มู่อวู่ซวงลอยตัวลงมาจากกลางอากาศ ผมสีเงินสยายลงมาอย่างสง่า ดวงตาสีม่วงเงินคู่นั้นมองไปที่มู่เฉียนซี
เขาสามารถยืนได้เป็นปกติแล้ว มู่เฉียนซีมองท่านอาที่ยืนอยู่บนพื้นดินตอนนี้ ดวงตาดำขลับคู่นั้นของนางลุกวาวเปล่งประกายขึ้น นางทำได้แล้ว ในที่สุดนางก็ทำได้แล้ว
ท่านอาที่ลุกขึ้นมายืนได้ตอนนี้ดูมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก งดงาม งดงามอย่างไร้ที่ติ
มู่อวู่ซวงค่อย ๆ ก้าวเดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซี ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ซีเอ๋อร์ ผนึกของอาได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว ร่างกายอามีพลังที่ชั่วร้ายเช่นนี้ ซีเอ๋อร์จะทิ้งอาไปหรือไม่ ?”
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วพลางกล่าว “ท่านอามีพลังนี้แล้วจะไม่ปกป้องหลานแล้วงั้นรึ ? ไม่รักหลานแล้ว ?”
มู่อวู่ซวงส่ายหน้า และมองมู่เฉียนซีด้วยความรัก “ไม่เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด ต่อให้ต้องตายก็ไม่มีทาง”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นก็ถูกแล้ว ท่านอายังคงเป็นคนที่หลานรักที่สุด และเป็นคนที่สำคัญที่สุดด้วย”
ความชั่วร้ายกับความถูกต้องนั้นไม่มีอะไรแน่นอนเลย
ตูม!
ตอนนี้กลางอากาศเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ยังมีศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่ยังคงพัวพันอยู่กับจิ่วเยี่ย มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าพลังแห่งคำสาปนั้นกำลังจะระเบิดขึ้นอีกครั้งราวกับระเบิดที่กำลังนับเวลาถอยหลังก็มิปาน ทำให้นางเป็นกังวลมาก
มู่อวู่ซวงดูออกว่ามู่เฉียนซีกำลังเป็นกังวล เขาจึงกล่าวขึ้นว่า “ซีเอ๋อร์ อาจะไปช่วยคนผู้นั้นเอง!”
จิ่วเยี่ยเห็นมู่อวู่ซวงใกล้เข้ามา ดวงตาสีฟ้าประดุจน้ำแข็งคู่นั้นก็ยิ่งเย็นชามากขึ้นเรื่อย ๆ เงากระบี่หลายเล่มปรากฏขึ้นกลางอากาศ พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้คนเหล่านั้นมิอาจต้านทานได้!
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ! เพียงการโจมตีในคราเดียว ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าก็ถูกกำจัดจนสิ้น
ดวงตาสีฟ้าประดุจน้ำแข็งคู่นั้นมองไปที่มู่อวู่ซวง นี่คือศักดิ์ศรีของผู้เป็นกษัตริย์ การต่อสู้ของเขา ไม่อนุญาตให้ใครอื่นเข้ามาสอดแทรก โดยเฉพาะ มู่อวู่ซวง
แน่นอนว่ามู่อวู่ซวงนั้นเข้าใจความหมายนี้ของจิ่วเยี่ย มู่อวู่ซวงยิ้มและกลับมาปรากฏกายอยู่ต่อหน้ามู่เฉียนซี
พลังอันบ้าคลั่งของจิ่วเยี่ยยังมิได้เหือดหายไปแต่อย่างใด มู่อวู่ซวงเฝ้าระวังอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซี หากจิ่วเยี่ยทำสิ่งใดที่เป็นการทำร้ายมู่เฉียนซีแล้วล่ะก็ เขาจักต้องหยุดมันอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีเอาเข็มยาหลายเข็มออกมา นี่คือยาที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดที่นางได้ศึกษาออกมาเกี่ยวกับคำสาปของจิ่วเยี่ย มันอาจจะไม่ได้ผลมากนัก แต่ก็สามารถใช้ในยามฉุกเฉินได้
มู่เฉียนซีจะฉีดยาให้เขา จิ่วเยี่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธ และเข็มยาแต่ละเข็มก็ได้ฉีดเข้าร่างกายจิ่วเยี่ยทั้งหมด ในตอนนี้เองเสียงที่ทอดถอนใจก็ดังขึ้น “โอ้ พระเจ้า!”
