คนจำนวนหนึ่งพันคนได้ถูกส่งเข้ามาแล้ว
หลังจากเข้ามาพวกเขาก็พบว่าสถานที่ที่เข้ามานั้นไม่ได้เป็นมิติปิด แต่เป็นพื้นที่ราบที่รกร้าง
พื้นที่ราบนี้เต็มไปด้วยก้อนหินแข็งหลากหลายชนิด และมีวัชพืชขึ้นอยู่บ้าง
พวกเขาต่างก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นี่ใช่หอโอสถจริง ๆ เหรอ สภาพในหอโอสถเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้
น้ำเสียงอันนิ่งสงบเสียงหนึ่งดังออกมา “เด็กน้อยทั้งหลาย ยินดีต้อนรับพวกเจ้าทั้งหลายสู่หอโอสถ ยอมรับการคัดเลือกของหอโอสถ ขั้นตอนต่อไปพวกเจ้าจะได้รับการทดสอบชั้นแรกของหอโอสถ”
“ในชั้นแรกพวกเจ้าจะต้องหลอมยาวิญญาณชนิดหนึ่งออกมา คุณภาพและระดับของยาจะต้องได้รับการยอมรับจากหอโอสถ”
ทุกคนได้ยินเช่นนี้แล้วต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง การทดสอบของหอโอสถนี้ไม่ได้ยากเลย!
กลไกวิญญาณของหอโอสถกล่าวต่อว่า “ยังมีอีก สมุนไพรวิญญาณที่จะเอามาหลอมยานั้นจะต้องเก็บมาจากหอโอสถเท่านั้น สมุนไพรวิญญาณที่พวกเจ้านำมาเองจากด้านนอกนั้น หอโอสถไม่ยอมรับ”
สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ! เอาสมุนไพรวิญญาณในหอโอสถเท่านั้น แล้วในหอโอสถมีสมุนไพรวิญญาณอยู่ที่ใดกันเล่า ?”
“บนพื้นดินด้านหน้าพวกเจ้ามีสมุนไพรวิญญาณที่เติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะมีไม่เยอะ แต่หากพวกเจ้าตั้งใจหามัน ก็จะเจอมันแน่นอน”
“สิ่งที่ข้าควรจะพูด ข้าก็พูดไปหมดแล้ว ทุกคนพยายามเข้าล่ะ!”
กล่าวจบกลไกวิญญาณก็ได้อันตรธานหายไปทันที พื้นดินตรงหน้าอย่าว่าแต่สมุนไพรวิญญาณเลย แม้แต่จะหญ้าสักต้นก็หายาก แล้วพวกเขาจะไปหาสมุนไพรวิญญาณได้จากที่ใดกันเล่า!
ในขณะที่พวกเขากำลังกลัดกลุ้มใจอยู่นั้น มู่เฉียนซีก็ได้พุ่งตัวออกไปแล้ว
กำหนดการทดสอบออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็ต้องทำให้สำเร็จ มู่เฉียนซีตัดสินใจรีบออกไปหาสมุนไพรวิญญาณก่อน
อวี้เหลียนชิงกล่าว “รีบไปหาสมุนไพรวิญญาณเร็วเข้า จะต้องหาเจอแน่นอน อย่ามัวแต่เสียเวลาอยู่เลย”
เขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด
ส่วนคนอื่น ๆ ก็แยกย้ายกันไปเสาะหาสมุนไพรวิญญาณ แต่สถานที่ที่รกร้างเช่นนี้หาสมุนไพรวิญญาณใดไม่เจอจริง ๆ
ตามเสาะหาเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ สมุนไพรวิญญาณต้นเล็กต้นน้อยก็หาไม่เจอ บางคนก็หมดความอดทนจนล้มตัวนั่งลงบนพื้นดินแล้ว
“ไม่หาแล้ว! หอโอสถนี้กำลังเล่นตลกกับพวกเราแน่ ๆ!”
