สัตว์วิญญาณที่จะคู่กับบุคคลขั้นราชา ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ ?
พี่หลงกล่าวขึ้นว่า “ชอบอะไรแปลกใหม่ไม่ใช่รึ ? คนขั้นราชาเหล่านี้คู่กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ก็น่าจะตื่นเต้นดี!”
“เช่นนั้นเกรงว่าสักคนที่รอดชีวิต ก็คงจะไม่มี…” โม่จิ่นกล่าวเสียงต่ำ
“เอาหน่า… ก็ไม่ใช่ว่าทั้งหมดจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ แต่หากมีคนรอดชีวิตมาได้ เช่นนั้นก็ถือว่าเยี่ยมยอดไปเลยไม่ใช่หรือ ?”
ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ จะเป็นหรือตาย พี่หลงก็มิได้สนใจ เขาสนใจเพียงแค่ว่าการแข่งขันในสนามนี้จะทําให้เขาสนุกได้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง เขากระหยิ่มยิ้มย่อง มองดูเงาร่างบางนั่นกําลังจะถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ดุร้ายกัดฉีกเนื้อเป็นชิ้น ๆ ทุกคนต่างถอนหายใจ …นี่มันช่างน่าเสียดายจริง ๆ
ทว่าเมื่อตอนที่พวกเขาเห็นเงาร่างนั้นถูกกัดฉีกจนเป็นชิ้น ๆ กลับไม่เห็นเลือดที่สาดกระเซ็นออกมาแม้แต่น้อย
“หายไปแล้ว! นางหายไปแล้ว!!!”
“นั่นเป็นภาพลวงตา!”
“รวดเร็วยิ่งนัก ข้าก็นึกว่านั่นเป็นเรื่องจริงเสียอีก”
“โอ้!”
มีหลายคนที่ได้รับความเสียหายจากความจริงนี้
“ผนึกมังกรวารี!”
แสงสีฟ้าอ่อนสว่างไสวไปทั่วพื้นที่สีดํานี้
— ตูม! —
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทุกคนถึงกับปากอ้าตาค้าง
“นาง… ราชาแห่งภูตระดับเจ็ด!”
“หึ! ส่งยอดฝีมือระดับเจ็ดขึ้นไป บ้าไปแล้วจริง ๆ”
ทุกคนต่างถลึงตาใส่โม่จิ่น หากไม่มียอดฝีมือก็ยืมใครไปก่อนก็ได้ เหตุใดต้องไปรบกวนไปลําบากสตรีงาม ๆ อย่างนางผู้นั้นด้วย โม่จิ่นก็ช่างไร้เดียงสานัก ราชาแห่งภูตระดับเจ็ดช่างหลอกลวงเสียจริง แม้แต่เขาคนเดียวก็ไม่แน่ว่าจะสามารถหลบหนีจากน้ำมือของนางได้ พลังการต่อสู้ของสตรีผู้นี้ดูไม่เหมือนอย่างที่เห็นภายนอก
มู่เฉียนซีมีทักษะดีเยี่ยมและการเคลื่อนที่ของนางก็รวดเร็วมาก ทุกจังหวะการขยับของนางทําให้ผู้คนรู้สึกตาพร่า แม้ว่าความแข็งแกร่งจะห่างชั้นกับขั้นราชาระดับเก้า สัตว์วิญญาณระดับเจ็ด และสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งอยู่มาก แต่นางกลับดูผ่อนคลายที่สุด
“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนดังออกมา
ราชาแห่งภูตระดับเก้าผู้หนึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยสัตว์วิญญาณ ในที่สุดก็ถูกงูเหลือมยักษ์ตัวหนึ่งอมเขาไว้ในปากอย่างน่าตกใจ
“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”
“ผู้นำโปรดช่วย…!”
การต่อสู้ที่กําลังจะถึงตายนี้ กลับทําให้ผู้ชมในสนามตื่นเต้นมากขึ้น
— พรวด! —
ตอนที่เขาถูกกลืนกินอย่างสิ้นหวัง ผู้ชมดูในสนามก็ตะโกนว่า “ดี! ยอดเยี่ยม!”
