ครานี้ ทั่วทั้งภูเขาอวิ๋นเยียนกลับไม่ได้มืดสนิทไปในทันทีเหมือนเมื่อครู่ มันเป็นเพียงเงาขนาดใหญ่ที่เคลื่อนเข้ามาปกคลุมทั่วทั้งภูเขาอวิ๋นเยียนอย่างช้า ๆ
ทันทีที่มู่เฉียนซีเงยหน้าขึ้นมอง นางก็ได้เห็นกับหอคอยขนาดใหญ่ที่สวยงามวิจิตรตระการตายิ่งกว่าสำนักอวิ๋นเยียนหลายเท่า และมันก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกมาจากกลุ่มเมฆาอย่างช้า ๆ
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริด “นี่ นี่มันอะไรกัน? บนท้องฟ้าจะมีหอคอยขนาดใหญ่เช่นนี้ลอยอยู่ได้ยังไงกัน น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
“นี่เจ้าไม่ได้ศึกษาตำราประวัติศาสตร์ของเซี่ยโจวรึ! หอคอยนี้ก็คือหอฉงโหลวบนเมฆายังไงเล่า! หลายพันปีก่อนเคยปรากฏขึ้นในเซี่โจวมาแล้วครั้งนึง!”
“ได้ยินมาว่าในหอฉงโหลวบนเมฆานั้นมีของล้ำค่ามากมาย นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะปรากฏขึ้นในตอนนี้ นับว่าเป็นโชคดีของพวกเราจริง ๆ!”
โดยเบื้องต้นแล้วมู่เฉียนซีสามารถยืนยันได้แน่ชัดว่านี่คือหอฉงโหลวบนเมฆา หอเทพมอบภารกิจให้กับนาง ก็อยู่ในหอฉงโหลวบนเมฆานี้ บางที ในหอฉงโหลวบนเมฆาอาจจะมีดอกเก้าพิฆาตลึกลับอยู่ก็ได้
ในที่สุดวันนี้มันก็ได้ปรากฏขึ้นแล้ว และยังปรากฏออกมาในตอนนี้อีก มู่เฉียนซีแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปในหอฉงโหลวบนเมฆานี้
จิ่วเยี่ยรั้งนางเอาไว้ “ช้าก่อน! ประตูยังไม่เปิด!”
หอฉงโหลวบนเมฆาก็เคลื่อนตัวได้เชื่องช้ามาก เคลื่อนออกมาอย่างช้า ๆ จนในที่สุดหอฉงโหลวบนเมฆาก็ปรากฏออกมาอย่างสมบูรณ์
หอฉงโหลวนี้ใหญ่มโหฬารอย่างมิอาจเปรียบได้ ต่อให้เป็นพระราชวังแห่งแคว้นเฉียนเซี่ยก็เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของหอฉงโหลวเท่านั้น
ตูม ตูม ตูม!
ตรงกลางของหอฉงโหลวบนเมฆามีประตูบานใหญ่บานหนึ่ง และมันก็ค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ!
ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังลั่นขึ้น!
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ในที่สุดหอฉงโหลวบนเมฆาก็ปรากฏออกมาสักที วันที่ข้าจะฝึกฝนเป็นขั้นสูงสุดก็มาถึงจนได้ ใกล้แล้ว!”
“ทั่วทั้งเซี่ยโจว ทั่วทั้งหนานจิ้ง ทุกคนล้วนแต่เคลือบคลานอยู่ใต้เท้าของข้า!”
ทุกคนต่างก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง นี่มันเจ้าบ้าที่ไหนกัน! เหตุใดถึงได้บังอาจกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมาได้!
ชายชราในชุดคลุมสีเทาได้กระโดดขึ้นไปในอากาศแล้ว ทุกคนรู้สึกได้ว่ากลิ่นอายของตาเฒ่าบ้าผู้นี้ที่แผ่ซ่านออกมานั้น มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิ
เดิมทีแล้วในเซี่ยโจวไม่มีผู้ใดที่มีพลังขั้นมหาจักรพรรดิเลย แต่วันนี้ทุกคนกลับมาเจอกับยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิปรากฏตัวออกมาทีละคน ๆ
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!” เจ้าสำนักอวิ๋นเยียนที่ถูกคนของหุบเขาหมอเทวดาให้ยาวิญญาณช่วยชีวิตเอาไว้ ตอนนี้กำลังตะโกนไปที่ชายชราชุดเทาผู้นั้น
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดกันไปอีกครั้ง “คนชุดเทานั่น คือเจ้าสำนักคนเก่าแห่งสำนักอวิ๋นเยียน!”
“เจ้าสำนักอวิ๋นเยียนคนเก่ายังมีชีวิตอยู่ ไม่ใช่ว่าสติฟั่นเฟือนเป็นบ้าตายไปแล้วรึ ?”
