— ตู้ม! —
โอวหยางสือหลงปล่อยพลังระดับจอมยุทธ์พุ่งเข้าใส่มู่เฉียนซี
“มู่เฉียนซี เจ้าโอหังมากเกินไปจริง ๆ ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ความแตกต่างว่าระหว่างระดับขั้นใหญ่ ๆ นั้น มันมีมากมายเพียงใด!”
สิ้นเสียง โอวหยางสือหลงโจมตีในทันใด ทว่ามู่เฉียนซีรวดเร็วราวผีสาง นางแยกร่างเงาออกมามากมาย
เขาใช้พลังชีวิตอย่างเต็มที่โจมตีออกไปแต่กลับโจมตีโดนแค่เงาร่างแยกเท่านั้น ไม่ได้โดนตัวจริงของมู่เฉียนซีแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีมิได้เชื่องช้า ตอบโต้กลับในทันใด “ผนึกมังกรวารี!”
— ตู้ม! —
การต่อสู้ของระดับจอมภูตมีความพิเศษไม่เหมือนใคร
มู่เฉียนซีโจมตีสวนไปไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว โอวหยางสือหลงจำต้องใช้พลังชีวิตจอมยุทธ์ระดับสองเข้าต่อต้าน
— ตู้ม! —
แม้โอวหยางสือหลงจะต้านทานไว้ได้ กลับต้องถอยหลังไปหลายก้าว อีกทั้งร่างกายของเขาก็รู้สึกแย่
เขาอึ้งงันมองมู่เฉียนซี นี่นางเป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตระดับเจ็ด แต่การโจมตีเมื่อครู่นี้ แม้ผู้บำเพ็ญภูตระดับเก้าก็ยังมิอาจต้านทานได้
โชคดีที่พลังของเขาเหนือกว่านางถึงสี่ระดับ มิเช่นนั้นคงจะไม่แค่รู้สึกระคายร่างกายเล็กน้อยเช่นที่เป็นอยู่นี้
— ชิ๊ง! —
โอวหยางสือหลงชักกระบี่ที่พกติดตัวออกมา กระบี่แหลมคมนั้นพุ่งไปทางมู่เฉียนซี
“ตายซะเถอะ!”
“โล่วิญญาณวารี!” มู่เฉียนซีป้องกันอย่างรวดเร็ว ก่อนจะต่อด้วย ‘ผนึกมังกรวารี’ ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังกวาดผ่านไป
— ซู่ม! —
ทันใดนั้นร่างมู่เฉียนซีขยับ เท้าของนางพุ่งไปทางโอวหยางสือหลง เตะเขาเต็มแรงกระเด็นออกไป
— ปั้ง! —
โอวหยางสือหลงเบิกตากว้างมองจ้องมู่เฉียนซี กล่าวขึ้น “เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูต เหตุใดถึงได้มีพลังชีวิต เจ้า…”
โอวหยางฉีเองก็ตกตะลึง “สือหลง เจ้าว่าอย่างไรนะ? นางยังมีพลังชีวิตด้วยรึ ?!”
ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครในเซี่ยโจวสามารถใช้พลังได้ทั้งสองแบบ สรุปแล้วมู่เฉียนซีเป็นตัวประหลาดอะไรกันแน่ ?
โอวหยางฉีขมวดคิ้วมุ่น กล่าวขึ้น “โอวหยางสือหลง สู้ให้เต็มที่ ฆ่ามู่เฉียนซีให้จงได้!”
“ใช่!”
“กระบี่พายุฟ้าฝน!” โอวหยางสือหลงตะโกนก้อง ความโกรธอัดแน่นในน้ำเสียง ฉับพลันกระบี่วายุที่เย็นเฉียบดั่งฟ้าฝนทะยานไปที่มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวทำให้ตนหายใจไม่ออก ภัยคุกคามจากความตายกำลังทะยานเข้ามา
— ฉวก! ฉวก! —
ความเร็วของนางท้าทายฟ้าดิน หลบเลี่ยงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาราวกับฝนตกกระหน่ำได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว อีกทั้งท่วงท่ายังงามสง่ายิ่งนัก
“มู่เฉียนซี ดูซิว่าเจ้าจะหลบไปไหน!”
โอวหยางสือหลงสู้อย่างสุดแรง ชักดาบออกอีกหน ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มร้าย ราวกับมั่นใจว่าจะได้เห็นมู่เฉียนซีโดนกระบี่ทำให้บาดเจ็บหนักเจียนตาย
โอวหยางสือหลงตามต่อตีมู่เฉียนซีอย่างไม่ลดละ ระดับของมู่เฉียนซีนั้นต่ำกว่าเขามาก นางเสียเปรียบเป็นอย่างมาก จะเอาอะไรมาสู้เขาได้ ?
เงาลับของตระกูลมู่มองดูอยู่อย่างร้อนใจ “ท่านผู้นำตระกูล!”
มู่อีกล่าวขึ้น “หัวหน้าตระกูลไม่ได้ออกคำสั่ง ห้ามลงมือเด็ดขาด”
ฉับพลันทันใดนั้น พลังวิญญาณกับพลังชีวิตระหว่างสวรรค์และโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มันมารวมกันอยู่ในสถานที่ที่เดียว …นั่นก็คือที่ที่มู่เฉียนซียืนอยู่
ใบหน้าของโอวหยางสือหลงแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน เขาหยุดชะงัก ปากก็บ่นพร่ำออกมาอย่างอารมณ์เสีย “ให้ตายเถอะ มู่เฉียนซีได้เลยขั้นนั้นไปแล้ว!”
มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก กระบี่ของโอวหยางสือหลงบีบคั้นพลังที่ซ่อนในตัวนางอยู่ออกมา ช่วยให้นางบรรลุระดับแปด
นางตั้งใจฝึกการปรุงยา ที่ปรุงออกมาแล้วล้มเหลวก็มีไม่น้อย
ชัดเจนว่าโลกนี้เคารพผู้ที่แข็งแกร่ง แม้ว่านางจะปรุงยาได้ยอดเยี่ยมแค่ไหน ก็ต้องมีความสามารถที่แข็งแกร่งคุ้มกันตนเองได้ ฉะนั้นแล้วเมื่อพูดถึงการต่อสู้กับโอวหยางสือหลง นางจึงใช้การต่อสู้ในสนามจริงเป็นการพัฒนาฝีมือตนเอง
ยามนี้บรรลุผู้บำเพ็ญภูตระดับแปด มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นางสะบัดมือ กล่าวขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็น “ห่าฝนบุบผา!”
หยดน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับลูกธนูพุ่งทะยานตรงเข้าหาโอวหยางสือหลง!
โอวหยางฉีมองเห็นทุกเหตุการณ์ ท่านี้ของมู่เฉียนซี เหตุใดจึงดูคล้ายท่าไม้ตายของโอวหยางสือหลงนัก คงไม่ใช่ว่านางเรียนรู้มันมาจากเมื่อครู่นี้หรอกกระมัง!
บนโลกนี้… คงไม่มีท่าที่คล้ายกันเช่นนี้ แต่ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงละก็ ปีศาจมู่เฉียนซีจัดได้ว่าน่าสะพรึงกลัวยิ่ง
สิ่งที่โอวหยางฉีคาดเดานั้นไม่ผิด เมื่อโดนกระบี่พายุฝนของโอวหยางสือหลงตามติดโจมตี นางก็เรียนรู้ท่าใหม่นี้ขึ้นมา
เพราะระดับผู้บำเพ็ญภูตของนาง ท่วงท่าห่าฝนบุบผานี้ไม่ใช่พลังที่มังกรเทพวารีมอบให้แก่นาง เช่นนั้นแล้วนางจึงเรียนได้เพียงแต่ท่าผนึกมังกรวารีกับโล่วิญญาณวารีเท่านั้น
— ตู้ม! ต้าม! ตู้ม! —
ลูกธนูวารีจำนวนนับไม่ถ้วนถูกระดมยิงออกไป โอวหยางสือหลงรีบร้อนที่จะหลบหลีก แต่เช่นเคย เขาโดนท่านั้นเข้าอีกครา
“พรวด!”
โอวหยางสือหลงกระอักเลือด เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่อยู่นั้นก็โดนฝนธนูกรีดขาดวิ่น
เหอะ! คอยดูเถอะ ในตอนที่เจ้ากำลังบาดเจ็บนี่แหละ ข้าจะฆ่าเจ้า!
เมื่อครู่นี้โอวหยางสือหลงเป็นฝ่ายรุกไล่มู่เฉียนซี มาตอนนี้สายน้ำวนกลับ ลมได้เปลี่ยนทิศ ถึงคราวที่มู่เฉียนซีจะตามราวีโอวหยางสือหลงบ้างแล้ว
“ห่าฝนบุบผา!”
“ผนึกมังกรวารี!”
ผู้บำเพ็ญภูตธาตุวารีมู่ฉียนซีเข้าโจมตีสองสามกระบวนท่าติดต่อกัน กระหน่ำใส่โอวหยางสือหลงไม่ยั้งมือ
ทุกกระบวนท่าที่ออกไปนั้นแทบไม่เว้นช่องว่างเลย ผ่านไปไม่นานโอวหยางสือหลงมึนงงทิศทาง
โอวหยางฉีอึ้งทึ่งขณะมองดู แม้ว่าผู้บำเพ็ญภูติธาตุวารีจะโจมตีได้ร้ายกาจยิ่ง แต่ว่าเบื้องบนคงไม่ได้ลำเอียงรักผู้บำเพ็ญภูติธาตุวารีฝ่ายเดียวกระมัง
การโจมตีอย่างแข็งกร้าวนั้นหมายถึงนางจะสูญเสียพลังไปอย่างมาก ถึงแม้ว่าระดับของมู่ฉียนซีจะถึงระดับแปดแล้ว แต่นี่นางก็ช่างทนต่อการสิ้นเปลืองพลังเสียเหลือเกิน!
