“พวกข้า… พวกข้าเป็นเพียงองครักษ์ขององค์หญิง ได้รับคำสั่งจากองค์หญิงแปดให้มาแก้แค้นแทนนาง”
“อ๊าก! อ๊าก! อ๊าก! เจ้าจะแก้แค้นต้องไปหาองค์หญิงแปดสิ พวกข้า…”
“ที่แท้ก็เป็นองค์หญิงแปด” มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก พวกเขาหยุดจากอาการเจ็บปวดทิ่มแทงลึกถึงกระดูก
มู่เฉียนซีมองพวกเขาพร้อมถามกลับ “องค์หญิงแปดอยากจะแก้แค้นข้าอย่างไร ? บอกมาให้หมด!”
“องค์หญิงแปดบอกว่าจะให้เจ้าถูก เอ่อ… ย่ำยี… หลังจากนั้นก็ให้สัตว์วิญญาณที่ดุร้ายที่สุดในป่าเทียนหวงจับเจ้าฉีกแยกร่าง”
“อืม ข้าฟังจบแล้ว พวกเจ้าหมดประโยชน์ก็หายไปได้แล้ว ไป… จงหายไปอย่างถาวร” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา สะบัดมือเพียงครั้งเดียวก็มีผงขาวลอยมาที่ตัวพวกเขาทั้งห้า
ยามลมพัดผ่าน บนพื้นไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ หมอยาพิษปีศาจสาวเสมือนอสุรกายที่ฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย
“โฮก!”
ตอนที่มู่เฉียนซีกำลังเก็บสมุนไพรวิญญาณอยู่นั้น ก็มีสัตว์วิญญาณขั้นหนึ่งที่คอยดูแลเฝ้าอยู่วิ่งเข้ามา
มู่เฉียนซียิ้มกริ่มชอบใจ “ฮิ ๆ ดีจริง มาได้จังหวะพอดี”
ร่างของนางราวเสือชีต้าร์ ทันทีที่พบเจอสัตว์วิญญาณระดับหนึ่ง นางก็พุ่งทะยานเข้าไปโจมตี
— ปัง! —
แต่ละกระบวนท่า แต่ละท่าทางดูงดงามราวกับคำนวณไว้แล้ว ทุกอย่างจู่โจมจนวัวหยินหนิวมึนงงไร้ทิศทาง
“โฮก!” เสียงวัวหยินหนิวร้องอย่างเจ็บปวด เขาของมันถูกหักออกมาโดยมู่เฉียนซี
นางมองดูเขาวัวที่อยู่ในมือ “อืม… พอดีเลย สิ่งนี้สามารถใช้ปรุงยาได้”
วัวหยินหนิวยืนนิ่ง ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำส่อเค้าบ้าคลั่ง แต่เมื่อมาพบเจอมู่เฉียนซีที่มีการต่อสู้อันแปลกประหลาด มันก็ได้ถูกกำหนดให้พ่ายแพ้ไม่เหลือดี
— ฉัวะ! —
ร่างกายอันใหญ่โตได้ล้มลง มู่เฉียนซีหยิบกริชออกมาก่อนจะควักเอาผลึกจากในตัวของมันมากำไว้ในมือเล็กของนาง
“การทดสอบครั้งนี้ประสบความสำเร็จแล้ว ยังมีเวลาอีกหลายวัน ตามหาสมุนไพรวิญญาณได้”
มู่เฉียนซีสามารถเอาชนะวัวหยินหนิวตัวนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ นางเพียงแค่ใช้วิทยายุทธ์ในการต่อสู้ มิได้ใช้พลังวิญญาณแม้แต่น้อย ต่อมา มู่เฉียนซีเก็บสมุนไพรมากมาย ทั้งยังได้จัดการกับพวกสัตว์วิญญาณระดับหนึ่งที่เข้ามา
นักเรียนคนอื่นกำลังวุ่นวายเมื่อพบเจอสัตว์วิญญาณระดับหนึ่ง ทว่ามู่เฉียนซีกำจัดสัตว์วิญญาณระดับหนึ่งได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าตอนนี้… มู่เฉียนซีก็ต้องขมวดคิ้ว นางถูกคนสะกดรอยตามอีกครั้ง
ตัดสินจากลมหายใจที่แผ่ออกมา ครั้งนี้ไม่ใช่มือสมัครเล่น หากแต่เป็นนักฆ่ามืออาชีพ นักฆ่าพวกนี้แตกต่างจากพวกขยะที่ซวนหยวนเจียส่งมา คนพวกนี้มีพลังมากว่านางถึงสี่ระดับ ไม่ง่ายเลยที่จะต่อกร
ของที่ไว้ใช้เพื่อรักษาชีวิตนางใช้หมดไปแล้ว ตอนนี้คงได้แต่หาทางออกวิธีอื่น
มู่เฉียนซีเร่งพลังวิญญาณขั้นห้าจนสุด พลังครอบคลุมตัวนางไว้ทั้งหมดก่อนจะพุ่งทะยานหายเข้าไปในป่าลึก
“ผู้บำเพ็ญภูตวารีระดับห้า เจ้าไม่ได้บอกว่ามู่เฉียนซีเป็นแค่คนไร้ความสามารถหรอกหรือ ?” น้ำเสียงตกใจเล็กน้อยดังออกมา
“แค่ผู้บำเพ็ญภูตระดับห้าเท่านั้นเอง หากพี่สองของเจ้าเป็นผู้ลงมือ เจ้ายังกลัวว่านางจะสามารถรอดไปได้อีกอย่างนั้นหรือ ?” เขากล่าวออกมาอย่างลำพองตน นึกคิดเพียงตนจะต้องคว้าชัย
“ตามไป!” พี่ใหญ่ออกคำสั่งเสียงเข้ม นักฆ่าทั้งสามก็ติดตามไปทางที่มู่เฉียนซีหลบหนีออกไป
ถึงแม้มู่เฉียนซีจะมีพรสวรรค์ทางด้านการฝึกฝนมากมาย เมื่อเทียบกับพลังของพวกเขาทั้งสาม พวกนั้นสามารถฆ่านางได้อย่างง่ายดาย
เสียงดังจากอากาศทางด้านหลัง ไอสังหารอันเยือกเย็นแผ่ออกมา
ใบหน้ามู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนกลายเป็นหม่นคล้ำยิ่งนัก ตอนนี้นางคิดหนัก นักฆ่าพวกนี้ยากต่อการรับมือ ทั้งระยะห่างระหว่างพวกนั้นกับตัวนางก็แคบลงเรื่อย ๆ นางหันหลังกลับไปกล่าวขึ้นอย่างใจเย็นว่า… “คนที่จ้างพวกเจ้ามาจ่ายเงินไปเท่าไหร่ ข้าจะจ่ายให้สิบเท่าเพื่อให้พวกเจ้าล้มเลิกภารกิจในครั้งนี้”
เงินสิบเท่า สมแล้วที่เป็นผู้นำตระกูลมู่ ใจคอกว้างขวาง เงินทองล้นมือ แต่พวกเขาเป็นนักฆ่ามืออาชีพย่อมมีกฎของนักฆ่า
“ข้าให้เงินมัดจำพวกเจ้าก่อน” สิ้นวาจา มู่เฉียนซีโยนขวดยาหนึ่งขวดออกมา
— ตูม! —
ขวดยาระเบิดกระจายก่อนที่จะตกลงสู่พื้น น้ำยาสีใสพลันสาดกระเซ็นใส่พวกเขา
“อ๊าก! หลบเร็ว มันมีพิษ”
“อ๊ากกกก!”
เสียงร้องโหยหวนส่อแววเจ็บปวดดังขึ้นมา ถึงแม้พวกเขาจะหลบอย่างว่องไว แต่มู่เฉียนซีลงมือเร็วอย่างที่ไม่อาจคาดคิด
ยาพิษนี้อันตรายมาก ชาซานโดนเข้าไปก็เนื้อเปื่อยยุ่ย มีสภาพไม่น่ามอง
มู่เฉียนซีใช้มือเรียวสะบัดไป ทันใดนั้นผงจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มหมอกควันทึบทะมึน
นางที่อยู่ในหมอกควันนั้นก็พลันอันตธานหายไปในควันสีขาว
มู่เฉียนซีบ่นพึมพำ “ของพวกนี้ตอนข้าอยู่ที่จวนเยี่ยอ๋อง ข้าทำไว้เป็นของขวัญให้เจ้าก้อนน้ำแข็ง เพื่อที่จะได้หนีออกจากเรือนซิวหลอ เวลานั้นไม่คิดว่าจะไม่ได้ใช้แต่กลับมาใช้กับนักฆ่าพวกนี้แทน”
“ชิชะ! เพราะเจ้าอ่อนแอเกินไป ผู้บำเพ็ญภูตระดับเก้าสามคน เจ้าทำได้เพียงหนีอย่างเดียว” อาถิงอดไม่ได้ที่จะกระแนะกระแหนใส่
“ต่อให้ข้าเป็นผู้ฝึกฝนทั้งวิถีเซียนและวิถียุทธ์ มีแหวนมังกรเทพวารี ธาตุวารีพลังวิญญาณอย่างมากก็ได้แค่ต่อกรกับระดับแปด พวกระดับเก้า หากเจ้ามีปัญญาก็ฆ่าพวกเขาให้ตายทั้งหมดสิ หึ! ถ้าหากข้ามีเจ้านั่นคุ้มครองอยู่กับตัว ข้าก็คงไม่ต้องวิ่งหนีหรอก”
แววตาของมู่เฉียนซีฉายแววแสงพัดผ่าน “แม้พวกเขาจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตระดับเก้า ข้าก็จะทำให้พวกเขาทิ้งชีวิตไว้ในป่าแห่งนี้”
เวลานี้ มู่เฉียนซีใช้ประโยชน์จากป่าเทียนหวง เริ่มวางกับดักยาพิษต่าง ๆ จนทำให้มุมปากอาถิงกระตุกขึ้นมา
“ข้าไม่ได้จะว่าเจ้านะ แต่กับดักพวกนี้มันจะดูโหดร้ายเกินไปไหม ?”
มู่เฉียนซียกมือโบกไปมา “ไม่รู้ ข้าไม่มีวิธีอื่นแล้ว ทั้งเรายังมีเวลาจำกัด เพื่อที่จะรักษาชีวิตไว้ก็ได้แต่ทำกับดักพวกนี้ แม้มันจะดูรุนแรงไปบ้างสักหน่อยก็ตามที เราก็จำต้องทำ”
— ฟิ้ว! —
นักฆ่าสามคนเข้าประชิดมู่เฉียนซีพลันจู่โจมพร้อมกัน
ชาซานต้านพิษได้บ้างแล้ว แต่ไฉนใบหน้าของพวกเขากลับเคร่งขรึม ในหัวสมองผุดเพียงความคิด ‘จะต้องฆ่าสตรีนางนี้ให้ได้ เพื่อระบายความโกรธแค้นอันอัดแน่นสุมในอก’
ตอนนี้มู่เฉียนซียืนรอพวกเขาอยู่ตรงหน้า นางกล่าวเสียงสูง มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน “พวกเจ้ามากันแล้ว ข้ากำลังรอพวกเจ้าอยู่เลยเชียวล่ะ ฮิ ๆ”
“มู่เฉียนซี ข้าจะฆ่าเจ้า!” คลื่นอารมณ์เกรี้ยวกราดของชาซานมีมากจนร่างเขาแทบจะพุ่งเข้าไปข้างหน้า ทว่าถูกอีกคนห้ามปรามไว้
“เหล่าซานอย่าเพิ่งวู่วาม มู่เฉียนซีผู้นี้ช่างเจ้าเล่ห์เหนือใคร จะต้องมีกับดักข้างหน้าแน่” ชาอี้รีบรั้งเขาไว้
มู่เฉียนซีหันหลังกลับไป กล่าววาจายียวนกวนอารมณ์ “โอ๊ะโอ! เหตุใดจึงมิลงมือ อ้อ สงสัยจะไม่กล้า หึ! ในเมื่อพวกเจ้าไม่กล้าฆ่าข้า งั้นข้ากลับไปนอนก่อนล่ะ”
“สตรีนางนี้ช่างกวนประสาทนัก นางสมควรตาย! นางแค่ขู่ไปอย่างนั้น ตามไป!” ชาอี้กล่าวด้วยอารมณ์คุกรุ่น
“อ๊ากกกก!”
