เมื่อพวกเขาเดินลึกเข้าไปในสํานักตานจี้ ชายชุดขาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขา ชายผู้นั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย กล่าวว่า “อา… ผู้นำตระกูลมู่ ในที่สุดเจ้าก็มา ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว”
มู่เฉียนซีสังเกตว่าแขนของเขาขาดข้างหนึ่ง ดวงตาของนางฉายแววอันตรายทันที
“อวิ๋นซินหราน เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงกล้าปรากฏตัวต่อหน้าข้า ?”
ความเย่อหยิ่งของมู่เฉียนซีทําให้อวิ๋นซินหรานอยากจะฉีกหน้านางออกเป็นชิ้น ๆ สตรีผู้นี้ทำลายกลิ่นอายแห่งความเป็นอัจฉริยะของเขา ทำลายร่างกายที่สมบูรณ์ของเขา ทำลายการปลอมตัวที่สมบูรณ์แบบของเขา
เขาเกลียดนาง! เกลียดนัก!
อวิ๋นซินหรานกล่าวเสียงเย็นชา “ผู้นำตระกูลมู่ วันนี้เจ้ามาที่นี่อย่าได้คิดจะจากไปโดยที่ยังมีชีวิต”
มู่เฉียนซีกล่าวโต้ “อวิ๋นซินหราน นอกจากซ่อนตัวในที่มืดและใช้แมลงน่าขยะแขยงนั่น เจ้ายังมีวิธีน่ารังเกียจอื่นอีกหรือไม่ ?”
อวิ๋นซินหรานกล่าวเสียงเย็นชา “อาจารย์ ให้พวกเขาลงมือเลย ฆ่านางบ้ามู่เฉียนซีนี่เสียเถอะ!”
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เวลานี้ ยอดฝีมือของสํานักตานจี้ทั้งสํานักได้ทุ่มกำลังออกมา นําโดยผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสํานักตานจี้ ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเสียงเข้ม “ลงมือ!”
น่าแปลกที่ในตอนนี้หัวหน้าสํานักตานจี้—ตานคุน กลับเชื่อฟังคําสั่งของผู้อาวุโสสูงสุด ขณะที่เหล่าผู้อาวุโสของสํานักตานจี้ ยังคงเหลือช่องว่างสำหรับโจมตีพวกเขา
อวิ๋นซินหรานกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ท่านเจ้าสํานัก หากท่านไม่อยากตาย ทางที่ดีควรพยายามอย่างสุดกําลังเพื่อฆ่ามู่เฉียนซี หากทำไม่สำเร็จ ข้าเชื่อว่าพวกท่านจะต้องตายอย่างน่าสังเวช”
อวิ๋นคุนโกรธจัด เจ้าพวกอกตัญญู!
ตานคุน “สาวน้อย วันนี้ถ้าเจ้าไม่ตาย พวกข้าก็ต้องตาย!”
“พวกเจ้ากล้ารึ ?”
สิ้นเสียงมู่เฉียนซี บุคคลระดับจักรพรรดิกรูกันเข้าไปหาพวกเขา ยังไม่พอ องครักษ์เงาตระกูลมู่ในเวลานี้ก็ปลดปล่อยกลิ่นอายของระดับจักรพรรดิออกมา ยาวิเศษช่วยพวกเขาให้เพิ่มระดับขึ้น แต่พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อฝึกฝน เช่นนั้นจึงสามารถใช้พวกมันเป็นเป้าได้พอดี
— ตูม! ตูม! —
พวกเขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งขององครักษ์เงาตระกูลมู่ คนของสํานักตานจี้ทั้งหมดตะลึงลานไปตามกัน คนพวกนี้จากตระกูลมู่ เก่งกาจนัก!