“ช่างทำให้คนหมดกำลังใจเสียจริง ๆ เลย ใช้การทดสอบเช่นนี้มาทำให้พวกเราลำบากใจชัด ๆ”
“……”
อัจฉริยะนักปรุงยาเช่นนี้ไม่ได้มีสถานะต่ำต้อยในสำนักของตนเองเลย พวกเขาล้วนแต่ได้รับการปรนนิบัติจากผู้อื่นมาโดยเสมอ
อยากได้สมุนไพรวิญญาณใดก็แค่บอกชื่อสมุนไพรวิญญาณนั้นไปก็มีคนนำมามอบให้แล้ว จะเหมือนตอนนี้เสียที่ไหนกันเล่า เดินหาไปเรื่อย ๆ หลาย ๆ วันก็หาไม่เจอ
เวลาในหอโอสถดูเหมือนว่าจะผ่านมานานมากแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ได้อะไรมาสักอย่าง และจำนวนผู้ที่ยอมแพ้ก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีนั้นไม่เคยคิดจะยอมแพ้เลย ถึงแม้จะไม่ได้อะไรมาแต่นางก็ยังคงตามหาต่อไป แต่หลังจากนั้นมาไม่กี่วัน มู่เฉียนซีก็พบว่าดินในบริเวณรอบ ๆ ทั้งหมดก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ถึงแม้ว่าจะยังมีพืชพันธุ์น้อยมาก แต่มู่เฉียนซีก็พอได้เจอกับสมุนไพรวิญญาณอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าระดับของสมุนไพรวิญญาณนั้นจะไม่สูง แต่ก็ดีที่เป็นสมุนไพรวิญญาณ
มู่เฉียนซีเก็บสมุนไพรวิญญาณนั้นมาและตามหาสมุนไพรวิญญาณชนิดอื่นต่อ ดูเหมือนว่านางจะเข้าใจจุดประสงค์ของหอโอสถแล้ว ในฐานะที่เป็นนักปรุงยา หากอดทนต่อความเปล่าเปลี่ยวในการหาสมุนไพรวิญญาณในพื้นที่ที่รกร้างไม่ได้ ไม่มีจิตใจที่แน่วแน่และเข้มแข็งดั่งเหล็กกล้า ไม่มีจิตใจที่ห้าวหาญก็ไม่สามารถที่จะเป็นนักปรุงยาที่แข็งแกร่งได้
นักปรุงยาส่วนมากล้วนแต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดในการปรุงยา ตระกูลหรือสำนักจะมอบทรัพยากรมากมายให้แก่พวกเขา และพวกเขาไม่ต้องเสียแรงออกไปหา ผู้ที่ไม่มีความเพียรพยายามและความอุตสาหะถูกลิขิตให้หอโอสถไม่ปลาบปลื้ม
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป มู่เฉียนซีก็หาสมุนไพรวิญญาณได้มากขึ้นเรื่อย ๆ หาต่ออีกหน่อยก็จะหลอมยาระดับเก้าได้แล้ว ไม่รู้ว่าจะทำให้หอโอสถพึงพอใจได้บ้างหรือไม่ ลองดูก่อนเดี๋ยวก็รู้เอง
และแล้วก็ได้พบกับสมุนไพรวิญญาณชนิดสุดท้าย
เมื่อเห็นกับผลไม้ทรงกลมผลหนึ่งราวกับหยกขาวอยู่ตรงหน้า ดวงตาของมู่เฉียนซีก็เปล่งประกายขึ้น
นางเดินไปจะเก็บมันมา แต่ทันใดนั้นเองเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“แม่นางมู่ ข้ากำลังต้องการผลวิญญาณหยกขาวอยู่พอดี ไม่ทราบว่าเจ้าจะยอมถอยให้ข้าได้หรือไม่”
มู่เฉียนซีหันหลังกลับมาก็ได้เห็นกับชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง อวี้เหลียนชิง ช่างบังเอิญเสียจริง! แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าว “ผลวิญญาณหยกขาวนี้ ข้าต้องการมันพอดี เพราะฉะนั้นข้าไม่คิดจะให้เจ้า”
อวี้เหลียนชิงกล่าว “หอโอสถให้พวกเราหาสมุนไพรวิญญาณในมิตินี้ตามสบาย นอกจากจะทดสอบความเพียรพยายามในการหาสมุนไพรแล้ว ยังทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเราอีกด้วย ถึงแม้ว่าเจ้าจะหาสมุนไพรเจอก่อน แต่ผู้แข็งแกร่งต่างหากล่ะที่มีคุณสมบัติที่จะได้มันไป”
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว “นั่นก็หมายความว่า เจ้าคิดจะลงมือกับข้าแล้ว ใช่หรือไม่ ?”
“กฎการทดสอบก็เป็นเช่นนี้ ล่วงเกินเจ้าแล้ว” อวี้เหลียนชิงกล่าว
ทันทีที่กล่าวจบ เปลวไฟก็พุ่งออกไปทันที!
ไม่ทันได้ทักทายก็ลงมือแล้ว ช่างเหมาะสมกับเป็นนิสัยของสุภาพบุรุษวางมาดภูมิฐานของหุบเขาหมอเทวดายิ่งนัก
ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวหลบหลีก พลังของอวี้เหลียนชิงผู้นี้ไม่อ่อนแอเลย จักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ด และพลังวิญญาณก็อยู่ในระดับเต็มแล้ว
เดิมทีเขาคิดจะลอบโจมตีมู่เฉียนซี และจัดการกับนางไปให้สิ้นซาก แต่มู่เฉียนซีกลับหลบหลีกได้ สิ่งนี้ช่างทำให้เขาประหลาดใจยิ่งนัก
“กระบวนท่าเมื่อครู่ข้าก็แค่เตือนแม่นางมู่เท่านั้น ให้แม่นางมู่รู้จักหลบลี้หนีหน้า แต่กระบวนท่าต่อไปแม่นางมู่จะไม่โชคดีเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว หากทำให้แม่นางมู่บาดเจ็บ ก็ขอให้แม่นางมู่อภัยให้ข้าด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “เช่นนั้นก็ลองดู ว่าเจ้าจะทำให้ข้าบาดเจ็บได้หรือไม่”
“มังกรวารีพิฆาต!” ครั้งนี้มู่เฉียนซีไม่ให้โอกาสเขาได้ลงมือก่อนอีกแล้ว
ตูม! มังกรวารีอันเย็นยะเยือกนั้นถูกเจ้าหมอนี่ขวางเอาไว้ได้
“จักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง!” อวี้เหลียนชิงรู้ถึงระดับพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีแล้ว และเขาก็ยิ่งโล่งใจมากขึ้น
ระดับพลังวิญญาณของนางสำหรับเขาแล้วยังห่างชั้นกับเขามาก ดังนั้นอย่าจัดการให้ง่ายเกินไป
“แม่นางมู่ ความแข็งแกร่งของข้านั้นสูงกว่าเจ้าถึงห้าระดับ เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าจะสู้ต่อกับข้า แต่หากว่าข้าเป็นเจ้า ข้าจะรีบมอบผลวิญญาณหยกขาวไปนานแล้ว” อวี้เหลียนชิงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าทุกคนจะเป็นเหมือนคนของหุบเขาหมอเทวดางั้นเหรอ ไร้ศักดิ์ศรี อยากต่อสู้ก็สู้เถอะ อย่ามัวแต่พูดมาก!”
วาจาเย้ยหยันของมู่เฉียนซีทำให้ใบหน้าของเขาเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา
“เหยียนหลิงสังหาร!” คมศรเพลิงนับไมถ้วนพุ่งไปทางมู่เฉียนซี
ความแข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดนั้นไม่ง่ายที่จะรับมือเลย พลังของเจ้าหมอนี่แข็งแกร่งกว่าซวนอี้มาก
ภายใต้การห้อมล้อมของคมศรอันบ้าคลั่งนี้ มู่เฉียนซีหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว และอวี้เหลียนชิงก็เพิ่มพลังออกไปอีกครั้ง คมศรเพลิงหนาขึ้นและรวดเร็วขึ้น!
“โล่วิญญาณน้ำแข็ง!” มู่เฉียนซีใช้โล่มังกรวารีขวางไว้
ทว่า น้ำแข็งเมื่อพบกับเพลิงที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ได้ละลายไป มู่เฉียนซีกระโดดออกมา และชักกระบี่มังกรเพลิงออกมาเตรียมตอบโต้
และในตอนนี้เอง วิหคหงส์แดงเพลิงตัวหนึ่งก็พุ่งออกมาขวางคมศรเพลิงเหล่านั้นไว้
ตูม ตูม ตูม!
อวี้เหลียนชิงผงะไปครู่หนึ่ง “ใคร ?”
มู่เฉียนซีก็ผงะไปครู่หนึ่งเช่นกัน ดูเหมือนว่ามีคนต้องการส่วนแบ่งด้วย แต่นางเป็นคนหาผลวิญญาณหยกขาวเจอก่อน นางไม่ยอมให้ใครเด็ดขาด