ปัง!
ในขณะที่ตาเฒ่าไม้โบราณผู้นี้กล่าวข่มขู่ จิ่วเยี่ยก็ได้ลงมือแล้ว เขากระโดดขึ้นไปยืนอยู่กลางอากาศ และจ้องมองคนเหล่านี้ดุจดั่งปีศาจก็มิปาน
“ผู้คนในแดนปรโลก เซี่ยโจวไม่ใช่ที่ที่พวกเจ้าจะกระทำการป่าเถื่อนได้!”
ใบหน้าของพวกเขาดูประหลาดใจเป็นอย่างมาก “นี่เจ้าเป็นใครกันแน่ ? กล้าดียังไงถึงได้มองว่าพวกข้าเป็นคนในแดนปรโลก”
“ตัวตนของข้า มิใช่สิ่งที่พวกเจ้ารู้ได้!”
“พวกเกะกะขวางหูขวางตา สาบสูญไปซะเถอะ!”
ตูม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกไปอย่างรุนแรง
สีหน้าของคนอื่น ๆ พลันเปลี่ยนไปอย่างมาก “นายท่านกุ่ยมู่ ช่วยด้วย!” พลังเช่นนี้มิใช่สิ่งที่เขาจะต้านทานได้
กุ่ยมู่กล่าวอย่างเย็นชาว่า “มันก็แค่เด็กที่ไม่เจียมตัว มีอะไรให้น่ากลัว!” กิ่งไม้ดำทึบนับไม่ถ้วนพุ่งไปทางจิ่วเยี่ย!
ตูม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา พลังของกุ่ยมู่กับพลังของจิ่วเยี่ยได้ปะทะกัน พลังนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูเสียอีก!
กำแพงบริเวณรอบ ๆ สำนักอวิ๋นเยียนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง! และทั้งสำนักอวิ๋นเยียนก็ราบเป็นหน้ากลอง!
ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เห็นเทือกเขาที่สูงตระหง่านพังทลายลงเช่นนี้ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก
“เทือกเขาอวิ๋นเยียนถล่มแล้ว!”
“พระเจ้า! ถล่มแล้ว!”
“สวรรค์ลงโทษ สวรรค์ลงโทษแล้วแน่แท้ สำนักอวิ๋นเยียนกระทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าไว้มากนัก สวรรค์ลงโทษแล้ว สวรรค์!”
ภูเขาอวิ๋นเยียนทั้งหมดได้ราบเป็นหน้ากลอง มู่เฉียนซีและพวกก็น่าสังเวชอยู่บ้าง หากมิใช่เพราะเชียนอ้าวเซี่ยห่อหุ้มพวกเขาด้วยชั้นน้ำแข็งหิมะแล้วล่ะก็ มีหวังต้องโดนหินเหล่านั้นทับขยี้จนเละเป็นแน่
อาถิงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “บัดซบ ก็ทำได้แค่อวดบารมี อันที่จริงแล้วก็ไม่เท่าไหร่!”
เชียนอ้าวเซี่ยกับน่าหลานอวี้ต่างก็ตกตะลึง “พลังนี้ มันเป็นพลังอะไรกันแน่ ?”
ต้องเหนือกว่าขั้นมหาจักรพรรดิแน่นอน ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิหากเผชิญหน้ากับพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้จักต้องแตกสลายเป็นผุยผงแน่
ส่วนมู่เฉียนซีก็ประหลาดใจเช่นกัน นางรู้ว่าจิ่วเยี่ยนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขากลับทำให้นางต้องรู้จักเขาใหม่ในทุก ๆ ครั้ง มันช่างวิปริตเกินไปแล้ว
คนเดียวที่นิ่งสงบมาก เกรงว่าจะมีเพียงแค่นายท่านสามมู่เท่านั้น นายท่านสามมู่คว้าแขนมู่เฉียนซีพลางกล่าว “ซีเอ๋อร์ รีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะ!”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม!”
พลังนั้นมิใช่สิ่งที่นางจะต่อต้านได้ ขืนอยู่ต่อไปก็จะกลายเป็นการสร้างปัญหาให้จิ่วเยี่ยเปล่า ๆ
นางเงยหน้าขึ้นมองจิ่วเยี่ยที่กำลังสู้ตบปรบมืออยู่กับกุ่ยมู่กลางอากาศ เขาใช้พลังรุนแรงเช่นนี้ไปแล้วจะควบคุมคำสาปนั้นได้หรือไม่ ?