“คำสาป บนโลกนี้มีคำสาประดับนี้ได้ยังไงกัน แม้แต่สมัยโบราณก็มิอาจมีได้!”
“ชายผู้นี้ช่างซวยจริง ๆ ที่โดนคำสาปเช่นนี้ ชีวิตนี้นอกจากความตาย ก็อย่าหวังว่าจะแก้คำสาปนี้ได้”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “นิรันดร์ เจ้าสงบปากสงบคำหน่อยจะได้หรือไม่ พูดว่าไม่มีวิธีควบคุมคำสาปนี้พูดบ้าอะไรห๊ะ”
นิรันดร์กล่าวถามว่า “ยอดดวงใจ ทำไมล่ะ ? เขาเป็นผู้ชายของเจ้ารึเจ้าถึงได้ใส่ใจมากเช่นนี้ ?”
มู่เฉียนซีตอบ “ไม่ใช่สักหน่อย แล้วตกลงเจ้ามีวิธีหรือไม่ ?”
นิรันดร์ตอบว่า “ในเมื่อไม่ใช่ผู้ชายของเจ้า งั้นข้าก็จะคิดหาวิธีดูก่อน แต่หากว่าเป็นศัตรูหัวใจข้าล่ะก็ ข้าก็ขี้เกียจที่จะช่วย!”
นิรันดร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กล่าวขึ้นว่า “สิ่งที่ข้าศึกษามาก็คือการช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บของคน หากเป็นเรื่องการแก้พิษนั้น สบายมาก แต่ในร่างกายของเขากลับเป็นคำสาป มันไม่ได้อยู่ในขอบเขตของข้า!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ดูเหมือนว่าข้าจะคาดหวังเปล่า! หม้อเทพนิรันดร์ ก็งั้น ๆ!”
“ถึงแม้ว่าข้าจะช่วยไม่ได้ แต่ข้าก็เป็นถึงหม้อเทพนิรันดร์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังพอจะรู้วิธีอยู่บ้าง หากต้องการจะแก้คำสาปของเขา ก็ต้องหาตำราหมื่นคำสาปที่สืบทอดมาโบราณให้เจอ บางทีอาจจะหาเบาะแสอะไรเจอก็ได้”
“แค่นี้เนี่ยนะ ?”
“อืม!”
มู่เฉียนซียังคงผิดหวังเฉกเช่นเดิม เจ้าหมอนี่เชื่อไม่ได้เอาเสียเลย!
นิรันดร์กล่าวว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะแก้คำสาปไม่ได้ แต่คำสาประดับนี้ข้าสามารถใช้ยาเพื่อควบคุมมันได้นะ เพียงแต่ว่า ยอดดวงใจของข้า! ยิ่งเจ้าควบคุมมันมากเท่าไหร่ ต่อไปการระเบิดของคำสาปก็จะเกิดขึ้นมากเท่านั้น ชายผู้นี้อันตรายมาก จัดการฆ่าและฝังเขาทั้งเป็นมันจะปลอดภัยต่อเจ้ามากกว่า”
นี่จิ่วเยี่ยไปทำอะไรให้หม้อเทพนิรันดร์ไม่ชอบเอา! อาถิงคิดจะฆ่าเขา นี่นิรันดร์ก็คิดอยากจะฆ่าเขาด้วยอีกคน
“รีบบอกวิธีของเจ้ามาเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“อย่าเพิ่งร้อนใจไปแม่ยอดดวงใจของข้า! ข้าคิดวิธีที่จะช่วยเจ้าปีศาจหิมะนั่นได้แล้ว”
มู่เฉียนซีหันไปมองจิ่วเยี่ย และกล่าวถามว่า “จิ่วเยี่ย เจ้าเป็นยังไงบ้าง ?”
ดวงตาสีฟ้าประดุจน้ำแข็งคู่นั้นจ้องมองมู่เฉียนซีราวกับจะกลืนกินนาง ดวงตาของเขาขยับ และกล่าวด้วยเสียงขรึมว่า “ไม่เป็นไร!”
“เจ้าไปจัดการเรื่องของเจ้าเถอะ!”
ร่างในชุดคลุมยาวสีดำนั้นกะพริบและจิ่วเยี่ยก็อันตรธานหายไปทันที
อาถิงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “นี่! เจ้ารอข้าก่อน!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ถึงแม้ว่าอาถิงจะเสียพลังไปมากและถึงเวลาที่ต้องหลับใหล แต่ตอนนี้มีหลายเรื่องราวที่ยังคงไม่ชัดแจ้ง ไม่อาจหลับใหลได้!