พวกเขาที่ลงแข่งขันเป็นนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานาน ในหัวใจของพวกเขาบิดเบี้ยวเป็นอย่างมาก พวกเขาอาศัยงานฉลองที่โหดร้ายเลือดเย็นเช่นนี้เพื่อความบันเทิง และไม่คิดยุ่งกับชีวิตที่อ่อนแออย่างแน่นอน
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้สนใจแล้วว่านางจะงดงามหรืออัปลักษณ์ สองตาของพวกเขามองมู่เฉียนซีด้วยแววตาเป็นประกาย และตั้งตารอฉากที่มู่เฉียนซีจะถูกสัตว์วิญญาณฆ่าตาย
มนุษย์ข้างในนั้นถูกทําลายไปถึงสองคนแล้ว แต่มู่เฉียนซีที่อ่อนแอที่สุดกลับยังปลอดภัยดี ความรวดเร็วของนางสูงกว่าผู้ที่ระดับเดียวกันมาก มันกลายเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตนาง
“แฮ่ก ๆ แม่นางคนงาม อย่าเอาแต่วิ่งสิ”
“ใช่แล้ว เมื่อไรแม่นางคนงามจะวิ่งไม่ไหวสักทีนะ”
“ใช่ ๆ ๆ…”
พวกเขาตะโกนออกมาด้วยเพราะคาดหวังว่ามู่เฉียนซีจะหมดแรง
“พี่กู่!” เซียวอู่ยังคงงอแงอยู่ตรงหน้าพี่กู่
“ข้าไม่อยากเห็นนางผู้หญิงนั่นมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
พี่กู่กล่าวขึ้นทันทีว่า “ได้!”
มู่เฉียนซีหลบการโจมตีของสัตว์วิญญาณเหล่านี้ได้ราวกับสายลม ตามมาด้วยลมกระโชกที่พัดผ่านมาด้านหลัง และม่านน้ำก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของนาง
“โล่วิญญาณวารี!”
มู่เฉียนซีขยับถอยหลังไปหลายสิบก้าว ทันใดนั้นก็เห็นชายในชุดดําพุ่งเข้ามาหานาง
คนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกู่ของคนฝั่งนั้น
— ปัง! —
ในเวลานี้มู่เฉียนซีถูกสัตว์วิญญาณและคนผู้นี้รุม ทําให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ดี! ดีมาก!” พี่หลงกล่าวอย่างตื่นเต้น
“ทำเช่นนี้สิถึงจะถูกต้อง มิเช่นนั้นรอให้คนอื่นถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จัดการหมดแล้วยังไม่ได้เริ่มสู้ เช่นนั้นมันจะได้เรื่องที่ไหนกันเล่า ?!”
ใครบางคนหัวเราะก่อนจะกล่าวขึ้น “ฮ่า ๆ ๆ พี่หลงกล่าวถูกต้องแล้ว เช่นนี้สิถึงจะน่าสนใจ”
ฝ่ายตรงข้ามไล่ตามไปอย่างจำใจ กระบวนท่าที่ร้ายแรงถึงชีวิต แสงสีแดงเข้มสว่างขึ้นทั่วทั้งมิติ
“นี่มันอะไรกัน ?”
“มันเป็นกระบี่ เฮ้ย! นั่นกระบี่!”
ในตอนนี้มู่เฉียนซีหยิบกระบี่มังกรเพลิงออกมาพลันแสงสีแดงเพลิงปรากฏขึ้น
“มังกรเพลิงสังหาร!”
— ตูม! ตูม! —
คนที่คิดจะลอบโจมตีมู่เฉียนซีนั้นถูกโยนขึ้นไปในอากาศด้วยพลังทําลายล้างของมังกรเพลิง จากนั้นก็ถูกสัตว์วิญญาณที่มีรูปร่างเหมือนสิงโตตัวหนึ่งกระโดดขึ้นไปงับเอาไว้
“อย่าาาา!” เขาตะโกน “ท่านผู้นำช่วยข้าด้วย!”
ต่อให้ผู้นำในที่นี้จะรู้สึกสงสารลูกน้องมากเพียงใด ก็ไม่มีทางลงมือช่วยเหลือในสถานการณ์เช่นนี้ได้ เพราะมันจะขัดอารมณ์ความสนุกของผู้นำคนอื่น ๆ ไป
ดังนั้น หมากตัวนี้ถึงวาระที่จะต้องถูกทอดทิ้งแล้ว
“แข็งแกร่งมาก! ฆ่าได้ในกระบวนท่าเดียว!”
“ทั้ง ๆ ที่เป็นราชาแห่งภูตระดับเจ็ด แต่กระบวนท่าสมบูรณ์แบบเช่นนี้ เกรงว่าคนเหล่านั้นในสนามคงมิอาจต้านทานได้”
ด้วยบทเรียนของคนผู้นั้น ไม่มีใครกล้าเสี่ยงตายเพื่อมาหาเรื่องมู่เฉียนซีอีกแล้ว ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่โหมกระหน่ำ แม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่ได้ทำอะไรพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากความตายได้
เมื่อต้องเข้ามายังที่นี่ พวกเขาก็ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาต้องเผชิญหน้าขึ้นมาจริง ๆ พวกเขากลับตกใจกลัวจนเป็นลมไป
จากเจ็ดคน สุดท้ายเหลือเพียงหนึ่งคนที่อ่อนแอที่สุดและยังเป็นสตรี
เวลานี้ พวกอันธพาลที่ชมดูการแข่งขันอยู่เริ่มตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนี้ ฉากสนุก ๆ ก็กําลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
สัตว์วิญญาณระดับเจ็ดถูกผู้อื่นฆ่าไปไม่น้อย ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ดุร้าย
“ฉีกนางให้เป็นชิ้น ๆ! ฉีกนาง!”
“ฉีกเร็ว!…”
“ฉีก!”
“โฮก!”
ทันใดนั้น มู่เฉียนซีได้ยินเสียงคํารามดังมาจากด้านหน้า คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เข็มยานับไม่ถ้วนพุ่งออกไป และผงพิษในมือก็ได้ถูกหยิบออกมาอย่างไม่ตระหนี่ถี่เหนียวเลย ผลสุดท้าย…
— ปัง! ปัง! ปัง! —
สัตว์วิญญาณที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดล้มลงไป ทั่วทั้งสนามแข่งขันสัตว์ มีไอพิษรมควันอยู่ทั่วท้องนภา คนที่อยู่ใกล้กับเวทีรู้สึกไม่ค่อยสบายนัก
ผู้ชมดูที่ตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในตอนนี้ราวกับถูกเทน้ำแข็งใส่หลายอ่าง พวกเขาล้วนตกตะลึงไปทั้งหมด!
“หืม… สัตว์ตายหมดแล้ว!”
“เอ้า! แล้วการต่อสู้ระหว่างสาวสวยและสัตว์ที่ข้าตั้งตารออยู่ล่ะ ?!”
“น่าเสียดายจริงเชียว!”
เซียวอู่ยืนขึ้นก่อนจะกล่าวว่า “นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร ? นางวางยาพิษ การแข่งขันนี้ถือว่าเป็นโมฆะ!”
โม่จิ่นรีบกล่าว “การแข่งขันสัตว์ทุก ๆ ปีก็สามารถชนะได้ด้วยทุกวิถีทาง นางวางยาพิษแล้วอย่างไร ?”
มู่เฉียนซีขึ้นมาจากสนามประลอง นางเหลือบมองเซียวอู่และกล่าวว่า “ถ้าเจ้าอยากจะไม่ให้ใช้ยาพิษสู้กับเจ้าตัวใหญ่เหล่านั้น ข้าสามารถส่งเจ้าลงไปและล้างพิษพวกมันได้ เจ้าอยากลองไหมเล่า ?”
เซียวอู่มองมู่เฉียนซีที่กําลังใกล้เข้ามา นางกลัวมู่เฉียนซีจะโยนนางทิ้งลงไปเสียจริง ๆ จึงตะโกน “อย่า! เจ้าอย่าเข้ามานะ”
โม่จิ่นเดินไปหามู่เฉียนซี เขามองพี่หลงพลางกล่าวว่า “พี่หลง พี่จะประกาศผลการประลองระดับราชาแล้วใช่หรือไม่ ?”
“อืม การแข่งขันสัตว์ระดับราชา เจ้า ผู้นำโม่เป็นผู้ชนะ แต่เห็นได้ชัดว่าทุกคนในการแข่งขันสัตว์ในครั้งนี้ต่างก็ไม่ได้มีความสุขนัก ดังนั้น การต่อสู้ระดับจักรพรรดิในรอบต่อไปจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง” พี่หลงกล่าวเสียงต่ำ
ทันใดนั้นทุกคนต่างพากันส่งเสียงพึมพำ “เปลี่ยนรึ ? จะเปลี่ยนอย่างไร ? โปรดพี่หลงช่วยอธิบายด้วย”
.