ตูม!
กุ่ยมู่พบว่าตนเองต่อสู้กับจิ่วเยี่ยไปก็ไร้ประโยชน์!
กลุ่มคนชุดดำเหล่านั้นอุทานขึ้นกว่า “นายท่านกุ่ยมู่แข็งแกร่งยิ่งนัก สมดั่งคำร่ำลือจริง ๆ!”
“นายท่านกุ่ยมู่มีพลังแข็งแกร่งอันดับหนึ่งในใต้หล้า ใครก็มิอาจเทียบได้!”
กุ่ยมู่กล่าวเสียงขรึม “อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ รีบไปจับตัวสาวน้อยนั่นมาให้ได้ หากมันหนีไปได้ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน!”
“ขอรับ!” ครั้นแล้วพวกเขาก็มิได้รีรอ รีบเข้าไปขวางมู่เฉียนซีและพวกที่กำลังจะหนีไปอย่างเร็วที่สุด
พลังห่างชั้นกันมาก ความเร็วของพวกเขาหากเทียบกันแล้วดูเด็กมาก เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวขึ้น “ข้าสกัดกั้นด้านหลังเอง พวกเจ้ารีบหนีไปก่อน!”
อาถิงก้าวออกมาและกล่าวว่า “เจ้าเป็นแค่มหาจักรพรรดิแห่งภูต ทางที่ดีเจ้ารีบพาพวกเขาหนีไปก่อนเถอะ! ส่งทางนี้ข้าจัดการเอง!”
“หยุดเวลา!” แสงสีเขียวอ่อนปรากฏขึ้น และตอนนี้เวลาก็ได้หยุดลง
ปัง! ทันทีที่อาถิงลงมือเขาก็บีบคอศัตรูทันที
ทว่า เผชิญหน้ากับพวกเขาเหล่านี้ พลังของอาถิงนั้นไม่ค่อยเต็มสักเท่าไหร่ ยังไม่ทันได้ลงมือกับคนที่สอง เวลาก็กลับมาเดินต่ออีกครั้ง
“ย้อนเวลา!”
พวกเขามิใช่คนธรรมดา หลังจากที่รู้ว่าอาถิงสามารถควบคุมเวลาได้ พวกเขาก็เอาอาวุธปีศาจออกมาใช้
ตูม! อาวุธปีศาจนั้นพลังการควบคุมเวลาของอาถิงไม่สามารถทำอะไรได้ พลังแห่งเวลาของอาถิงใช้ไม่ได้ผล
พวกเขาหัวเราะขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “เด็กที่สามารถควบคุมเวลาได้มันช่างหาได้ยากจริง ๆ! แต่ท้ายที่สุดพลังก็ยังนับว่าอ่อนแอยิ่งนัก ภายใต้การป้องกันของอาวุธปีศาจนี้ของพวกข้า อุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ของเจ้ามันไร้ประโยชน์!”
“ไปจับตัวสาวน้อยผู้นั้นมา”
ปัง! อาถิงลงมืออีกครั้ง
“ต่อให้พลังในการควบคุมเวลาของข้าใช้ไม่ได้ผลกับพวกเจ้า แต่พวกเจ้าก็อย่าคิดว่าจะได้แตะต้องผู้หญิงบ้านั่นแม้แต่ปลายเล็บ!”
ถึงอย่างไรอาถิงก็เป็นถึงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ ต่อให้ไม่สามารถใช้พลังแห่งเวลาได้ แต่พลังการต่อสู้ของเขายังคงแข็งแกร่ง เพียงแต่การควบคุมเวลานั้นสามารถทำให้จัดการกับศัตรูได้ง่ายกว่า
กระบี่ยาวสีขาวหิมะตกลงมา เชียนอ้าวเซี่ยตะโกนอย่างดุดันว่า “ออกไป!”
“เหอะ เหอะ! เจ้าเด็กผู้นี้คงจะเป็นทายาทของเจ้าเศษวิญญาณนั่นหล่ะสิ! เหมือนกับเจ้าเศษวิญญาณนั่นไม่มีผิด อ่อนหัดอย่างน่าสมเพช แค่บีบก็แหลกสลายเป็นผุยผง!” หนึ่งในกลุ่มคนชุดดำนั้นหัวเราะเยาะเย้ย
กระบี่วิญญาณน้ำแข็งตกลงบนร่างของพวกเขาแต่ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย!
ปัง! เชียนอ้าวเซี่ยกระเด็นลอยออกไป ครานี้เขาบาดเจ็บภายในเข้าแล้วจริง ๆ กระดูกทั้งหมดแตกจนมิอาจลุกขึ้นมาได้
คนชุดดำเดินเข้ามา มู่เฉียนซีผลักน่าหลานอวี้ออกไปและกล่าวว่า “ไปดูเจ้าสวะเซี่ยนั่น อย่าให้เขาตาย จากนั้นก็พาเขาออกไปจากที่นี่ เร็วเข้า!”
“ซีเอ๋อร์!” ใบหน้าน่าหลานอวี้ซีดเผือด
“น่าหลาน ข้าไม่อยากจะวางยาพิษควบคุมเจ้าตอนนี้นะ!”
ศัตรูที่อยู่ตรงหน้าน่ากลัวยิ่งกว่าที่นางได้จินตนาการเอาไว้มาก เดิมทีคิดว่ามีแค่ไม้โบราณนั้นต้นเดียว จิ่วเยี่ยสามารถรับมือได้ นางและพวกน่าจะไม่มีอันตรายใด
คิดไม่ถึงเลยว่าศัตรูจะพาผู้ช่วยที่แข็งแกร่งมาเป็นกลุ่มเช่นนี้ พลังการควบคุมเวลาของอาถิงใช้ไม่ได้ผล ไม่มีอะไรมาหยุดพวกมันได้เลย
สีหน้าของน่าหลานอวี้ซีดเผือด เขากล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ ข้าเข้าใจแล้ว!”
คนชุดดำเหล่านั้นมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยความได้เปรียบ “แม่นางน้อย เอาของสิ่งนั้นออกมาซะโดยดีเถอะ! มิเช่นนั้นแล้วเจ้าอาจจะตายได้นะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากเจ้าฆ่าข้า ก็อย่าหวังว่าเจ้านั่นจะได้เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตไป!”
“พวกข้าไม่ฆ่าเจ้า แต่พวกข้าจะใช้วิธีการทรมานเจ้า จนกว่าเจ้าจะยอมเอาเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตมา วิธีการสอบสวนของแดนปรโลกของพวกข้า สาวน้อยอย่างเจ้าคงไม่เจอลองเป็นแน่!”
มือคู่หนึ่งยื่นไปที่คอมู่เฉียนซี
คนเหล่านี้ได้ควบคุมการเคลื่อนไหวของนางแล้ว บรรยากาศโดยรอบเหมือนจะแข็งตัวลงก็มิปาน มู่เฉียนซีไม่อาจขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว และไม่อาจหลบหลีกได้
แกร๊ก! แต่ในทันใดนั้นเอง มือที่เรียวยาวคู่หนึ่งได้สกัดกั้นมือคนผู้นั้นเอาไว้ และได้บีบข้อมือของคนผู้นั้นอย่างรุนแรง
สหายร่วมกลุ่มของเขาต่างก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจมองไปที่ชายผู้ที่นั่งอยู่บนรถเข็นที่อยู่ข้าง ๆ มู่เฉียนซี ผมสีดำสามพันเส้นได้กลายเป็นสีม่วงเงิน และตกลงมา
ยาของมู่เฉียนซีก็มิอาจปกปิดสีของดวงตามู่อวู่ซวงได้อีกต่อไป ดวงตาสีม่วงเงินคู่นั้นเผยให้เห็นถึงความเย็นยะเยือก
ตอนนี้ดูเหมือนว่ามู่เฉียนซีมิอาจรับรู้ได้ถึงพลังของท่านอาว่าแข็งแกร่งเพียงใด ดวงตาของเขาตอนนี้ทำให้คนชุดดำเหล่านี้ถอยหนีโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งแทบจะคุกเข่าลง
“กากเดนอย่างพวกเจ้า คิดจะทำร้ายหลานสาวของข้ามู่อวู่ซวงงั้นรึ ?”
ดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปที่พวกเขาทำให้ตอนนี้พวกเขาถึงกับขาสั่น พลังอันน่าสะพรึงกลัวและพลังกดดันที่แข็งแกร่งนี้ ทำให้พวกเขาหวาดกลัวมาจากจิตวิญญาณ ชายผู้นี้เป็นใครกันแน่?