“พี่ใหญ่กำจัดศัตรูส่วนใหญ่ไปแล้ว พวกเราจึงไม่เป็นอะไร อีกอย่าง รองอาจารย์ใหญ่ระดมคนเพิ่มเติมมาจากสำนักศึกษา เขาจะไมให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก…
คนที่ลงมือกับพวกเราเป็นคนของสำนักจินติ่ง แคว้นชิงกดดันพวกมัน พวกมันจึงลงมือทำเช่นนั้น แต่พวกมันส่งคนมาขอโทษเราแล้ว…
วันพรุ่งนี้หอหมอปีศาจก็จะเปิดอย่างเป็นทางการ ยาลูกกลอน โอสถหยูกยาต่าง ๆ รวมไปถึงสมุนไพรวิญญาณเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว มีท่านอาจารย์เผิงกับจวินโม่ซีดูแลอยู่ พี่ใหญ่วางใจได้” เยวี่ยเจ๋อรายงานสถานการณ์ทุกอย่างอย่างละเอียดยิบ
มู่เฉียนซีพยักหน้าพึงพอใจก่อนจะกล่าวว่า “มอบหมายหน้าที่ให้พวกเจ้าทำ ข้าวางใจ …อ้อ แล้วงานของสำนักศึกษาเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ?”
เยวี่ยเจ๋อ “อีกสามวันจะดำเนินการ ตอนนี้พวกเขาต้องไปรวมตัวกันที่สำนักศึกษาแคว้นชิงก่อน”
“อืม”
“พี่ใหญ่ เราไปที่หอหมอปีศาจกันดีหรือไม่ ?”
“ก็ดีเหมือนกัน” กล่าวไปเช่นนั้น มู่เฉียนซีหันไปมองจิ่วเยี่ย นางยิ้มก่อนจะถามเขาว่า “จิ่วเยี่ย คืนนี้เจ้าจะพักที่ไหนรึ ?”
“ห้องเจ้า” จิ่วเยี่ยตอบง่าย ๆ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มุมปากมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย ทว่าในเมื่อเขาตัดสินใจไปแล้ว นางมิอาจทำอะไรได้ ได้แต่หันไปเอ่ยปากถามเยวี่ยเจ๋อ “เยวี่ยเจ๋อ ห้องข้ากว้างพอหรือไม่ ?”
เยวี่ยเจ๋อพยักหน้า “ห้องพี่ใหญ่เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดแล้ว แต่… แต่ว่าพี่ใหญ่คงจะไม่คิดให้…”
“พาจิ่วเยี่ยไปเถอะ ข้าจะไปตรวจดูความเรียบร้อยสักหน่อย”
‘พี่ใหญ่มีจิตสำนึกของความเป็นสตรีบ้างสิ!’ เยวี่ยเจ๋อบ่นหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในใจ อย่างไรซวนหยวนจิ่วเยี่ยก็เป็นบุรุษ พี่ใหญ่ไม่รับรู้ถึงอันตรายบ้างเลยหรืออย่างไรกัน ? เยวี่ยเจ๋อคิดจะเกลี้ยกล่อมอะไรบางอย่าง ทว่าถูกสายตาอันเย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยดักไว้เสียก่อน
“พาเขาไปเดี๋ยวนี้!” มู่เฉียนซีย้ำ
คำสั่งของพี่ใหญ่นั้น ตัวเขามิอาจขัดได้ แม้ในใจเยวี่ยเจ๋อจะไม่อยากทำ เขาก็ยังคงต้องทำอยู่ดี
“เชิญทางนี้”
ทันทีที่มู่เฉียนซีเดินออกมาจากประตู เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น “อ๊า! มู่เฉียนซี จะ… เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ?!”
ร่างร่างหนึ่งในชุดสีขาวเดินเข้ามา น้ำตาคลอหน่วย “ซีเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากเพียงใด ?”
สำหรับซวนหยวนหลี่เทียน เมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยในชุดสีม่วงพลันรู้สึกโล่งใจ นั่นมู่เฉียนซี โชคดีที่นางไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ทว่าเขากลับกล่าววาจาตำหนินาง “กลับมาอย่างปลอดภัยแล้วก็ไม่บอกให้ทุกคนทราบ เจ้าไม่รู้รึว่าทุกคนกำลังเป็นห่วงเจ้าอยู่ ?”
สายตามู่เฉียนซีกวาดมองมู่หรูเหยียน ผ่านไปยังมู่หรูอวิ๋น “โอ้! เป็นห่วงข้ารึ ? ยากนักที่จะได้เห็นอะไรเช่นนี้ หลี่อ๋อง การที่ข้ากลับมาอย่างปลอดภัย เกรงว่าจะเป็นการทำให้ท่านและแม่นางทั้งสองต้องผิดหวังเสียมากกว่า”
ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวอย่างกรุ่นโกรธ “มู่เฉียนซี ทุกคนล้วนแต่เป็นห่วงเจ้าจากใจจริง เจ้าคิดว่าทุกคนไร้ความรู้สึก ไร้เหตุผลเยี่ยงเจ้าหรืออย่างไร ?!”
