มู่เฟิงหลิงไม่ได้เพิ่มแรงแต่อย่างใด จากนั้นกระบี่ก็ถูกเขาขว้างขึ้นสู่กลางอากาศ!
กระบี่อันหนักหน่วงเล่มนั้นตกลงมาจากกลางอากาศ และเป้าหมายก็คือผู้อาวุโสสูงสุด
หลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้าตายซะเถอะ”
แม้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะหลบหลีกกระบี่เล่มนี้ได้ แต่ดวงตาของเขากลับเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจอย่างไม่น่าเชื่อพลางกล่าวว่า “เป็นไปได้ยังไง! นี่มัน…เป็นไปไม่ได้!”
พรวด! ในตอนนี้ หลิงกระอักเลือดคำโตออกมาอย่างต่อเนื่อง สีหน้าของเขาซีดเผือดราวกับไม่ใช่มนุษย์แล้ว
ปัง! กระบี่ของเขาตกลงสู่พื้นดิน
ในตอนนี้มู่เฉียนซีไม่ได้สนใจผู้อาวุโสสูงสุดอีกต่อไป นางรีบเข้าไปพยุงตัวมู่เฟิงหลิงไว้
“อารอง…อารอง…”
ในตอนนี้มู่เฟิงหลิงพยายามจะลืมตาขึ้นมามองหลานสาวผู้เป็นที่รักตรงหน้าเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามลืมตาอย่างไรก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้
เขาไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงแค่ฟังซีเอ๋อร์เรียกเขาราวกับดวงใจกำลังแหลกสลาย ดวงใจของเขาราวกับถูกมีดนับหมื่น ๆ เล่มทิ่มแทง
“พลังย้อนกลับ! กล้าทรยศข้าในสถานการณ์เช่นนี้ พลังย้อนกลับนี่มันยอดเยี่ยมจนเจ้าไม่อาจจะจินตนาการได้เลยล่ะ” ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้มพลางกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าว “ถอนสิ่งต้องห้ามบ้านั่นออกเดี๋ยวนี้ เจ้าเฒ่าบัดซบ! หากอารองของข้าตาย เจ้าคิดว่าเจ้าจะรอดอย่างนั้นเหรอ?”
“มันต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้ข้าถอนสิ่งต้องห้ามออกมันก็ไร้ประโยชน์ หากเจ้าจะฆ่าข้า ก็เชิญฆ่าได้เลย!”
ในตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดได้กระทำเรื่องที่พวกเขาคิดไม่ถึง เพราะเขาพุ่งตัวจะไปที่คมกระบี่ของกู้ไป๋อี
กู้ไป๋อีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขารีบเบี่ยงกระบี่หลบหลีก
แม้ว่าอาการของมู่เฟิงหลิงจะแย่มาก แต่กู้ไป๋อีก็ไม่มีทางให้เขาตายไปตอนนี้ได้
กู้ไป๋อีหลบหลีก ผู้อาวุโสสูงสุดเผยแววตาอันดุร้ายออกมา และตบไปที่กู้ไป๋อี
กู้ไป๋อีรีบหลบ แต่ก็ยังถูกผู้อาวุโสสูงสุดทำให้ได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
ในตอนนี้ชิงอิ่ง เซียวเหยา อู๋ตี้ และเสี่ยวหงต่างก็พุ่งเข้าไปขวางผู้อาวุโสสูงสุดที่คิดจะหนีเอาไว้
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จะปล่อยให้เจ้าเฒ่าผู้นี้หนีไปไม่ได้เด็ดขาด
ตูม!
