สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์กัดฟันกรอดพลางกล่าวขึ้นว่า “เจ้าไม่ใช่มนุษย์!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “เช่นเดียวกัน เจ้าก็ไม่มนุษย์ไม่ใช่เหรอ ?”
“เหอะ! ไม่อยากจะปากมากกับเจ้าแล้ว การทดสอบสุดท้าย”
การทดสอบด่านนี้ของจวนชางไห่ เคยมีคนที่ทะนงตนมาทดสอบแล้ว แต่ทุกคนล้วนแต่คุกเข่าไปตั้งแต่ด่านแรก!
เดิมทีไม่มีผู้ใดท้าประลองด่านที่สอง แต่มู่เฉียนซีผ่านการทดสอบทั้งสองด่านได้อย่างราบรื่น นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่สร้างจวนชางไห่
ตำราหนึ่งกล่อง พร้อมทั้งพู่กัน น้ำหมึก กระดาษ เนื้อหาของการทดสอบ คิดบัญชี!
มู่เฉียนหัวเราะขึ้น คิดบัญชี! นี่ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับนางที่เป็นผู้นำตระกูลมู่ผู้มั่งคั่ง ที่สามารถคิดบัญชีตัวเลขมาก ๆ ได้อย่างง่ายดาย!
“เจ้ายังหัวเราะ ด่านนี้เจ้าไม่สามารถผ่านได้แน่ ภายในเวลาหนึ่งชั่วยาม คำนวณบัญชีเหล่านี้ให้ข้าให้ชัดแจ้ง ห้ามขาดห้ามเกินเด็ดขาด”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เด็ก ๆ!”
“อวดดี!”
มู่เฉียนซีเริ่มแล้ว และครั้งนี้ก็สำเร็จก่อนเวลาที่กำหนด ไม่มีผิดแม้แต่น้อย สำเร็จได้ด้วยดี!
“อ๊า อ๊า อ๊า! เป็นไปได้ยังไง ? เป็นไปได้ยังไง ? เจ้าไม่ใช่มนุษย์!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้น “เจ้าพูดคำนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ต่อให้ข้าไม่ใช่มนุษย์ ข้าก็ไม่ใช่พวกเดียวกับเจ้า วางใจเถอะ!”
มู่เฉียนซีสงสัยในจักรพรรดิชางไห่หลิงตี้ การทดสอบนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะแบ่งออกเป็นวิชาประวัติศาสตร์ คำนวณตัวเลข และภาษา ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าต่อไปจะเป็นภาษาต่างประเทศ ภูมิศาสตร์ หรือการปกครองอะไรอีก!
“ยังมีการทดสอบอีกหรือไม่ ?”
สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์กล่าว “การทดสอบ เจ้าจะทดสอบอีกงั้นเหรอ ? เดิมทีนายท่านข้าคิดการทดสอบนี้ขึ้นมาก็เพื่อความแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดผ่าน แต่เจ้ากลับผ่านได้ เหตุใดถึงได้เป็นเช่นนี้ ?”
“เจ้าหมายความว่า มีเพียงแค่สามด่านนี้งั้นเหรอ! ข้าผ่านด่านแล้ว เช่นนั้นข้าก็อยู่ที่นี่ได้สามสิบวัน”
“เจ้าต้องการหาทักษะวิญญาณ ทักษะลับ หรือว่าอยากรู้บันทึกลับกันหล่ะ ?”
มุมปากของมู่เฉียนซีค่อย ๆ ยกขึ้น “แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างหลัง”
“อย่างหลัง!” สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์รู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก
บนโลกใบนี้ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปแน่นอนว่าใคร่ปรารถนาทักษะวิญญาณที่นายท่านได้รวบรวมเอาไว้ เพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่ง ส่วนของที่นายท่านตั้งใจรวบรวมเอาไว้เป็นอย่างดีนั้น น้อยคนนักที่จะถามถึง
“ตกลง ข้าจะส่งเจ้าไป!”
แสงสีฟ้าส่องประกายขึ้น และมู่เฉียนซีก็พบว่าตนเองนั้นได้มาถึงพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง มันใหญ่มาก
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “ท่านสัตว์ทะเลผู้พิทักษ์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าชั้นตำราใดมีพวกคัมภีร์หมื่นคำสาปเหล่านั้นอยู่ ?”
