มู่เฉียนซียิ้มเล็กน้อย “โอวหยางหว่าน ข้าไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก”
กองกำลังของศัตรูมีทหารและม้าศึกนับพันนับหมื่น แต่มู่เฉียนซีมองไปที่โอวหยางหว่านด้วยความประหลาดใจตามธรรมดาเสมือนนางไม่ตึงเครียดแม้แต่น้อย
โอวหยางหว่าน “ซีเอ๋อร์ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ยอมจำนนไปซะ แล้วข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”
ทว่ามู่เฉียนซีกลับกล่าวว่า “โอวหยางหว่าน เจ้าต่างหากที่ควรวางมือได้แล้ว ข้ารับรองว่าจะทำให้เจ้าตายโดยที่ไม่ทรมานมากนัก”
มู่เฉียนซีกล้าบังอาจกล่าววาจาเช่นนี้กับคนรักของฮ่องเต้ฉินป้า ฉินป้ากล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ผู้นำตระกูลมู่ อวดดีสมคำร่ำลือจริง ๆ เจ้าคิดว่าลำพังเพียงเจ้าคนเดียวจะสามารถกู้สถานการณ์ศึกครั้งนี้ได้รึ ?”
“ฆ่านาง!” ฉินป้าตะโกนสั่งอย่างโหดเหี้ยม
โอวหยางหว่าน “ท่านพี่ฉินป้า ข้าอยากได้ตัวมู่เฉียนซีเป็น ๆ แต่หากแขนขาดสักนิด ขาขาดสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”
“หว่านเอ๋อร์ เจ้าวางใจเถอะ”
“ฆ่า!” ทหารของแคว้นชิงตะโกนขึ้นด้วยความฮึกเหิมพร้อมกันอย่างสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ต่อให้ผู้นำตระกูลมู่อย่างมู่เฉียนซีจะร่ำรวยมีเงินทองล้นฟ้ามากเพียงใด นางก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่อาจเอาชนะศึกครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน
ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวอย่างเย็นชา “มู่เฉียนซี เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่ ? เจ้ากำลังรนหาที่ตายอยู่รู้ตัวหรือไม่ ?”
ซวนหยวนชิงอวิ๋นเองก็กล่าวถามด้วยความกังวลใจ “เฉียนซี เจ้ามั่นใจหรือไม่ ?”
ซวนหยวนหลี่เทียนตั้งคำถามมากมายกับมู่เฉียนซี แต่ซวนหยวนชิงอวิ๋นไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาเชื่อใจมู่เฉียนซีอย่างมาก นางไม่มีทางทำสิ่งใดโดยที่ไม่มีความมั่นใจเด็ดขาด
มู่เฉียนซี “การฆ่าศัตรูให้ได้ทั้งหมดนี้ยากนัก แต่หยุดศัตรู ข้าสามารถทำได้”
“เสี่ยวหง อู๋ตี้ พวกเจ้าออกมา!” มู่เฉียนซีเรียกสัตว์พันธสัญญาทั้งสองของนางออกมา
“องครักษ์เงา!”
และเช่นกัน สิ้นเสียงเรียกองครักษ์เงา องครักษ์เงาทั้งสามสิบร่างปรากฏตรงหน้านางในทันที
โอวหยางหว่านขมวดคิ้ว “มู่เฉียนซี ที่นี่เป็นสนามรบ ไม่ใช่สนามเด็กเล่น เจ้าคิดว่าองครักษ์เงาสามสิบร่างของเจ้าจะสามารถปกป้องเจ้าจากทหารศึกนับหมื่นได้งั้นรึ ?”
“พวกข้าทำได้!” เหล่าบรรดาองครักษ์เงาตะโกนขึ้น
— ตูม! ตูม! ตูม! —
องครักษ์เงาทั้งสามสิบร่างเรียกสัตว์พันธสัญญาของตัวเองออกมา ร่างอันมหึมาของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายปรากฏกายอยู่ด้านหน้าเหล่าองครักษ์เงาทันที
เหล่าบรรดาทหารของทั้งสองแคว้นเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกใจปากอ้าตาค้าง
“หืม! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์”
“องครักษ์เงาของตระกูลมู่ทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มากมายเช่นนั้นได้อย่างไรกัน ?”
“ตระกูลมู่ต้องทุ่มเงินไปเท่าใดถึงได้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์มาทำพันธสัญญาให้กับองครักษ์เงามากมายเช่นนี้”
มู่เฉียนซี “ชิงอวิ๋น ออกคำสั่งขับไล่ศัตรูไปเสียเดี๋ยวนี้เลย”
“ได้!” ซวนหยวนชิงอวิ๋นรับคำด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
องครักษ์เงาสามสิบร่าง สัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกสามสิบตัว ทำให้ทหารของแคว้นจื่อเยี่ยมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก พวกเขาทั้งหมดมีกำลังใจแล้ว หากเป็นเช่นนี้ผู้ที่ต้องพ่ายแพ้ในวันนี้คงไม่ใช่แคว้นจื่อเยี่ยเป็นแน่แท้
“ฆ่ามัน!”
— ปัง! ปัง! ปัง! —
“โฮกกก!”
กองทัพของแคว้นจื่อเยี่ยมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เฝ้าอยู่ด้านหน้า เหล่าทหารของแคว้นชิงไม่สามารถฆ่าพวกมันได้และไม่อาจฝ่าด่านสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เข้ามาได้เลย การโจมตีของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับกองทัพของแคว้นชิงอย่างหนัก
ท่าไม่ดีแล้ว!
เหล่าทหารของแคว้นชิงต่างพากันถอยหนี พวกเขาไม่ใช่ยอดฝีมือขั้นจักรพรรดิ การเผชิญหน้ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังเช่นนี้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวมาก ไม่มีความกล้าที่จะสู้รบต่อ
ฉินป้าเห็นท่าไม่ดีรีบกล่าวขึ้น “ถอย! ถอย!”
โอวหยางหว่านรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่สถานการณ์เช่นนี้หากฝืนรับมือต่อไปก็จะไม่เป็นผลดี คงทำได้เพียงแต่ต้องถอยทัพไปก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีอีกที
“ฆ่ามัน!”
เมื่อเห็นกองทัพแคว้นชิงกำลังถอยหนี ขวัญกำลังใจของทหารแคว้นจื่อเยี่ยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาไล่ฆ่าศัตรูอย่างฮึกเหิม!
“ฮ่า ๆ ๆ พวกเราชนะแน่แล้ว”
“ชนะแล้ว!”
เมื่อทัพของแคว้นชิงถอยห่างออกไปไกล ทัพของแคว้นจื่อเยี่ยก็โห่ร้องด้วยความปีติยินดี ศัตรูมีจำนวนมากกว่าพวกเขาเป็นสิบเท่า ในทีแรกผู้นำทัพอย่างฮ่องเต้ถูกฆ่าตาย พวกเขาเตรียมใจที่จะตายในสนามรบครั้งนี้แล้ว ใครเลยจะคิดว่าผู้นำตระกูลมู่จะมาและได้ทำให้ทหารทั้งกองทัพมีขวัญกำลังใจขึ้นอีกครั้งจนพลิกสถานการณ์กลับมาได้เช่นนี้
ซวนหยวนชิงอวิ๋น “เฉียนซี เจ้าเดินทางมาเหนื่อย พักผ่อนสักหน่อยเถอะ พวกเราจะไปจัดการเรื่องพิธีศพของเสด็จพ่อ”
ต่อให้ซวนหยวนจือทำเรื่องที่ผิดมากมายเพียงใด ทว่าคนตายไปแล้วก็ไม่อาจทำอะไรได้อีก ทุกสิ่งดับสูญไปสิ้น ในฐานะที่เขาเป็นถึงฮ่องเต้ อย่างไรเสียพิธีศพก็ต้องจัดให้สมเกียรติ
“อืม” มู่เฉียนซีรับคำก่อนจะหันไปถามองครักษ์เงาของนาง “มู่อีกับคนอื่น ๆ จะมาถึงเมื่อไหร่หรือ ?”
“พี่ใหญ่จะมาถึงในวันพรุ่งขอรับท่านผู้นำ”
“แจ้งไปยังหอหมอปีศาจ สำนักตานจี้ และสำนักตานซินว่าให้ส่งคนมารักษาอาการบาดเจ็บของเหล่าทหาร เตรียมสมุนไพรวิญญาณและยาวิญญาณมาให้พร้อม ศึกครั้งนี้แคว้นจื่อเยี่ยจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด”
“ขอรับ!”
“และแจ้งไปยังเยวี่ยเจ๋อให้เตรียมเสบียงทหารให้พร้อมด้วย”
“ขอรับ!”