เมื่อครู่ผู้อาวุโสสูงสุดให้ยอดฝีมือจำนวนมากล้อมโจมตีมู่เฉียนซี และในตอนนี้เขาก็ตกอยู่ในวงล้อมของการโจมตีแล้วเช่นกัน
กู้ไป๋อีผู้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งดินแดนสี่ทิศ อีกทั้งยังมีชิงอิ่งผู้แข็งแกร่ง วันนี้ต่อให้เขามีปีกก็ยากที่จะหนีได้แล้ว
มู่เฉียนซีรู้สึกว่าร่างกายของอารองยิ่งอ่อนแอลงเรื่อย ๆ แล้ว แม้ว่านางจะไม่กล้าวู่วาม แต่ตอนนี้ก็ทำได้เพียงเอายาที่ดีที่สุดออกมาช่วยชีวิตเขาไว้ก่อน
“นิรันดร์ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้! หากเจ้ายังกล้าหลับใหลอยู่อีกข้าจะเผาเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าวพลางเอาหม้อวิญญาณนิรันดร์ออกมา
นางกล่าวกับมังกรเพลิงว่า “มังกรเพลิง เจ้าเผาหม้อนี่ให้ข้าเดี๋ยวนี้! เผาร่างเขาซะ ดูซิว่าจะตื่นหรือไม่”
มังกรเพลิงกล่าว “นายท่าน ทำเช่นนี้จะดีเหรอ หากท่านพี่นิรันดร์ตื่นขึ้นมาเขาต้องจับข้าตีก้นเป็นแน่!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้ข้าเป็นเจ้านายของเจ้า เจ้าต้องฟังคำสั่งข้า ไม่ว่าจะต้องใช้กลอุบายใดก็ตาม ก็ต้องทำให้เขาตื่นขึ้นมาให้ได้”
อาการของอารองในตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้แล้ว
หากนิรันดร์ตื่นขึ้นมาก็ยังมีโอกาสรอด!
ฟู่! ครั้นแล้วมังกรเพลิงก็ลงมือเผาหม้อวิญญาณนิรันดร์แล้วจริง ๆ
ทันใดนั้นเอง มู่เฉียนซีก็สังเกตเห็นพลังสีดำอันคุ้นเคยปรากฏขึ้นบนร่างมู่เฟิงหลิง
ที่มาของพลังสีดำนี้ก็คือตรงหัวใจ…
ฉึก! มู่เฉียนซีฉีกเสื้อของมู่เฟิงหลิงออก และนางก็ได้เห็นกับรอยอักขระสาปสีดำ
อักขระสาปนี้ไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับของจิ่วเยี่ย นางดูออกว่ามันคือคำสาป!
เจ้าเฒ่าผู้นั้นเป็นคนสาปอารอง นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นสิ่งต้องห้ามของเผ่านักสาป
พลังสีดำนี้ทำให้ฤทธิ์ยาของนางไม่ได้ผลแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีนึกถึงคัมภีร์หมื่นคำสาปส่วนหนึ่งขึ้นมาได้ เดิมทีนางก็แค่อ่านเพื่อทางรักษาอาการของจิ่วเยี่ยเท่านั้น
และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะหาทางรอดได้เล็กน้อยแล้ว!
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังหาวิธีการรักษาในคัมภีร์หมื่นคำสาป จู่ ๆ แสงธรรมสีทองอร่ามก็ได้เปล่งประกายขึ้นและห่อหุ้มร่างของมู่เฟิงหลิงเอาไว้
การปรากฏของแสงธรรมนี้ทำให้พลังสีดำนั้นกลับเข้าไปในร่างของมู่เฟิงหลิง และอักขระสาปสีดำนั้นก็อันตรธานหายไป
มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นมองชายบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างไร้ซึ่งมลทินใด ๆ ตรงหน้า ร่างของเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงธรรมสีทองสว่างไสว ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นอย่างยิ่ง
“อินรั่วเฉิน!” มู่เฉียนซีมองเขาด้วยความประหลาดใจ
นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาที่นี่ได้!
นึกไม่ถึงเลยว่าแสงธรรมของเขาจะสามารถควบคุมพลังแห่งคำสาปได้
อินรั่วเฉินกล่าว “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย พลังของอาตมามีจำกัด คำสาปชั่วร้ายนี่แปลกประหลาดมาก ข้ายับยั้งเอาไว้ได้ไม่นาน หากหาวิธีรักษาไม่ได้ อาตมาก็จนปัญญาจริง ๆ”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าต้องอดทน”
อาศัยแสงธรรมของอินรั่วเฉินยับยั้งพลังแห่งคำสาปนั้นเอาไว้ มู่เฉียนซีรีบคิดค้นยาออกมาเพื่อรักษาชีวิตอารองทันที
ส่วนผู้อาวุโสสูงสุดก็รู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้ เขาจึงพุ่งตัวหมายจะชนกระบี่ของกู้ไป๋อีอย่างที่พวกเขาคิดไม่ถึง
อู๋ตี้กล่าว “เจ้าเฒ่าบ้านี่ช่างหน้าไม่อายจริง ๆ!”
