ร่างในชุดสีขาวพระจันทร์เดินเข้ามาขวางหน้ามู่เฉียนซีไว้ “เหล้าจอกนี้ข้าดื่มแทนเฉียนซีเอง เจ้าจะว่าอย่างไร ?”
“ช้าก่อน! แผลของเจ้ายังไม่หายดี จะดื่มได้อย่างไร ?” ซวนหยวนหลี่เทียนรีบกล่าวแทรกขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมระคนไม่พอใจ จากนั้นก็หันไปกล่าวกับมู่เฉียนซีด้วยเสียงต่ำลึก “มู่เฉียนซี มารยาเจ้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก ยั่วยวนเยวี่ยเจ๋อกับราชาโอสถไม่พอ ยังทำให้อวิ๋นอ๋องบุรุษผู้นิ่งสงบดั่งสายน้ำเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้”
ทันใดนั้น มู่หรูอวิ๋นเดินเข้าไปพิงร่างซวนหยวนหลี่เทียน นางกล่าวพลางทำท่าทีออดอ้อน “ท่านพี่หลี่เทียน บาดแผลยังไม่หายดีเหตุใดถึงออกมาเดินเยี่ยงนี้เล่า ข้าคารวะให้ซีเอ๋อร์จอกนี้เรียบร้อยแล้ว ข้าจะพาท่านกลับไปพัก”
มู่หรูเหยียนกล่าว สีหน้านางกลัดกลุ้มเล็กน้อย “ซีเอ๋อร์ ถึงอย่างไรวันนี้ก็เป็นวันที่น่ายินดี เจ้าดื่มรับคารวะจากอวิ๋นเอ๋อร์สักจอกเถอะ ขืนชักช้ากว่านี้ ประเดี๋ยวร่างกายหลี่อ๋องเห็นทีจะไม่ไหว”
มู่เฉียนซีค่อย ๆ ยกจอกเหล้าขึ้นจรดริมฝีปากอย่างช้า ๆ “อา… คำพูดนี้ของเจ้าดูเหมือนว่าหากข้าไม่ดื่ม อาการหลี่อ๋องจะกลายเป็นความผิดของข้า เช่นนั้นข้าคงต้องดื่ม”
มู่หรูอวิ๋นปั้นหน้าจริงจัง กล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ ข้าขอคารวะเจ้าหนึ่งจอก”
หลังจากที่ทั้งสองกระดกเหล้าจอกนี้หมด มู่หรูอวิ๋นพาซวนหยวนหลี่เทียนกลับไปพักอย่างเบิกบานสราญอารมณ์ นางนั้นจัดเป็นสตรีผู้หนึ่งที่มีพรสวรรค์ จัดเป็นอัจฉริยะ ร่างของนางรายล้อมไปด้วยพลังและพรสวรรค์ด้านต่าง ๆ มากมาย
ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าวกับมู่เฉียนซี “เฉียนซี ข้ารู้ว่าเจ้ามีวิธีในการจัดการยาพิษ ทว่าเจ้าไม่ควรดื่มอะไรที่มีพิษมั่วซั่วเช่นนี้”
มู่เฉียนซี “อืม ไหวพริบเจ้ายอดเยี่ยมยิ่งนัก เจ้ารู้ว่ามีบางอย่างผิดแปลกในเหล้าจอกที่นางนำมาให้ข้ากระดกดื่มนั่น”
ซวนหยวนชิงอวิ๋นกล่าว “ไม่ ข้าดูไม่ออก แต่เหล้าที่นางยื่นให้เจ้า ชัดเจนว่านางคงไม่ได้มีเจตนาดี ข้าอาศัยอยู่ในวังหลวงมานาน อุบายเช่นนี้ข้าเห็นมานักต่อนัก”
มู่เฉียนซีพยักหน้า กล่าวว่า “เจ้าเดาถูกแล้ว เหล้าในจอกนั่นมีบางอย่างผิดแปลก ข้าหาใช่สตรีโง่เง่าจึงเอาซวนหยวนหลี่เทียนมาดึงดูดความสนใจจากนางแล้วถือโอกาสนั้นสับเปลี่ยนเหล้า คนที่ดื่มเหล้าผิดแปลกนั่นไม่ใช่ข้า”
ซวนหยวนชิงอวิ๋นยิ้มอย่างขบขัน “ดูเหมือนว่าการเป็นห่วงของข้าจะไร้ประโยชน์ หากมีคนหมายจะวางยาพิษเจ้าสุ่มสี่สุ่มห้า มีหวังกรรมตามสนองไม่ต้องรอช้า”
มู่เฉียนซี “งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ช่างน่าเบื่อนัก จัดขึ้นมาให้เดินไปเดินมาก็เท่านั้น ว่าแต่บาดแผลของเจ้าไม่น้อยไปกว่าหลี่อ๋องเลย ข้าว่าเจ้ารีบกลับไปพักผ่อนเสียดีกว่า”
ประกายแสงเย็นเยียบวาบผ่านดวงตานาง “ส่วนข้า ข้าเองก็อยากให้มีคนมาบอกว่าอยากให้ข้ากลับไปเร็ว ๆ เช่นกัน”
……
ภายในโรงเตี๊ยม
มู่หรูอวิ๋นถือน้ำชาไปให้ซวนหยวนหลี่เทียน นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านพี่หลี่เทียนดื่มชาสักหน่อยเถอะ” หลังจากที่ซวนหยวนหลี่เทียนดื่มชาไป ไม่นานนักเริ่มง่วง เขาเอนตัวลงนอนทันที
มู่หรูอวิ๋นเดินออกมาจากห้อง นางไปเคาะประตูอีกห้องหนึ่งเบา ๆ
— ก๊อก ๆ ๆ —
อิ๋นเจี้ยนเปิดประตูออกมา เห็นสตรีผู้งดงามปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาเข้ามาโอบกอดก่อนจะพานางเข้าไปในห้อง
“แม่นาง แม่นางมาหาข้าเช่นนี้ แสดงว่าแม่นางยอมแล้วใช่หรือไม่ ?”
มู่หรูอวิ๋นรู้สึกอัดอัด ร่างของนางสั่นเล็กน้อย ใบหน้าแดงก่ำ นางกล่าวอย่างเขินอาย “ข้า… อา… ข้ายังไม่ได้เตรียมการอันใดมาเลย ว่าแต่คืนนี้ท่านรอเจอข้าก่อนเที่ยงคืนได้อย่างไร ?”
นางไม่ได้รอเขาตอบ ยัดกล่องใบหนึ่งใส่ในมืออิ๋นเจี้ยน “นี่เป็นของที่ข้าให้คนไปหามาให้ คุณชายอิ๋นอย่าลืมใช้มัน”
อิ๋นเจี้ยนยิ้มมีเลศนัย “แม่นางช่างรอบคอบยิ่งนัก คืนนี้ข้าจะทำให้แม่นางพอใจเป็นแน่”
มู่หรูอวิ๋นพยักหน้า จากนั้นนางย่างเท้าเดินออกมาจากห้อง ขณะที่นางเดินออกมา สายตาพลันเห็นมู่เฉียนซีกับซวนหยวนชิงอวิ๋นกลับมาพอดี
มู่หรูอวิ๋นกล่าวโดยพยายามปั้นแต่งเสียงให้ดูอ่อนโยน “ซีเอ๋อร์ ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าสักเล็กน้อย เราเข้าไปคุยกันในห้องได้หรือไม่ ?”
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งแสงวาบเล็กน้อย เรื่องสนุก ๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วรึ ?
