มู่เฉียนซีวิ่งไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เสือดาวหิมะเหล่านั้นก็รวมตัวกันล้อมนางไว้ นางตกอยู่ภายในวงล้อมของกลุ่มเสือดาวหิมะนี้ด้วยความตื่นตระหนก
กรงเล็บอันแหลมคมข่วนเข้าที่แขนของมู่เฉียนซี เลือดสีแดงสดไหลออกมา แขนเสื้อนางในตอนนี้เต็มไปด้วยโลหิตแดงฉานดูน่าเวทนา
อู๋ตี้กล่าวอย่างตกใจ “นายท่าน! นายท่านได้รับบาดเจ็บ”
มู่เฉียนซีรีบนำเอาเข็มฉีดยา ฉีดยาห้ามเลือดให้ตนเองทันที นางไม่ทันมีเวลาเจ็บกับเข็มยานั้น ก็ต้องหลบหลีกการโจมตีของกลุ่มเสือดาวหิมะอีกครั้ง
“โฮกกกก!”
เสือดาวหิมะพรวดเข้ามาหานางอีกครั้ง นางกลิ้งตัวหลบกรงเล็บของเสือดาวหิมะอย่างรวดเร็ว รอยเลือดสีแดงสดทิ้งร่องรอยเปื้อนลงบนหิมะขาว ๆ นั้นอย่างชัดเจน เมื่อเสี่ยวหงเห็นเช่นนี้ ดวงตาลุกเป็นไฟขึ้นมาทันที
“พวกเจ้า ตายเสียเถอะ!” เสี่ยวหงพ่นเปลวไฟออกมาอย่างรุนแรง
“โฮก โฮก!” เสือดาวหิมะที่ใช้ชีวิตบนหิมะคำรามออกมาทันทีเมื่อเจอกับเปลวไฟร้อน ๆ
มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ ยาห้ามเลือดของนางก็ถูกใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือย บนพื้นหิมะเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดหยดเป็นหยด ๆ ราวกับดอกเหมยแดงแลดูสวยงามอย่างผิดแปลก มันคือความสวยงามที่เจ็บปวด!
อาถิงเป็นกังวลจึงกล่าวถามขึ้นว่า “เจ้า… เจ้ายังไหวหรือไม่ ?”
มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น นางกล่าวว่า “ข้าไหว อาถิง เจ้าดูถูกข้าเกินไปแล้ว มันยังไม่ถึงขีดสุดของข้า หากข้าไม่ไหวจริง ๆ ข้าจะให้เจ้าลงมือเอง”
อาถิงยิ้มมุมปากพลางกล่าว “เหอะ! เจ้าก็ยังคงเป็นหญิงโง่ ตัวเจ้าเองยังไม่รักษาร่างกายตัวเอง ข้าเบื่อจะใส่ใจเจ้าแล้ว เชิญเจ้าค่อย ๆ ต่อสู้ไปก็แล้วกัน!”
— เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! —
เสียงดาบมังกรเพลิงคำรามและเสียบแทงเข้าร่างของเสือดาวหิมะตัวหนึ่งอย่างแรง แต่มีเสือดาวหิมะอีกจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา ทว่ามีเข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปที่ดวงตาของพวกมันด้วยเช่นกัน ดวงตาของพวกมันเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด มู่เฉียนซีนางรู้ดี
การต่อสู้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนเสือดาวหิมะเหล่านี้ฆ่าอย่างไรก็ฆ่าไม่หมด แม้แต่สัตว์วิญญาณอย่างอู๋ตี้และเสี่ยวหงสุดท้ายยังรับไม่ไหว พวกมันทั้งสองก็ได้รับบาดเจ็บด้วยเช่นกัน
มู่เฉียนซียังกัดฟันอดทนสู้ต่อในสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ ภายในสถานการณ์อันตราย นางทำได้เพียงเค้นศักยภาพของตัวเองออกมาสู้ให้ถึงที่สุด แต่อย่างไรเวลานี้นางอ่อนแรงลงแล้ว โชคร้าย! ยังมีเสือดาวหิมะจำนวนมากที่พุ่งเข้าหานาง แม้จะมีอู๋ตี้และเสี่ยวหงที่รีบเข้ามาช่วยปกป้องนายท่านของพวกมัน ก็ยังไม่สามารถสู้ความเร็วของเสือดาวหิมะเหล่านั้นได้
ไม่นานนัก มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นอย่างอ่อนแรง “อาถิง ลงมือ…”
“หยุดเวลา!” เสียงอาถิงดังก้องขึ้นทันที ทว่ามันสามารถหยุดเวลาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น มู่เฉียนซีรีบอุ้มอู๋ตี้และเสี่ยวหงวิ่งหนีออกไปจากวงล้อมของเสือดาวหิมะเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่ร่างของนางวิ่งพรวดไปนั้น เลือดสีแดงสดไหลหยดลงบนพื้นหิมะไปตลอดทาง กว่าจะออกไปจากวงล้อมของเสือดาวหิมะได้มิใช่เรื่องง่ายเลย เพียงไม่นานเสียงคำรามของกลุ่มเสือดาวหิมะก็ดังขึ้นตามหลังในทันที
“โฮกกกก!”