ทันใดนั้นความโกรธวาบผ่านดวงตาเยวี่ยเจ๋อ “หลี่อ๋อง สตรีที่ไปกับท่านมีตั้งสองคน เหตุใดพวกมันจึงถอยจากท่าน เหตุใดราชาแห่งภูติผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นทั้งหมดถึงได้หันไปตามไล่ฆ่าพี่ใหญ่ผู้เดียว เหตุใดท่านไม่ใช้สมองไตร่ตรองดูเล่า”
เยวี่ยเจ๋อหันไปมองมู่หรูเหยียนและมู่หรูอวิ๋น ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อย่าให้ข้าต้องถึงกับจับมือพวกเจ้าดมเลย มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้ายิ่งกว่าตายทั้งเป็น”
มู่เฉียนซี “เยวี่ยเจ๋อ ไปกันเถอะ อย่าเสียเวลาต่อปากต่อคำกับคนพวกนี้เลย”
ซวนหยวนหลี่เทียนผงะไปครู่หนึ่ง คำที่เยวี่ยเจ๋อกล่าวเมื่อครู่นั้นใช่ว่าจะไร้เหตุผล ครั้นแล้วเขามองไปที่มู่หรูอวิ๋น เขารู้ว่าสตรีผู้นี้มิได้จิตใจดีอย่างที่เห็น แท้ที่จริงแล้วจิตใจแม่นางผู้นี้นั้นร้ายกาจยิ่งกว่าแมงป่อง ทว่าทุกครั้งที่นางแสดงท่าทางอ่อนแอน่าสงสาร เขากลับใจอ่อนต่อนางทุกคราไป
มู่หรูอวิ๋นถูกซวนหยวนหลี่เทียนจ้องมองด้วยสายตาดุดัน นางอดที่จะรู้สึกขนลุกไม่ได้จึงเอ่ยปากกล่าวว่า “ท่านพี่หลี่เทียน ท่านคงจะไม่สงสัยในตัวข้ากระมัง ? ข้าจะไปรู้จักคนสำนักจินติ่งได้อย่างไร ? อาจเป็นเพราะซีเอ๋อร์งดงามกว่าข้า งดงามกว่าพี่หรูเหยียนก็ได้ อีกอย่าง สำนักจินติ่งแกร่งกล้ายิ่งนัก นายน้อยอวิ๋นคงจะชอบซีเอ๋อร์กระมัง”
ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวเสียงเย็น “อวิ๋นเอ๋อร์ หากเจ้ามีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้จริง ๆ ข้าคงจะผิดหวังในตัวเจ้ามาก”
“ฮือ ๆ ๆ พี่หรูเหยียน” มู่หรูอวิ๋นหันไปกอดพี่สาวพร้อมทำทีร้องไห้สะอึกสะอื้น
มู่เฉียนซีเบื่อจะสนใจ นางหันไปขบคิดเรื่องอื่นแทน
เวลานี้การเตรีมการสำหรับหอหมอปีศาจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ข่าวแพร่สะพัดออกไปว่า ณ หอหมอปีศาจแห่งนี้มีนักปรุงยาอาวุโสมากความสามารถ ทั้งยังมีหมอปีศาจผู้ลึกลับบัญชาการด้วยตัวเอง แม้ที่นี่ยังมิได้เปิดขายโอสถอย่างเป็นทางการ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนในแคว้นชิงมากมาย
ผู้มีอำนาจในแคว้นชิงจำนวนไม่น้อยคอยแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน แต่ทั้งหมดก็ถูกเยวี่ยเจ๋อจัดการขอให้ออกไปก่อน
“จวินโม่ซีกำลังหลอมยาอยู่หรือไม่ ? ข้าจะไปดูสักหน่อย” มู่เฉียนซีกล่าว
จวินโม่ซีเดินออกมาจากห้องปรุงยาพอดี เขายิ้ม กล่าวว่า “คนดีมักอายุสั้น ส่วนคนชั่วมักอายุยืนยาวพันปี ข้ารู้อยู่แล้วว่าคนหายนะนั่นทำอะไรเจ้าไม่ได้แน่ ยาลูกกลอนข้าหลอมเสร็จสมบูรณ์ เจ้ารีบเปิดหอหมอปีศาจให้ทั่วทั้งเซี่ยโจวได้แล้ว ข้าอยากลิ้มชิมรสของอร่อย ๆ ในเซี่ยโจวเต็มที”
มู่เฉียนซียิ้ม “ความฝันของเจ้าจะต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน เอาล่ะ ข้าต้องขอตัวไปปรุงยาสักหน่อย ยาประจำตัวข้าถูกใช้ไปกับพวกสำนักจินติ่งจนหมดไม่มีเหลือ”
มู่เฉียนซีใจจดใจจ่ออยู่กับการปรุงยา แน่นอนว่าการเปิดหอหมอปีศาจในวันพรุ่งนี้ นางจะมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของเยวี่ยเจ๋อและท่านอาจารย์เผิง
…
วันต่อมา
หอหมอปีศาจเปิดขายอย่างเป็นทางการ เพียงวันแรกก็ขายดิบขายดีอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทั้งนี้เป็นเพราะหยูกยาสารพัดที่หลอมที่ปรุงมา ล้วนแต่เป็นยาดี อีกทั้งราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพ ไม่เพียงเท่านั้น มู่เฉียนซียังเสนอให้จัดกิจกรรมจับสลากเพื่อเป็นสมาชิก ทำให้หอหมอปีศาจที่เปิดในวันแรกแสนจะครึกครื้น
ในเวลานี้นั้น บุรุษชุดสีเงินผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเยวี่ยเจ๋อ “อา… ข้าได้ยินมาว่าหอหมอปีศาจแห่งนี้มีนักปรุงยาอาวุโสประจำการอยู่ ข้าอยากจะเจอกับนักปรุงยาอาวุโสผู้นั้นสักหน่อยได้หรือไม่ ?”
