“ไม่ใช่…” เศษซากวิญญาณนั้นตกตะลึง
“เป็นไปไม่ได้ พลังความแข็งแกร่งนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ข้าก็ไม่อาจลืมได้”
“เอ๊ะ!”
หลังจากที่เขาใจเย็นลง ก็พบว่ากระบี่ที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ปกติ
ตัวกระบี่นั้นตีออกมาอย่างชุ่ย ๆ ส่วนมากจะเป็นยอดปรมาจารย์นักหลอมอาวุธที่ตีออกมา
ทว่า คมกระบี่นั้น…
รูม่านตาของเขาหดลง ต้องใช่แน่ ๆ…
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ มันไม่สมบูรณ์อีกต่อไป นั่นยังเป็นกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่เมื่อก่อนทำให้ทุกภพหวาดกลัวหรือไม่
เจ้าหมอนั่นที่เดิมทีตกใจกลัวจนตั่วสั่น ตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นกล้าหาญขึ้น ทำให้อาถิงต้องกล่าวขึ้นว่า “อย่าว่าแต่กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณตอนนี้เหลือแค่คมกระบี่เลยนะ ต่อให้มันเหลือแค่เศษเหล็กชิ้นเล็ก ๆ แต่มันก็คือมหาวัตถุศักดิ์เทพนิรันดร์ รับมือกับคนเช่นเจ้า การที่มันจะกลืนกินวิญญาณของเจ้านั้น เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”
จากนั้น กระบี่มังกรเพลิงก็พุ่งออกไป แสดงแสนยานุภาพออกมา
ถึงแม้ว่าจะเป็นเศษซากวิญญาณ แต่สำหรับกระบี่มังกรเพลิงแล้วก็ยังเป็นของชูกำลังชั้นดี ถึงอย่างไรเมื่อก่อนเขาก็เคยเป็นผู้แข็งแกร่งที่ไม่เลวผู้หนึ่งมาก่อน
คล้ายกับว่าจะรับรู้ได้ถึงความอยากของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณนี้เสียแล้ว เศษซากวิญญาณนี้ก็ตกใจกลัวจนตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง
“ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“ข้า…”
“……”
มีกระบี่มังกรเพลิงกับอาถิงอยู่ เจ้าหมอนี่ไม่กล้าลงมืออีกครั้งแน่
อาถิงกล่าว “เจ้าก็นับว่าเป็นเศษซากวิญญาณที่เหลืออยู่ในสนามรบใหญ่ครั้งนั้น เจ้าก็คงจะเคยเห็นความแข็งแกร่งของเจ้าพิฆาตวิญญาณมาแล้ว แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าสุดท้ายกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณกลายเป็นเช่นไร ?”
เศษซากวิญญาณกล่าว “ขะ ข้าไม่รู้หรอกว่ากระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณจะกลายเป็นเช่นไร ในสนามรบครั้งนั้น อันที่จริงแล้วข้าก็แค่มีบทบาทเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณถูกทำลายลงในศึกใหญ่ครานั้น แล้วเจ้าคิดว่าตัวกระบี่จะตกไปอยู่ที่ไหน”
“หากกระบี่เล่มหนึ่งถูกทำลาย ปลายกระบี่อันแหลมคมสามารถลอยไปตามอากาศไปอยู่ในที่แห่งใดก็ย่อมได้ แต่ตัวกระบี่ไม่เหมือนกัน มันเป็นเพียงไม้ค้ำเท่านั้น หากมันหัก ก็จะต้องอยู่ที่เดิม วิญญาณกระบี่กับจิตวิญญาณกระบี่กลับยิ่งไม่รู้ว่าอยู่แห่งใด วิญญาณของมันแข็งแกร่งมาก พลังก็แข็งแกร่งมากด้วย”
ถึงแม้ว่าเจ้าหมอนี่จะเลวทรามต่ำช้าไปหน่อย แต่สำหรับกระบี่ก็ยังมีเหตุผลอยู่บ้าง
“ศึกในครานั้น ข้าอยู่ในบริเวณรอบนอก หากกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณถูกทำลายลงจริง ๆ ตัวกระบี่จะต้องตกอยู่ในที่ที่ไม่ไกลจากสนามรบในที่ที่ข้าอยู่ และอาจจะถูกคนที่มีชีวิตรอดจากศึกครั้งนั้นเอาไปแล้วก็ได้” เศษซากวิญญาณกล่าว
“บริเวณรอบที่เจ้าอยู่อย่างนั้นเหรอ ?” แต่ทั่วทั้งสนามรบที่สี่ มังกรเพลิงไม่ได้มีปฏิกิริยาแต่อย่างใดเลย
อาถิงกล่าว “ตอนนั้นพื้นที่เป็นพื้นที่ที่สมบูรณ์ แตกต่างไปจากพื้นที่ที่เสียหายตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง”
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “นั่นก็หมายความว่า สนามรบโบราณทั้งเจ็ดแห่งของเหลยโจวก็ล้วนแต่เป็นไปได้หน่ะสิ”
“ถูกต้อง!”