มู่เฉียนซีใกล้จะหมดพลังเต็มที เสือดาวหิมะยังคงพุ่งเข้าหานาง ขาของนางมิอาจทรงตัวอยู่ดี ๆ ได้ จากนั้นร่างของนางก็ตกลงไปจากหน้าผา
“นายท่าน!” อู๋ตี้และเสี่ยวหงตะโกนเรียกอย่างตระหนกตกตื่นออกมาพร้อมกัน
ในขณะที่ร่างของมู่เฉียนซีกำลังตกลงไปจากหน้าผาสูง ทันใดนั้นร่างในชุดดำร่างหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้านาง กอดนางเอาไว้ด้วยมือเดียว
อู๋ตี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่ามันตะคอกอย่างเย็นชา “เหอะ! เจ้านี่เอง”
เสี่ยวหงกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “นายท่านจิ่วเยี่ย ในที่สุดท่านก็ปรากฏตัวเสียที”
— ตุบ! ตุบ! ตุบ! —
จากนั้นพวกมันก็เป็นลมล้มลงด้วยความเหนื่อยล้า พวกมันอดทนมานานแล้ว
จิ่วเยี่ยกอดร่างของมู่เฉียนซีขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง เสือดาวหิมะที่พุ่งเข้ามาเมื่อครู่ตกใจล้มลงไปทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายที่ท่วมท้นจากร่างซวนหยวนจิ่วเยี่ย
จากนั้นในชั่วพริบตา เสือดาวหิมะหายไปทันทีด้วยพลังอันตรายของจิ่วเยี่ย เขาใช้พลังแยกลมหิมะบริเวณนั้นออกไปทั้งหมด ไม่นานนักพื้นที่ทั้งหมดก็อบอุ่นขึ้นมาทันใด
เมื่อจิ่วเยี่ยเห็นบาดแผลบนร่างกายของนาง ดวงตาคู่สีฟ้าของเขาฉายแววอันตรายชนิดที่ว่าผู้ใดก็มิอาจเทียบได้ เขาเกรี้ยวกราด ทว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรักษาสตรีที่อยู่ในอ้อมกอดผู้นี้ก่อน
จิ่วเยี่ยทำแผลให้มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
— แควก! —
เสื้อผ้าของนางถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ โดยที่ไม่สนใจความงามที่อยู่ตรงหน้าเลย จิ่วเยี่ยเริ่มทำแผลให้นาง ทุกบาดแผลของนางถูกจิ่วเยี่ยปฏิบัติดูแลรักษาอย่างพิถีพิถัน เขาเกรงว่าหากนางตื่นขึ้นมาจะรู้สึกตกใจ
หลังจากที่จิ่วเยี่ยทำแผลให้นางเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถอดเสื้อคลุมสีดำของตนเองออกมาคลุมร่างนางเอาไว้
ในพื้นที่ของจิ่วเยี่ยนั้น ไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ของสตรีเลย ดูเหมือนว่าคราหน้าต้องให้จื่อโยวส่งเสื้อผ้าอาภรณ์ของสตรีมาให้บ้างแล้ว จื่อโยวน่าจะเป็นผู้ที่รู้ดีว่าสตรีชอบสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์เช่นไร
เวลานี้มู่เฉียนซีรู้สึกว่าบริเวณรอบ ๆ เงียบสงบมาก และรู้สึกว่าร่างของตนกำลังอยู่ใกล้กับเตาอุ่นสบายหน่อย ๆ ร่างของนางค่อย ๆ ถูไถกับความอบอุ่นนั้น จากนั้นสองมือนางก็กอดเอวของจิ่วเยี่ยไว้เพื่อให้รู้สึกอบอุ่นมากขึ้นอีก
ตั้งแต่ที่นางก้าวเท้าเข้ามาในถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ นางไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเท่านี้มาก่อนเลย นางซุกเข้าไป ร่างของจิ่วเยี่ยแข็งทื่อไปทันที ทว่าเขาก็ไม่ได้หยุดห้ามการกระทำของนาง อีกทั้งยังกอดนางไว้เช่นเดิม
เวลาผ่านไปเพียงครึ่งวันเท่านั้น ด้วยยาสมุนไพรวิญญาณระดับสูงของจิ่วเยี่ย ในที่สุดบาดแผลของมู่เฉียนซีหายกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
พลังฟ้าดินหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของมู่เฉียนซี ทำให้พลังของนางนั้นฟื้นคืนมาได้อย่างรวดเร็ว ขนตาเป็นแพดุจดั่งปีกแมลงงามขยับเล็กน้อย เปลือกตาสีดำเข้มคู่นั้นก็ค่อย ๆ เปิดขึ้น
ก่อนที่นางจะลืมตามาเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร ด้วยลมหายใจที่คุ้นเคย นางก็รู้และมั่นใจว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้านางตอนนี้นั้นคือจิ่วเยี่ยอย่างแน่นอน
จิ่วเยี่ยกล่าวถามนางด้วยเสียงอันเบา “ยังเจ็บอยู่หรือไม่ ?”