เยวี่ยเจ๋อกล่าวตอบอย่างสุภาพ “ต้องขออภัยคุณชายเป็นอย่างยิ่ง พอดีว่าหัวหน้านักปรุงยาอันดับหนึ่ง ท่านไม่ชอบเจอผู้คนสักเท่าไหร่”
บุรุษชุดสีเงินกล่าวต่อ “ข้าเป็นหลานของฮู่กั๋วกง ข้าต้องการพบนักปรุงยาผู้อาวุโสจริง ๆ ข้ามีเรื่องด่วน หากอาการของท่านปู่ข้าถึงขั้นอันตราย ข้าจะทำให้หอหมอปีศาจของพวกเจ้าเจ๊งไปเลยคอยดู”
“ท่านบังอาจเกินไปแล้ว หอหมอปีศาจที่มีหัวหน้านักปรุงยาอันดับหนึ่งอยู่เช่นนี้ ท่านยังกล้าคิดทำเรื่องไม่เป็นมงคล หากท่านหัวหน้านักปรุงยารู้เข้าผลลัพธ์ที่ตามมาคงจะร้ายแรงยิ่ง” เยวี่ยเจ๋อกล่าวเตือน
ในแคว้นชิงไม่มีนักปรุงยาระดับสูง ต่อให้เอาชื่อของจวินโม่ซีมาอ้างคงจะไร้ประโยชน์ และต่อให้กองกำลังของแคว้นชิงแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็คงมิกล้าลงมือทำอะไรกับหอหมอปีศาจเป็นแน่ โทษของการรุกรานหัวหน้านักปรุงยาอันดับหนึ่งนั้นร้ายแรงนัก
“ขะ… ข้า…” ใบหน้าของไป๋มู่เฟิงแดงระเรื่อ ความจริงข้อนั้น เขาเองก็เกรงกลัว
เยวี่ยเจ๋อ “เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ข้าขอไปรายงานก่อน รอข้าสักครู่”
มู่เฉียนซีที่อยู่ในห้องปรุงยาเติมยาเสร็จพอดี นางเดินออกมาเห็นเยวี่ยเจ๋อกำลังจะเข้าไปหานาง พลันเลิกคิ้วเล็กน้อย กล่าวถามเสียงนุ่มนวล “เยวี่ยเจ๋อ วันนี้ต้องเป็นวันที่เจ้ายุ่งจนหัวหมุนสิ เหตุใดถึงมีเวลามาหาข้าได้ ?”
เยวี่ยเจ๋อ “พี่ใหญ่ ข้ามีเรื่องต้องมารายงาน หลานของฮู่กั๋วกงมาขอพบ ตอนที่พวกเรามาถึงแคว้นชิง ข้าได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าฮู่กั๋วกงป่วยหนัก เกรงว่าครานี้จะมาขอให้ช่วยไปรักษา”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็ก ๆ “ฮู่กั๋วกงอย่างนั้นรึ ? เจ้ารีบเชิญเขาเข้ามา”
แม้ว่าผู้มีอำนาจในแคว้นชิงไม่กล้าลงมือทำอะไรกับหอหมอปีศาจเพราะหอหมอปีศาจมีหัวหน้านักปรุงยาอันดับหนึ่งอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม หากนางต้องการทำการค้าในแคว้นชิงอย่างสงบสุข อีกทั้งภายภาคอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองกำลังแคว้นชิง ทำดีกับคนในพื้นที่สักหน่อยจะเป็นการดี
อีกอย่าง นอกจากราชวงศ์ชิงแล้ว ผู้ที่มีอำนาจแข็งแกร่งคือท่านฮู่กั๋วกง
ไป๋มู่เฟิงถูกเชิญตัวเข้ามา ฉับพลันทันใดเขาต้องตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าสตรีงดงามที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย
“เจ้านั่นเอง”
.