ครั้นแล้วอาถิงก็ไล่ตามจิ่วเยี่ยไป ส่วนมู่เฉียนซีก็รีบวิ่งมาข้าง ๆ ร่างของเชียนอ้าวเซี่ย ในตอนนี้เองร่างในชุดขาวก็พรวดเข้ามา เมื่อเขาเห็นคนที่นอนเอนกายอยู่ในโลงน้ำแข็งนั้นก็ตกใจจนนิ่งอึ้งไป
“ซีเอ๋อร์ เซี่ย……เซี่ยเขา……”
น่าหลานอวี้กล่าวเสียงต่ำว่า “เขาทำให้ข้าหมดสติไป แล้วนี่เขาทำอะไรลงไป ?”
“โง่เง่า!”
ปัง!
น่าหลานอวี้ต่อยโลงน้ำแข็งนั้นไปหมัดหนึ่งจนเลือดกระซิบออกมา แต่โลงน้ำแข็งของเชียนอ้าวเซี่ยกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
มู่เฉียนซีกัดฟันกรอดและกล่าวว่า “เขาตีเจ้าให้หมดสติไป แล้วมาหาที่ตายเอาที่นี่ ข้าก็อยากจะฉีกเนื้อเขาออกมาชิ้น ๆ เหมือนกัน!”
“ยอดดวงใจ รอให้เจ้าช่วยชีวิตเขากลับมาได้ ถึงตอนนั้นเจ้าอยากจะฉีกเนื้อเขาออกเป็นกี่ชิ้นก็ย่อมได้!”
“แต่ข้าก็ไม่อยากให้ยอดดวงใจของข้าลงไม้ลงมือกับคนอื่นอย่างสนิทสนมเช่นนั้นหรอกนะ รอให้ข้าแปลงกายเป็นร่างมนุษย์ได้เมื่อไหร่ เจ้าจะทำอะไรกับข้าก็ตามสบายเลย!” เสียงที่มีเสน่ห์ดังขึ้น
“วิธีรักษา!”
นิรันดร์กล่าว “นี่คือชะตากรรมของเขา แต่เจ้าหมอนี่มีจิตหมกมุ่นอันแรงกล้ากับอยู่กับโลกนี้มาก วิญญาณยังไม่ได้สลายหายไป ขอเพียงแค่ให้ดวงวิญญาณของเขาอยู่ในร่างของเขา ถึงตอนนั้นแล้วเจ้าก็ค่อยปรุงยาหยินหยางอนันต์ออกมา การที่เจ้าหมอนี่จะฟื้นคืนชีพมานั้นก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้”
“และแน่นอนว่ายาหยินหยางอนันต์นั้นเจ้าจะไม่อาจปรุงออกมาสำเร็จได้ในตอนนี้ ประการแรกเจ้ายังไม่มีความแข็งแกร่งถึงขั้นนั้น ประการที่สองไม่มีสมุนไพรวิญญาณ แต่เจ้าหมอนี่ก็นับว่าฉลาดมากนะ! ตายแล้วก็ยังแช่แข็งตัวเองไว้ ถ้าโรงน้ำแข็งนี้เอาไปวางไว้ในที่ที่เย็นยะเยือกพอควร ต่อให้เวลาผันผ่านไปหลายพันปี เนื้อหนังมังสาก็มิอาจผุกร่อน แต่ข้าเชื่อในพลังของยอดดวงใจของข้า ภายในหลายร้อยปีนี้จักต้องปรุงยาหยินหยางอนันต์ได้สำเร็จแน่นอน!”
“แต่จะทำยังไงให้วิญญาณของเชียนอ้าวเซี่ยกลับเข้าอยู่ในร่างเขาได้ล่ะ” มู่เฉียนซีขมวดคิ้วพลางกล่าว
“คำถามนี้เจ้าไปถามท่านอาของเจ้าน่าจะดีกว่า”
ในตอนนี้เองมู่อวู่ซวงก็กล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “ซีเอ๋อร์ อย่าได้กังวลไปเลย วิญญาณของเขาไม่ได้สลายหายไปหรอก ขอเพียงแค่วิญญาณไม่สลายหายไป การฟื้นคืนชีพนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ตอนแรกเป้าหมายของกุ่ยมู่นั้นก็คือมู่เฉียนซีกับมู่อวู่ซวง ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าเชียนอ้าวเซี่ยลง แต่เขาก็ไม่ได้ทำลายวิญญาณของเชียนอ้าวเซี่ย ด้วยเหตุนี้เองจึงยังมีจุดเปลี่ยน