“เจ้าสำนักอวิ๋นเยียนคนเก่ายังมีชีวิตอยู่ แล้วเหตุใดตอนที่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามท่านปรากฏตัวออกมา เขาไม่ออกมาล่ะ!”
“นั้นมัน……” มู่เฉียนซียังไม่ทันได้สนใจเจ้าสำนักคนเก่า แต่นางกลับจ้องมองไปที่ร่างของเด็กชุดสีน้ำเงินที่ถูกคลุมด้วยชุดสีเทานั้นของตาเฒ่านั่น!
เงาร่างนั้นนางรู้สึกคุ้นมาก บุตรชายของชิวหลิง หลินเอ๋อร์!
ในตอนนี้เอง ร่างในชุดสีเขียวกระโดดออกมา พลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแผ่ซ่านขึ้นไปบนอากาศ เสียงอันเย็นยะเยือกดังก้องขึ้นว่า “ไอ้แก่ เอาลูกข้าคืนมา!”
ทุกคนหันไปมองหญิงงามผู้นั้น และยังมีพลังที่แข็งแกร่งอีก! เจ้าสำนักคนเก่าแห่งสำนักอวิ๋นเยียนหัวเราะก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ตอนแรกเริ่ม แคว้นหนานเถิง หากไม่มีข้าช่วยก็ไม่มีทางสร้างขึ้นมาเป็นแคว้นได้ ตอนนี้ข้าอยากจะใช้ให้ราชโอรสช่วยข้าเพียงเล็กน้อย โอรสน้อยยังไม่กล้าปริปากพูดอะไรสักคำ เจ้าเป็นเพียงสนมเอกตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง บังอาจกล้าขัดข้า!”
แคว้นหนานเถิง สนมเอก!
มู่เฉียนซีรู้อยู่แล้วว่าชิวหลิงต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นถึงสนมเอกของฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานเถิง!
มิน่าล่ะนางถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาโอรสผู้โชคร้ายแห่งแคว้นหนานเถิงผู้นั้น หน้าตาเขามีความคล้ายกับหลินเอ๋อร์นี่เอง!
ชิวหลิงโกรธจนใบหน้าดำคล้ำ “หากเจ้ากล้าทำอะไรหลินเอ๋อร์ ข้าก็จะให้บุตรชายของชดใช้ด้วยชีวิต!”
ทำอะไรผู้ที่มีพลังวิญญาณเป็นมหาจักรพรรดิไม่ได้ แต่ตอนนี้เจ้าสำนักอวิ๋นได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ไม่อาจขัดขืนนางได้!
เจ้าสำนักอวิ๋นตะโกนว่า “ท่านพ่อ ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย นังหญิงบ้านี่จะฆ่าข้า!”
ทว่า เจ้าสำนักคนเก่าไม่ได้สนใจไยดีอะไรเขาเลย “รอให้ข้าทะลวงพลังวิญญาณได้สำเร็จเมื่อไหร่ ต่อให้ข้าอยากจะได้บุตรชายอีกสักสิบคน ข้าก็ทำได้ เจ้าคิดว่าสวะไร้ประโยชน์นี่จะทำให้ข้ายอมอ่อนข้อให้เจ้าได้งั้นรึ ?”
ความเย็นชาของเจ้าสำนักคนเก่า ได้ทำลายตัดสัมพันธ์สายเลือดตัวเองไปแล้วสิ้น!
เจ้าสำนักอวิ๋นรู้สึกเหมือนโดนสายฟ้าฟาดลงมาก็มิปาน เขาเสียใจจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!
ในครานั้น เขาต้องเสียสละชีวิตบุตรสาวตัวเองเพื่อหนีเอาตัวรอด มาวันนี้ ด้วยความทะเยอทะยานของท่านพ่อ ท่านพ่อก็ยอมทิ้งขว้างชีวิตเขาเช่นกัน!
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!”
ก้นบึ้งในหัวใจของชิวหลิงเย็นยะเยือกลง ไม่มีอะไรมาขัดขวางไอ้แก่นั้นได้เลย!
“ผู้นำตระกูลมู่!” นางหันไปมองมู่เฉียนซีด้วยแววตาขอร้องอ้อนวอน!
“สนมเอกของฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานเถิง นางใช่นางสนมหลิงผู้เก่งกาจที่ตายไปแล้วใช่หรือไม่!”