“สู้ไม่ได้ก็ทำเรื่องเลวทราม ข้าอยากจะถ่มน้ำลายใส่มันจริง ๆ!” เสี่ยวหงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว
หลังจากที่รักษาชีวิตของมู่เฟิงหลิงเอาไว้ได้แล้ว มู่เฉียนซีก็ยังคงหาเบาะแสในคัมภีร์หมื่นคำสาปต่อไป
คัมภีร์หมื่นคำสาปนี้ หากศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน มู่เฉียนซีก็สามารถเข้าใจอะไรได้หลาย ๆ อย่าง
แต่เวลามีไม่มาก จะต้องรวดเร็วกว่านี้…
พลังจิตสูญเสียไปอย่างบ้าคลั่ง มู่เฉียนซีพบว่าตนเองเข้าไปใกล้ในสิ่งที่ตนเองต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
และในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะหาวิธีแก้ได้ ผู้อาวุโสสูงสุดก็พุ่งตัวไปที่กระบี่ของกู้ไป๋อีอย่างบ้าคลั่ง
“ในเมื่อพวกเจ้าอยากจะฆ่าข้า ข้าก็จะให้พวกเจ้าฆ่า! แต่เมื่อถึงตอนนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครกันแน่ที่จะเป็นผู้ชนะ ฮ่า ๆ ๆ!”
ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสสูงสุดเสแสร้งมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้มันเป็นเรื่องจริงแล้ว กู้ไป๋อีอยากจะหลบหลีกก็ไม่ทันเสียแล้ว
ฉึก! กระบี่เฉียนหานแทงทะลุหัวใจของผู้อาวุโสสูงสุด
มู่เฉียนซีเห็นฉากนี้เข้าในใจก็สั่นสะท้านขึ้น เห็น ๆ กันอยู่ว่านางกำลังจะหาวิธีแก้ได้แล้ว!
แต่ผู้อาวุโสสูงสุดกลับตายแล้ว เมื่อเขาตาย ต่อให้มีวิธีแก้คำสาปต้องห้ามนั้นมันก็สายไปเสียแล้ว
มู่เฉียนซียืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น
กู้ไป๋อีกำกระบี่เฉียนหานในมือแน่น ไม่กล้าหันไปมองสีหน้าของมู่เฉียนซี
ในตอนนี้เอง เสียงบทสวดอันได้ดังก้องขึ้นในหูมู่เฉียนซี
“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย อาการขององครักษ์ฝ่ายซ้ายตอนนี้สงบมาก เกรงว่าผู้สาปจะยังไม่ตาย…”
เขาไม่ทันกล่าวจบ จู่ ๆ ก็รับรู้ได้ว่าเงาร่างหนึ่งกำลังพุ่งไปที่มู่เฉียนซี
“ระวัง!”
นั่นก็คือผู้อาวุโสสูงสุดนั่นเอง!
คนที่กู้ไป๋อีแทงทะลุหัวใจผู้นั้น จู่ ๆ ก็พลันกลายเป็นหมอกควันสีดำขึ้น
สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไป “ซีเอ๋อร์!”
อุบายอันเลวทรามของเผ่านักสาปนั้นดูถูกไม่ได้จริง ๆ
ผู้อาวุโสสูงสุดยิ้มอย่างชั่วร้ายและกล่าวว่า “คิดจะฆ่าคนอย่างฆ่า เจ้าคิดว่ามันง่ายอย่างนั้นเหรอ ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตายไปครึ่งชีวิต แล้วจะจับเจ้ามาทำเป็นหุ่นเชิด เมื่อถึงตอนนั้นก็จะล่อลวงมู่เฟิงอวิ๋นกับปู่ของเจ้าออกมาได้ และข้าก็จะเป็นวีรบุรุษแห่งเผ่านักสาป!”
“ฮ่า ๆ ๆ!”
มือของเขาเผยหมอกควันดำออกมา เล็บแหลมคมราวกับกรงเล็บอินทรีพุ่งไปตรงหัวใจของมู่เฉียนซี
เผ่านักสาปของพวกเขามีอุบายชั่วร้ายทำให้คนที่ไม่มีหัวใจไม่ตาย และแน่นอนว่าอย่างแรกจะต้องสาปคำสาปต้องห้ามบางอย่าง เพื่อจะได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่เชื่อฟัง
.
.