อาณาเขตของเชียนอ้าวเซี่ยอยู่ที่ไหนนั้น มู่เฉียนซีกับน่าหลานอวี้นั้นรู้ดี
ภาพลักษณ์ภายนอกของหุบเขาหมอเทวดานั้นดีมาก ศิษย์แห่งหุบเขาหมอเทวดาก็เปรียบเสมือนเซียนหมอผู้มีจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์
ตอนนี้พวกเขามาถึงเซี่ยโจวแผ่นดินอันห่างไกล อีกทั้งตอนนี้ไม่มีอาจารย์อยู่ข้างกายพวกเขา แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีข้อจำกัดใดใด เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เล่นสนุกอย่างตามใจ
“เช้าวันพรุ่งนี้อาจารย์นัดให้พวกเราไปเจอกันที่สำนักอวิ๋นเยียน คืนนี้พวกเราก็สนุกสนานกันให้เต็มที่”
“ข้าว่าตอนนี้อาจารย์คงจะไปเก็บนังเด็กนั่นแล้วหล่ะ เด็กนั่นก็กล้าบังอาจยิ่งนัก นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่านางจะกล้าล่วงเกินอาจารย์ มิเช่นนั้นแล้วจะได้มาเป็นศิษย์น้องของพวกเรา พวกเราจะได้สั่งสอนนางสักหน่อย สาวสวยผู้บังอาจผู้นั้น หึ่ย ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก”
“นั่นน่ะสิ”
เมื่อมาถึงที่นี่พวกเขาก็ได้เปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมา
อาณาเขตของหอเชียนอิน แน่นอนว่าเชียนอ้าวเซี่ยมีวิธีแอบฟังคนเหล่านี้พูดกันทุก ๆ ห้อง ทว่าคำพูดทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นคำพูดที่ไม่เข้าหูทั้งสิ้น ทำให้เขาแทบอยากจะพรวดพราดเข้าไปฆ่าพวกเขาก็มิปาน
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวด้วยความร้อนใจว่า “เสี่ยวซีซี เมื่อไหร่จะลงมือสักที นี่ข้าทนไม่ไหวที่จะทรมานคนพวกนั้นแล้วนะ”
มู่เฉียนซี “รออีกหน่อยเถอะ! คนของหุบเขาหมอเทวดามาจากดินแดนอันไกลโพ้น ข้าต้องตั้งใจเตรียมของขวัญต้อนรับพวกเขาสักหน่อยสิถึงจะถูก” ในขณะที่กำลังลั่นวาจานี้ มู่เฉียนซีก็หยิบเอาสมุนไพรวิญญาณออกมา จากนั้นก็ทำการปรุงยาอย่างรวดเร็ว
น่าหลานอวี้แอบพูดในใจว่า ‘คนของหุบเขาหมอเทวดาได้รับการต้อนรับไม่เลวเลย นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะทำให้คนอย่างหมอปีศาจลงมือปรุงยาต้อนรับด้วยตัวเองเช่นนี้’
ไม่นานนัก มู่เฉียนซีก็ปรุงยาออกมาเสร็จเรียบร้อย มุมปากของนางยกขึ้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “หวังว่าพวกนั้นคงจะชอบ ไปกันเถอะ! เราเอาของขวัญไปให้พวกนั้นกัน”
ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังจะออกไป จู่ ๆ ก็โดนเชียนอ้าวเซี่ยรั้งเอาไว้ เชียนอ้าวเซี่ยยิ้มพลางกล่าวว่า “เสี่ยวซีซี ที่นี่คือถิ่นของข้า อยากไปไหนนั้นย่อมมีทางลัดที่เร็วกว่าเสมอ ไม่รู้ว่าเสี่ยวซีอยากจะจัดการคนไหนก่อน”
“คนไหนอยู่ใกล้ที่สุดก็เก็บคนนั้นก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวซีก็ตามข้ามา! ” กล่าวจบ เชียนอ้าวเซี่ยก็ดึงมู่เฉียนซีไป และเปิดประตูบานหนึ่งเข้าไป ในไม่ช้าก็มาถึงห้องอีกห้องหนึ่ง
หอคณิกาที่ดูเหมือนจะธรรมดา ทว่า กลับซ่อนไปด้วยค่ายกลที่แปลกประหลาดมากมาย