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไงกัน ?”
“ช่างเป็นบรรณาธิการที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ เลย!”
ใครใช้ให้ตอนนี้ไม่ใช่ยุคแห่งข้อมูลข่าวสารกันล่ะ หากเป็นห้องสมุดสมัยใหม่แล้วล่ะก็ ป่านนี้คงจะหาเจอไปนานแล้ว
สถานที่ใหญ่เช่นนี้ เวลาภายในสามสิบวัน หวังว่าจะหาเบาะแสอะไรได้บ้าง
“เสี่ยวหง อู๋ตี๋!” คนเดียวมิอาจกระทำได้ มู่เฉียนซีจึงเรียกสัตว์พันธสัญญาตนเองออกมา
สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์กรีดร้องขึ้นว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์! นี่เจ้าเรียกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา คงจะไม่ใช่ให้พวกมันมาฆ่าข้าหรอกใช่ไหม!”
ถึงแม้ว่าสัตว์ทะเลผู้พิทักษ์จะติดตามจักรพรรดิชางไห่หลิงตี้อ่านตำรามากมาย ตัวมันเองก็แข็งแกร่งมาก แต่มันก็เป็นผู้ที่ขี้ขลาดตัวหนึ่ง!
พลังการต่อสู้อ่อนแอ ความกล้าหาญมีเพียงน้อยนิด กลัวเป็นพิเศษก็คือถูกสัตว์ดุร้ายจับกินนี่หล่ะ ฉะนั้นแล้วมันจึงแอบไปหลบในที่ที่ปลอดภัย และมันจะปรากฏตัวขึ้นเฉพาะเวลาที่จวนชางไห่ปรากฏขึ้นเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็แค่ให้พวกมันมาช่วยข้าหาตำราก็เท่านั้น เจ้าอย่ากังวลไปเลย”
“เพียงแต่ว่า ข้าก็อยากจะให้เจ้ามาช่วยหาตำราด้วยกัน หากเจ้าไม่ช่วยแล้วล่ะก็ ข้าจะให้สัตว์พันธสัญญาของข้าไปเล่นกับเจ้าดีไหม!” มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้น
สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์กล่าว “เจ้า เจ้ามันคนเลว นี่เจ้าขู่ข้า”
“คนเลวงั้นเหรอ ? เมื่อครู่เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่าข้าไม่ใช่มนุษย์ ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว
สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์เงียบไป มู่เฉียนซีแอบพึมพำในใจว่า ‘ก็แค่คำขู่เท่านั้น ต่อให้เจ้าปฏิเสธข้า ข้าก็ไม่คิดจะให้เสี่ยวหงกับอู๋ตี้ลงมือจริง ๆ หรอก’
“เหอะ! ข้าเถียงเจ้าไม่ได้หรอก ข้าช่วยเจ้าหาก็ได้”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เช่นนี้สิ เจ้าเยี่ยมมาก!”
“เจ้าต้องการหาสิ่งใดกันล่ะ ?”
“ตำราเกี่ยวกับคำสาป ตำราเกี่ยวกับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ ตำราสมุนไพรวิญญาณต่าง ๆ และตำราการปรุงยา หามาให้ข้าทั้งหมด!”
คำสาปของจิ่วเยี่ยนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนอย่างหลังนั้น แน่นอนว่าเพื่อที่จะเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง และทักษะการปรุงยาที่เพิ่มขึ้น
สัตว์ทะเลผู้พิทักษ์กล่าว “ได้!”
