ดวงตาของชายสูงวัยผู้นั้นเปล่งประกายขึ้นทันที “สาวน้อย ข้าสังเกตเจ้าอยู่นานแล้ว เจ้าไม่เหมือนกับคนอื่น ข้ายินดีให้เจ้าลองดูสักตั้ง”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “เช่นนั้น ข้าไม่มีทางทำลายความเชื่อใจของท่านลุงแน่นอน”
ไห่ฝานกล่าว “เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะทำเรื่องที่ยาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวทำไม่ได้ได้ยังไง ข้าไม่เชื่อ!”
ทุกคนก็ยากที่จะเชื่อเช่นกัน อย่างไรเสียอาการของท่านลุงผู้นี้ก็แย่มากแล้ว นางจะทำได้อย่างไรกันเล่า
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านลุง ยาที่ข้าใช้มันมีฤทธิ์รุนแรงมาก ท่านใช้ยาพวกนี้ปรับร่างกายให้สมดุลก่อนเถอะ”
มู่เฉียนซีหยิบยาน้ำออกมาหลายขวด คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “นี่เป็นยาบำรุงไตของหอหมอปีศาจ”
“ข้าได้ยินมาว่ายานี้หาซื้อได้ยากมากนะ!”
“……”
เมื่อไห่ฝานเห็นขวดยาน้ำเหล่านั้นเข้าก็กล่าวเย้ยหยันขึ้น “ยาน้ำ! นี่เจ้าทำได้แค่นี้เหรอ ข้าว่าคนอย่างเจ้าไม่นับว่าเป็นนักปรุงยาหรอกนะ เหอะ ยังมีหน้ามาพูดว่าเป็นนักปรุงยาอันดับหนึ่งแห่งแดนตะวันออก”
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของเขาแล้วต่างก็พากันกรอกตามองบนทันที
นี่ต่างหากล่ะที่เรียกว่าพวกบ้านนอกกบในกะลา! นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าแม้แต่ยาน้ำที่เป็นยาเฉพาะของหอหมอปีศาจที่เก่งกาจที่สุดเขายังไม่รู้จัก
ไห่ฝานก็รู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดแล้ว เหตุใดคนอื่นถึงได้มองเขาด้วยสายตาที่แปลกประหลาดเช่นนี้
ชายชรากล่าว “สาวน้อย ข้าไม่ต้องการของเล่นเด็ก ๆ พวกนี้นะ”
มู่เฉียนซีกล่าว “แต่ท่านลุง อวัยวะภายในของท่านถูกสายฟ้าโจมตีบาดเจ็บมาหลายครั้งแล้ว หากไม่ปรับร่างกายให้สมดุล ต่อให้ข้าสามารถทำให้ท่านลุงสมความปรารถนาได้ แต่เกรงว่าร่างกายของท่านจะรับไม่ไหว”
ชายสูงวัยตกใจไปชั่วขณะ พลันหันไปมองหน้ามู่เฉียนซีอย่างไม่รู้ตัว
สาวน้อยผู้นี้มองดูเขาเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะรู้ถึงอาการของเขาได้มากมายเช่นนี้
คนอื่นต่างก็กล่าวกันว่า “สมกับที่เป็นหนึ่งในเจ้าของหอหมอปีศาจจริง ๆ เก่งกาจยิ่งนัก!”
“ข้าเป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยามานานหลายปีก็ยังดูไม่ออก นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าแม่นางน้อยผู้นี้จะมองออกได้ทะลุปรุโปร่งเช่นนี้”
“……”
ไห่ฝานก็กลัดกลุ้มขึ้นใจแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเฒ่านี่จะเคยถูกสายฟ้าฟาดจนได้รับบาดเจ็บมาก่อน แล้วนี่นางดูออกได้อย่างไรกัน
ไห่ฝานกล่าว “หยุดเสแสร้งทำตัวลึกลับเสียที ยังไงข้าก็ไม่เชื่อว่าเจ้าจะทำได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “นายน้อยไห่ หากว่าข้าทำได้ล่ะ?”
“หากเจ้าทำได้ ข้าจะคุกเข่าโขกหัวให้เจ้าแล้วจะเรียกเจ้าท่านย่า”
“ข้าไม่มีหลานโตขนาดนี้สักหน่อย ช่างเถอะ!”
“นี่เจ้า…เจ้ากล้าเดิมพันกับข้าไหมล่ะ!” ไห่ฝานกระวนกระวายใจเข้าแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวถามอย่างนึกสนุก “เดิมพันสิ่งใด?”
“หากเจ้าแพ้ เจ้าจะต้องมาปรนนิบัติข้า” ไห่ฝานกัดฟันกรอดพลางจ้องมองมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าว “แล้วหากว่าข้าชนะล่ะ?”
“เจ้าต้องการสิ่งใดก็บอกมาได้เลย ต่อให้เจ้าอยากเป็นฮูหยินของข้า ข้าก็จะฝืนใจตอบรับเจ้าได้” ไห่ฝานกล่าวอย่างโอหัง
มู่เฉียนซีกล่าว “นายน้อยไห่ ฝันกลางวันเสียยิ่งใหญ่ในตอนเที่ยงวันเช่นนี้มันไม่ดีนะ หากข้าชนะ สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดของเจ้าจะเป็นของข้าทันที”
ตระกูลที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอกเช่นนี้ต้องมีของดีสะสมอยู่มากมายแน่นอน นางมีความสุขมากที่จะรีดไถมา
ไห่ฝานในตอนนี้เต็มไปด้วยโทสะ หญิงสาวผู้นี้ดูถูกเขา!
ไม่นึกเลยว่าตำแหน่งฮูหยินของนายน้อยจะเทียบกับสมุนไพรวิญญาณไม่ได้ ดี ดีมาก!
เขาจะต้องทำให้นางเป็นสาวใช้ปรนนิบัติเขาให้จงได้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ทรมานหญิงสาวผู้นี้ให้ตายทั้งเป็น
ไห่ฝานกล่าว “ดี! ตกลงตามนี้!”
“นายน้อยไห่ มีคนมากมายเป็นพยานเช่นนี้ หากแพ้เข้าก็อย่าได้ผิดสัญญาเชียว แต่อันที่จริงต่อให้เจ้าผิดสัญญาข้าก็ไม่กลัว เมืองเป่ยหานแห่งนี้เป็นถิ่นของข้า หากเจ้ากล้าผิดสัญญา ข้าก็กล้าที่จะตีขาที่สามของเจ้า”
ไห่ฝานกล่าว “ข้าไม่ผิดคำสัญญาแน่นอน เจ้านั่นแหละ อย่าได้คิดผิดสัญญาเชียว”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องนี้เจ้าวางใจได้!”
มู่เฉียนซีเอาหม้อยาออกมา จากนั้นก็เอาสมุนไพรวิญญาณออกมาจำนวนมาก และเริ่มทำการปรุงยา
ฝีมืออันน่าทึ่งนั้นของมู่เฉียนซี แม้แต่ไห่ฝานก็ต้องตกตะลึงพรึงเพริด แม้จะมองดูอย่างใกล้ชิดอย่างไร เขาก็ยังคงมองไม่ออกว่าเป็นเคล็ดลับใด
โอสถใสถูกมู่เฉียนซีปรุงออกมาสำเร็จแล้ว เนื่องจากอาการของท่านลุงนั้นอยู่ในขั้นที่อันตรายมาก นางจึงให้ชิงอิ่งใส่พลังแห่งชีวิตเข้ามาเล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดข้อผิดพลาดใดขึ้น
ไห่ฝานมองไปที่โอสถนั้นและกล่าวว่า “ไม่ใช่แม้แต่ยาลูกกลอน ยังกล้ามาพูดว่ายอดเยี่ยมกว่ายาฟื้นฟูความแห้งเหี่ยวอีก ข้าว่าเจ้ารีบกลับบ้านไปฝึกหลอมยาจะดีกว่านะ!”
ทุกคนต่างพากันกรอกตามองบนอีกครั้ง พวกเขาอยากจะตะโกนเรียกพวกมาจัดการกับเจ้าหมอนี่ให้กระเด็นออกไปจริง ๆ
พวกเขาจ้องมองโอสถนั้นด้วยสายตาที่แผดเผา หวังว่าโอสถมหัศจรรย์นี้จะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้ง
มู่เฉียนซีเอาโอสถนั้นมอบให้กับท่านลุง จากนั้นนางก็กล่าวถามว่า “ท่านลุง กล้าดื่มหรือไม่?”
เมื่อครู่ท่านลุงกินยาบำรุงไตของมู่เฉียนซีไป เขารับรู้ได้ว่ายาของนางนั้นไม่ธรรมดา ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องสงสัยในฝีมือของแม่นางน้อยผู้นี้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ไม่มีเรื่องใดที่ข้าต้องกลัว”
เขารับโอสถนั้นมาและดื่มลงไปในคราเดียว
ไห่ฝานกล่าว “เจ้าเฒ่า ไม่เสียดายชีวิตเอาซะเลย เดิมทีก็ใกล้จะตายอยู่แล้ว นี่ยังกล้าดื่มสุ่มสี่สุ่มห้าอีก”
แต่เรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็ได้เกิดขึ้นกับเขาแล้ว เส้นผมหงอกขาวของท่านลุงพลันเปลี่ยนเป็นเส้นผมสีดำขลับ ผิวก็พลันเปลี่ยนเป็นเปล่งปลั่งขึ้น เอวที่เคยคดงอก็ยืดตรงได้อย่างสบาย
พลังอันน่าสะพรึงกลัวได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งเมืองเป่ยหาน ทุกคนต่างก็พากันตกใจอ้าปากตาค้าง
ท่านลุงที่อายุขัยใกล้จะสิ้นจวนเจียนจะเข้าโลงอยู่รอมร่อผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดผู้หนึ่ง
มู่เฉียนซีเองก็ประหลาดใจเล็กน้อย ท่านลุงผู้นี้เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุด อีกทั้งพลังความแข็งแกร่งก็ยังแข็งแกร่งกว่าเสี่ยวไป๋มาก
ในตอนนี้ ท้องฟ้าพลันมืดครื้มลง สายฟ้ากำลังก่อตัวขึ้น แววตาของท่านลุงเปล่งประกายด้วยความดีใจ เขากล่าว “มาแล้ว!”
เขามองมู่เฉียนซีพลางกล่าว “สาวน้อย ไม่ว่าครั้งนี้ข้าจะเป็นหรือจะตาย แต่ข้าก็อยากขอบใจเจ้ามาก! สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดนี้ ข้ายกให้เจ้า ในแหวนมิตินี้มีสมุนไพรวิญญาณที่ข้าเก็บสะสมมาทั้งชีวิต เจ้ารับไว้เถอะ!”
จากนั้น ร่างของเขาก็เคลื่อนไหวไปและอันตรธานหายไปจากเมืองเป่ยหาน ออกไปยังนอกเมือง
มิเช่นนั้นหากสายฟ้านี้ฟาดฟันลงมาแล้วละก็ คาดว่าทั่วทั้งเมืองเป่ยหานต้องน่าสังเวชเป็นแน่
ครืน ครืน เปรี้ยง!
สายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดฟันลงมาจากท้องฟ้า สายฟ้าเช่นนี้มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นเคยดี ครั้งแรกที่นางได้เจอกับเสี่ยวไป๋ นางก็เห็นสายฟ้าเช่นนี้เหมือนกัน
มู่เฉียนซีเก็บของที่ท่านลุงมอบให้นาง จากนั้นก็มองไปที่ไห่ฝานพลางกล่าว “นายน้อยไห่ ข้ามีเรื่องต้องจัดการ เจ้ารีบเอาของที่เราตกลงกันไว้มาให้ข้าเถอะ! ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า”
“นี่เจ้า…นี่เจ้าต้องสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าเฒ่านั่นหลอกข้าเป็นแน่”
ทุกคนที่ได้ยินล้วนแต่หมดคำพูดกับนายน้อยผู้นี้แล้วจริง ๆ ท่านลุงผู้นั้นเป็นถึงยอดฝีมือระดับสูงสุดเชียวนะ จะมาสมรู้ร่วมคิดกับท่านผู้นำตระกูลมู่หลอกลวงคนอย่างเจ้าไปทำไมกัน
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “เจ้าจะผิดสัญญาใช่หรือไม่? ชิงอิ่ง!”
เมื่อร่างในชุดเขียวนั้นปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่มีคลื่นพลังวิญญาณใด ๆ เลย แต่ไห่ฝานกลับรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
เขาไม่ลืมว่าหญิงสาวผู้นี้โอหังมากเพียงใด ไม่ว่าเรื่องใดนางก็กล้าทำ เขาจึงทำได้เพียงเอาแหวนมิติที่เก็บสะสมสมุนไพรวิญญาณมอบให้กับมู่เฉียนซีด้วยความกล้ำกลืนฝืนใจ
“เอาไป ข้าเป็นคนยอมรับความพ่ายแพ้อยู่แล้ว”
เมื่อได้ของมาแล้ว มู่เฉียนซีก็เคลื่อนไหวไปที่นอกเมืองทันที ของที่ท่านลุงมอบให้นางนั้นมันน่าทึ่งมาก สมุนไพรวิญญาณที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตใช่ว่าจะพูดส่ง ๆ ให้ใครก็ได้
นางนึกถึงครั้งก่อนที่เสี่ยวไป๋ถูกสายฟ้าฟาด ตอนนั้นสภาพของเสี่ยวไป๋น่าสังเวชมาก หากท่านลุงผู้นี้ทำไม่สำเร็จ นางก็ยังช่วยเขาทัน และในขณะที่มู่เฉียนซีพุ่งออกไปนอกเมืองนั้น ร่างอันคุ้นเคยร่างหนึ่งก็ตามนางมาด้วย
มู่เฉียนซีเอ่ยเรียก “เสี่ยวไป๋!”
.
.