ตอนนี้ก็มีผู้คนมากมาย และแน่นอนว่าคนเหล่านี้รู้ความลับมาไม่น้อยเลย
“สนมหลิงตายไปแล้วไม่ใช่รึ ? รู้มาว่านางเป็นเทพธิดาของเผ่าเทพ แล้วเหตุใดนางถึงยังมีชีวิตอยู่ล่ะ”
“สำนักอวิ๋นเยียนจับตัวโอรสแคว้นหนานเถิงมาทำไมกัน? ดูเหมือนจะทำเรื่องไม่ดีแน่”
หากพูดถึงเรื่องซุบซิบนินทาแล้วล่ะก็ ใต้หล้านี้คงไม่มีใครเก่งกาจไปกว่าเจ้าของหอเชียนอินอย่างเชียนอ้าวเซี่ยแล้วล่ะ
เชียนอ้าวเซี่ยกะพริบตาปริบ ๆ และจ้องไปที่มู่เฉียนซีครู่หนึ่ง มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้น “เจ้าสวะเซี่ย ตาเจ้ามันชักกระตุกหรือยังไง ? ให้ข้าเอาเข็มเย็บให้ดีไหม!”
“ไม่ใช่สักหน่อย!” ดวงตาของเชียนอ้าวเซี่ยมีเสน่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ!
“หากเจ้ารู้เรื่องอะไรก็รีบพูดไปสิ!” น่าหลานอวี้ทนดูต่อไปไม่ได้จริง ๆ
ช่างเป็นสหายที่ชอบขัดใจข้าจริง ๆ! เขาก็แค่อยากจะให้เสี่ยวซีเอ๋อร์เอ่ยปากถามเขาด้วยตัวเองก็เท่านั้น!
“ฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานเถิงเป็นคนที่มีความสามารถมาก ความสามารถในการดึงดูดสตรีงามนั้น ข้าเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนเขาอันดับสองรองจากข้า! เมื่อครั้งยังหนุ่ม เขาเคยเข้าไปฝึกประสบการณ์ในป่าหนานอู้ เขาถูกเทพธิดาหนานอู้ช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากนั้น……”
มีความรัก มีความเสน่ห์หา รักกันหน่ะสิ!
“เทพธิดาแห่งหนานอู้ รูปร่างหน้าตาสวยล้ำเลิศ และมีพลังการฝึกฝนที่สูงมาก ได้หายตัวไปในตอนที่ให้กำเนิดบุตร คนภายนอกต่างพูดกันว่านางได้ตายไปเพราะคลอดบุตรยาก แต่ข่าวที่ข้าได้มาคือนางได้หายตัวไป!”
“หลังจากนั้นข้าก็ค้นหาตามเส้นสนกลในก็เจอเบาะแสบางอย่าง นั่นก็คือหญิงสาวที่มีสายเลือดของเผ่าเทพหนานอู้ สามารถช่วยให้คนอื่นเข้าไปในหอเทพได้!”
“หนานอินผู้นั้น เป็นบุตรสาวของสาวใช้คนสนิทของสนมหลิงที่นางได้พามาจากเผ่าเทพหนานอู้ การที่เผ่าเทพหนานอู้ถูกฆ่าทำลายล้างก็มีความเกี่ยวข้องกับนางเป็นอย่างมาก”
“สายเลือดของเผ่าเทพหนานอู้ที่ไม่บริสุทธิ์ มีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากเป็นเทพแล้วล่ะก็ ไม่เหมือนกัน ใช้เทพเป็นเครื่องสังเวย สามารถเข้าไปในหอฉงโหลวบนเมฆาและควบคุมกุญแจของหอเทพได้ ได้ครอบครองหอเทพอีกทั้งยังสามารถครอบครองหอฉงโหลวบนเมฆาได้ด้วย”
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง “การที่จะได้กุญแจของหอเทพมาได้ ต้องใช้เทพเป็นเครื่องสังเวยเหรอ ?”
หอเทพไม่เคยบอกเรื่องนี้กับนางเลย!
มู่เฉียนซีมองไปที่ชิวหลิงที่ตอนนี้ดวงตาของนางร้อนรนเป็นอย่างมาก แม่คนหนึ่งสามารถทำทุกอย่างเพื่อลูกได้ หากหลินเอ๋อร์เป็นอะไรไป นางคงจะเป็นบ้าแน่ ๆ
ครั้งนั้น เป็นเพราะความช่วยเหลือของชิวหลิง ทำให้นางได้รับพลังอันแข็งแกร่งที่นางอยากจะได้มา สำหรับพลังวิญญาณที่จะต้องชดใช้ให้กับหอเทพ หากมันจะแลกชีวิตของหลินเอ๋อร์กลับมาได้ นางก็จะยอม
มู่เฉียนซีกล่าว “ฮูหยินชิว ถึงอย่างไรข้าก็ได้รู้จักฮูหยินกับหลินเอ๋อร์ ข้าจะไม่ยอมให้ตาเฒ่าบ้านั่นเอาหลินเอ๋อร์ไปเป็นเครื่องสังเวยเด็ดขาด”