คนแรกที่ตกเป็นเป้าของมู่เฉียนซีก็คือหัวหน้าศิษย์ของผู้อาวุโสสี่ ซึ่งเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของคนเหล่านี้ เดิมทีเขากำลังเล่นระเริงอยู่อย่างมีความสุข ทว่า จู่ ๆ ก็มีคนสามคนโผล่มายืนตรงหน้าเขา เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปมากด้วยความตกใจ “นี่พวกเจ้าเป็นใคร กล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาที่นี่? ”
และในขณะที่เขาเห็นหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มชุดขาวที่หน้าตางดงามราวหิมะ เขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
“เป็นเจ้า มู่เฉียนซี จะ เจ้า……ท่านอาจารย์ยังไม่ได้ฆ่าเจ้าเหรอ เป็นไปได้ยังไง? ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อาจารย์ของเจ้าไม่ได้ฆ่าข้า แต่วันนี้ข้ามาเพื่อฆ่าเจ้า! ”
“ข้าฆ่างั้นเหรอ ต่อให้พวกเจ้ามีกันสามคน คิดเหรอว่าจะฆ่าคนอย่างข้าได้? ”
“เมี๊ยว! ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมไปแมวเหมียวคงกระพันอย่างข้าไปแล้ว” ร่างอันตรายร่างหนึ่งลั่นวาจานี้ข้าง ๆ หูของเขา
“อย่าขยับซี้ซั้วนะ! ไม่อย่างนั้นข้าเผาเจ้าทั้งเป็นแน่” เสี่ยวหงยืนอยู่บนคานไม้ของห้อง สายตาจ้องเขม็งไปที่เขา!
เขาไม่ได้ลืม ในคืนนั้นสัตว์ร้ายสองตัวนี้ที่ดูเหมือนจะไร้พิษภัยปล่อยพลังอำนาจออกมา พวกมันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม แค่ตัวเดียวก็เพียงพอที่จะทำร้ายเขาให้บาดเจ็บสาหัสแล้ว อย่าว่าแต่สองตัวเลย
เขาตะโกนดังลั่น “ช่วยด้วย! ศิษย์น้องรอง ศิษย์น้องสาม……”
เชียนอ้าวเซี่ยหรี่ตายิ้มพลางกล่าว “ในหอคณิกานี้เก็บเสียงเป็นอย่างดี ต่อให้ศิษย์น้องของเจ้ามีพลังวิญญาณถึงขั้นจักรพรรดิก็คงจะไม่ได้ยิน อีกอย่างตอนนี้พวกเขาก็คงกำลังมีความสุขกันอยู่! ”
ก้นบึ้งหัวใจของศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้เย็นยะเยือกมาก เขากล่าวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พวกเจ้าจะเอายังไง พวกเจ้าจะเอายังไงกันแน่? ข้าเป็นศิษย์แห่งหุบเขาหมอเทวดานะ ขะ ข้า……”
มู่เฉียนซีค่อย ๆ ย่างกรายเดินเข้าไปตรงหน้าเขา นางยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า จากนั้นก็ทิ่มเข็มยาเข็มหนึ่งที่ต้นขาของเขา “ไม่ต้องทำหน้าทำตาหวาดกลัวขนาดนั้นหรอกหน่า อันที่จริงแล้วข้าก็ไม่ได้ทำเรื่องที่เกินไปสักหน่อย ก็แค่เอาของขวัญมาให้ ให้เจ้าได้เล่นสนุก ๆ ก็เท่านั้น”
หลังจากที่โดนเข็มยาเข็มนี้แล้ว ศิษย์พี่ใหญ่ผู้นี้ก็เกิดความสับสนขึ้นในชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นในหัวสมองของเขาก็ว่างเปล่า
“จะ เจ้า……เจ้าวางยาพิษข้า พิษทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ข้าเป็นนักปรุงยา ข้ามีวิธี……ขะ ข้ามีวิธี……”
เขาเอาแต่พึมพำกับตัวเองว่าเขามีวิธีแก้พิษนี้ แต่สุดท้ายกลับคิดไม่ถึงเลยว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองนั้นโดนพิษอะไรเข้าไป?
ไม่มีวิธี? เขาคิดวิธีแก้พิษไม่ออกเลย?