มู่เฉียนซีนางตอบไปว่า ‘ได้’ ในขณะที่ซวนหยวนชิงอวิ๋นผู้ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้เปล่งเสียงพูดแต่อย่างใด เขาคิดว่าถึงอย่างไรมู่เฉียนซีเป็นสตรีเก่งกาจชาญฉลาด เขาจึงมิคิดเป็นห่วง
มู่เฉียนซีเอนตัวพิงเก้าอี้ก่อนจะกล่าวอย่างเกียจคร้าน “มู่หรูอวิ๋น มีอะไรก็พูดมาเร็ว ๆ เถอะ ข้าต้องการกลับไปนอนพักแล้ว”
— กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! —
มู่หรูอวิ๋นไม่กล่าวคำใด กลับหยิบกระดิ่งขึ้นมาแกว่งเบา ๆ จากนั้นนางยิ้ม กล่าวอย่างนุ่มนวล “มู่เฉียนซี ตอนนี้เจ้ารู้สึกวิงเวียนศีรษะบ้างหรือไม่ ? เจ้าคงจะคิดไม่ถึงสิท่าว่าข้าจะใส่อะไรบางอย่างลงไปในเหล้าจอกนั้น มันไม่ใช่ยาพิษ เพราะฉะนั้นไม่มีใครหาสิ่งแปลกประหลาดในจอกเหล้านั่นเจอแน่”
— กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! —
“ฮ่า ๆ ๆ ต่อไปนี้เจ้าจะกลายเป็นหุ่นเชิดที่ฟังคำสั่งของข้าแต่เพียงผู้เดียว…”
“อะ… อ๊า!”
ทันใดนั้นเอง มู่หรูอวิ๋นกรีดร้องพลันรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม นางพยายามกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อเรียกสติ ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น นางกล่าวด้วยใบหน้าไม่อยากเชื่อ “ข้า… ข้าปวดหัวมาก มันเกิดอะไรขึ้น ?”
มู่เฉียนซียื่นมือออกไปฉวยเอากระดิ่งจากมือนางมา ผู้ที่ควบคุมกระดิ่งในเวลานี้กลายเป็นมู่เฉียนซีแทน นางกล่าว เผยรอยยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะฉายชัดไม่ปกปิด
“ถึงแม้ว่าเจ้าจะได้วิญญาณกู่และกระดิ่งสะกดวิญญาณมา แต่ตัวเจ้าเองกลับดื่มด่ำวิญญาณกู่เข้าไปโดยไม่รู้ตัว เจ้าช่างโง่เง่าหาเหาใส่หัวดีแท้!”
“มู่เฉียนซี! เจ้า… เจ้า…”
มู่เฉียนซีแสร้งยิ้มอย่างไม่มีพิษภัย “อืม… ข้าเปลี่ยนจอกเหล้าตอนไหนเจ้าไม่รู้ เจ้าไม่รู้ตัว เฮ้อ! เจ้าไม่ฉลาดเอาเสียเลยหรูอวิ๋น”
มู่หรูอวิ๋นโกรธแทบกระอักเลือด นางกล่าวอย่างกระวนกระวาย “อ๊า! มู่เฉียนซีท่านผู้นำตระกูลผู้สูงส่ง ฮือ ๆ ๆ ข้าสำนึกผิดแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าสักครั้งเถอะ ได้โปรด…”
“ท่านปู่ของข้าพลีทั้งกายทั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อตระกูลมู่ ได้โปรด…”
— ตุบ! —
มู่หรูอวิ๋นก้มคุกเข่าลงกับพื้นเมื่อมู่เฉียนซีสั่นกระดิ่งสะกดวิญญาณ มู่เฉียนซีส่ายหน้า นางไม่รู้จริง ๆ ว่านางไปทำอะไรให้มู่หรูอวิ๋นนักหนา มู่หรูอวิ๋นถึงใจไม้ไส้ระกำตั้งใจวางแผนลงมือกระทำกับนางถึงเพียงนี้ สุดท้ายตัวก่อเรื่องมาโดนเข้าเสียเอง
ไม่นานนัก บุรุษน่าขยะแขยงอย่างอิ๋นเจี้ยนปรากฏกายขึ้นมา จากนั้น…
ใบหน้ามู่หรูอวิ๋นซีดขาวราวกระดาษ ทว่ามู่เฉียนซี นางไม่ใช่คนที่จะสงสารและให้อภัยใครง่าย ๆ บทเรียนก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะอ่อนโยนเกินไปสำหรับสตรีหน้าไม่อายไม่รู้จักหลาบจำอย่างมู่หรูอวิ๋น วันนี้มู่เฉียนซีคงต้องเล่นใหญ่สักหน่อยแล้ว
— กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! —
มู่เฉียนซีสั่นกระดิ่งสะกดวิญญาณ ทำให้มู่หรูอวิ๋นเกิดความเจ็บปวดมากขึ้นทวีคูณ
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า… “วิญญาณกู่พวกนี้ เจ้าได้มาจากไหนรึ ?”
