เมื่อได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยเสียงหนึ่ง หวงฝู่จี้เหินก็ตกใจผงะไป เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และได้เห็นกับหญิงสาวผู้งดงามเพริศพริ้งผู้หนึ่ง
ผู้ที่งดงามเช่นนี้ เคยเห็นครั้งแรกก็ยากที่จะลืมได้
“เป็นเจ้า…”
ศิษย์น้องที่ออกมืออย่างฟุ่มเฟือยผู้นั้นที่เจอกันที่ศูนย์กลางการค้าในคราก่อน เขารู้สึกสงสัยเล็กน้อยว่านางรู้จักชื่อเขาได้อย่างไร
มู่เฉียนซีตกใจเล็กน้อย ลืมไปว่าตอนนี้นางคือมู่เฉียนซี ไม่ใช่อาจารย์มู่ซีของพวกเขา
มู่เฉียนซีกล่าว “อืม! ข้าเอง ข้ามาหาอาจารย์ใหญ่เพราะว่ามีเรื่องนิดหน่อย ช่วยนำทางข้าไปหน่อยได้หรือไม่ ?”
หวงฝู่จี้เหินไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด เขากล่าว “ข้ากำลังจะไปหาอาจารย์ใหญ่พอดี งั้นก็ไปด้วยกันเถอะ!”
“ได้สิ!”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก! หวงฝู่จี้เหินเคาะประตูอยู่ด้านนอก
“จี้เหิน เจ้ามาแล้วเหรอ! รีบเข้ามาสิ เจ้ารีบมาบอกปู่หน่อยซิว่ายานี้มันปรุงออกมายังไง ข้าจะคำนับเจ้าเป็นอาจารย์!” เสียงดีอกดีใจของอาจารย์ใหญ่ดังออกมาจากด้านใน
ตั้งแต่ที่ท่านปู่กลับมา และหลังจากที่ได้รู้ถึงผลงานของเขาท่านปู่ก็เป็นเช่นนี้ ประหลาดใจกับยาแผนปัจจุบันมาก (ยาน้ำ)
หวงฝู่จี้เหินกล่าว “ท่านปู่ ยังมีคนอื่นมาด้วย!”
“ผู้ใด ?”
“ข้าเอง!” มู่เฉียนซีผลักประตูออก และเดินเข้าไป
“สาวน้อย ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!” อาจารย์ใหญ่รีบลุกยืนขึ้น
“มีเรื่องยุ่งนิดหน่อย ข้าก็เลยมาช้าไป อาจารย์ใหญ่คงจะไม่เบี้ยวข้อตกลงหรอกกระมัง!” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว
อาจารย์ใหญ่หวงฝู่กล่าว “ข้าจะเบี้ยวได้ยังไงหล่ะ มู่ซีฝึกฝนให้หลานชายของข้ากลายเป็นอัจฉริยะเช่นนี้ หากข้าเบี้ยวข้อตกลงเจ้า ข้าคงถูกฟ้าผ่าตายหน่ะสิ!”
หวงฝู่จี้เหินผงะไปครู่หนึ่ง “ท่านปู่! ศิษย์น้องผู้นี้ก็คือคนที่ท่านปู่บอกว่าได้ช่วยชีวิตท่านปู่เอาไว้ นางเป็นสหายของท่านอาจารย์มู่”
อาจารย์ใหญ่หวงฝู่กล่าว “ก็ใช่หน่ะสิ!”
หวงฝู่จี้เหินกล่าว “ศิษย์น้อง นักเรียนห้องเจ็ดแทบจะเป็นบ้าแล้ว ครั้งนี้ท่านอาจารย์มู่ซีจะโดดสอนอีกนานแค่ไหนกัน ?”
ถึงแม้ว่าหวงฝู่จี้เหินจะเป็นคนขี้เกียจ แต่ภายในแววตาของเขาก็เศร้าใจเล็กน้อย
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “ดูเหมือนว่าพวกเจ้ามีร่างกายไว้เพื่อถูกทารุณสินะ เจ้าหวังอยากจะให้เขากลับมาทารุณพวกเจ้ามากขนาดนั้นเชียว”
หวงฝู่จี้เหินกล่าว “เพราะวิธีการสอนเช่นนี้มันใช้ได้ผลดียิ่งนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่เขาจะกลับมา ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ก็คงอีกสักช่วงหนึ่งกระมัง ช่วงนี้ที่หอหมอปีศาจมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมาย”
หวงฝู่จี้เหินกล่าว “เช่นนั้นก็ให้ท่านอาจารย์จัดการเรื่องของตัวเองให้เสร็จก่อนเถอะ พวกเราเรียนรู้ด้วยตัวเองได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เขาคอยอยู่ชี้แนะอยู่ตลอดเวลา”
อาจารย์ใหญ่หวงฝู่กล่าว “เจ้ามู่ซีผู้นั้นได้สั่งสอนนักเรียนห้องเจ็ดที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเรียนจัดการยากมากจนกลายเป็นนักเรียนที่เชื่อฟังได้ถึงเพียงนี้ ข้ายิ่งประหลาดใจมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ และอยากจะเจอหน้าเขามาก”
มู่เฉียนซีกล่าว “อาจารย์ใหญ่มีโอกาสนั้นแน่นอน เพียงแต่ของที่ข้าต้องการ อาจารย์ใหญ่พาข้าไปเอาเถอะ!”
อาจารย์ใหญ่กล่าว “ไม่มีปัญหา!”
คลังเก็บสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าที่สุดของหน่วยสำนักปรุงยา แม้แต่หวงฝู่จี้เหินก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะได้ย่างกรายเข้าไป
อาจารย์ใหญ่พามู่เฉียนซีเข้าไปในคลังเก็บของล้ำค่า สมกับที่เป็นกองกำลังสำนักนิกายระดับสองจริง ๆ สมุนไพรวิญญาณด้านในนั้นมีไม่น้อยเลย นางรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ตอนนั้นไม่ได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของอารอง
สายตาของมู่เฉียนซีกวาดมองไปที่สมุนไพรวิญญาณทั้งหมดด้านใน และเลือกสมุนไพรวิญญาณที่ตัวเองต้องการมาสามสิบชนิด แต่กลับไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย
“ข้ารู้สึกเสียดายอยู่บ้างที่ตอนนั้นไม่ได้ละโมบโลภมาก ของสะสมที่นี่อุดมสมบูรณ์กว่าที่ข้าได้จินตนาการเอาไว้มาก!”
อาจารย์ใหญ่กล่าว “ตอนนั้นเจ้าเกรงใจเกินไปแล้ว แต่ถ้าจะเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วหล่ะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ไปกันเถอะ! ขืนอยู่ที่นี่ต่อ มีหวังข้าทนไม่ไหวต้องแย่งเอาไปแน่นอน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เช่นนั้นก็รีบไปกันเถอะ!” อาจารย์ใหญ่หัวเราะคิกคัก
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
“แล้วสมุนไพรวิญญาณบางอย่างที่เจ้าต้องการตามหาล่ะ เอามาให้ข้าดูหน่อย ข้าเดินทางท่องไปทั่วแดนใต้มานานหลายปี บางทีข้าอาจจะรู้ข่าวบ้าง”
มู่เฉียนซีได้เอาใบรายชื่อสมุนไพรวิญญาณที่ยังขาดอยู่ในการปรุงยาหยินหยางอนันต์ออกมา อาจารย์ใหญ่เห็นแล้วก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีชื่อสมุนไพรวิญญาณครึ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
ตอนนี้เขารู้สึกว่าตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้น ตนเองนั้นได้ใช้ชีวิตมาโดยเปล่าประโยชน์แล้ว
อาจารย์ใหญ่กล่าว “สมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ เกรงว่าจะหาได้ยากมาก แต่ข้าก็จะให้คนพยายามตามหาอย่างสุดกำลัง เพียงแต่ข้าก็สงสัยอยู่บ้างเล็กน้อยว่ายาอะไรกันแน่ที่ต้องการสมุนไพรวิญญาณที่หายากเช่นนี้ ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องอื่นข้าไม่อยากจะพูดมาก ข้าบอกอาจารย์ใหญ่หวงฝู่ได้แค่ว่า ยานี้เป็นยาที่จะช่วยชีวิตคน มันสำคัญสำหรับข้ามาก!”
ฟื้นคืนชีพ เปลี่ยนผันชะตาชีวิต หยินหยางอนันต์ ยานี้วิเศษมากจนมู่เฉียนซีมิอาจเปิดเผยออกไปได้ง่าย ๆ
แต่ถึงอย่างไรเสีย ยาที่แปลกประหลาดเช่นนี้ก็หลีกเลี่ยงที่จะทำให้คนเชื่อมโยงมันกับหมอเทพนิรันดร์ไม่ได้
อาจารย์ใหญ่หวงฝู่ก็ไม่ได้ไต่ถามอะไรมากนัก เขากล่าวว่า “สาวน้อย เจ้าวางใจเถอะ!”
