“นายท่าน รีบถามมาได้เลย ขอเพียงพวกเรารู้พวกเราจะตอบแต่โดยดี”
“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับเรือลำนี้ ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ได้ยินมาว่าเรือลำนี้ลอยมาจากแดนนรก พวกเราเป็นนักโทษของเกาะวิญญาณมรณะที่มาตามหาสมบัติล้ำค่าในเรือวิญญาณมรณะเพราะความละโมบ แต่สุดท้ายก็ถูกกลืนกินชีวิตไป ร่างกับวิญญาณถูกแยกออกจากกัน และได้กลายเป็นผีอยู่ในที่แห่งนี้”
“ทั้งหมดนี้ก็คงจะมีผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลังหน่ะสิ! คนผู้นั้นอยู่ที่ไหน ?”
“เรื่องนี้พวกเราก็มิอาจรู้ได้ หลังจากได้กลายเป็นวิญญาณไร้ที่ไป พวกเราก็ถูกขังอยู่ในห้องนี้”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นเปลี่ยนคำถาม เรือลำนี้มีของล้ำค่าหรือไม่ ?”
“ได้ยินมาว่าเรือลำนี้ลอยมาจากแดนนรก มีสมบัติล้ำค่ามากมายที่ไม่ใช่สมบัติของโลกนี้ เพียงแต่พวกเรายังมิทันได้เห็นก็มาตายเสียก่อน”
“คำตอบนี้ข้าไม่พอใจเอาซะเลยนะ” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม
“ฮือ ฮือ ฮือ! พวกเราไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ!”
มู่เฉียนซีมิได้ลงมือกระทำสิ่งใด นางเปิดประตูและเดินจากไป กระบี่มังกรเพลิงแสดงออกถึงความไม่พอใจ
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าก็กินไปเยอะพอสมควรแล้วหนิ! อย่าได้เอะอะโวยวายไป เรือลำนี้มีเรื่องแปลกประหลาดมาก จะอยู่นานไม่ได้ รีบหาสมบัตินั้นให้เจอแล้วรีบออกไป”
สังหารคนไปจำนวนมากเช่นนั้น อีกอย่างพลังความแข็งแกร่งของคนเหล่านี้ก็ไม่เลวเลย คนเหล่านั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดของเรือวิญญาณมรณะ พลังความแข็งแกร่งก็มิได้อ่อนแอเลย
มู่เฉียนซีกล่าวกับกระบี่มังกรเพลิงด้วยท่าทีที่จริงจัง และเจ้าตะกละนี้ก็มิได้เอาแต่ใจตัวเองอีกต่อไป
ตูม!
ระหว่างทางก็มีโครงกระดูกจำนวนไม่น้อยได้ลงมือกับมู่เฉียนซี แต่ก็มิอาจต้านทานยาในมือของมู่เฉียนซีได้
มู่เฉียนซีตามหาทีละห้อง จากนั้นก็ได้เห็นเงาร่างของโม่จิ่นและนางก็ไล่ตามเขาไป
ในขณะที่โม่จิ่นเปิดประตู เขาก็ตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง!
“หยกวิญญาณ ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สมุนไพรวิญญาณ……”
“มากมายเช่นนี้ เรื่องที่ร่ำลือกันนั้นมิใช่เรื่องโกหก!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ที่ร่ำลือกันนั้นมิใช่เรื่องโกหก เจ้าโม่จิ่น เจ้าสามารถตามหาที่นี่เจอ ความสามารถของเจ้าไม่เลวเลยหนิ”
ในขณะที่มู่เฉียนซีได้ยินน้ำเสียงแก่นี้ เท้าของนางก็หยุดชะงักลงทันที นี่มันเสียงของผู้อาวุโสผู้พิทักษ์มิใช่รึ ?
โม่จิ่นมองไปยังผู้อาวุโสทั้งสามตรงหน้า และกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นท่านผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสามนี่เอง สมบัติเหล่านี้ พวกเราเป็นคนเจอ พวกเรามาแบ่งกันเป็นอย่างไร ?”
“เจ้าหนู ใครจะแบ่งกับเจ้ากันเล่า วันนี้เจ้าจักต้องตายอย่างมิต้องสงสัย!” ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสามทำท่าทางที่ดุร้ายขึ้น
ตูม!
การโจมตีของยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิทั้งสามคนนั้น โม่จิ่นมิอาจรับมือได้ จักต้องหนีเอาตัวรอดอย่างสุดชีวิต!
“สมบัติเหล่านี้ข้าไม่เอาแล้ว พวกท่านเอาไปเถอะ!”
“คิดหนีรึ ไม่มีทาง!”
เมื่อเห็นว่าโม่จิ่นกำลังจะถูกฆ่าเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็ลงมือทันที
พลังการโจมตีอันน้อยนิดของตนเองนั้นมิอาจทำอะไรยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิได้ สิ่งเดียวที่ใช้ได้ผลที่สุด นั่นก็คือพิษ
ปัง ปัง ปัง!
ยาพิษนับสิบชนิดถูกมู่เฉียนซีโยนเข้าไปในห้องนั้น มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้ เสี่ยวหง สกัดด้านหลังไว้!”
ค่อก ค่อก ค่อก! โม่จิ่นที่โดนยาพิษเกือบจะสำลักตายในตอนนี้ก็ได้หามู่เฉียนซีเจอ
“ค่อก ค่อก ค่อก! ข้าจะตายแล้ว ช่วยข้าด้วย แม่นางมู่!”
ยาวิญญาณเม็ดหนึ่งถูกยัดเข้าไปในปากของเขา “รีบไป!”
กว่าที่ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสามจะตั้งสติได้ มู่เฉียนซีกับโม่จิ่นก็ได้วิ่งหนีไปไกลแล้ว
“ต้องฆ่าพวกมันให้ได้ มิเช่นนั้นพวกมันจะทำเสียเรื่อง!”
ขวั่บ ขวั่บ ขวั่บ!
ผู้อาวุโสทั้งสามนี้หัวแข็งยิ่งกว่าโครงกระดูกเหล่านั้นเสียอีก ไล่ตามพวกเขาอย่างมิยอมเลิกรา
โม่จิ่นกล่าว “พวกเรายอมสละสิทธิ์แล้ว เหตุใดพวกนั้นยังไม่ไปเก็บสมบัติเหล่านั้นอีก มาไล่ตามพวกเราทำไมกัน ?”
ตูม!
ด้านหลังมีผู้อาวุโสทั้งสามไล่โจมตี ด้านหน้ามีกลุ่มโครงกระดูกขวางทางอยู่ มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “ฝ่าออกไป!”
ถึงแม้ว่าทั้งสองจะใช้ยากัดกร่อนฤทธิ์รุนแรงทำลายการห้อมล้อมนี้ แต่ก็พบว่าผู้อาวุโสทั้งสามนั้นไล่ตามมาทันอย่างง่ายดาย และนึกไม่ถึงเลยว่าโครงกระดูกเหล่านั้นจะไม่โจมตีพวกเขา
นี่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
โม่จิ่นกล่าว “นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม “ทั่วทั้งเรือวิญญาณมรณะนี้เกรงว่าจะมีเล่ห์เพทุบายอะไรบางอย่าง และผู้ที่เป็นตัวการอยู่เบื้องหลังต้องเกี่ยวข้องกับตาเฒ่าสามคนนี้แน่ โครงกระดูกเหล่านี้ถึงไม่โจมตีพวกมัน”
สีหน้าของโม่จิ่นขรึมลง เขากล่าว “แล้วเราจะทำเช่นไรดี ?”
“หนีออกไปก่อน!” มู่เฉียนซีกล่าว
“หนีออกไปงั้นรึ ข้าว่าพวกเจ้าไม่มีโอกาสหนีออกไปแล้วหล่ะ!” ผู้อาวุโสทั้งสามกล่าวเสียงขรึม
พวกเขามีพลังวิญญาณขั้นมหาจักรพรรดิ บนเรือลำนี้ไม่มีสิ่งใดขวางพวกเขาได้ คิดจะไล่ตามพวกเขานั้นมันง่ายมาก
โม่จิ่นขวางหน้ามู่เฉียนซีและกล่าวว่า “แม่นางมู่ เจ้าเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านมาทางเกาะวิญญาณมรณะนี้เท่านั้น ไม่ควรเข้ามาพัวพันกับเรื่องอันตรายเช่นนี้ เจ้ารีบหนีไปเถอะ! ข้าจะขวางพวกมันเอาไว้เอง”
ปัง!
ทว่า ตอนนี้กระบี่มังกรเพลิงได้เคลื่อนไหวแล้ว
กระบี่มังกรเพลิงได้แทงทะลุกำแพงนั้น ต่อมากลไกอันหนึ่งก็ได้เปิดขึ้น พื้นดินทั้งหมดก็ได้ทรุดตัวลง และพวกเขาก็ตกลงไป
มู่เฉียนซีผงะไปครู่หนึ่ง กระบี่มังกรเพลิงทำสิ่งใดกันแน่ ?
พรวด!
พรวด พรวด!
เสียงตกน้ำดังก้องขึ้น มู่เฉียนซีดูเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงมาก ทว่า นางนั้นมิได้ตกลงไปเหมือนพวกนั้น นางตกอยู่ในอ้อมกอดที่คุ้นเคย แขนอันทรงพลังคู่หนึ่งได้รั้งเอวอันบอบบางของนางไว้ไม่ให้นางตกลงไป
มู่เฉียนซีเงยหน้ามองใบหน้าอันงดงามตรงหน้า “จิ่วเยี่ย”
น้ำเสียงอันน่าหลงใหลดังขึ้น “ข้าตามหามาตั้งนานก็หาไม่เจอ นึกไม่ถึงเลยว่าสาวงามหาเจอได้ โชคไม่เลวเลยหนิ!”
อ้วก อ้วก!
“พระเจ้า! นี่มันเลือดหนิ เลือด!”
เสียงกรีดร้องของโม่จิ่นดังขึ้น ในตอนนี้เขาพบว่าตนเองได้ตกลงไปในทะเลสาบอันเหนียวหนืดเป็นที่สุด ทันทีที่คลำและเอามาดมก็ปรากฏว่ามันเป็นเลือด!
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสามกลับไม่ส่งเสียงร้องแต่อย่างใด สีหน้าของพวกเขาเคร่งเครียดมาก “แย่แล้ว! นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนบุกเข้ามาที่นี่”
น้ำเสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังก้องขึ้น “พวกไร้ประโยชน์!”
พวกเขาทั้งสามรุดรีบออกมาจากทะเลสาบโลหิต และคุกเข่าลง “นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยละเลยในหน้าที่แล้วขอรับ”
มู่เฉียนซีเห็นร่างคนชุดคลุมดำผู้หนึ่งย่างกรายออกมาจากความมืดมิด
“อีกไม่นานงานใหญ่ก็จะสำเร็จลุล่วงลง ให้พวกมันได้ใกล้ชิดแนบเนื้อกันจนนาทีสุดท้ายเถอะ!” คนชุดคลุมดำกล่าวเสียงขรึม
“ฆ่าพวกมันซะ!”
ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสามกล่าว “ขอรับ!”
หนึ่งในผู้อาวุโสผู้พิทักษ์พุ่งไปทางโม่จิ่น อีกสองคนพุ่งจะเข้าไปฆ่ามู่เฉียนซีกับหวงจิ่วเยี่ย
“พวกสาระเลว! กล้าลงมือกับเยี่ย คงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหล่ะสิ!”
จื่อโยวผู้ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แน่นอนว่าเขาไม่ยอมให้ฝ่าบาทของเขาจัดการพวกสวะนี้แน่ เขายกมือขึ้นเบา ๆ ผู้อาวุโสผู้พิทักษ์ทั้งสองตรงหน้าก็ตกลงไปในเหวลึก แม้กระทั่งเสียงกรีดร้องก็มิทันได้เปล่งออกมา
คนชุดคลุมดำผู้นั้นเห็นกระบวนท่านี้แล้วก็ตกใจสะดุ้งขึ้น
“เจ้า นี่เจ้าเป็นใครกันแน่ ? นี่มิใช่พลังของโลกสี่ทิศแน่”
พรวด! โม่จิ่นกลับค่อนข้างอนาถ รับมือกับมหาจักรพรรดิแห่งภูต เขาเสียพลังไปมาก!
มุมปากของจื่อโยวยกขึ้นเล็กน้อย ฝ่าบาทของเขาต้องการให้คนผู้นั้นที่มาพัวพันกับสาวงามต้องทนทุกข์ทรมานเล็กน้อย ตอนนี้มิใช่เวลาที่จะลงมือ
จื่อโยวมองไปที่คนชุดคลุมดำผู้นั้น เขากล่าว “แสดงทักษะลับออกมาเช่นนี้ เจ้าคิดจะทำสิ่งใด ? เจ้านายของเจ้าเป็นผู้ใดของแดนนรก บอกมาประเดี๋ยวนี้!” คนชุดคลุมดำตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “แดนคุมขัง นี่เจ้าก็เป็นคนของแดนนรกด้วยงั้นรึ”