“ผู้เฒ่าชุดดำให้ข้ามา เขาบอกวิธีควบคุมมันกับข้า”
เห็นได้ชัดว่ามู่หรูอวิ๋นไม่รู้ที่มาที่ไปมากนัก ผู้เฒ่าชุดดำให้ของล้ำค่าเช่นนี้กับมู่หรูอวิ๋นได้อย่างไรกัน ? มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าที่มาที่ไปของกู่พิษนี้ ต้องมีความเกี่ยวพันกับมู่หรูเหยียนเป็นแน่แท้ น่าเสียดายที่มู่หรูเหยียนเป็นคนรอบคอบกว่ามู่หรูอวิ๋นมาก ย่อมปิดบังเรื่องนี้ได้แนบเนียนกว่า
“เจ้าบอกข้ามาสิว่าคืนนี้เจ้าคิดจะทำการใด ?”
“ข้านัดอิ๋นเจี้ยนให้มาที่ห้องข้า เราจะควบคุมเจ้า สร้างสถานการณ์ให้เจ้ากับอิ๋นเจี้ยน…”
“เช้าวันรุ่งขึ้น หากท่านพี่หลี่เทียนเข้ามาเห็น เขาจะได้ผิดหวังในตัวเจ้า ตัดใจจากเจ้าไปซะ ท่านพี่หลี่เทียนจะได้กลับมารักข้าอีกครั้ง”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงต่ำทุ้ม “รักเจ้าอีกครั้งเช่นนั้นรึ ? บุรุษอย่างหลี่อ๋องไม่เคยรักใครจริงนอกจากตัวเอง”
“ในเมื่อเจ้าวางแผนมาถึงขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นก็มาสนุกด้วยกันเถอะ”
— กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! —
“มู่หรูอวิ๋น… จำเอาไว้ว่าคนที่เจ้ารักสุดหัวใจคืออิ๋นเจี้ยน เจ้ารักเขาเพียงผู้เดียว ในค่ำคืนนี้ข้าขอให้เจ้าสนุกกับแผนการที่เจ้าได้วางเอาไว้อย่างรอบคอบแล้วกัน” กล่าวจบ มู่เฉียนซีเดินออกไปจากห้องทันที
……
เช้าวันต่อมา รองอาจารย์ใหญ่เรียกทุกคนมารวมตัวกัน
“เอาล่ะ วันนี้พวกเราจะเดินทางกลับแคว้นจื่อเยี่ย เราจะนำเกียรติยศและความภาคภูมิใจกลับไปด้วย”
ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวขึ้น “ท่านรองอาจารย์ใหญ่ อวิ๋นเอ๋อร์ยังไม่ตื่น ประเดี๋ยวข้าจะไปแจ้งให้นางทราบ นางจะได้เก็บข้าวของเตรียมกลับจื่อเยี่ย”