ในที่สุดก็มีเบาะแสแล้ว มู่เฉียนซีก็ดีใจมาก
ถึงแม้ว่าจะโดนตาเฒ่าคนหนึ่งวางแผนทำร้าย แต่ตาเฒ่าผู้นี้ก็ได้ให้ข้อมูลนางได้ไม่เลวเลย
“จะจัดการกับตาเฒ่าผู้นี้ยังไง ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ข้าใช้ชีวิตให้รอดไปวัน ๆ มานานหลายปีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย” เศษซากวิญญาณกล่าวอย่างสะอึกสะอื้น
“คิดจะให้ข้ากลายเป็นทาสรับใช้กระบี่ของเจ้า ตอนนี้มาขอให้ข้าไว้ชีวิต หากตอนนี้กระบี่มังกรเพลิงสามารถกลืนกินวิญญาณได้ตามใจแล้วล่ะก็ ข้าจะให้มันกลืนกินวิญญาณเจ้าไปตั้งนานแล้ว”
หลังจากที่ได้กลืนกินวิญญาณไปครั้งก่อน พลังก็ได้อิ่มตัวแล้ว หากให้พลังมันเพิ่มมากกว่านี้ ต่อให้เป็นอาจารย์ใหญ่ซวนก็เกรงว่าจะตีตัวกระบี่ที่เหมาะกับมันไม่ได้
“ไม่นะ ขอเพียงแค่ไม่ให้ดวงวิญญาณของข้าดับสลาย เจ้าจะให้ข้าทำสิ่งใดข้ายอมทำทั้งนั้น” เขากรีดร้องขึ้น
อาถิงกล่าว “กระบี่มารเล่มนี้ เปรียบเทียบกับกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณแล้วยังห่างชั้นกันถึงหนึ่งแสนแปดพันลี้ แต่ก็นับว่าไม่เลว อีกทั้งยังมียอดฝีมือในโบราณเป็นวิญญาณกระบี่ อันที่จริงก็นับว่าเอาขยะกลับมาใช้ใหม่ได้นะ”
ส่งมันไป!
กระบี่ที่ซวนอี้ฝึกฝนนั้นเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง เห็นได้ชัดว่ากระบี่เล่มนี้กับเขานั้นไม่เหมือนกัน ส่วน…
มู่เฉียนซีมองไปที่จินซ่านซ่านที่กำลังงุนงงอยู่ด้านข้าง เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตานั้นของมู่เฉียนซี จินซ่านซ่านก็ได้สติขึ้น “พวกเจ้ากำลังพูดอะไรกันอยู่ เหตุใดข้าถึงฟังพวกเจ้าไม่รู้เรื่องเลย!”
“กระบี่เล่มนี้ของเจ้าช่างเก่งกาจยิ่งนัก นึกไม่ถึงว่าจะทำให้กระบี่ที่น่ากลัวเล่มนั้นตกใจกลัวได้ด้วย”
“แล้วชายผู้นี้เป็นใครกัน หรือว่าจะเป็นผู้ชายที่เจ้าแอบเลี้ยงดู ช่างสมกับที่เป็นผู้ที่ข้าศรัทธาเลื่อมใสจริง ๆ ที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่…”
“นี่ สหาย เจ้าอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ ใช้หน้าตาหากิน ช่างมีอนาคตจริง ๆ!”
