ท่านเจ้าเมืองพยายามปลอบประโลมนักปรุงยาเหล่านี้อย่างสุดกําลัง จวบจนเมื่อเห็นเงาร่างสีม่วงปรากฏกายตรงประตู ในที่สุดเขาก็โล่งอกไปได้เปลาะหนึ่ง
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตกใจนั้น คือผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขากลับไม่ใช่มู่เฉียนซี แต่เป็นเด็กหนุ่มนัยน์ตาเขียวสุกใสผู้หนึ่งที่งดงามเสียจนไม่เหมือนกับมนุษย์ คิ้วโก่งงามดั่งคันศร แล้วไหนจะยังผิวพรรณขาวดุจหิมะนั่นอีก เขาเป็นปีศาจที่โผล่ออกมาจากที่ไหนกัน ?
ด้วยกลิ่นอายและใบหน้างามเช่นนี้ ไหนเลยจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ?
นักปรุงยาที่ไม่พอใจเหล่านั้นได้เห็นว่ามีคนมาแล้ว พวกเขาเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
“ท่านเจ้าเมืองตงไห่ ทั้งสองท่านนี้คือใครหรือ ?”
มู่เฉียนซีที่เวลานี้ปลอมแปลงเป็นมูซียิ้ม “สวัสดีทุกท่าน ข้าเป็นหัวหน้าหอหมอปีศาจ หมอปีศาจมู่ซี”
ท่านเจ้าเมืองตงไห่ตะลึงงัน หัวหน้าของหอโอสถแห่งนี้ไม่ใช่แม่นางมู่หรอกรึ ?
“คุณชายมู่ ข้าไม่ทราบจริง ๆ ว่าเจ้าคิดจะทำเช่นไรต่อไป ? ในมือของเจ้ามีสูตรยานั้นอยู่จริง ๆ ใช่ไหม ?”
“หากข้าไม่มี คงมิกล้าโอ้อวดออกมาเช่นนี้หรอก ท่านว่าจริงไหมล่ะ ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าวกับคนตรงหน้า
“เช่นนั้นข้าขอดูสูตรยานั่นก่อนได้หรือเปล่า ?”
มู่เฉียนซีตอบกลับ “ได้”
เดิมทีพวกเขาคงคิดว่าสูตรยามีเพียงหนึ่งถึงสองแผ่นหน้ากระดาษ แต่มู่เฉียนซีกลับหยิบสูตรยาออกมาเต็มไม้เต็มมือ พวกเขาจ้องตาค้างด้วยความตกตะลึง
นี่…
นี่มันของจริง!
ของดีสมราคา!
ในฐานะนักปรุงยาผู้มีเกียรติสูงสุด บัดนี้พวกเขากลับรู้สึกอยากปล้นสูตรยานี้ไปเสียเหลือเกิน ติดก็แต่ที่แห่งนี้เป็นอาณาเขตของท่านเจ้าเมือง อีกทั้งฝีมือของชายหนุ่มผู้นี้ก็คงไม่ธรรมดา การจะรับมือคงไม่ง่าย จะบุ่มบ่ามกระทำการโดยไม่คิดหน้าคิดหลังไม่ได้อย่างเด็ดขาด
พวกเขาถามขึ้น “พวกท่านคิดจะให้ประลองกันเช่นไรรึ ?”
เหตุเพราะมู่เฉียนซีได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่ใช่นักปรุงยาขั้นสูงไม่ต้องเชิญมา ดังนั้นผู้ที่มาในวันนี้จึงมีเพียงยี่สิบกว่าคน
รวมทั้งหมดแค่เพียงยี่สิบกว่าคน การที่พวกเขาจะคว้าลำดับที่สิบสอง คงจะง่ายดายดีพิลึก
มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “ท่านเจ้าเมืองเตรียมเวทีประลองไว้พร้อมให้ทุกคนลงมือปรุงยาแล้ว”
นักปรุงยาระดับสูงกว่ายี่สิบคนมารวมตัวกันที่จวนเจ้าเมืองเพื่อประลองฝีมือการปรุงยา
อีกทั้งยังเป็นการเข้าร่วมงานรับสมัครบุคลากรของหอหมอปีศาจ!
ก่อนการประลอง หนึ่งในนักปรุงยาที่มาประลองกล่าวว่า “ข้าสนใจแต่รางวัลเท่านั้นจึงมาเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ แต่ข้าไม่ได้ตกลงที่จะไปหอหมอปีศาจนั่นเพื่อช่วยเจ้า”
“ข้าก็เหมือนกัน!”
“พวกเราก็เหมือนกัน!”
พวกเขาไม่ต้องการถูกจํากัดอิสระไปตลอดชีวิตเพียงเพราะการประลองครั้งนี้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก “อืม วันนี้เป็นเพียงการประลองเท่านั้น เรื่องการสรรหาคนเข้ามาช่วยทำกิจการร้านโอสถค่อยว่ากันอีกที”
“ดี!”
นักปรุงยาระดับสูงกว่ายี่สิบคนอยู่บนเวทีประลองเดียวกัน ความตื่นเต้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือผู้สูงศักดิ์ทรงอํานาจในเมืองไห่เฉิง พวกเขาต่างก็รีบมาดู
ชื่อเสียงของหอหมอปีศาจโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการนี้
วันนี้ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว คนที่จะคัดเลือก อย่างไรก็หนีไม่พ้น
ผลของการโฆษณาดีเสียจนไม่อาจอธิบายได้
โม่จิ่นพึมพําเสียงเบา “นายท่านร้ายกาจเกินไปแล้ว หากข้าอยู่กับท่านเช่นนี้ ต่อไปคงกลายเป็นพ่อค้าชั่วร้าย”
มู่เฉียนซี “ก็ดีแล้วหนิ เจ้าควรทำตัวเองให้กลายเป็นพ่อค้าที่ชั่วร้าย ไม่อย่างนั้นจะหาเงินซื้อสมุนไพรมาให้ข้าได้ยังไง จงฝึกฝนไว้ให้ดี! ตําแหน่งของเจ้าอยู่ไกลจนแม้แต่น่าหลานอวี้ก็มิอาจเทียบเคียงได้”
“ใครคือน่าหลานอวี้ ?”
“สหายสนิทคนหนึ่งของข้า เขาเป็นผู้มีอํานาจอันดับหนึ่งแห่งความมั่งคั่ง”
คนประเภทเดียวกันย่อมอยู่ด้วยกัน เขาเองก็ต้องฝึกฝนให้ดี เพื่อให้หาเงินได้และไม่ถูกนายท่านรังเกียจ
“เอาล่ะ เราจะเริ่มกันแล้ว ทุกคนโปรดเตรียมตัว การประลองครั้งนี้ย่อมต้องให้ข้าเป็นเจ้าภาพเอง”
เมื่อเงาสีเขียวปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน ราวกับว่าแสงจากสวรรค์และปฐพีรวมตัวกันบนร่างของเขา
“ช่างเป็นเด็กหนุ่มที่งดงามจริง ๆ เขาเป็นใครกัน ?”
“โอ้สวรรค์! นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า ?”
“…”
มู่เฉียนซียิ้มก่อนจะกล่าว “สวัสดีทุกท่าน ข้าคือหัวหน้าหอหมอปีศาจนามว่ามู่ซี ข้ายินดีต้อนรับทุกท่านที่ให้ความสนใจอย่างกระตือรือร้นในการประลองคัดเลือกของหอหมอปีศาจของข้า พรุ่งนี้หอหมอปีศาจจะเปิดอย่างเป็นทางการ เจ็ดวันแรกที่เปิดจะจัดกิจกรรมพิเศษ ในระหว่างนั้นก็จะมีของขวัญลึกลับมากมายมอบให้ หวังว่าทุกคนจะมาเข้าร่วม”
มู่เฉียนซีฉวยโอกาสนี้โฆษณา นักปรุงยาเหล่านั้นต่างไม่พอใจ
“คุณชายมู่ ข้าขอถามสักหน่อยว่าจะประลองกันยังไง ?”
มู่เฉียนซีหยิบสูตรยาออกมาแผ่นหนึ่ง “เม็ดยาระดับเก้า เม็ดยาหลงซวน ข้าจะเตรียมสมุนไพรสามชุดให้นักปรุงยาทุกคน พวกเจ้าเพียงต้องตั้งใจปรุงมันออกมาให้ดี”
“แล้วการจัดอันดับล่ะ ? นี่เจ้าไม่ได้เชิญผู้ตัดสินมาหรอกรึ ?”
ความกังวลหลักของพวกเขาคือเรื่องนี้ รางวัลที่จะได้เป็นที่น่าตื่นเต้นมาก พวกเขาอยากมั่นใจว่าการตัดสินจะเป็นธรรม
มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย “กรรมการรึ ? เจ้าคิดว่าข้าคนเดียวเป็นผู้ตัดสินยังไม่เพียงพออีกหรือ ?”
มู่เฉียนซีนั่งอย่างสง่างามที่จุดสูงสุดของสนามประลอง ทุกคนเงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่งดงามผู้นั้น เขามองลงมายังทุกคนราวกับเป็นราชันย์แห่งท้องนภาอันน่าเกรงขามก็มิปาน สง่า มีเกียรติ มั่นใจ สงบนิ่ง
แต่ถึงอย่างไร เขาก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะเท่านั้น! มีความสามารถที่จะเป็นผู้ตัดสินยาที่นักปรุงยาระดับสูงทั้งหลายหลอมปรุงขึ้นมาจริง ๆ หรือ ?
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่สบายใจ ถ้าถึงตอนนั้นข้าตัดสินแล้วเกิดผิดพลาดอะไร พวกเจ้าแต่ละคนจะได้รับค่าชดเชยเป็นสูตรยาระดับปฐพี”
— ฟึ่บ! —
“สูตรยาระดับปฐพีเลยเชียวรึ ?!”
“หัวหน้าหอมู่ช่างร่ำรวยเกินไปแล้ว!”
ทุกคนต่างพากันเสียงดังเกรียวกราว สูตรยาระดับปฐพี หากนําไปประมูลจะประมูลได้ในราคาที่สูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว
บ้า! นี่มันบ้าไปแล้ว
เหล่านักปรุงยากล่าว “ในเมื่อคุณชายมู่กล่าวมาเช่นนี้ เช่นนั้นพวกเราก็เริ่มประลองกันเถอะ”
เม็ดยาหลงซวน เม็ดยาระดับเก้าชนิดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลอมออกมาได้
มันสามารถทดสอบการควบคุมเปลวเพลิงของนักปรุงยา ความสามารถในการหลอมหรือกลั่นยา จิตวิญญาณและอื่น ๆ
สมุนไพรวิญญาณสามชุดในมือก็ล้วนมีมูลค่ามหาศาล เขาไม่เสียดายเลยจริง ๆ!
“การประลอง เริ่มได้!”
เวลาในการแข่งขันคือสามชั่วยาม
…
สามชั่วยามผ่านไป นอกจากหนึ่งถึงสองคนที่ล้มเหลวในการปรุงยาแล้ว คนอื่น ๆ ก็ได้ส่งมอบยาออกมาให้ ‘มู่ซี’ ตรวจตรา
มู่เฉียนซีเพียงกวาดตามอง ก็สามารถจัดอันดับออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ทุกคนก็จนปัญญาเช่นกัน นี่…
ประมาทเกินไปแล้ว! นี่คือการแข่งขันปรุงยา มิใช่เรื่องเด็กเล่น
“พวกเราไม่ยอม!”
“ข้าก็ไม่ยอมเช่นกัน!”
“ข้าด้วย…”
มู่เฉียนซีหยิบขวดหยกขึ้นมาขวดหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ไม่ยอมใช่ไหม ? เช่นนั้นข้าก็จะทำให้พวกเจ้ายอมเดี๋ยวนี้แหละ”
“ยาขวดนี้มีความบริสุทธิ์เพียงสามสิบส่วน ในตอนที่เจ้ากำลังสกัดยาอยู่นั้น มีสามครั้งที่เจ้าไม่สามารถที่จะควบคุมไฟได้อย่างสมบูรณ์ แล้วก็…”
แต่ละสิ่งที่มู่เฉียนซีกล่าวออกมาล้วนต่อเนื่องและกล่าวได้อย่างถูกต้องตรงตามจริง นักปรุงยาผู้นั้นไม่มีอะไรจะกล่าวแล้วเพราะผู้ตัดสินกล่าวถูกต้องทุกอย่าง
“ส่วนเจ้า ในตอนที่เจ้าปรุงยาอยู่นั้น หากมิใส่หญ้าหลงหยวนไปจนหมดมันจะดีกว่านี้ แล้วก็…” หลังจากที่กล่าวชี้จุดผิดพลาดจบ มู่เฉียนซีก็กล่าวชี้แนะต่อเนื่องไปอีกอย่างไม่มีการหวงวิชา
ดวงตาของนักปรุงยาเหล่านั้นเริ่มเบิกกว้างและสุกใสขึ้นมา ปากก็พากันพึมพำ “ที่แท้ยังสามารถทำเช่นนี้ได้อีก…”
มู่เฉียนซีนำยาออกมาอีกขวดหนึ่ง นางติชมต่อไป
ข้อบอกพร่องที่นางชี้ให้พวกเขาเห็น ไม่มีใครกล้าที่จะโต้เถียงเลย ต้องบอกเลยว่าคำแนะนำที่นางกล่าวออกมานั้นเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเขาทุกคน
บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณนั้นเงียบสงัดลง
พวกเขาเองก็เคยเห็นการประลองของนักปรุงยามาแล้วมากมาย ทว่าการติชมที่ร้ายกาจตรงไปตรงมาถึงเพียงนี้ พวกเขากลับไม่เคยพบเจอมาก่อน
ความสามารถของหมอปีศาจมู่ซีนั้นจะต้องมิใช่แค่เป็นนักปรุงยาขั้นสูงอย่างแน่นอน อย่างน้อยจะต้องเป็นระดับปรมาจารย์นักปรุงยา