ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 697 บัตรอาหารระยะยาว

ซือคงเลี่ยวก็รู้ดีว่าหากไม่มีหม้อยา การที่เขาจะมาหาเรื่องมู่เฉียนซีถึงสำนักศึกษาซวนเสียอย่างอุกอาจเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จะมีเหตุผลไม่เพียงพอ แต่มันจะกลับกลายเป็นเรื่องที่น่าขำในใต้หล้านี้อีกด้วย

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของซือคงเลี่ยว คนอื่น ๆ ก็ยังเชื่อ

หากไม่ใช่เพราะสูญเสียหม้อยาไป หุบเขาหอหมอเทวดาของพวกเขาก็คงจะไม่ทำเรื่องเช่นนี้

มีเพียงแค่ซือคงเลี่ยวที่รู้ว่าหม้อยานั้นไม่ใช่ของจริง

เขาก็รู้สึกเช่นกันว่า ที่ท่านผู้เฒ่าทำเช่นนี้ก็เพียงเพราะต้องการแก้แค้นให้กับเสี่ยวชิง!

ทว่า ท่านผู้เฒ่าได้บอกแล้วว่ามู่เฉียนซีเป็นผู้ที่น่ากลัวมาก จำเป็นต้องรีบเอาตัวนางกลับไปให้ได้

ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเพราะว่าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดานั้นได้เห็นเงาประหลาดของพิษที่มู่เฉียนซีใช้ ประกอบด้วยท่าทางการแสดงออกที่มีพรสวรรค์ของนาง คนเช่นนี้ไม่สามารถควบคุมเอาไว้ในกำมือได้ ทำได้เพียงแค่สังหารนางทิ้งเขาถึงจะวางใจได้

ซือคงเลี่ยวกล่าว “พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ตกลงพวกเจ้าจะให้หรือไม่ให้ หากไม่ให้ ข้าก็จะจับตัวนางไป”

มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาของพวกเจ้าเพียงแค่อยากจะขอคำชี้แนะในการปรุงยาจากข้า ข้ายอมลดเกียรติไปสักหน่อยก็ได้”

ผู้อาวุโสสูงสุดตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “สาวน้อยซี เจ้าอย่าได้ก่อเรื่องเลย สู้ก็สู้ สำนักศึกษาซวนเสียพวกเราไม่ได้กลัวพวกมันอยู่แล้ว”

“เฉียนซี!” สีหน้าของซวนอี้ซีดเผือดทันที

“ไม่ได้!”

เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้หุบเขาหมอเทวดาพุ่งเป้าไปที่นาง หากนางถูกจับตัวไป เมื่อไปถึงหุบเขาหมอเทวดาแล้วก็คงจะไม่มีผู้ใดที่สามารถช่วยนางได้

มู่เฉียนซีหันหลังกลับไปมองผู้อาวุโสสูงสุดกับซวนอี้ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินไปหาซือคงเลี่ยว

ซือคงเลี่ยวกล่าว “เห็นแก่ที่สาวน้อยอย่างเจ้ารู้ว่าต้องทำตัวเช่นไร อย่างน้อยตอนนี้เจ้าก็จะไม่ต้องเจ็บตัว!”

ตอนแรกมู่เฉียนซีเริ่มเดินไปอย่างช้า ๆ แต่ทันใดนั้นความเร็วก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งไปทางซือคงเลี่ยว

ซือคงเลี่ยวกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้า นี่เจ้ากล้าลอบโจมตีข้ารึ รนหาที่ตายจริง ๆ!”

ซือคงเลี่ยวโบกมือโจมตีมู่เฉียนซี ซวนอี้ตะโกนขึ้นว่า “ระวัง!”

ตูม! ร่างสีเขียวร่างหนึ่งขวางหน้ามู่เฉียนซีเอาไว้ และถูกโจมตีด้วยกระบวนท่านี้ของซือคงเลี่ยว

ทุกคนเห็นใบหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่เปรียบเช่นนี้แล้ว ต่างก็สูดลมหายใจเย็นเข้าปอดเฮือกหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะมีมนุษย์ที่หน้าตางดงามเช่นนี้อยู่

คนรูปงามเช่นนี้ถูกการโจมตีของมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่เข้าไปคิดเหรอว่าจะรอด ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก!

ทว่า ผ่านไปครู่หนึ่ง ชิงอิ่งก็เคลื่อนไหวแล้ว อีกทั้งยังลงมือกับซือคงเลี่ยวอีกด้วย!

“นี่คนประเภทใดกัน ถูกโจมตีเช่นนั้นแล้วแต่กลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย!”

“ร่างกายของเขาทำด้วยสิ่งใดกันแน่!”