เสบียงพร้อม ยาวิญญาณพร้อม ด้วยการสนับสนุนของตระกูลมู่ อุปกรณ์การสู้รบของทหารจึงสมบูรณ์แบบครบถ้วนทั้งหมด
เวลานี้เหล่าทหารนั้นรู้ดีว่าตระกูลมู่ร่ำรวยล้นฟ้าเพียงใด มีตระกูลมู่คอยสนับสนุนเช่นนี้ ต่อให้ศัตรูจะมีจำนวนมากกว่า แต่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้
ซวนหยวนชิงอวิ๋นกับซวนหยวนหลี่เทียนจัดการเรื่องพิธีศพของซวนหยวนจือเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากจบศึกครั้งนี้ก็จะกลับไปทำพิธีฝังอย่างเป็นทางการ
ซวนหยวนชิงอวิ๋น “เสด็จพ่อทรงสวรรคตไปแล้ว กองทัพของเราขาดผู้นำ ทุกอย่างให้ขึ้นอยู่กับเฉียนซี เจ้าจะว่าอย่างไร ?”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจเล็กน้อย “ขะ… ข้า… ข้าไม่รู้เรื่องกลศึก”
“แต่ตอนนี้เจ้าเป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับทหารได้ดีที่สุด” ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าว
แม่ทัพเยวี่ย “ข้าก็คิดเช่นนั้น ตอนนี้ทัพของเราไม่ขาดคนสั่งการ แต่ขาดผู้นำที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของทหาร”
“ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะเป็นผู้นำชั่วคราวก่อนก็ได้”
……
เช้าวันรุ่งขึ้น แคว้นชิงยกทัพมาโจมตีตั้งแต่เช้าตรู่ โชคดีที่มู่เฉียนซีเตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ได้ทัน และแล้วศึกรบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ทหารของแคว้นชิงไม่เหมือนครั้งก่อน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นหุ่นเชิดที่ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด
ต่อให้พวกแคว้นจื่อเยี่ยมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่ง แต่ทหารของแคว้นชิงไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น พวกเขาวิ่งออกมาด้านหน้าทีละแถวเพื่อปิดช่องโหว่และเตรียมป้องกันอย่างสมบูรณ์แบบ
ขณะเดียวกันฉินป้าตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “ฆ่ามัน!”
“โอวหยางหว่านสตรีน่ารังเกียจใช้กู่ควบคุมทหารมากมาย นางบ้าคลั่งโดยแท้” มู่เฉียนซีพึมพำก่อนจะออกคำสั่ง “สกัดเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรต้องสกัดเอาไว้ให้ได้”
“สกัดเอาไว้ให้ได้!”
ตราบใดที่สกัดเอาไว้ได้และรอให้กองกำลังสมทบมาถึง เช่นนั้นก็ยังพอมีหวัง
“ผู้นำตระกูล ข้าน้อยมาสาย ต้องขออภัยด้วยขอรับ” ในที่สุดมู่อีและคนอื่น ๆ ก็มาถึงแล้ว
ร่างชุดม่วงพุ่งพรวดไปที่มู่อี มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มู่อี พวกเจ้าตามข้ามา”
โอวหยางหว่านเห็นมู่เฉียนซีเดินออกไปเช่นนี้ นางก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ผู้นำคนก่อนของพวกเจ้า เมื่อวานก็โดนข้าฆ่าตายไปกับมือ วันนี้พวกเจ้าไม่มีทางรับมือเอาไว้ได้ โอ้! และดูเหมือนว่าผู้นำคนที่สองของพวกเจ้าจะยอมจำนนเสียแล้ว พวกเจ้าแน่ใจรึว่าจะสู้ต่อ ?”
มู่สือซานกล่าว “เจ้ามันเป็นนางปีศาจ! ใช้กู่ควบคุมทหาร ผู้นำตระกูลของข้าไม่มีทางยอมจำนนเป็นอันขาด”
ซวนหยวนชิงอวิ๋น “ข้าเชื่อในตัวเฉียนซี นางไม่มีวันถอยเด็ดขาด!”
“ทุกคน สกัดกั้นเอาไว้ให้ได้!”
“พวกเราเชื่อในตัวผู้นำตระกูลมู่ ฆ่ามัน!”
หากผู้นำตระกูลมู่คิดจะยอมจำนนตั้งแต่แรก นางก็คงไม่ใช้เงินจำนวนมหาศาลและเตรียมยาวิญญาณที่ดีที่สุดให้พวกเขา อีกทั้งยังมอบอาวุธและชุดเกราะที่ดีที่สุดให้พวกเขา ไหนจะอีกหลาย ๆ อย่าง…
“ฆ่ามัน!”
การยั่วยุของโอวหยางหว่านมิได้ทำให้พวกเขาสูญเสียขวัญกำลังใจลงเลย อีกทั้งยังทำให้พวกเขามีแรงฮึกเหิมเพิ่มขึ้น
ทางด้านหลังของสนามรบฝ่ายของทัพจื่อเยี่ย มู่เฉียนซีนำสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในแหวนมังกรเทพวารีออกมา นางกล่าวว่า “พวกเจ้ารีบเลือกสัตว์เหล่านี้แล้วรีบทำพันธสัญญา เสร็จแล้วรีบออกไปสมทบกับเหล่าทหารต่อต้านศัตรู”