ปลาหมึกสัตว์พันธสัญญาของพี่หลงก็ถูกย่างไปเช่นนี้ เปลวเพลิงของเสี่ยวหงนั้นพุ่งไปเร็วมาก ไม่มีโอกาสให้เขาได้หลบหนีเลย
ปลาหมึกที่ถูกย่างจนไหม้เกรียมขยับเล็กน้อย และเสียงแกร่กก็ดังขึ้น
แกร่ก! เสี่ยวหงกล่าวดั่งบุคคลที่ไร้ซึ่งความผิด “ดูเหมือนว่าข้าย่างจนแข็งเกินไป รสชาตินี้เกรงว่าจะไม่อร่อยแล้วสิ”
ตูม! สัตว์พันธสัญญาของตนเองถูกย่ำยีจนเป็นเช่นนี้ พี่หลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็มิอาจอดทนได้อีกต่อไป!
“พวกเจ้ารนหาที่ตายจริง ๆ!”
เสี่ยวหงกล่าว “คนที่รนหาที่ตายก็คือเจ้า!”
ปัง ปัง ปัง!
จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
“มังกรเพลิงสังหาร!”
“ทักษะเทียนซวน!”
“มังกรวารีพิฆาต!”
“หมัดคลั่ง สะท้านสวรรค์!”
ไม่มียอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิ สำหรับมู่เฉียนซีแล้วการคุกคามของคนเหล่านี้มิได้เป็นเรื่องใหญ่มากนัก
สัตว์พันธสัญญาลงมือสู้รบ ยาพิษนับร้อยพันและอาวุธลับทุกชนิดเคลื่อนไหวออกไปพร้อมกัน อีกทั้งทักษะทางร่างกายที่สุดแสนจะแปลกประหลาดของนาง คิดจะฆ่านางให้ตายนั้น ไม่มีทาง!
ตอนนี้โม่จิ่นเองก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งแล้วว่าความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีนั้นน่าเกรงกลัวเพียงใด เขาแอบดีใจเล็กน้อย โชคที่ไม่ได้วางตัวเป็นศัตรูกับนาง มิเช่นนั้นแล้วไม่รู้เลยว่าจะต้องตายเช่นไร
ตูม ตูม ตูม!
“ไม่มีความท้าทายเลยแม้แต่น้อย!” สันดานสัตว์ที่ระเบิดออกมาของอู๋ตี้ได้จัดการกับคนของหัวหน้ากู่อย่างราบคาบ และได้สั่งสอนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ดุร้ายเหล่านั้นให้กลายเป็นหนูที่เชื่อฟัง ชั่วครู่หนึ่งอู๋ตี้ก็ได้แปลงร่างกลับมาเป็นแมวน้อยตัวจิ๋วขนาดเท่าฝ่ามือและกระโดดกลับมาที่มู่เฉียนซี
“นายท่าน การแสดงของข้ายอดเยี่ยมมากเลยใช่หรือไม่ ?” อู๋ตี้ที่ได้แปลงร่างเป็นแมวตัวจิ๋วในตอนนี้ ก็เริ่มออดอ้อนมู่เฉียนซีเพื่อร้องขออาหาร
มู่เฉียนซีเหลือบไปมองกลุ่มคนที่น่าเวทนาอย่างไร้ที่เปรียบเหล่านั้น นางยิ้มพลางกล่าวว่า “ผลงานของอู๋ตี้นับวันยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นจริง ๆ”
“แน่นอนอยู่แล้ว เช่นนั้น นายท่าน! เอ่อ อาหารของอู๋ตี้จะหมดแล้ว นายท่านจะเตรียมอาหารให้อู๋ตี้เลื่อนขั้นระดับสี่เร็ว ๆ ใช่หรือไม่!” อู๋ตี้กล่าวอย่างน่าสงสาร
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย นางกล่าว “อาหารที่เตรียมไว้ให้ทั้งหมด กินหมดแล้วงั้นรึ”
จำได้ว่าตอนที่นางออกจากเซี่ยโจวนางได้เอาแกนวิญญาณที่รวบรวมไว้ที่จวนตระกูลมู่มาแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่า……
อู๋ตี้ชี้ที่หน้าท้องสีขาวราวหิมะของตัวเอง และกล่าวว่า “อืม! เหลือไม่เยอะแล้ว!”
“กินเก่งจริง ๆ!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา
“รอให้เดินทางไปถึงเสียโจวได้อย่างปลอดภัย ข้าจะซื้อเก็บเอาไว้ให้เยอะ ๆ หากเจ้าอยากจะกินตอนนี้ก็ไปจัดการเก็บกวาดตรงนั้นให้สะอาด!”
อู๋ตี้ยิ้มพลางกล่าว “นายท่าน คำนี้แหละที่ข้ารอคอย”
ร่างสีขาวเคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็ว สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่โหดร้ายเหล่านั้นเห็นร่างสีขาวกำลังเข้ามาใกล้ต่างก็สั่นสะท้านขึ้นด้วยความหวาดกลัว ถึงแม้ว่าจะเป็นร่างจิ๋ว แต่ก็ยังคงเป็นฝันร้ายของพวกมันอยู่ดี!
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ! ไม่จำเป็นต้องแปลงร่างให้ใหญ่ อู๋ตี้ฉวยโอกาสในตอนที่พวกมันแปลกใจอย่างไม่อาจคาดเดาได้ควักเอาแกนวิญญาณของพวกมันอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ พี่หลงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก สองมือของเขาแข็งทื่อไปโดยสมบูรณ์ และเขามิอาจใช้ทักษะหมัดคลั่งที่เขาภาคภูมิใจได้อีกต่อไปแล้ว
เผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างต่อเนื่องของเสี่ยวหงและโม่จิ่น เห็นได้ชัดว่าพี่หลงนั้นสูญเสียกำลังไปมาก อีกทั้งมู่เฉียนซีที่มีพลังวิญญาณเพียงแค่ขั้นราชา แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ธรรมดาเอาซะเลย สถานการณ์ที่พ่ายแพ้ของเขา ยากที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว
ตูม! ในที่สุดพี่หลงก็ถูกโจมตีด้วยเปลวไฟคู่
ยอดฝีมืออันดับหนึ่งผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมานับสิบปีในเกาะวิญญาณมรณะแห่งนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกผู้อื่นปราบพ่ายแพ้ลง ชั่วครู่หนึ่งทุกคนก็ยากที่จะเชื่อในความจริงนี้
“พี่หลงแพ้แล้ว!”
“แพ้แล้ว แพ้แล้วจริง ๆ ด้วย!”
พี่หลงต้องการใช้สนามการต่อสู้สัตว์ในครั้งนี้กำจัดทุกคนที่ไม่ยอมเชื่อฟังเขา เพื่อให้ตนเองได้เป็นจักรพรรดิของเกาะวิญญาณมรณะเพียงผู้เดียวโดยที่ไม่มีใครเป็นรอง
เขานึกไม่ถึงเลยสักนิดว่ามู่เฉียนซีผู้ที่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามถึงสองตัวจะโผล่มาขวางทางเขาเช่นนี้ ทำให้หมากเกมนี้ของเขาพ่ายไปทั้งกระดาน และต้องรับผลกรรมที่ตัวเองนั้นกระทำเอาไว้อีก
มู่เฉียนซีหันไปมองพวกเขาและกล่าวว่า “ตามกฎแล้ว หากผู้ใดใคร่จะขึ้นมาต่อสู้ต่อ ก็ขึ้นมาได้!”
ให้ขึ้นไปต่อสู้ ? ล้อเล่นบ้าอะไรกันเนี่ย!
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัว หัวหน้าโม่ผู้ที่มีพลังธาตุอัคคี อีกทั้งยังมีผู้วิปริตเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษอีก หากพวกเขาขึ้นไปต่อสู้ไม่ใช่เป็นการรนหาที่ตายเอาเหรอ ?
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “เจ้าหมอนี่ จะฆ่าหรือไม่ ?”
นางมองไปที่พี่หลง นางมิใช่คนของเกาะวิญญาณมรณะ นางเป็นแค่คนที่ผ่านทางมาก็เท่านั้น จะฆ่าหรือจะปล่อยพี่หลงแน่นอนว่าต้องให้โม่จิ่นเป็นคนตัดสินใจ!
“แน่นอนว่าต้องฆ่า!” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของโม่จิ่น
“งั้นเจ้าก็ลงมือเองเถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
พี่หลงกัดฟันกรอดและกล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “โม่จิ่น เจ้ากล้าฆ่าข้า กล้าฆ่าข้ารึ!”
โม่จิ่นกล่าว “กฎเป็นเช่นนี้ เจ้าจำต้องตาย!”
และในขณะที่โม่จิ่นกำลังจะลงมือกับพี่หลง ทันใดนั้นแรงกดดันของพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิก็ได้พัดกระโชกเข้าขวางมา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ตูม! โม่จิ่นถูกสะบัดออกไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลง
ชายชราในชุดขาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นกลางลานประลอง ทุกคนก็ส่งเสียงดังเกรียวกราวขึ้น “ท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์มาแล้ว!”
“ครั้งนี้ได้เกิดเรื่องวุ่นวายเรื่องใหญ่ขึ้น ท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์จึงได้เคลื่อนไหวออกมาเช่นนี้!”
เกาะวิญญาณมรณะ เป็นคุกแห่งหนึ่ง ภายในคุกแน่นอนว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นได้ทุกเมื่อ และแน่นอนว่าคุกแห่งนี้จักต้องมีผู้ดูแล
ผู้ดูแลมีพลังความแข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิ มิเช่นนั้นมิสามารถควบคุมนักโทษผู้โหดร้ายเหล่านี้ได้
โม่จิ่นเอ่ยปากกล่าวถามขึ้นว่า “ท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ นี่หมายความว่ายังไง ? กฎของการต่อสู้กับสัตว์ ท่านก็น่าจะเข้าใจดีอยู่แล้ว”
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์กล่าวว่า “กฎของการต่อสู้กับสัตว์ ข้ารู้ดีอยู่แล้ว ผู้ที่มีชีวิตรอดคนสุดท้าย สามารถไปได้ เจ้ากับสาวน้อยผู้นั้นคิดเอาเองสิว่าใครจะเป็นผู้จากไป”
โม่จิ่นกล่าว “แต่นี่มันไม่เหมือนกัน พี่หลงได้เปลี่ยนกฎแล้ว พวกข้าสองคนเป็นฝ่ายเดียวกัน!”
“ที่เจ้าเรียกว่ากฎนั้น มันยังไม่ผ่านผู้อาวุโส ไฉนเลยจะเรียกว่ากฎได้ พี่หลงยังตายไม่ได้ มิเช่นนั้นแล้วเกาะวิญญาณมรณะก็จะเกิดเรื่องโกลาหล แต่หากเจ้าอยากจะทำตามกฎอย่างที่เจ้าว่า ก็ย่อมได้ ฆ่าพี่หลง และสาวน้อยผู้นั้นก็ไม่ควรมีชีวิตต่อไป”
สายตาของท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์จ้องมองไปที่มู่เฉียนซี
วันนี้ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ตัดสินใจแน่แล้วว่าพี่หลงจะตายไม่ได้
โม่จิ่นยิ้มพลางกล่าว “เมื่อครู่ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ถึงอย่างไรพวกเราทั้งหมดก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ข้าจะใจร้ายฆ่าพี่หลงได้อย่างไรกันเล่า! พวกเจ้าว่าจริงไหม ?”
มุมปากของทุกคนกระตุกขึ้น แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังคงตอบไปว่า “ใช่แล้ว!”
“จริงแท้แน่นอน!”
“เพียงแต่ว่า คนอื่น ๆ ที่ตายไปแล้วก็ช่วยไม่ได้แล้วหล่ะ!”
พลังธาตุอัคคีกระโชกเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ภายในชั่วขณะหนึ่งคนอื่น ๆ ก็ถูกเปลวไฟกลืนกินไป รวมทั้งหัวหน้ากู่ด้วย!
สีหน้าของผู้อาวุโสผู้พิทักษ์เคร่งขรึมลงมาก “นี่เจ้ากล้าลงมือต่อหน้าข้า โม่จิ่น เจ้ากำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!”
โม่จิ่นกล่าว “ท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ให้ความสำคัญกับพี่หลง คิดว่าพี่หลงสามารถควบคุมการต่อสู้กับสัตว์ได้เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นไม่มีความสามารถนี้ การต่อสู้กับสัตว์ได้พ่ายแพ้แล้ว ก็ฆ่าไปให้สิ้นเรื่อง!”
“เจ้าอวดดียิ่งนัก!” พลังกดดันของขั้นมหาจักรพรรดิแผ่ซ่านเข้าหาพวกเขาอีกครั้ง อีกทั้งยังเพิ่มเอาพลังส่วนมากนั้นโจมตีเข้าหามู่เฉียนซี มู่เฉียนซีผู้เป็นเพียงแค่ราชาแห่งภูต แน่นอนว่ามิอาจทนพลังนี้ได้!
โม่จิ่นคิดจะเข้าไปขวางหน้ามู่เฉียนซี ทว่าถูกมู่เฉียนซีผลักออก มู่เฉียนซีมองไปที่ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์นั้น และกล่าวขึ้นว่า “ตาเฒ่า ข้าแค่บังเอิญผ่านมาทางเกาะวิญญาณมรณะ และแค่เข้าร่วมประลองกับสหายก็เท่านั้น เจ้าถึงกับต้องใช้กำลังกับข้าเช่นนี้เลยเหรอ ?”
“เป็นแค่มหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่ง อย่าเอาความเป็นอาวุโสมาเที่ยวดูถูกคนอื่น เจ้าคิดว่าไม่มีใครสู้เจ้าได้แล้วงั้นเหรอ ?”