ลำแสงกระบี่เปล่งประกายดุจดั่งพระจันทร์สีเลือดตวัดผ่านอากาศไปพร้อมลมพายุอันรุนแรงพุ่งฟันไปที่คอของชิงอิ่ง
“พิฆาตวิญญาณ!” มู่เฉียนซีจ้องมองพิฆาตวิญญาณด้วยความโกรธเกรี้ยว
หากชิงอิ่งหลบหลีกการโจมตีของกระบี่นี้ไม่ได้แล้วละก็ ผลลัพธ์ไม่อาจจินตนาการได้เลย!
เขาไม่อยากถูกทำลาย เขายังอยากจะอยู่ข้างกายเฉียน!
ชิงอิ่งใช้ความเร็วอย่างรวดเร็วที่สุดหลบหลีกการโจมตีนี้ เส้นผมสีดำขลับของเขาถูฟันขาดไปไม่น้อย
แต่พิฆาตวิญญาณยังคงไล่โจมตีอย่างไม่ยอมเลิกรา เขาโจมตีด้วยกระบี่อีกครั้ง และพุ่งเป้าไปที่หัวใจของชิงอิ่ง
ดวงตาที่สงบคู่นั้นของชิงอิ่งตอนนี้ตื่นตระหนกขึ้นเล็กน้อยแล้ว ร่างกายสามารถทำลายได้ แต่จะทำลายหัวใจที่เฉียนมอบให้เขาไม่ได้เด็ดขาด
“ข้าอยากฆ่าเจ้าจริง ๆ พิฆาตวิญญาณ!” มู่เฉียนซีกัดฟันกรอดพลางกล่าว
“บังเอิญจริง ๆ ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน!” น้ำเสียงอันเริงร่าเสียงหนึ่งดังขึ้น ลำแสงสีเขียวอ่อนเปล่งประกายขึ้นและครอบคลุมบริเวณโดยรอบทั้งหมดเอาไว้
พิฆาตวิญญาณถูกพลังนี้กระแทกจนร่างกระเด็นขึ้นกลางอากาศ!
และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็เอากระบี่มังกรเพลิงออกมา และถ่ายเทพลังวิญญาณทั้งหมดของนางเข้าไป
“บัวแดงพิฆาต!”
ตูม!
บัวอัคคีสีแดงฉานโจมตีลงมาจากกลางอากาศกลืนกินร่างที่มีเสน่ห์นั้น!
ทันใดนั้นเอง ร่างของพิฆาตวิญญาณก็ออกมาจากเปลวไฟนั้น ร่างกายมีบาดแผลเล็กน้อย ไม่ได้สาหัสแต่อย่างใด!
พิฆาตวิญญาณยิ้มพลางกล่าวว่า “พลังอันน้อยนิดแค่นี้ของแมวน้อยเช่นเจ้าไม่มีทางทำอะไรข้าได้หรอกนะ!”
ร่างของอาถิงขวางอยู่หน้ามู่เฉียนซีและกล่าวกับพิฆาตวิญญาณว่า “เจ้าพิฆาตวิญญาณ เจ้ายังน่ารังเกียจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย”
“ศาลาน้อย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ! เมื่อข้าได้รู้ว่าสุ่ยจิงอิ๋งยอมรับนางเป็นนาย ข้าก็พอจะเดาได้ว่าเจ้าก็ต้องรับนางเป็นนายแน่”
“เจ้าบังอาจรังแกผู้ทำพันธสัญญาของข้า ต่อให้เจ้าคือพิฆาตวิญญาณ ข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
ลำแสงสีเขียวอ่อนเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้น อาถิงพุ่งไปที่พิฆาตวิญญาณ
ดวงตาคู่นั้นดุจดั่งทวยเทพกว่าใบหน้าที่งดงามนั่นเสียอีก แต่มันกลับเต็มไปด้วยจิตสังหารอันเย็นยะเยือก
ตูม!
พลังธาตุอัคคีกับพลังแห่งกาลเวลาได้ต่อสู้กันแล้ว!
นี่เป็นการต่อสู้ของศาลานิรันดร์กับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์!
ตูม!
ต้นไม้ทั่วบริเวณถูกพลังสองพลังนี้ทำลายล้างจนไม่เหลือชิ้นดี
ชิงอิ่งปรากฏกายข้างกายมู่เฉียนซี เพราะกลัวว่านางจะได้รับผลกระทบจากพลังนี้
มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์เป็นวัตถุที่ดำรงอยู่เหนือทวยเทพ เมื่อพวกเขาตั้งใจที่จะต่อสู้กันแล้ว พลังการทำลายล้างนั้นจึงยากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่! ข้ามียาลูกกลอนอยู่ เจ้ารีบกินเร็วเข้า!”
มู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนออกมาจำนวนมาก ชิงอิ่งเองก็กินอย่างไม่เกรงใจ!