หลังจากที่จัดการเรื่องทางด้านหน่วยสำนักปรุงยาได้แล้ว มู่เฉียนซีก็กลับไปยังสำนักส่วนนอก ขังตัวเองอยู่กับการฝึกฝน รอจนกว่าการสอบรับนักเรียนของสำนักส่วนในจะเริ่มขึ้น
สามวันต่อมา การสอบรับนักเรียนของสำนักส่วนในก็ได้เริ่มขึ้น
มีเพียงนักเรียนชั้นเรียนระดับสูงเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติในการเข้าร่วม และนักเรียนทุกคนของชั้นเรียนระดับสูงก็ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก
และนักเรียนใหม่สุดที่เข้าร่วมการสอบรับนักเรียนของสำนักส่วนในในครั้งนี้ก็คือมู่เฉียนซี
ในขณะที่นางได้มาถึงนั้น คนจำนวนมากต่างกำลังพูดคุยกันอยู่
ถึงแม้ว่าการเลื่อนขั้นระดับสูงของนางจะไม่ใช่การฝึกฝนอยู่ในค่ายกลรวมวิญญาณ แต่เป็นการออกไปปฏิบัติภารกิจจริง นางไม่ค่อยคุ้นเคยกับทุกคนมากนัก แต่นางก็ไม่อาจห้ามผู้คนไม่ให้ร่ำลือกันถึงการกระทำอันแข็งแกร่งของนางได้
“เป็นนาง! มู่เฉียนซี หนึ่งเดือนเลื่อนขั้นไปได้หนึ่งขั้น! ตั้งแต่ชั้นเรียนระดับต่ำจนถึงชั้นเรียนระดับสูง ใช้เวลาเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น”
“ครั้งนี้เป้าหมายของนางก็ต้องเป็นสำนักส่วนในแน่แล้ว ไม่รู้ว่าการสอบรับนักเรียนของสำนักส่วนในครั้งนี้จะหยุดความวิปริตนี้ของนางไว้ได้หรือไม่!”
“หากเวลาสามเดือนสามารถเข้าสำนักส่วนในได้ นางก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
“ชั้นเรียนระดับสูงของพวกเรามีศิษย์พี่ที่เก่งกาจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของมู่เฉียนซีจะวิปริตไปสักหน่อย แต่อย่างไรเสีย เวลาในการฝึกฝนของนางก็สั้นนัก การสอบครั้งนี้คงจะไม่ผ่านไปได้อย่างราบรื่นเหมือนครั้งที่แล้วมาหรอก”
เสียงที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นไม่ได้เบาเลย มู่เฉียนซีคิดจะเพิกเฉยก็ไม่ได้
ต้องเข้าไปในสำนักส่วนในให้ได้ หากล้มเหลวในครั้งนี้คงต้องรออีกครึ่งปี นางไม่ได้มีเวลามากมายเช่นนั้น
ตอนนี้อาจารย์ใหญ่ฉู่กับเหล่าผู้อาวุโสของสำนักส่วนในก็ได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว อาจารย์ใหญ่ฉู่ได้กล่าวกับนักเรียนชั้นเรียนระดับสูงหลายพันคนว่า “เป็นอย่างที่พวกเจ้าทราบกันดีอยู่แล้วว่าวันนี้เป็นวันสอบของสำนักส่วนใน ครั้งนี้สำนักส่วนในรับนักเรียนทั้งหมดสิบคน ซึ่งหมายความว่าการสอบครั้งนี้ ผู้ที่ติดสิบอันดับแรกเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติเข้าสำนักส่วนใน”
“สำนักส่วนในมีอาจารย์ที่ดีที่สุดของสำนักศึกษาซวนเสีย มีทรัพยากรที่ดีที่สุด และมีค่ายกลรวมวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นขอให้นักเรียนทุกคนตั้งใจ พยายามให้เต็มที่สำหรับการทดสอบเข้าสำนักส่วนในในครั้งนี้!”
การกล่าวสุนทรพจน์นี้ของอาจารย์ใหญ่ทำให้ดวงตาของพวกเขาลุกโชนขึ้น และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
จากนั้นเสียงแก่ชราเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ลำดับต่อไป พวกเจ้าก็ตามข้าไปที่จุดทดสอบของการรับนักเรียนสำนักส่วนในเถอะ แล้วข้าก็จะประกาศกฎการประลองในครั้งนี้”
“ขอรับ!” พวกเขาเข้าไปที่เขตแดนระหว่างสำนักส่วนนอกกับสำนักส่วนใน ที่นี่มีค่ายกลอยู่ทั่วทุกแห่งหน ไม่นานนักค่ายกลค่ายหนึ่งก็ได้เปิดออก ครอบคลุมพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ จากนั้นก็ส่งพวกเขาไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง