“เข้าใจผิด มีสิ่งใดที่เข้าใจผิด! บอกมาสิ!”
แสงสีเขียวอ่อนส่องประกายขึ้น ชายหนุ่มที่ดูงดงามราวกับภูตได้ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
เส้นผมดุจดั่งแพรไหมพลิ้วไสวไปตามสายลม เมื่อเขาได้ปรากฏตัวขึ้น คล้ายกับว่าสีสันบนโลกใบนี้ถูกเขาบดบังไปก็มิปาน
ความงดงามนั้นทำให้ผู้คนต่างก็หยุดหายใจไปชั่วขณะด้วยความตกตะลึง ดวงตาสีเขียวอ่อนคู่นั้นบริสุทธิ์ไม่ได้ถูกย้อมไปด้วยความวิตกกังวลใดใด บริสุทธิ์อย่างไร้ที่เปรียบจนทำให้ผู้คนอดที่จะดูหมิ่นไม่ได้
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่หน้าตางดงามไม่เหมือนมนุษย์เช่นนี้แล้ว ทันใดนั้นเองก็มีคนอุทานออกมา
“ชายหนุ่มผู้นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหมอปีศาจของหอหมอปีศาจ!”
“ข้าเคยเห็น ต้องเป็นหมอปีศาจมู่ซีเป็นแน่!”
“บนโลกใบนี้ นอกเสียจากหมอปีศาจมู่ซีแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดที่ทำเช่นนี้ได้!”
ชื่อเสียงของหมอปีศาจมู่ซีที่เสียโจวในตอนนี้นั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมืองไปแล้ว
ทว่า หอหมอปีศาจยังไม่ได้ปรากฏขึ้นในอาณาเขตหยู่โจวของพวกเขา ปรากฏแค่ในเสียโจวดินแดนเล็ก ๆ เช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจสิ่งใดอยู่แล้ว
หัวหน้าหุบเขาซือคงเหลือบไปมองชายหนุ่มผู้งดงามไม่เหมือนมนุษย์ผู้นี้ และกล่าวว่า “เจ้าเป็นใครอีกล่ะ ข้ากำลังพูดอยู่กับท่านผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าไม่ควรมาสอดปากสอดคำ!”
“ข้าไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาอยู่แล้ว” อาถิงกล่าวพลางเหลือบไปมองจิ่วเยี่ย
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากที่ชายผู้ที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้นได้ใช้กระบวนท่าอันแปลกประหลาด นึกไม่ถึงว่าจะมีคนกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมา
หากท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นโกรธเกรี้ยวขึ้นมา ร่างของชายหนุ่มผู้งดงามผู้นี้จะต้องกลายเป็นโครงกระดูกขาวเป็นแน่ ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ดูเหมือนว่าหัวหน้าหุบเขาซือคงจะหาโอกาสทำคุณความดีระหว่างต้องโทษได้แล้ว
เขามองจิ่วเยี่ยและกล่าวอย่างเอาอกเอาใจว่า “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าเด็กผู้นี้กล้าไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา ข้าจะจัดการมันซะตอนนี้”
รูปร่างหน้าตาของอาถิงงดงามไม่เหมือนมนุษย์ แต่ภายนอกก็ดูออกว่าอายุเพียงแค่สิบหกปีเท่านั้น คงจะไม่แข็งแกร่งสักเท่าไหร่ หัวหน้าหุบเขาซือคงคิดว่าการที่จะรับมือกับเขานั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
หัวหน้าหุบเขาซือคงพุ่งไปทางอาถิง พลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับสี่แผ่ซ่านออกไป
ตูม!
ทว่า แม้แต่ชายเสื้อของอาถิงเขาก็ไม่สามารถที่จะแตะได้ คนตรงหน้าได้อันตรธานหายไปแล้ว
“หายไปไหนแล้วล่ะ!”
อาถิงปรากฏตัวอีกด้านหนึ่งอย่างไร้สุ้มเสียง ดวงตาอันสดใสนั้นพลันเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกขึ้นมาทันใด
“ไม่รู้จักความเป็นความตายจริง ๆ!”
ทันทีที่เขายกมือขึ้น แสงสีเขียวอ่อนก็ได้ปกคลุมอากาศ และเวลาโดยรอบก็คล้ายกับว่าจะวุ่นวายขึ้น
“เวลา!”
“ย้อนกลับ!”
เมื่อคำสี่คำกล่าวจบ หัวหน้าหุบเขาซือคงก็ได้ยินเสียงเด็กทารกร้องอยู่ด้านหลังเขา
แง๊ อุแว้ อุแว้!
หัวหน้าหุบเขาซือคงตกใจขึ้น เมื่อครู่ยังเป็นสนามรบที่ดุเดือดอยู่เลย เหตุใดถึงได้มีเสียงเด็กร้องเช่นนี้ได้
ทันทีที่เขาหันหลังไปมองก็พบว่านอกจากเขาแล้ว ยอดฝีมือของหุบเขาหมอเทวดาด้านหลังทั้งหมดล้วนแต่กลายเป็นเด็กทารกไปแล้ว
พวกเขากลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
คนของสำนักศึกษาต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน พวกเขาอุทานขึ้นว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น เหตุใดภายในชั่วพริบตาคนของหุบเขาหมอเทวดาถึงได้กลายเป็นเด็กทารกเช่นนี้”
“หรือว่าจะมีใครเอาเด็กมาสลับสับเปลี่ยนให้พวกเขา!”
“พระเจ้า! หมอปีศาจมู่ซีไม่เพียงแต่เป็นยอดปรมาจารย์นักปรุงยา แต่ยังเป็นยอดฝีมือที่วิปริตอีกด้วย!”
“กฎแห่งการควบคุมเวลา อย่างว่าแต่ขั้นมหาจักรพรรดิเลย ต่อให้เป็นพลังขั้นปราชญ์ก็ไม่สามารถทำได้ ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว”
นี่เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมาในชีวิตแน่นอน
สายตาของพวกเขามองไปที่ชายชุดดำผู้ที่น่าเกรงกลัวผู้นั้น และมองไปที่ชายหนุ่มผู้ที่หน้าตาราวกับภูตไปมา สองคนนี้เป็นคนที่พวกเขาไม่อาจจะยั่วยุได้
อาถิงมองไปที่จิ่วเยี่ยอย่างยั่วยุ เหอะ! เจ้าหมอนี่เล่นใหญ่ซะทุกครั้งเลย ครั้งนี้เขาจะไม่มีทางยอมแพ้เขาแน่ อาถิงเอ่ยปากกล่าวว่า “คนบางคนก็ไม่ยอมอยู่ในที่ของตัวเอง มาทำอะไรที่นี่ล่ะ เรื่องวุ่นวายเหล่านี้ข้าจัดการได้ เจ้ารีบไสหัวไปให้พ้นเถอะ อย่าได้หาเรื่อง หาข้ออ้างรังแกผู้หญิงโง่ผู้นี้เลย”
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกนั้นเคร่งขรึมลงทันใด โอบกอดมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น ดวงตาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผู้นั้นที่ตั้งใจจะยั่วโมโหเขา
“ผู้หญิงของข้า ข้าปกป้องเองได้ ผู้ใดที่ทำร้ายนาง จะต้องชดใช้อย่างน่าสังเวช!”
จิ่วเยี่ยโบกมือขึ้น พลังสีดำก็ได้พุ่งเข้าไปทางหัวหน้าหุบเขาซือคง!
พรวด พรวด พรวด! จากนั้นบนร่างกายของหัวหน้าหุบเขาซือคงก็ปรากฏรูโลหิตหลายสิบรู
อ๊าก! หัวหน้าหุบเขาซือคงส่งเสียงกรีดร้องขึ้น
จิ่วเยี่ยไม่ได้ฆ่าหัวหน้าหุบเขาซือคงเพราะว่ามู่เฉียนซีนั้นได้ห้ามไว้ มิเช่นนั้นแล้ววันนี้หุบเขาหมอเทวดาก็คงจะไม่มีผู้ใดรอดไปแม้แต่คนเดียว
หากหัวหน้าหุบเขาหมอเทวดาถูกฆ่าตาย เกรงว่าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาคงจะเป็นบ้าแน่นอน
จิ่วเยี่ยนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ไม่สามารถอยู่ปกป้องสำนักศึกษาซวนเสียได้ตลอดเวลา
หากเขาไม่อยู่ หุบเขาหมอเทวดาบ้าคลั่งคิดจะแก้แค้นขึ้นมาก็คงจะไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
หุบเขาหมอเทวดานั้นต้องทำลายอยู่แล้ว แต่นางจะไม่ทำให้สำนักศึกษาซวนเสียถูกฝังไปพร้อมกับหุบเขาหมอเทวดาแน่นอน
ดังนั้นรอหลังจากนี้ก่อนแล้วค่อยจัดการทีหลัง ปล่อยให้พวกมันได้มีชีวิตอยู่ต่อไปก่อนอีกช่วงหนึ่ง
ร่างของหัวหน้าหุบเขาซือคงชักกระตุกไปทั้งตัว แต่เขาไม่อาจเป็นลมตายไปอย่างน่าประหลาดใจ เสียงร้องโหยหวนนั้นทำให้ผู้คนต่างก็ตกใจกลัวเป็นอย่างยิ่ง
วิธีการของปีศาจทำให้พวกเขาตกใจจนอกสั่นขวัญหาย
และเมื่อครู่นี้พวกเขาได้ยินสิ่งใดกันนะ ?