หลังจากที่ตามไปได้ไม่ไกล ทันใดนั้นก็มีผงยาพิษนานาชนิดระเบิดออกมา
ชาซานแต่เดิมก็โดนพิษอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ถูกยาพิษครอบคลุมทั่วร่างไปหมด หนึ่งในพวกเขาตกลงไปในกับดักที่มู่เฉียนซีขุดหลุมวางกับดักไว้
“อ๊ากกกก!”
เสียงร้องแหลมทรมานจิตบาดใจแทบขาดดังลั่น แม้บาดเจ็บไม่ถึงตาย แต่ก็ต้องสูญเสียความเป็นชายไปตลอดกาล …หมดสิ้นแล้ว ความเป็นชายที่หายไป…
“เจ้าสาม!”
เห็นพี่น้องของตนเป็นเช่นนั้น อีกสองคนที่เหลือโกรธจัดหน้าดำคล้ำเขียว เลือดสูบฉีดขึ้นถึงเบ้าตา
— ฟิ้ว! —
เข็มพิษจำนวนนับไม่ถ้วนลอยไปมาราวกับห่าฝนที่ร่วงหล่นเป็นสายหนัก ๆ
“อ๊าก! อ๊าก! อ๊ากกกก! ดวงตาข้า”
เข็มพิษและยาพิษเข้าไปในตาของชาซาน ทำให้ดวงตาของเขาคู่นี้เจ็บปวดแสนสาหัส ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าดวงตาเจ็บแปลบ ๆ สายตาก็เข้าสู่ความมืดมิดในบัดดล
“กับดักของเจ้ามันจู่โจมคนตรงจุดอ่อน สุดยอดจริง ๆ สองคนนี้ช่างน่าสมเพช” อาถิงพูดอย่างสุขใจ
มู่เฉียนซีได้แต่กลอกตาขาวให้อาถิงอย่างช่วยไม่ได้ เขากำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เจ้านี่นอกจากจะสมน้ำหน้าแล้วยังกล่าววาจาใจร้ายอีก ไม่คิดจะทำเรื่องอื่นแล้วหรืออย่างไร ?
เขาไม่ได้ช่วยอะไรเลย นางชักรู้สึกสงสัยแล้วว่าเจ้านี่ใช่สิ่งที่เขาเล่าลือกันว่าเป็นเทพศาสตราวุธนิรันดร์ที่มีฝีมืออันร้ายกาจจริง ๆ หรือ ?
มู่เฉียนซีพูดด้วยน้ำเสียงต่ำลง “ข้าเพียงแค่ทำให้สองคนนี้หมดพลังการต่อสู้ไป ยังเหลืออีกคนหนึ่ง”
“อ๊าก! มู่เฉียนซี เจ้ามันรนหาที่ตาย ป่าไม้เป็นพยาน ข้า ซาอี้ผู้นี้จะฆ่าสตรีร้ายกาจนั่นให้ตกตายคามือ!”
ซาอี้เห็นพี่น้องถูกทำร้ายจนทรมาน ดวงตาคู่นั้นของเขาก็แดงก่ำขึ้นมา เขากัดฟัน กินยาขั้นสูงเข้าไป ทันใดนั้นความรู้สึกว่าพลังในร่างกายเพิ่มพูนขึ้นมากมายมหาศาลเข้าปกคลุมทั่วร่าง
.