ต่อไป เขาก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกพิษควบคุม
เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างเร่งเร้าว่า “เสี่ยวซีซี เรารีบไปกันเถอะ! ไม่มีอะไรให้น่าดูแล้ว แต่ถ้าหากเสี่ยวซีซีสนใจแล้วล่ะก็ ข้าก็จะ……”
ใบหน้าของน่าหลานอวี้พลันเปลี่ยนไป และเตะเชียนอ้าวเซี่ย “เซี่ย นับวันเจ้ายิ่งไร้ยางอายจริง ๆ”
“ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นองค์รัชทายาทที่หน้าตางดงามพร่างพราย แต่หากการไร้ยางอายจะทำให้ข้าได้ชายาเอกมา ข้ายอมที่จะเป็นคนไร้ยางอาย”
“ชายาเอก นี่ สตรีทั่วทั้งเซี่ยโจวอยากจะเป็นชายาเอกของเจ้า เจ้ายังบอกว่าเจ้าหาชายาเอกไม่ได้อีกเหรอ”
“แต่ข้าอยากได้คนนี้แค่คนเดียว”
เขาสองคนยังคงยืนทะเลาะกันอยู่ภายในห้องนี้ ใครจะรู้ว่ามู่เฉียนซีนั้นออกไปตั้งนานแล้ว
เชียนอ้าวเซี่ยตามไปอย่างรีบร้อน “เสี่ยวซีซี รอข้าก่อนสิ! ที่นี่ค่อนข้างวุ่นวาย ให้ข้านำทางเจ้าไปเถอะนะ ปลอดภัยกว่า”
หลังจากที่จัดการคนแรกได้สำเร็จ มู่เฉียนซีก็ไปจัดการคนต่อ ๆ ไป
คาดว่าตาเฒ่าที่ไล่ตามจวินโม่ซีไปคงจะคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าศิษย์ของเขาจะโดนจัดการเช่นนี้
“เสี่ยวซีซีจัดการพวกสวะนั่นมาเหนื่อย ๆ ให้ข้านวดไหล่นวดขาให้ดีไหม! ” ใบหน้าของเชียนอ้าวเซี่ยแสดงให้เห็นความเอาใจใส่
น่าหลานอวี้ “เจ้าหยุดกวนซีเอ๋อร์ก็เท่ากับให้ซีเอ๋อร์พักผ่อนแล้ว”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม! น่าหลานเข้าใจข้าจริง ๆ ลากตัวเจ้าลามกนี่ออกไปตัดเป็นชิ้น ๆ ไป”
เช้าวันรุ่งขึ้น ทั่วทั้งเซี่ยโจวก็เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้น ข่าวนั้นก็คือศิษย์แห่งหุบเขาหมอเทวดา สำนักนิกายระดับสองเหล่านี้ต่างหมดเรี่ยวแรงและเสียชีวิตคาหอคณิกา นี่มัน……
“เชอะ! ยังมีหน้าบอกว่าตัวเองเป็นศิษย์แห่งสำนักระดับสองอีก ปัดโธ่ มีแรงน้อยแค่นี้ มาตายคาอกผู้หญิง แบบนี้ทำให้เสียชื่อผู้ชายหมด! ”
“นั่นน่ะสิ! คนของหุบเขาหมอเทวดาเป็นแบบนี้กันหมดแน่นอน! ”
“ใช่ พังทลายหมด คงจะไม่เคยเจอผู้หญิงล่ะมั้ง”
ถึงแม้ว่าข่าวฉาวโฉ่นี้จะไม่ได้แพร่กระจายไปยังหุบเขาหมอเทวดา แต่ทำให้หุบเขาหมอเทวดามีชื่อเสียงที่ฉาวโฉ่ย่ำแย่ในเซี่ยโจวเช่นนี้ ก็นับว่าไม่เลวเลย!
หลังจากที่จัดการคนของหุบเขาหมอเทวดาสำเร็จ มู่เฉียนซีกเตรียมตัวจะไปที่กลุ่มพันธมิตรนักปรุงยา
หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรนักปรุงยาได้สัญญากับนางว่าจะมอบประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับนางในฐานะที่นางชนะเลิศอันดับหนึ่ง แต่เป็นเพราะมีปัญหากับคนของหุบเขาหมอเทวดาเสียก่อน นางจึงยังไม่ได้รับรางวัลอะไรมาเลย
ตอนนี้มู่เฉียนซีได้กลายเป็นคนดังในเซี่ยตูแล้ว ทันทีที่นางย่างกรายเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรนักปรุงยา องครักษ์ก็จำนางได้ทันที “คุณหนูมู่ คุณหนูมู่มาแล้ว รีบไปแจ้งให้ท่านหัวหน้าทราบเร็วเข้า! ”
“ท่านหัวหน้า คุณหนูมู่มาแล้วขอรับ”
“คุณหนูมู่ คุณหนูมู่ที่ไหนกัน? ” หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรนักปรุงยางุนงง