเหยียนในครานั้น นางก็ไม่มีทางทรมานเขาเช่นนี้หรอก
ตอนนี้เขาลงมือช่วยนางไว้ เช่นนั้นก็นับว่าหายกันก็แล้วกัน
มู่เฉียนซีกล่าว “ภิกษุ เรามาช่วยกันจัดการหญิงผู้นี้เถอะ”
“อย่าทำให้นางบาดเจ็บ”
มู่เฉียนซีกล่าว “ก็ได้ ๆ ๆ! ถ้าไม่ทำให้เจ็บเช่นนั้นท่านก็จัดการเลยก็แล้วกัน อย่าให้หนีไปได้ล่ะ”
กำลังในการเข่นฆ่าสังหารของหญิงงามตรงหน้านี้แข็งแกร่งมาก ไม่ทำให้บาดเจ็บแล้วจะจับตัวได้ยังไงกัน
อินรั่วเฉินลงมืออย่างไม่รีรอ แม่นางเซียวกล่าว “อย่าคิดว่าพวกเจ้ามีกันสองคนแล้วจะทำอะไรข้าได้”
ปัง!
ครั้นแล้ว ร่างในชุดสีชมพูกับร่างในชุดสีเหลืองก็ต่อสู้กัน พระภิกษุอย่างอินรั่วเฉินไม่อยากทำให้แม่นางเซียวได้รับบาดเจ็บ จึงไม่ได้ใช้กระบวนท่าสังหารแต่อย่างใด แต่แม่นางเซียวนั้นกลับลงมือหมายจะเอาให้ถึงตาย
บวกทั้งแม่นางเซียวมีพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าด้วย อินรั่วเฉินตอนนี้บดบังพลังความแข็งแกร่งเอาไว้ไม่ให้เผยออกมา ถึงแม้จะไม่ตาย แต่ก็สิ้นเปลืองเวลาไม่น้อย!
นางยังต้องกลับไปนอนพักผ่อนอีกนะ!
วันนี้นางเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
ทันทีที่ปลายนิ้วของมู่เฉียนซีขยับ เข็มยาเข็มหนึ่งก็พุ่งออกไปปักคออันเรียวยาวนั้นของแม่นางเซียวทันที!
“นี่เจ้า…นี่เจ้าลอบโจมตีข้า” แม่นางเซียวถลึงตาจ้องมองมู่เฉียนซีพลางกล่าว
“พิษ ทำอะไรข้าไม่ได้หรอกนะ…”
เขายังไม่ทันพูดจบ ใบหน้าอันงดงามนั้นก็แข็งทื่อไปทันที
เป็นไปได้ยังไง?
นึกไม่ถึงเลยว่าพิษนี้จะใช้ได้ผลกับคนอย่างเขา
แม่นางเซียวโดนพิษเข้าแล้ว อินรั่วเฉินที่ตั้งใจจะตีให้นางสลบ ตอนนี้จึงหยุดลงมือแล้ว
“เป็นไปไม่ได้!” แม่นางเซียวยังคงยอมรับความจริงนี้ไม่ได้
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “คนงามคิดเล่นพิษกับคนอย่างข้า มันช่างเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวงจริง ๆ!”
“เอาล่ะ ตอนนี้บอกข้าได้หรือยังว่าเหตุใดต้องลงมือฆ่าข้า!” มู่เฉียนซีเดินไปตรงหน้าแม่นางเซียวพลางกล่าวถาม
ตอนนี้ แม่นางเซียวไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้ พิษก็ใช้ไม่ได้ ตัวแข็งทื่อราวกับก้อนหินก็มิปาน
“ไม่ว่าข้าจะบอกหรือไม่บอก ข้าก็ต้องตายอยู่ดี ลอบสังหารประมุขน้อยแห่งตำหนักเป่ยหาน อย่างไรข้าก็ไม่รอดอยู่ดี” แม่นางเซียวยอมรับความพ่ายแพ้นี้
“ฆ่าข้าซะเถอะ อย่ามัวแต่พูดไร้สาระอยู่เลย!”
.