ท่านเจ้าเมืองกล่าวถามว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางมู่ต้องการร้านค้าไปทำสิ่งใด ?”
“เปิดร้านขายโอสถ!”
“รุ่ยเอ๋อร์!”
ท่านเจ้าเมืองตะโกนเรียกขึ้น ไม่นานนักที่ดินของหอโอสถอันเลื่องชื่อทั้งหมดในเมืองตงไห่ก็มาถึงมือ
โม่จิ่นหรี่ตายิ้มพลางกล่าวว่า “ขอบคุณท่านเจ้าเมืองมาก”
ไม่เสียงแรงเปล่าเลยจริง ๆ! แล้วนี่ให้ฟรีหรือไม่นะ ?
“ไม่ทราบว่าแม่นางมู่ต้องการให้ช่วยเหลือเรื่องใดอีกหรือไม่ ท่านเจ้าเมืองอย่างข้ายังติดค้างแม่นางอยู่อีกคำขอหนึ่ง”
มู่เฉียนซีตอบว่า “ข้าอยู่ที่เมืองตงไห่ไม่นานนัก การสร้างหอโอสถขึ้นมานั้น แน่นอนว่าจะต้องมีนักปรุงยาที่มาช่วยดูแลอย่างเพียงพอ”
“เอ่อ เรื่องนี้……” ท่านเจ้าเมืองรู้สึกลำบากใจเข้าแล้ว ต้องรู้เอาไว้เลยว่านักปรุงยานั้นล้วนแต่มีความหยิ่งยโสมาก คงไม่ยอมลดตัวมาทำงานที่ร้านขายยาเล็ก ๆ นี่แน่นอน
ถึงแม้ว่าเขาเป็นถึงท่านเจ้าเมือง แต่ว่านักปรุงยานั้น ใช่ว่าจะไว้หน้าเขาซะที่ไหนกันหล่ะ
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่ต้องการให้ท่านเจ้าเมืองหานักปรุงยาให้ ข้าต้องการเพียงแค่ยืมชื่อเสียงและบารมีของท่านเจ้าเมือง มาจัดงานที่เมืองตงไห่เท่านั้น”
“จัดงาน ?” ท่านเจ้าเมืองรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
“หมายถึงจัดงานคัดเลือก”
“เรื่องนี้ เกรงว่านักปรุงยาเหล่านั้นคงจะไม่มาหน่ะสิ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ขอเพียงแค่ท่านเจ้าเมืองประกาศออกไปว่า งานคัดเลือกในครั้งนี้ ผู้ที่เข้ารอบสิบสองคนแรกจะได้รับสูตรยาระดับเก้าหนึ่งสูตร เข้ารอบสามคนแรกจะได้รับสูตรยาระดับปฐพีหนึ่งสูตร ส่วนผู้ที่ได้อันดับหนึ่ง จะได้รับสูตรยาระดับปฐพีและสูตรยาระดับเก้า เป็นเช่นนี้ ดีหรือไม่ ?”
ซื้ด! ท่านเจ้าเมืองสูดลมหายใจเย็นยะเยือก และอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
โม่จิ่นกล่าว “นี่มันจะเป็นการลงทุนที่ใจกว้างเกินไปหรือไม่ ?”
สูตรยาระดับปฐพี สูตรยาระดับเก้า ทั่วทั้งแดนใต้มีเพียงแค่ไม่กี่ใบเท่านั้น
สูตรยาเหล่านี้ส่วนใหญ่ ล้วนแต่จะตกอยู่ในกำมือนักปรุงยาพวกที่แก่หนังเหนียวทั้งสิ้น นักปรุงยาธรรมดา ๆ คิดอยากจะได้สูตรยาระดับนี้ นั่นเป็นเพียงแค่ความฝันแน่นอน!
ท่านเจ้าเมืองกล่าวถามว่า “เจ้า นี่เจ้าพูดจริงเหรอ ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น ข้ารู้ดีหากยั่วยุให้นักปรุงยาโกรธ ผลลัพธ์มันจะเป็นเช่นไร”
เอาสูตรยาระดับปฐพี สูตรยาระดับเก้าออกมามากมายเช่นนี้ ช่างทำให้ท่านเจ้าเมืองแปลกใจเกี่ยวกับภูมิหลังของหญิงสาวตรงหน้าผู้นี้เป็นอย่างมาก
หญิงสาวที่มีทั้งความสามารถ มีทั้งทรัพยากรมากมายเช่นนี้ เหตุใดถึงได้อยากเปิดหอโอสถ ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก
ท่านเจ้าเมืองรู้ดีว่าทันทีที่ข่าวนี้แพร่งพรายออกไป นักปรุงยาที่รู้ข่าวก็คงต้องรีบแห่กันมาแน่ ๆ สูตรยา ก็เปรียบเสมือนชีวิตจิตใจของเหล่าบรรดานักปรุงยาทั้งหลาย
ท่านเจ้าเมืองกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าจะต้องทำมันให้ดีอย่างแน่นอน แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ละ ?”
“หลังจากนี้เจ็ดวัน เวลาเจ็ดวัน หอโอสถของข้าคงจะปรับปรุงเสร็จเรียบร้อย”
ร้านขายโอสถที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเมืองตงไห่ กับหอเมี่ยวเย่าถูกท่านเจ้าเมืองส่งมอบให้กับคนผู้หนึ่งแล้ว ได้ข่าวมาว่ามอบให้กับนักปรุงยาผู้หนึ่งที่ได้ช่วยแก้พิษให้กับท่านเจ้าเมือง
พิษของท่านเจ้าเมืองนั้น นักปรุงยาทั่วทั้งเมืองตงไห่ก็ไร้ซึ่งหนทางที่จะรักษาได้ แต่สุดท้ายกลับโดนนักปรุงยาผู้ลึกลับผู้หนึ่งแก้พิษให้ได้อย่างง่ายดาย
นักปรุงยาผู้นั้น ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!
ไม่รู้ว่าหลังจากที่หอโอสถนี้เปิดใหม่ จะมีสมุนไพรวิญญาณมหัศจรรย์อันใดบ้าง
หอโอสถยังไม่ทันเปิด เนื่องจากการที่ยืมอำนาจบารมีของท่านเจ้าเมืองมาประกาศข่าวนี้ให้แพร่งพรายออกไป ไม่นานนักข่าวนี้ก็เป็นที่ฮือฮากันมาก อีกทั้งยังมีระดับมากอีกด้วย
มีคนไม่น้อยในเมืองเมืองตงไห่ที่ตั้งตารอคอยให้หอโอสถแห่งนี้เปิดขึ้น จนถึงขั้นมีผู้คนบ่นว่าปรับปรุงสถานที่นานเกินไป
การตกแต่งของหอเมี่ยวเย่าเดิมทีนั้นดีอยู่แล้ว เหตุใดถึงต้องปรับปรุงใหม่อีก!
ไม่เพียงแต่ชาวบ้านของเมืองตงไห่เท่านั้นที่บ่น โม่จิ่นที่ยุ่งทั้งเรื่องภายในและเรื่องภายนอกก็บ่นเช่นกัน เจ้านายที่ใจดำผู้นั้นของเขามอบหมายงานทุกสิ่งอย่างให้เขาจัดการคนเดียว
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็ยุ่งเหมือนกันเจ้ารู้หรือไม่ ? ข้ายุ่งอยู่กับยาทั้งหมดที่จะวางขายในเร็ว ๆ นี้”
โม่จิ่นกลอกตามองบน โกหกใครกันล่ะ! ทุก ๆ วันนางแค่นั่งปรุงยา ใช้เวลาเพียงแค่สองสามชั่วยามเท่านั้น นอกจากนั้นก็ว่างตลอด
มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ว่างอย่างที่โม่จิ่นคิด นางก็แค่กำลังฝึกบำเพ็ญ พลังได้ลดลงไปสามระดับ ตอนนี้เพิ่งจะฟื้นฟูมาได้สองระดับแล้ว ต้องพยายามให้หนักขึ้นถึงจะได้
เวลาได้ครบเจ็ดวันแล้ว นักปรุงยาที่มาเข้าร่วมคัดเลือกก็ถูกท่านเจ้าเมืองจัดการสถานที่ให้เรียบร้อยแล้ว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! โม่จิ่นเดินมาเคาะประตู
“เจ้านาย ใกล้ถึงเวลาแล้ว รีบเดินทางไปจวนเจ้าเมืองกันเถอะ!”
เอี๊ยด! ตอนนี้ประตูห้องได้เปิดออก แต่กลับเป็นชายแปลกหน้าผู้หนึ่งที่เดินออกมา
ความงดงามของชายผู้นี้ ดูเหมือนจะไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายได้ ราวกับภูตสวรรค์ที่หลงทางเข้ามาในโลกมนุษย์ก็มิปาน ช่างดึงดูดใจยิ่งนัก
ผมสีเขียวเทาราวกับผ้าไหมชั้นดีทอดยาวลงมาจากไหล่ ดวงตาสีเขียวอ่อนนั้นใสบริสุทธิ์ จริงใจจนไม่มีใครกล้าดูหมิ่นได้
โม่จิ่นกล่าว “เจ้าเป็นใคร เจ้านายข้าล่ะ ?”
มู่เฉียนซียิ้มมุมปากเล็กน้อย “ข้าคือเจ้าของหอหมอปีศาจ หมอปีศาจมู่ซี โปรดท่านชี้แนะด้วย!”
รอยยิ้มนั้นช่างแพรวพราวยิ่งนัก ทำให้โม่จิ่นรู้สึกราวกับก้าวเข้าไปในดินแดนสวรรค์ที่มีเมฆหมอกขาวโพลนก็มิปาน
ชายผู้หนึ่งงดงามได้ถึงเพียงนี้ ช่างเป็นเวรกรรมจริงแท้!
โม่จิ่นตั้งสติได้และกล่าวว่า “หอหมอปีศาจ ?”
นี่เป็นชื่อที่เจ้านายตั้งไม่ใช่เหรอ ? วันนี้เพิ่งจะเขียนป้ายเสร็จแล้วก็นำป้ายไปแขวนไว้แล้ว
เขาคิดว่าเจ้าของหอหมอปีศาจก็คือมู่เฉียนซีผู้เป็นเจ้านายเขาสิถึงจะถูก แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ ชายผู้นี้จะปรากฏตัวขึ้น
โม่จิ่นกล่าวว่า “เจ้านายข้าหล่ะ ข้าอยากจะเจอเจ้านายข้า”
“ข้าก็คือเจ้านายของเจ้าไง”
ดวงตาของโม่จิ่นเคร่งขรึมลง และกล่าวว่า “เจ้านายข้ามีเพียงแค่มู่เฉียนซีผู้เดียวเท่านั้น นี่เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่สนว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์อันใดกับเจ้านายข้า ตอนนี้ข้าต้องการให้นางมายืนยันกับข้าด้วยตัวเองเท่านั้น”
“ข้าก็ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าแล้วนี่ไง” มู่เฉียนซีได้เปลี่ยนเป็นเสียงตัวเอง ไม่ใช่เสียงผู้ชายเหมือนเมื่อครู่
โม่จิ่นตกใจจนตาค้าง พลางร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว “เจ้า เจ้า……”
ทักษะการปลอมตัวของมู่เฉียนซีช่างแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนสี่ทิศแล้ว แปลงร่างเป็นคนในพันธสัญญานั้น ยากมากที่คนจะจับได้ เว้นแต่จะเป็นจิ่วเยี่ยผู้วิปริตนั้นผู้เดียว
“ท่านคือเจ้านายเหรอ ท่าน……”
“นี่ตกลงท่านเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ?”
นี่ดูไม่เหมือนตัวปลอมเลยสักนิด!
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “ข้าก็ต้องเป็นผู้หญิงสิ”
“หอหมอปีศาจหากจะปักหลักอยู่ที่เสียโจว มีเพียงเจ้าที่เป็นผู้อาวุโสสามของกองกำลังระดับหนึ่งมันไม่เพียงพออยู่แล้ว ยังต้องการนักปรุงยาที่แข็งแกร่งที่สามารถสยบพวกเขาได้ด้วย ซึ่งมันจะทำให้ไม่มีผู้ใดกล้ามาทำอะไรบุ่มบ่ามกับหอหมอปีศาจของเรา”
“คนผู้นั้น แน่นอนว่าต้องเป็นหมอปีศาจ ข้าอยู่ในที่แจ้ง หมอปีศาจอยู่ในที่มืด อัจฉริยะนักปรุงยาผู้หนึ่ง กับนักปรุงยาผู้ลึกลับที่น่าเกรงกลัวผู้หนึ่งมาร่วมมือกัน”
“ผู้ใดกล้าคิดจะแตะต้องหอหมอปีศาจ ก็คงต้องใคร่ครวญให้ดีเสียก่อนไม่ใช่หรอกหรือ ?”
นอกจากคนของตัวเองแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางกับหมอปีศาจมู่ซีคือคนคนเดียวกัน โม่จิ่นรู้สึกเลื่อมใสในความคิดนี้ของมู่เฉียนซีเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้านาย ท่านสมกับเป็นแม่ค้าหน้าเลือดจริง ชื่นชม ชื่นชม”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว “แม่ค้าหน้าเลือดเหรอ อันที่จริงแล้วข้าก็แค่อยากเป็นนักปรุงยาที่ซื่อสัตย์ก็เท่านั้น เจ้าคิดมากไปแล้วหล่ะ”
มุมปากของโม่จิ่นกระตุกเล็กน้อย เขาคิดมากไปจริง ๆ เหรอ ?
“เจ้าอย่าได้เผยพิรุธออกมาหล่ะ!”
“แน่นอนอยู่แล้ว เจ้านาย ท่านเนี่ยประเมินข้าต่ำเกินไปแล้ว”
“ไปกันเถอะ!”
“ท่านเจ้าเมือง เหตุใดเขายังไม่มาหล่ะ ?”
“ท่านเจ้าเมือง ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้เล่นตลกกับพวกเราหน่ะ!”
“นั่นน่ะสิ สูตรยาระดับปฐพี สูตรยาระดับเก้า ไม่ใช่สิ่งที่บอกว่าจะเอาออกมาแล้วจะเอาออกมาได้ง่าย ๆ ต่อให้เป็นหุบเขาหมอเทวดา ก็ใช่ว่าจะกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมา” ตอนนี้เหล่าบรรดานักปรุงยาที่มาเข้าร่วมคัดเลือกในจวนท่านเจ้าเมือง ต่างก็เริ่มอารมณ์ร้อนขึ้นแล้ว