หลังจากที่กินยาลูกกลอนแล้ว บาดแผลดำไหม้ด้านหลังนั้นก็หายไป
นิ้วมืออันเรียวยาวของมู่เฉียนซีสัมผัสไปบนบาดแผลนั้น ก่อนจะกล่าวว่า “ได้ผลก็ดีแล้ว เจ้ากินเข้าไปเยอะ ๆ หน่อย! กินจนกว่าจะพอ”
พลังในยาลูกกลอนที่เฉียนหลอมออกมาสามารถฟื้นฟูร่างกายของเขาได้ ชิงอิ่งกินยาลูกกลอนที่มู่เฉียนซียื่นให้อย่างต่อเนื่อง
หากผู้อื่นรู้เข้าว่ามู่เฉียนซีเอายาลูกกลอนจำนวนมากเช่นนี้ให้ชิงอิ่งกิน คนเหล่านั้นจะต้องเจ็บปวดใจจนกระอักเลือดเป็นแน่
ร่างสองร่างกำลังต่อสู้กันกลางอากาศไปมาอย่างรวดเร็วจนมองเห็นไม่ชัด มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง อาถิงจะไหวหรือไม่ ?”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าว “ซีเอ๋อร์ไม่ต้องกังวลไป การต่อสู้ในเมื่อครู่ พิฆาตวิญญาณสูญเสียพลังไปแล้วไม่น้อย ตอนนี้มารับมือกับอาถิง พิฆาตวิญญาณเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าว “งั้นข้าก็หวังว่าอาถิงจะเอาชนะให้ได้! เมื่อถึงเวลานั้นข้าไม่ยอมปล่อยเจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นแน่!”
ป่าอันกว้างใหญ่ระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา เหล่าสัตว์วิญญาณในป่าแห่งนี้ต่างวิ่งหนีเข้าป่าลึกกันอย่างสุดชีวิต
คนจำนวนมากต่างก็เกิดความสงสัยขึ้น แต่กลับไม่กล้าย่างกรายเข้าใกล้ที่แห่งนี้แม้แต่ครึ่งก้าว!
พลังนี้แข็งแกร่งมากอย่างที่พวกเขาไม่เคยพบเจอมาก่อน!
กู้ไป๋อีที่กำลังตามหามู่เฉียนซีอยู่ไกล ๆ ตอนนี้เขารับรู้ได้แล้วว่ามีพลังธาตุอัคคีอันแข็งแกร่งปะทุออกมาจากที่แห่งนี้ รูม่านตาของเขาหดตัวลงทันที
นี่คือพลังธาตุอัคคีของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไม่ผิดแน่!
เขาเคลื่อนไหวร่างฝ่าป่าดงพงไพรเข้าไปในเทือกเขาอันกว้างใหญ่นี้อย่างรวดเร็ว
ปัง! พิฆาตวิญญาณถูกโจมตีจนกระเด็นลอยไป และในขณะที่เขากระเด็นลอยไปนั้น เปลวไฟก็แผดเผาไปทั่ว ทั้งภูเขามอดไหม้เป็นเถ้าธุลีภายในชั่วพริบตาเดียว
ความน่าสะพรึงกลัวของราชาแห่งเปลวเพลิงนั้นไม่มีต้นไม้ใบหญ้าใดสามารถต้านทานได้!
หลังจากที่ชิงอิ่งกินยาลูกกลอนของมู่เฉียนซีเข้าไปแล้ว ร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาไม่น้อย เขาเคลื่อนไหวตัวออกไปอีกครั้ง และลงมือกับพิฆาตวิญญาณทันที!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ต่อมา อาถิงกับชิงอิ่งก็ร่วมมือกันโจมตีพิฆาตวิญญาณ ดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นของพิฆาตวิญญาณยิ่งล้ำลึกดุดันมากขึ้น
พิฆาตวิญญาณยิ้มพลางกล่าว “ศาลาน้อย เรื่องที่ข้าอยากทำ เจ้าไม่อาจขวางข้าได้!”
ชั่วพริบตาเดียว จิตสังหารการเข่นฆ่าก็แผ่ซ่านออกมา!
มังกรเพลิงร้อนอกร้อนใจราวกับถูกต้มอยู่ในน้ำร้อน “จะทำเช่นไรดี พิฆาตวิญญาณเอาจริงแล้ว หากจิตสังหารของเขาถึงที่สุดแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น!”
อาถิงกล่าว “ถึงแม้ว่าหญิงอัปลักษณ์จะอ่อนแอไปหน่อย แต่นางก็มีความสามารถรอบด้าน เจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจนางอีก! ข้าว่าเจ้าสงบสติอารมณ์ลงก่อนจะดีกว่า!”
พิฆาตวิญญาณยิ้มพลางกล่าวว่า “แมวน้อยยอดเยี่ยมมาก เหมาะสมที่จะเป็นทาสกระบี่ของข้า! แต่คิดจะเป็นนายข้าแล้วละก็ ไม่มีทาง”
อาถิงโกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว ชั่วครู่หนึ่ง ดวงตาสีเขียวอ่อนคู่นั้นก็เย็นยะเยือกขึ้น
“เจ้านายข้ากับพี่สาวข้า จะไปเป็นทาสกระบี่ของเจ้าได้อย่างไร! พิฆาตวิญญาณ เจ้ามันกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว!”
คำพูดของพิฆาตวิญญาณก็ทำให้ชิงอิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นเช่นกัน!
เฉียนมีเลือดเนื้อ จะถูกคนอื่นควบคุมจนไร้วิญญาณไร้อิสระเป็นทาสกระบี่ได้อย่างไรกัน!
การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง พวกเขาต่อสู้กันจนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ในตอนนี้ทั่วทั้งแดนเหนือแผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายจิตสังหารอันน่ากลัว
การต่อสู้ดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ พิฆาตวิญญาณเพลิดเพลินกับการต่อสู้อันบ้าคลั่งนี้มาก!
กระบี่ยาวสีแดงเลือดเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น ปลายกระบี่ส่องประกายลำแสงสีแดงราวกับโลหิต และพลังอันน่าเกรงขามทั้งหมดก่อตัวแน่นขึ้นบนคมกระบี่เล่มนั้น
และในขณะที่เขากำลังจะลงมือ ดวงตาของเขาก็เคร่งขรึมขึ้น!
“บัดซบ!”
จู่ ๆ กระบี่ยาวสีแดงเลือดเล่มนั้นก็อันตรธานหายไป ชั่วครู่หนึ่ง ร่างของพิฆาตวิญญาณก็อันตรธานหายไปต่อหน้าพวกเขา
“แมวน้อย ครั้งนี้ยังไม่ใช่เวลาสนุก! แต่ครั้งหน้า ข้ารับรองว่าจะสนุกกับเจ้าแน่นอน!”
อาถิงกลัดกลุ้มใจขึ้น ร่างในชุดเขียวพุ่งตามไป
“พิฆาตวิญญาณ เจ้าสู้ไม่ได้แล้วคิดจะหนีงั้นเหรอ หยุดเดี๋ยวนี้นะ! วันนี้ข้าจะกำจัดเจ้า!”
ชิงอิ่งเองก็ไม่ปล่อยเจ้าหมอนี่ที่เป็นพิษภัยต่อมู่เฉียนซีไปแน่นอน ครั้นแล้วเขาจึงพุ่งตามไปเช่นกัน!
อาถิงใช้พลังแห่งกาลเวลา “หยุดเวลา!”
แต่ในขณะที่เขาตามไปนั้น ร่างนั้นก็ได้หายไปในลำแสงสีทองเหลืองแล้ว
สีหน้าของอาถิงดำคล้ำขึ้นด้วยความโกรธ “ม้วนหนังสือส่งตัวระยะไกล!”
“เจ้าพิฆาตวิญญาณ! นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้ม้วนหนังสือส่งตัวระยะไกลหนีไปเช่นนี้”
ตูม! อาถิงโจมตีไปยังที่จุดที่พิฆาตวิญญาณหนีไปด้วยพลังอันบ้าคลั่งจนเกิดเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ขึ้น
มู่เฉียนซีตามไป เมื่อเห็นท่าทางอาถิงที่โกรธเกรี้ยวเช่นนี้ นางก็กล่าวถามว่า “เป็นอะไรไป หนีหายไปแล้วเหรอ?”
อาถิงกล่าว “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าพิฆาตวิญญาณนั่นจะใช้ม้วนหนังสือส่งตัวระยะไกลหนีไป ตามไปไม่ได้!”
เขาบ่นพึมพำว่า “เวลาผ่านไปนานหลายปี เจ้าพิฆาตวิญญาณขี้ขลาดยิ่งกว่าสตรีไปแล้วรึไง ต่อสู้กันอยู่ดี ๆ จู่ ๆ ก็หนีไปเช่นนี้ นี่มันไม่ใช่นิสัยของเขาเลย หากเขาลงมือแล้ว ไม่มีทางที่จะรามือแน่นอน จุดจบมีเพียงมือต้องเปื้อนเลือดเท่านั้น!”
“ไหนจะม้วนหนังสือส่งตัวนั่น เขาเคยใช้ของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แถมยังใช้หนีอีก!” ไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้อาถิงกลัดกลุ้มใจมากเพียงใด เพราะเดิมทีนี่เป็นโอกาสที่ดีมากที่จะจัดการกับเจ้าพิฆาตวิญญาณนั่น!
.