โอวหยางฉี เขาได้เห็นมู่เฉียนซีหยิบยาจินอวี่ซูหวงจือขั้นสองขึ้นมาแล้วกินมันเข้าไป ก่อนจะโจมตีโอวหยางสือหลง เขาจึงกระจ่างแล้ว
เขาแสยะยิ้ม มู่เฉียนซีคือตัวประหลาดเป็นแน่แท้ ยานั่นมีราคาเทียบเท่าได้กับเมืองเมืองหนึ่ง นางกลับกินมันเข้าไปง่าย ๆ เช่นนี้
โอวหยางสือหลงที่โดนเด็กรุ่นหลังไล่ตามต่อตีจนถึงขั้นอนาถเช่นนี้ มันช่าง…
“มู่เฉียนซี มันจะมากไปแล้ว! เจ้าคิดว่าข้าผู้นี้รังแกได้ง่ายนักใช่ไหม ?”
“สี่วันแห่งการฆ่า! ห่าฝนบุบผา! ผนึกมังกรวารี!” มู่เฉียนซีถึงกับใช้การโจมตีแบบทับซ้อนท่าทางวิญญาณขึ้นมา
— ซู่มมมมม! —
พลังที่น่ากลัวเข้ามาชนปะทะกัน พลันเงาร่างของทั้งสองกระเด็นออกมาจากที่ตรงนั้น
มู่เฉียนซีหมุนตัวกลางอากาศก่อนจะลงสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย แต่โอวหยางสือหลง กลับตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจนกระอักเลือดคำโต!
“พรวด!”
มู่เฉียนซีผงกหัว กล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าผลการโจมตีของการผสมสองท่าเข้าด้วยกันนั้นได้เพิ่มพลังในการโจมตีขึ้นมาไม่น้อย!”
โอวหยางสือหลงเลิกคิ้วขึ้น เผยให้เห็นถึงความงุนงงสงสัยที่มีมาก นางปีศาจมู่เฉียนซีนี้สามารถข้ามระดับได้สามระดับในการต่อสู้ และทั้งสามระดับนี้มีระดับขั้นใหญ่ระดับหนึ่งรวมอยู่ในนั้นเสียด้วย นางยังคงได้เปรียบอยู่เหมือนเดิม
เรื่องนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย สรุปแล้วมู่เฉียนซีทำได้อย่างไร ?
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “โอวหยางสือหลง ทำไมรึ ? ท่านมิใช่ว่าจะมาแก้แค้นหรืออย่างไร ? มาสิ… คลานขึ้นมาสู้กับข้าสิ!”
โอวหยางสือหลงอยากที่จะลุกยืนขึ้น น่าเศร้าเขายังคงกระอักเลือดไม่หยุด
โอวหยางสือหลงกล่าวอย่างมาดร้าย “นายท่านรอง ฆ่ามู่เฉียนซีเสีย นางมู่เฉียนซีผู้นี้เป็นสตว์ประหลาดชัด ๆ”
‘ไม่ต้องให้เจ้ามาบอก ข้าก็จะทำแน่!’ โอวหยางฉีกล่าวในใจ
ถ้าหากให้มู่เฉียนซีเติบโตมาเป็นดั่งมู่อวู่ซวงละก็ ตระกูลโอวหยางคงได้กลายเป็นก้อนเนื้อบนเขียงให้พวกตระกูลมู่แล่หั่นเป็นแน่แท้
มู่เฉียนซีต้องตายสถานเดียวเท่านั้น!
โอวหยางฉีพุ่งทะยานไปทางมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าววาจาเย็นชา “โอวหยางฉีไสหัวไปซะ คู่ต่อสู้ของข้าคือโอวหยางสือหลง ไม่ใช่เจ้า!”
เพียงแค่มู่อีเข้ามาร่วมวงก็สามารถป้องกันโอวหยางฉีได้อยู่หมัด
— ตู้ม! —
การโจมตีของมู่อีปะทะเข้ากับการโจมตีของโอวหยางฉี โอวหยางสือหลงดวงตาเบิกโพลง
“องครักษ์เงาตระกูลมู่ พลังของมันถึงขั้นจอมยุทธ์สูงสุดระดับเก้า! เป็นไปได้อย่างไรกันนี่ ?!”
.