“ข้าไม่เป็นไรแล้ว!” มู่เฉียนซีกำลังจะลุกขึ้น ทันใดนั้นเสื้อคลุมยาวสีดำที่ห่อหุ้มร่างนางก็ร่วงตกลงบนพื้น ดวงตาของนางเบิกกว้างแทบจะถลนออกมา
“อ๊า!”
“จิ่วเยี่ย! เจ้า…”
จิ่วเยี่ยหยิบเสื้อคลุมยาวสีดำนั้นขึ้นมาคลุมร่างของนางไว้อีกครั้งและคว้าร่างบางมากอดไว้ “เจ้าบาดเจ็บอยู่ อย่าขยับสิ!”
มู่เฉียนซีรู้สึกราวกับมีอีกาจำนวนนับไม่ถ้วนมาบินอยู่บนศีรษะนาง นางสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย นั่นไมใช่ประเด็นที่ข้าตกใจ”
จิ่วเยี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาถาม “ประเด็นคืออะไรรึ ?”
มีร่องรอยของความฉงนสงสัยเกิดขึ้นภายในน้ำเสียงอันเย็นชานี้
มู่เฉียนซีอธิบาย “ประเด็นก็คือประเด็น และประเด็นสำคัญคือเจ้าถอดเสื้อผ้าของข้าออกหมด เจ้าเห็นทั้งร่างข้าหมดแล้ว”
จิ่วเยี่ยมองมู่เฉียนซีอย่างลึกซึ้ง “เจ้ามีแผลทั้งตัว…”
ดวงตาสีฟ้าที่ไม่เคยมีอารมณ์เหมือนมนุษย์ เวลานี้กลับมองนางด้วยแววตาตำหนิ นี่ถึงกับทำให้มู่เฉียนซีไม่สามารถปรับตัวได้ภายในชั่วขณะ
นางบ่นพึมพำ “ทำอย่างไรได้ เวลานั้นข้าโดนบีบบังคับให้มาที่นี่ ข้าไม่รู้ว่ามันจะเป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดเช่นนี้”
คำพูดนี้ของมู่เฉียนซีทำให้จิ่วเยี่ยแผ่จิตสังหารออกมา ในที่สุดทั้งสองก็ได้เปลี่ยนหัวข้อการสนทนา จิ่วเยี่ยค่อย ๆ ดึงเสื้อคลุมยาวสีดำนั้นออก ในขณะเดียวกันมู่เฉียนซีก็ดึงมันไว้แน่น
“จิ่วเยี่ย เจ้าจะทำอะไร ?!”
“บาดแผลของเจ้าดีขึ้นแล้ว ข้าจะทำแผลใหม่ให้” จิ่วเยี่ยกล่าวเรียบ ๆ
“ไม่จำเป็น เจ้าอย่าลืมสิว่าข้าคือหมอปีศาจ ข้าทำแผลเองได้!”
แต่ไม่ว่าอย่างไรจิ่วเยี่ยก็ไม่ยอมถอยเลย “ข้าเป็นคนพัน ข้าก็ต้องเป็นคนแกะออก”
“หากข้าไม่ยอมล่ะ ?!”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
หิมะลอยร่วงหล่นลงมาอย่างช้า ๆ ทั้งสองยืนสบตากัน ดวงตาของจิ่วเยี่ยปรากฏแสงเย็นวาบอันตรายขึ้นมา
“มู่เฉียนซี อย่าบังคับให้ข้าต้องใช้กำลัง”