มู่เฉียนซีเป็นผู้หญิงของเขาอย่างนั้นเหรอ มู่เฉียนซีมีผู้ยิ่งใหญ่หนุนหลังอยู่เช่นนี้ หากหุบเขาหมอเทวดายังกล้ามาหาเรื่อง นั่นเป็นการรนหาที่ตายชัด ๆ!
อาถิงแสยะปากก่อนจะกล่าวว่า “ผู้หญิงของเจ้าอย่างนั้นเหรอ หวงจิ่วเยี่ย เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลจะได้หรือไม่ ข้าต่างหากที่เป็นคนที่สนิทที่สุดของนาง จะพูดก็คือนางเป็นผู้หญิงของข้าถึงจะถูก”
ดูเหมือนว่าอาถิงจะเห็นหน้าจิ่วเยี่ยแล้วไม่สบอารมณ์ ดังนั้นจึงไม่อยากให้เขาสบอารมณ์เช่นกัน
เมื่อก่อนพลังฟื้นฟูกลับมายังอ่อนแอนัก เขาจึงได้พ่ายแพ้ให้กับเจ้าหมอนี่เสมอ
ทว่า บัดนี้ผู้หญิงโง่ผู้นี้ได้ทะลวงพลังขั้นจักรพรรดิแล้ว จึงทำให้พลังของเขาฟื้นฟูกลับมาไม่น้อย และในที่สุดก็กล้าที่จะท้าทายเจ้าหมอนี่ได้สักที
อาถิงใช้น้ำเสียงที่ดุร้ายเหมือนจิ่วเยี่ย กล่าวกับหัวหน้าหุบเขาซือคงว่า “พวกเจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก แม้กระทั่งผู้หญิงของข้าก็กล้ารังแก อยากตายนักใช่หรือไม่”
ผู้หญิงของหมอปีศาจ!
มู่เฉียนซี!
มิน่าล่ะว่าเหตุใดหมอปีศาจมู่ซีผู้ลึกลับ ผู้ที่ไม่ค่อยจะปรากฏตัวออกมาง่าย ๆ ผู้นี้ถึงได้ปรากฏตัวออกมาจัดการกับคนของหุบเขาหมอเทวดาที่นี่ เป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ของเขากับนางนั้นไม่ธรรมดาเช่นนี้นี่เอง!
ครั้งนี้หุบเขาหมอเทวดาได้แตะกับเหล็กกล้าเข้าแล้ว
สีหน้าของหัวหน้าหุบเขาซือคงเคร่งเครียดลง เบื้องหลังของมู่เฉียนซีผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้ที่ปกป้องแข็งแกร่งเช่นนี้ถึงสองคน
มิน่าล่ะว่าเหตุใดนางถึงกล้าออกจากหุบเขาโอสถหลังจากที่ล่วงเกินหุบเขาหมอเทวดาของพวกเขาแล้ว ครานี้ท่านผู้เฒ่าผิดพลาดใหญ่หลวงแล้ว
หลังจากที่สยบคนเหล่านี้ได้แล้ว อาถิงก็ได้มายืนตรงหน้ามู่เฉียนซี เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ผู้หญิงโง่ ข้าแก้แค้นให้เจ้าแล้ว เจ้าซาบซึ้งหรือไม่!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าว่าเจ้าไม่ได้แก้แค้นเพื่อข้า แต่เพื่อแสดงอำนาจบาตรใหญ่มากกว่า แต่วิธีการของเจ้าก็ยอดเยี่ยมมาก ข้าขอชื่นชมเจ้า!”
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ บรรยากาศบริเวณโดยรอบเย็นยะเยือกขึ้น
มันเป็นความเย็นยะเยือกที่ทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกซู่ขึ้น!
ตอนนี้จิ่วเยี่ยเหลือบมองไปที่อาถิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
จิ่วเยี่ยค่อย ๆ ปล่อยมู่เฉียนซี และเดินไปตรงหน้าอาถิง เสียงของเขาตอนนี้เย็นยะเยือกขั้นสุด “คำพูดบางคำ เจ้าอย่าได้พูดพล่อย ๆ ไปเลย มิเช่นนั้นแล้วข้าจะทำให้เจ้าพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต!”