“ช่างน่าทึ่งเกินไปแล้ว เขาแข็งแกร่งกว่าหัวหน้าหุบเขาซือคง”

“ไม่สิ เขาไม่มีคลื่นพลังวิญญาณแม้แต่น้อย!”

พวกเขาค้นพบว่าทุก ๆ การเคลื่อนไหวของชิงอิ่งนั้นไม่มีพลังวิญญาณและพลังปราณใดเลย

เป็นเช่นนั้นแล้วจะอย่างไรเล่า เขาแข็งแกร่งจริง ๆ! การเคลื่อนไหวก็รวดเร็วยิ่งนัก! ช่างวิปริตเกินไปแล้ว!

หัวหน้าหุบเขาซือคงเป็นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่ผู้หนึ่ง แต่เมื่อโดนกระบวนท่าของเขาแล้วกลับไม่สามารถตั้งรับได้ทัน

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “พวกเจ้ามัวแต่ยืนซื่อกันอยู่ทำไมเล่า รีบไปจับตัวนางไว้เร็วเข้า ข้าจะรับมือเจ้าหมอนี่เอง”

คนผู้นี้ต้องเป็นผู้ที่อวี้เหลียนชิงบอกว่าเป็นองครักษ์ผู้แปลกประหลาดของมู่เฉียนซีผู้นั้นแน่นอน เขาได้พัวพันอยู่กับเจ้าหมอนี่แล้ว คิดจะจับมู่เฉียนซีก็คงจะง่ายแล้ว

ผู้แข็งแกร่งขั้นมหาจักรพรรดิของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านั้นแน่นอนว่าต้องฟังคำพูดของหัวหน้าหุบเขา และพวกเขาก็ได้ลงมือแล้ว

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “พวกเจ้าอย่าคิดที่จะทำตัวกร่างที่สำนักศึกษาซวนเสียนะ นักเรียนของข้าไม่ใช่คนที่เจ้าคิดจะเอาตัวไปแล้วจะเอาตัวไปได้”

อาจารย์ใหญ่พาคนเข้าไปช่วยรับมือ ในขณะที่มีอาจารย์บางส่วนกลับถอยหนี ไม่คิดจะปกป้องมู่เฉียนซีแล้ว

ทางด้านของหุบเขาหมอเทวดาก็มีสองส่วนสามที่ไม่ลงมือ หัวหน้าหุบเขาซือคงที่กำลังรับมืออยู่กับชิงอิ่งตอนนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้นแล้ว

“พวกเจ้าขยับเนื้อขยับตัวไม่ได้หรือไร เป็นท่อนไม้รึ จับตัวมู่เฉียนซีให้ข้าเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งรึ ?”

มีคนคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “หัวหน้าหุบเขาซือคง ตอนมาพวกเราได้ตกลงกันแล้วว่าพวกกเราแค่มาสนับสนุนเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะต่อสู้กับใครเลย ถึงอย่างไรสำนักศึกษาซวนเสียก็เป็นสำนักระดับสอง ไม่ใช่สำนักที่สามารถลงไม้ลงมือได้ตามใจชอบ”

ซือคงเลี่ยวเป็นคนเชิญคนเหล่านี้มาช่วยสนับสนุน เขาคิดว่าการที่เขาพาคนมาจำนวนมากเช่นนี้เพียงแค่ยืนเฉย ๆ สำนักศึกษาซวนเสียก็จะส่งตัวมู่เฉียนซีออกมา

กลับคิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักศึกษาซวนเสียจะไม่รู้จักชั่วดีเช่นนี้ ไม่ยอมส่งตัวนางให้

หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “ข้าจะให้ค่าตอบแทนพวกเจ้าเพิ่มเป็นสองเท่า คราวนี้พวกเจ้าพอใจหรือยัง ?”

“ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิของสำนักศึกษาซวนเสียก็มีอยู่ไม่น้อย ได้ยินมาว่าอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาซวนเสียก็เป็นยอดฝีมือด้วย เมื่อถึงตอนนั้นหากพวกเขาจะคิดบัญชีก็คงไม่ได้ไปคิดบัญชีกับหุบเขาหมอเทวดา พวกเราไม่เหมือนกัน!”

“สี่เท่า! ข้าให้เพิ่มสี่เท่าพวกเจ้าพอใจหรือยัง!”

มีเงินคิดจะทำสิ่งใดก็ย่อมได้ หัวหน้าหุบเขาซือคงยอมเสียเลือดเนื้อจนในที่สุดยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิเหล่านี้ก็ลงมือแล้ว

เดิมทีกำลังการต่อสู้ก็พอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายหุบเขาหมอเทวดาที่ได้เปรียบ

ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว “ซวนอี้ รีบพามู่เฉียนซีหนีไป เร็วเข้า!”

“ขอรับ!”

ซวนอี้กล่าว “เฉียนซี ไปเถอะ! พวกเขาไม่กล้าฆ่าสังหารในสำนักศึกษาซวนเสียหรอก ทั่วทั้งแดนใต้ก็มีกฎเกณฑ์เช่นกัน เจ้าต้องรักษาความปลอดภัยของตัวเองก่อน”

“เหอะ! เจ้าหนู การที่เจ้าจะเป็นสุภาพบุรุษช่วยเหลือสตรีผู้งามนี้ข้าชื่นชมเจ้ายิ่งนัก เพียงแต่ว่าสาวน้อยผู้นี้ หนีไม่รอดแน่นอน”

พลังวิญญาณของเจ้าหมอนี่ยังไม่ถึงขั้นมหาจักรพรรดิ เป็นเพียงแค่จักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับเก้าเท่านั้น แต่หากจะจับมู่เฉียนซีผู้เป็นจักรพรรดิแห่งภูตระดับสองก็คงจะไม่ยาก

“เจ้ารีบไป ข้าจะขวางมันไว้!” ซวนอี้กล่าว

“ไม่จำเป็น!” มู่เฉียนซีกล่าว

แสงสีแดงส่องสว่างวาบ เปลวไฟของเสี่ยวหงได้กลืนคนผู้นั้นแล้ว!

อ๊าก! คนผู้นั้นส่งเสียงกรีดร้องอันเสียดแทงหัวใจออกมา

“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม!”

“นึกไม่ถึงว่าสาวน้อยผู้นี้มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม!”

มู่เฉียนซีกล่าว “เมื่อถึงเวลาไป ข้าจะไปเอง แต่ตอนนี้ข้าเลือกที่จะสู้!”

ซวนอี้ก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง เขากล่าว “ในเมื่อเจ้าเลือกที่จะสู้ ข้าก็จะไม่ฝืนใจให้เจ้าหนี สู้ไปด้วยกัน สำนักศึกษาซวนเสียของพวกเราก็ไม่ใช่สำนักที่จะยอมให้ใครมารังแกตามใจชอบเช่นนี้”

“อิ๋นเย่า ออกมา!”

แสงสีเงินแสงหนึ่งสว่างวาบขึ้น ทันใดนั้นกลางอากาศก็ปรากฏสัตว์วิญญาณม้าสีเงินตัวหนึ่ง มันมีปีกแปดคู่!

เสี่ยวหงอุทานขึ้นว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ ม้าสวรรค์แปดปีกสายเลือดโบราณ นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เช่นนี้!”

ซวนอี้พุ่งออกไปและกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ตกลงกันก่อน หากมีอันตรายพวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ทันที ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิระดับสี่ ก็ไม่สามารถตามความเร็วของอิ๋นเย่าทัน!”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว!”

นางมีไพ่เด็ดเยอะมาก ซวนอี้ในฐานะที่เป็นศิษย์สายตรงของอาจารย์ใหญ่ซวน ไพ่เด็ดอย่างสัตว์พันธสัญญานี้ก็นับว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียว

ตูม เปรี๊ยง เปรี๊ยง!

ทุก ๆ ด้านต่างก็เกิดการต่อสู้อย่างดุเดือดขึ้น หัวหน้าหุบเขาซือคงไม่สามารถเอาชนะชิงอิ่งได้ ส่วนชิงอิ่งก็ไม่อาจจัดการเขาได้เช่นกัน ทำได้เพียงแค่ยื้อเอาไว้เท่านั้น ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน!

ผู้ที่รู้ว่ามู่เฉียนซีมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสามอยู่ หากไม่ใช่ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิก็ไม่กล้าที่จะเข้าใกล้นาง

มหาจักรพรรดิยอดยุทธ์ระดับหนึ่งคนหนึ่ง ในที่สุดก็ออกมาจากการวงล้อม และเข้าหามู่เฉียนซี

“หากจับเจ้าได้ หุบเขาหมอเทวดาก็คงจะมีรางวัลให้ แม่นางมู่ เจ้าไม่มีทางหนีรอดแล้วล่ะ!”

และในขณะที่เขากำลังจะลงมือ ทันใดนั้นเองร่างสีขาวก็ปรากฏขึ้น

ชายผู้หนึ่งสวมชุดสีขาว ผมดำขลับดั่งหมึกปลิวไสวราวกับเทพทำให้ผู้คนต่างต้องเงยหน้ามอง “กล้าลงมือกับบัตรอาหารระยะยาวของข้างั้นรึ รนหาที่ตาย!”

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset