ตอนนี้มู่เฉียนซีเป็นผู้ออกคำสั่งของที่นี่ แม้ว่าข้างกายจะมียอดฝีมือคอยปกป้องแต่ก็ไม่สามารถต้านทานเจ้าสํานักปีศาจดำไว้ได้
เมื่อยิ่งใกล้เข้ามา เจ้าสำนักปีศาจดำก็รู้สึกได้ว่าสองคนนั้นต้องไม่ได้อยู่ที่นี่อย่างแน่นอน!
ชายชุดเขียวผู้นั้นถูกองครักษ์ของเขากันเอาไว้ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะสังหารสาวน้อยผู้นี้
กระบี่ยาวเล่มหนึ่งแทงเข้าไปที่หัวใจของมู่เฉียนซี ระดับของพวกเขาทั้งสองนั้นห่างชั้นกันมาก มู่เฉียนซีไม่อาจหลบได้อย่างแน่นอน
“เฉียน!” ชิงอิ่งบีบกะโหลกของคู่ต่อสู้ตรงหน้าจนแหลกละเอียด แล้วรีบพุ่งเข้ามาหา
แต่มันยังทันอยู่ไหม?
“สาวน้อย!”
“เฉียนซี!”
ในเวลานี้ อาถิงหลุดออกจากโซ่และไม่สนใจมู่เฉียนซีเลย
ปราณกระบี่ของกระบี่ยาวเล่มนั้นพุ่งเข้าใส่อย่างรุนแรง ความตายได้ใกล้เข้ามาแล้ว
แต่เมื่อกระบี่จ่อที่เสื้อผ้าของมู่เฉียนซี กระบี่เล่มนี้ของเจ้าสำนักปีศาจดำกลับแทงเข้าไปไม่ได้
เจ้าสํานักปีศาจตะลึงงัน “บ้าเอ๊ย! สาวน้อยผู้นี้ใส่เกราะอะไรกัน?”
เมื่อรู้ว่ามู่เฉียนซีมีเกราะป้องกัน เจ้าสำนักปีศาจดำก็ยกมือขึ้นและฟาดฝ่ามือเข้าใส่ศีรษะของมู่เฉียนซี
แสงสีฟ้าอ่อนได้ระเบิดออกมาปกคลุมมู่เฉียนซีไว้
การโจมตีของเจ้าสำนักปีศาจดำต่อมู่เฉียนซี ได้สะท้อนกลับสู่ร่างของตนเองเป็นสองเท่าในชั่วพริบตา!
ปัง!
พื้นดินที่เขาอยู่ได้พินาศลงทันใด
เงาร่างสีเขียวรับมู่เฉียนซีไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงอิ่งรู้สึกถึงสิ่งที่เรียกว่าพัฒนาการ
มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะมีหัวใจเพิ่มเข้ามา ชีวิตของเขาก็ราวกับว่ามีสีสันขึ้นมามากมาย
“เฉียน ไม่เป็นไรใช่ไหม!”
มู่เฉียนซีส่ายหน้า “ไม่เป็นไร!”
“อาถิง สุ่ยจิงอิ๋งเป็นคนลงมือ!” มู่เฉียนซีมั่นใจมาก
การโจมตีเมื่อครู่นั้นรุนแรงอย่างมาก ตอนนี้เจ้าสํานักปีศาจดำถูกการสะท้อนกลับจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย
อาถิงกล่าวว่า “อืม! แน่นอนว่าเป็นพี่สาวลงมือเอง มีพี่สาวลงมือข้าก็ไม่ต้องเปลืองแรงแล้ว แตะต้องผู้ที่ผู้พิทักษ์นิรันดร์ปกป้อง ช่างรนหาที่ตายจริง ๆ! ”
“สุ่ยจิงอิ๋ง แข็งแกร่งมาก!”
หญิงสาวที่อ่อนโยนผู้นั้น เคยเห็นก็แต่นางใช้พลังมิติเพื่อส่งมนุษย์เท่านั้น ไม่เคยเห็นพลังโจมตีของนางมาก่อนเลย
“แน่นอน! พี่สาวเป็นผู้พิทักษ์นิรันดร์อันดับหนึ่งของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ จะไม่แข็งแกร่งได้อย่างไรเล่า” อาถิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
ด้วยนิสัยที่โอ้อวดของเขา เขาไม่ค่อยยอมใครแม้แต่จิ่วเยี่ยที่แข็งแกร่งก็ตาม!
แต่สำหรับสุ่ยจิงอิ๋งเขากลับชื่นชมจากใจจริง เห็นได้ชัดว่าพลังของสุ่ยจิงอิ๋งนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก อาถิงกล่าว “เมื่อครู่ข้าก็ได้สอนบทเรียนให้เจ้าไปบ้างแล้ว ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นยังอ่อนแอเกินไป ดังนั้นจงรีบเร่งเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของเจ้าซะ ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพี่สาว สามารถปกป้องเจ้าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากเจ้าพบคู่ต่อสู้สองคนติดต่อกัน ความแข็งแกร่งของข้าในตอนนี้ก็คงไม่สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ได้ เจ้าคงต้องจบสิ้นแล้วกระมัง!”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว! หลังจากจัดการสำนักปีศาจดำเสร็จสิ้น ข้าจะไปที่หอรวมวิญญาณเพื่อฝึกฝน”
“ฮึ่ม! ทำถูกต้องแล้ว” อาถิงพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา
เจ้าสํานักปีศาจดำตายแล้ว ต่อไปเหล่าทหารไม่มีความสามารถพวกนั้น ก็จัดการได้ง่ายแล้ว
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือหลังจากที่ชิงอิ่งได้ขอยาจากมู่เฉียนซีไปก็เริ่มเปิดฉากการฆ่าฟันขึ้น
โดยไม่มีคําสั่งของมู่เฉียนซี เพียงแต่เขาต้องการที่จะแก้แค้นให้เฉียน
“อ๊า!” คนของสำนักปีศาจดำพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
เมื่อเพิ่มราชาพิษเข้าไปในการต่อสู้ด้วยแล้ว พวกเขาก็รู้สึกถึงความมืดฟ้ามัวดิน
ราชาพิษยิ้มพลางกล่าว “คุณหนูมู่ วันนี้ข้าทําคุณงามความดีแล้ว เจ้าช่วยบอกกับหัวหน้าหอของเราได้ไหม ให้หัวหน้าหอเพิ่มรางวัลให้ข้าสักหน่อยสิ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เรื่องนี้สามารถพิจารณาได้ เจ้าตั้งใจทํางานให้ดี! จวินโม่ซีไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว หอหมอปีศาจในทวีปอวิ๋นโจวก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้านักพิษอย่างเจ้าแล้ว ”
ราชาพิษยิ้มและกล่าวว่า “นั่นมันแน่นอน!”
ตอนนี้สำนักปีศาจดำถูกทําลายไปแล้ว หากเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างสบาย เช่นนั้นเขาก็ต้องอยู่ที่หอหมอปีศาจและทำดีกับหัวหน้าหอไว้
นอกจากนี้หัวหน้าหอยังแข็งแกร่งมากเช่นนั้น เขาจะกล้าทรยศได้อย่างไร
สำนักปีศาจดำล่มสลายไปจนหมดสิ้น ต่อให้มีไม่กี่คนที่หนีออกไปได้ ก็มิอาจสร้างความวุ่นวายอะไรได้
มู่เฉียนซีมุดเข้าไปในหอรวมวิญญาณและจะต้องฝึกฝนพลังที่ถดถอยของนางให้กลับคืนมาให้ได้
แม้ว่าซวนอี้จะสามารถเอาชนะมู่เฉียนซีได้ในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ฉวยโอกาสที่พลังของมู่เฉียนซีถดถอยไปท้าประลองและคว้าตําแหน่งหนึ่งเดียวในชั้นที่เก้าของเขากลับคืนมา
ซวนอี้ไม่กล้าทําเช่นนี้ คนอื่นก็ย่อมไม่กล้าเช่นกัน
ตอนนี้อาจารย์ใหญ่ก็สงบลง และไม่ได้ออกจากสํานักศึกษาไปที่ไหนแล้ว
และในเวลานี้ทุกคนในหน่วยสํานักปรุงยาก็กําลังใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากลำบากอยู่ในหอโอสถ
“อาจารย์มู่ ช่วยด้วย! หอโอสถนี่ไม่ใช่มนุษย์!”
“อาจารย์มู่ ข้าจะตายแล้ว!”
“โอ๊ยยยย! มันบ้าไปแล้ว”
เดิมทีพวกเขาคิดว่าวิธีการสอนของมู่เฉียนซีนั้นวิปริตอย่างมาก แต่พอได้รู้จักหอโอสถแล้ว ถึงได้รู้ว่าพวกเขานั้นมีความรู้แค่หางอึ่ง
“ฮือฮือฮือ! ข้าอยากกลับบ้าน!”
มู่เฉียนซีที่ฝึกฝนอยู่ในหอรวมวิญญาณย่อมไม่ได้ยินเสียงครวญครางของพวกเขา
หอหมอปีศาจของทวีปอวิ๋นโจวมีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่เข้าดินแดนมา นักปรุงยาเองก็มิได้ขาดแคลน ล้วนยืมมาจากหุบเขาโอสถ
มีสูตรยาปรากฏขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย แม้แต่พรสวรรค์ลับของหุบเขาโอสถเองก็ไม่อาจเทียบได้ ทําให้นักปรุงยาของหุบเขาโอสถล้วนอยากที่จะออกจากหุบเขาโอสถและมาอยู่กับมู่เฉียนซี
ทวีปอวิ๋นโจวเสร็จสิ้นแล้ว แต่เจ็ดทวีปในแดนใต้ยังมีอวี่โจว อวี้โจว เหลยโจว และเหยียนโจวที่ยังจัดการไม่เสร็จ!
อวี่โจวเป็นอาณาเขตของหุบเขาหมอเทวดา หากก่อนหน้านี้เปิดหอหมอปีศาจที่นั่น พวกเขาย่อมถูกลอบกัดและขัดขวางเป็นแน่
แต่ตอนนี้อาถิงได้แสดงฝีมือออกมาแล้ว มองดูผู้อาวุโสเหล่านั้นของหุบเขาหมอเทวดากลายเป็นเด็กทารก เกรงว่าคงไม่กล้าล่วงเกินหอหมอปีศาจอย่างโจ่งแจ้ง
เมื่อความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีฟื้นฟูถึงจุดสูงสุดของจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่ง ก็ได้ออกคําสั่งกับโม่จิ่นว่า
“โม่จิ่น ต่อไป เจ้าจงไปที่ทวีปเหยียนโจว!”
โม่จิ่นตะลึงงัน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ฮือฮือฮือ! นายท่าน ข้าทําอะไรผิดกัน เจ้าถึงต้องส่งข้าไปยังที่ห่างไกลเช่นนั้น”
“ทวีปเหยียนโจว เป็นศูนย์กลางของดินแดนทางตอนใต้ทั้งหมด และมีเพียงเหยียนโจวเท่านั้นที่มีมิติส่งตัวระยะไกลไปยังอีกสามดินแดน ตอนนี้ทวีปเสียโจวก็มั่นคงแล้ว และยังมีสํานักศึกษาซวนเสียอยู่ด้วย หอหมอปีศาจก็จะสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงต้องส่งเจ้าไปแสดงฝีมือที่ทวีปเหยียนโจว”
“ที่แท้ก็ไม่ใช่การถูกเนรเทศ แต่ให้ไปทําภารกิจใหญ่!” โม่จิ่นยิ้ม
“ข้าจะให้ราชาพิษไปกับเจ้า และดูแลความปลอดภัยด้วย”
“รับคำสั่ง!”
อิทธิพลของหอหมอปีศาจได้แผ่ขยายออกไปทางแดนใต้
อํานาจของมันเริ่มสัมผัสถึงผลประโยชน์จากหุบเขาหมอเทวดาแล้ว หัวหน้าหุบเขาหมอเทวดาที่ได้รับบาดเจ็บหนักกล่าวด้วยความโกรธเคือง
“น่ารังเกียจ! มันน่าขยะแขยงนัก! หมอปีศาจจะอวดดีเกินไปเสียแล้ว นังมู่เฉียนซีก็ด้วย! มู่เฉียนซี!” เขากัดฟันแน่นจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
ตั้งแต่ที่ยาน้ำและยาเม็ดของหอหมอปีศาจถูกเปิดตัวออกมา ของดีราคาย่อมเยา ย่อมเหนือกว่ายาของหุบเขาหมอเทวดาที่จงใจขายแพงเกินราคาและยังเป็นยาที่ไม่ได้มาตรฐานอีกด้วย “ท่านหัวหน้าหุบเขา ข้าว่า! มู่เฉียนซีคงอวดดีได้อีกไม่นานแล้ว เพราะอีกไม่นานพวกเราก็จะมีวิธีจัดการกับสาวน้อยผู้นั้นแล้ว” ท่านผู้เฒ่าไป๋แห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมนตรงข้างหูของซือคงเลี่ยว