จากนั้นพวกมันก็เริ่มค้นหาตำราอย่างบ้าคลั่ง ถึงอย่างไรสัตว์ทะเลผู้พิทักษ์ก็เฝ้าที่นี่มานานหลายพันปี มันหาได้อย่างคล่องแคล่วมาก
พวกเขาตามหาตำราทีละชั้น ส่วนมู่เฉียนซีก็นั่งอ่านอยู่ข้าง ๆ เมื่อเจอกับสมุนไพรวิญญาณที่ตนเองชื่นชอบ มู่เฉียนซีก็บันทึกมันอย่างรวดเร็ว คำสาปที่แปลกประหลาดมากมายนางก็ได้บันทึกไว้เช่นกัน ทว่า กลับไม่ใกล้เคียงกับคำสาปของจิ่วเยี่ยเลย ยังมีเวลาอีกสามสิบวัน ไม่รีบร้อนมากนัก
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ได้เจอกับตำราบันทึกมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์เล่มหนึ่ง
มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ทั้งหมดมีอยู่เก้าชิ้น
ผู้พิทักษ์นิรันดร์ ดอกบัวหงส์เก้ากลีบ เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ชิ้นแรก เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุด ลือกันว่ามีพลังควบคุมมิติได้
ศาลานิรันดร์ ศาลาเลือนรางเก้าชั้น เป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ที่มีพลังแห่งกาลเวลา อันดับความแข็งแกร่งนั้นไม่แน่ชัด
หม้อเทพนิรันดร์ หม้อวิญญาณนิรันดร์ เป็นหม้อยาในตำนาน ฝึกฝนได้จนถึงสุดขั้ว และปรุงยาเม็ดต้านสวรรค์ได้
แหวนนิรันดร์ แหวนมังกรเทพวารี มีพลังธาตุวารีที่แข็งแกร่งที่สุด อาวุธวิญญาณมังกรวารีสามารถทำลายฟ้าดินได้
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ หรือกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต เป็นกระบี่แห่งการสังหารทั่วไป และเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ที่กระหายเลือดและโหดร้ายที่สุด การเคลื่อนไหวจะทำลายศพนับล้านได้ สามารถกลืนกินวิญญาณของมนุษย์ เพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้ตัวเอง มีพลังธาตุอัคคีที่สุดแสนบ้าคลั่ง ทำลายโลกได้ตามความปรารถนา!
คุณสมบัติเช่นนี้ เหตุใดถึงได้เหมือนกับกระบี่มังกรเพลิงนักล่ะ! เมื่อได้เห็นคำอธิบายของกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต จุดที่กลืนกินวิญญาณมนุษย์นั้น ช่างเหมือนกับกระบี่มังกรเพลิงยิ่งนัก
กระบี่มังกรเพลิง กับกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต พวกมันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ? หรือว่ากระบี่มังกรเพลิงจะเป็นอาวุธเลียนแบบกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต
ถึงอย่างไร ก็เคยเห็นของเลียนแบบอย่างหม้อเทพปาฮวางชิงมู่มาก่อน ฉะนั้น มู่เฉียนซีจึงรู้สึกว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์อย่างอื่นก็คงจะเป็นไปได้เช่นกัน
ทว่า มู่เฉียนซีนั้นไม่รู้ ว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ชิ้นอื่นนั้นไม่เหมือนกับหม้อเทพนิรันดร์ นิรันดร์นั้นแต่ละวันมัวแต่ลุ่มหลงอยู่กับคนงาม ไม่จริงจังเอาซะเลย จึงได้สร้างของเลียนแบบออกมาเก้าชิ้นเพื่อช่วยเขาหลอมยา
ด้วยอำนาจของกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะให้มีของเลียนแบบได้
ว่ากันว่ามีอยู่เก้าชิ้น แต่ด้านบนมีบันทึกคำอธิบายเพียงแค่ห้าชิ้นเท่านั้น อีกสี่ชิ้นนั้นมิได้อธิบายและไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีชื่อว่าอะไร
มู่เฉียนซีเห็นด้านหลังมีคำอธิบายอยู่ ลายมือค่อนข้างยาวนานมากแล้ว แต่ทุกตัวอักษรช่างสวยงามและมีศิลปะมาก
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ มิใช่ของโลกมนุษย์ ทว่ามันตกลงมาในโลกนี้ และยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้!”
ไม่ใช่ของโลกมนุษย์ เช่นนั้นมาจากแห่งไหนกัน ?
อาถิง พวกเขามาจากไหนกัน ? เหตุใดพวกเขาแต่ละคนถึงได้ประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็อ่อนแอลงถึงเพียงนี้
ในตอนนี้เอง เสียงของสัตว์ทะเลผู้พิทักษ์ก็ดังขึ้น “เจอแล้ว ข้าหาเจอแล้ว เบาะแสเกี่ยวกับคัมภีร์หมื่นคำสาปที่เจ้าต้องการ ข้าเจอแล้ว”