สวรรค์โปรดช่วยเหลือด้วย! เหตุใดจึงมีระดับจักรพรรดิมากมายเช่นนี้ ต่อให้เป็นจักรพรรดิวิญญาณ จักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่ง นั่นก็ถือว่าเป็นถึงระดับจักรพรรดิ
ระดับจักรพรรดิของฝ่ายตรงข้ามสูงกว่าระดับราชาของพวกตน การต่อสู้ครั้งนี้ เห็นได้ชัดแล้วว่าไม่สามารถสู้ได้
บัดซบ! นี่มันปีศาจแล้ว องครักษ์เงาตระกูลมู่จะร้ายกาจถึงเพียงนี้ได้อย่างไร ? ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดสํานักอัสนีลึกลับถึงได้ถูกชิงเก้าสายฟ้าลี้ลับไป
อวิ๋นซินหรานโกรธจนใบหน้าเขียวคล้ำ เขาไม่เคยคิดเลยว่าความแข็งแกร่งของตระกูลมู่จะเพิ่มขึ้นถึงขั้นนี้ เจ้าขยะเหล่านี้ไม่สามารถฆ่ามู่เฉียนซีได้ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องลงมือด้วยตัวเองเสียแล้ว
ทันใดนั้นใบหน้าสง่างามของอวิ๋นซินหรานเต็มไปด้วยแมลงกู่สีดํา ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเป็นระดับจักรพรรดิในทันใด
ยิ่งกว่านั้น เขายังเป็นระดับจักรพรรดิวิญญาณระดับสาม ซึ่งเทียบเท่ากับความแข็งแกร่งของหัวหน้าสํานักอัคคีผลาญฟ้าผู้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแคว้นชิง
เขาที่มีความแข็งแกร่งระดับนี้ พุ่งตรงไปที่มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาลงมือ มู่เฉียนซีจะต้องตายอย่างแน่นอน
“เสี่ยวหง อู๋ตี้ ออกมา!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับอวิ๋นซินหรานที่มีความแข็งแกร่งถึงระดับจักรพรรดิ มู่เฉียนซีจะไม่รับมือด้วยความแข็งแกร่งจอมภูตระดับเจ็ดของนางอย่างแน่นอน
“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้า มาแล้ว! เจ้าแมลงน่าขยะแขยง ข้าจะทําลายเจ้าในนามของเจ้านายข้า” ภาพเงาสีขาวแวบเข้ามา กรงเล็บอู๋ตี้พลันพุ่งเข้าใส่อวิ๋นซินหรานอย่างรุนแรง
“พรวด!”
ขณะนั้นผิวของเขาถูกกรงเล็บของแมวตัดผ่าน ทว่าในเวลาเดียวกัน แมลงสีดํานับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าไปหามัน
“เหมียว! ช่วยข้าด้วย แมลงดำ ๆ นี่น่ารังเกียจนัก เมี๊ยวววว!” อู๋ตี้ร้องเสียงหลง
เสี่ยวหงกล่าวต่อว่า “ไม่ได้เรื่องแท้ ๆ เจ้าแมวโง่เอ๊ย!”
เปลวไฟสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่เสี่ยวหงตะโกนว่า “ไฟเผาสวรรค์!”
— พรืด! พรืด! —
อวิ๋นซินหรานรีบหลบหลีก เขาโบกมือก่อนจะกล่าวอย่างเย็นชา “มู่เฉียนซี สัตว์พันธสัญญาของเจ้าน่ารําคาญเกินไป เช่นนั้นให้สัตว์พันธสัญญาของข้าไปเล่นเป็นเพื่อนเจ้าตัวเล็กของเจ้าสักหน่อยดีกว่า”
อวิ๋นซินหรานยกมือขึ้น วิญญาณกู่สีดําขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นข้าง ๆ เขา “ราชากู่ กลืนหมูตัวนั้นลงไปเสียเดี๋ยวนี้!”
เจ้าแมลงราชากู่ขดตัวกลมเสมือนลูกชิ้นขนาดใหญ่ มันพุ่งเข้าหาเสี่ยวหงราวกับสายฟ้าฟาด เสี่ยวหงโกรธมาก มีหรือมันจะยอมแพ้พ่าย เปลวไฟสีแดงเข้มที่ดูหิวกระหายของมันพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง
“เหอะ! เจ้าเป็นเพียงแมลงดําตัวเล็ก ๆ เท่านั้น คิดว่าข้าจะไม่กล้าฆ่าเจ้ารึ ?”
ร่างสีม่วงสั่นสะท้าน กระบี่มังกรเพลิงและเข็มยาของมู่เฉียนซีโจมตีในเวลาเดียวกันโดยมีอู๋ตี้คอยช่วยอยู่ด้านข้าง
จอมภูตและสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งเผชิญหน้ากับอวิ๋นซินหราน จักรพรรดิวิญญาณระดับสาม การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด
มู่เฉียนซีกล่าววาจาเย็นชา “ฝีปากกล้านักเจ้าแมลงกู่น่าเกลียด ลองเจอกับยาฆ่าแมลงของข้าเสียก่อนเถอะค่อยเอ่ยปาก”
เมื่อรู้ว่ามีนิกายไป๋กู่ที่น่ากลัวอยู่ มู่เฉียนซีจัดสรรยาฆ่าแมลงจํานวนมากเตรียมมาเผื่อ ในเมื่ออวิ๋นซินหรานต้องการเล่นกับนาง เช่นนั้นนางก็จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเขาจนจบเอง
“บุปผาหลั่งสายฝน!”
เมื่อยาฆ่าแมลงเหล่านั้นตกลงมากระทบร่างอวิ๋นซินหราน ร่างที่บวมขึ้นของอวิ๋นซินหรานพลันเหี่ยวเฉาลง วิญญาณกู่ที่อยู่ในร่างกายของเขาถูกฆ่าตายทันที
มู่เฉียนซียิ้มพึงพอใจ กล่าวว่า “ดูเหมือนว่ายาฆ่าแมลงของข้าจะมีประโยชน์อย่างมาก”
— ปัง! ปัง! ปัง! —
ยาฆ่าแมลงของมู่เฉียนซีนั้นแข็งแกร่งมาก แม้ว่าความแข็งแกร่งของอวิ๋นซินหรานจะทะลุระดับจักรพรรดิ แต่กลับถูกมู่เฉียนซีและอู๋ตี้จัดการอย่างน่าสังเวช
— ฟึ่บ! —
กรงเล็บแมวกวาดบนร่างอวิ๋นซินหรานเป็นรอยแผลลึกมองเห็นถึงกระดูก!
อวิ๋นซินหรานคงเข้าใจว่านางไม่ต้องการชีวิตของตัวเอง ทว่ามู่เฉียนซีไม่สนใจ นางจะทำให้เขาดูเองว่านางทำอะไรได้ นางระเบิดบาดแผลด้วยยามากมาย ทั้งยังฉีดยาฆ่าแมลงหลายชนิด ทั้งหมดนี้ใช้เพื่อจัดการกับแมลงโดยเฉพาะ
พิษกู่เป็นพิษชนิดหนึ่ง อวิ๋นซินหรานกล้าเล่นพิษกู่ต่อหน้าหมอปีศาจและเจ้าของหม้อเทพปาฮวางชิงมู่อย่างนาง ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใดก็ต้องพินาศ!
เมื่อยาของมู่เฉียนซีเริ่มทํางานอย่างสมบูรณ์ วิญญาณกู่เหล่านั้นในร่างอวิ๋นซินหราน ตื่นตระหนกและเริ่มปะทะกับร่างของเขา
“อ๊าก! อ๊าก! อ๊ากกกก!” อวิ๋นซินหรานร้องโหยหวนราวกับกําลังดิ้นรนอยู่ในนรก
มู่เฉียนซีแค่นเสียง “หึ! ด้วยร่างกายที่เลี้ยงกู่ เจ้าน่าจะเดาได้ว่ามันจะลงเอยเช่นนี้ เจ้าควรพอใจกับมัน
“ไฟเผาสวรรค์!” ในตอนนั้นเอง เสี่ยวหงรวบรวมพลังทั้งหมดพุ่งเข้าใส่แมลงสีดําตัวใหญ่นั้น มันตะเบ็งเสียงดัง “เจ้าแมลงน่าขยะแขยง! ไปตายซะ!”
— ตูม! —
แมลงสีดําตัวใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงของเสี่ยวหง มันถูกเผาจนเกลี้ยง
— พรืด! พรืด! —
สัตว์พันธสัญญาถูกทําลาย ซ้ำร้ายอวิ๋นซินหรานยังถูกโจมตี เคราะห์ซ้ำกรรมซัดโดยแท้! เขาตะโกนออกไป “ท่านอาจารย์ อวิ๋นคุน ชะ… ช่วยข้าด้วย…”
“อวิ๋นคุน หากข้าตายเจ้าก็อย่าได้คิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ อย่าลืมว่าพวกเจ้าถูกข้าวางยาพิษกู่ หากข้าตาย พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย!”
สีหน้าอวิ๋นคุนแปรเปลี่ยนทันที เขารีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทว่าเขามิได้ลงมือกับมู่เฉียนซี กลับกล่าวอย่างร้อนรน “ผู้นำตระกูลมู่ อย่าฆ่าเขาเลย ถือว่าข้าขอร้องท่าน อย่าฆ่าเขาเลย… พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินเจ้า ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของหมาป่าตาขาวผู้นี้ ก็จริง ชายผู้นั้นควรตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากเขาตาย พวกเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไร ผู้นำตระกูลมู่ ตราบใดที่เจ้าไม่ฆ่าเขาและปล่อยให้พวกข้ามีชีวิตอยู่ จะให้พวกข้าทำอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น”
“ใช่! ท่านผู้นำตระกูลมู่โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย อย่าฆ่าอวิ๋นซินหรานเลย!”
นอกจากผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว สำนักตานจี้ทั้งหมดล้วนถูกอวิ๋นซินหรานวางยาพิษกู่ พวกเขากลัวว่ามู่เฉียนซีจะสังหารอวิ๋นซินหราน และพวกเขาจะต้องตายไปพร้อมกับเขา
.
Related