“……”
จินซ่านซ่านพูดพล่ามไม่ยอมหยุด อาถิงอยากทำให้เขากลายเป็นเด็กที่พูดไม่ได้จริง ๆ
ใช้หน้าตาหากินอย่างนั้นเหรอ เขาเป็นถึงศาลานิรันดร์ ใช้พลังความแข็งแกร่งหากินไม่ได้ใช้หน้าตาสักหน่อย
ไม่ได้ถูกอาคมของกระบี่มารเล่มนั้นครอบงำ จินซ่านซ่านนั้นไร้เดียงสามาก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนขี้ขลาดขี้กลัว แต่เขาก็นับว่าเป็นคนซื่อสัตย์และจงรักภักดีเป็นอย่างมาก มู่เฉียนซีกล่าวกับเขาว่า “เจ้า มานี่ซิ”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “จินซ่านซ่าน เจ้าอยากเป็นยอดฝีมือหรือไม่!”
จินซ่านซ่านพยักหน้ารัว ๆ และกล่าวว่า “อยาก ข้าอยาก ข้าอยากกลายเป็นยอดฝีมือ หากเป็นเช่นนั้นท่านพ่อของข้าคงจะดีใจมากแน่ ๆ”
“กระบี่เล่มนี้ไม่เลวเลย อีกอย่างวิญญาณกระบี่ยังสามารถเป็นอาจารย์เจ้าได้ด้วย คิดอยากจะเป็นยอดฝีมือคงไม่มีปัญหา เจ้ายินดีจะทำพันธสัญญากับเขาหรือไม่ ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ไม่อยาก เมื่อครู่เจ้าหมอนี่รังแกพวกเรานะ ข้าไม่ทำพันธสัญญากับเขาเด็ดขาด!”
ตอนนี้เศษซากวิญญาณแทบจะสิ้นหวังแล้ว ถูกสาวน้อยผู้มีพรสวรรค์รังเกียจแล้วก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังถูกเจ้าอ้วนผู้ไม่มีอะไรเลยรังเกียจเขาอีก อีกอย่างเจ้านี่ก็โง่ถึงเพียงนี้ ไม่เหมาะสมกับทักษะมารของเขาเลยสักนิด!
“นายท่าน นายท่านไม่นะ ข้าไม่อยากได้เขามาเป็นนายข้า ท่านเลือกคนในกลุ่มนั้นออกมาสักคนก็ได้นะ!” เศษซากวิญญาณกล่าวพลางมองไปที่กลุ่มคนเหล่านั้นที่ถูกมู่เฉียนซีทำให้สลบไป
มู่เฉียนซีกล่าว “ด้วยกลอุบายเล็กน้อยเมื่อครู่เหล่านั้น เจ้าไม่เห็นเหรอว่าเขาตกใจกลัวจนยอมจำนนแล้ว ตอนนี้ข้าไม่อยากจะอะไรกับเขามากนัก หากเจ้าอยากได้ก็ทำพันธสัญญา แต่หากเจ้าไม่อยากได้ ก็ทำให้ดวงวิญญาณของเจ้าหมอนี่ดับสลายไปซะ”
จินซ่านซ่านกล่าว “อาวุโสท่านนี้ใช้ชีวิตมานานหลายปีเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากดวงวิญญาณดับสลายก็น่าสงสารเกินไป ตระกูลจินของข้ามีเงินทองมากมาย กระบี่แค่เล่มเดียวเลี้ยงดูได้สบายอยู่แล้ว ข้ารับไว้ก็ได้!”
“ไม่นะ ข้าไม่เอา เขาไม่เหมาะสมกับทักษะวิชาของข้า ไม่เหมาะจะเป็นผู้สืบทอดของข้า และยิ่งไม่เหมาะกับกระบี่มาร พรสวรรค์เช่นเจ้าถึงจะได้…”
ใครบอกว่าคนโง่ใช้กระบี่มารไม่ได้หล่ะ มีอาจารย์เช่นนี้อยู่ ต่อไปหากจินซ่านซ่านโง่กว่านี้ก็คงจะไม่ถูกรังแกแล้ว
ถึงอย่างไรเขาก็ช่วยนางไปสองเรื่องแล้ว!
มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าว “กระบี่มังกรเพลิง เจ้าหมอนี่ไม่ยอม สั่งสอนเขาสักหน่อยซิ ดูซิว่าคราวนี้จะยอมหรือไม่!”
อ๊า!
เสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้น เศษซากวิญญาณถูกกระบี่มังกรเพลิงรังแกจนอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ แล้ว
“ข้ายอมแล้ว ข้ายอมให้เขาเป็นนายข้าแล้ว!”
โง่ก็โง่ เอาคนโง่มาฝึกฝนออกมาให้เป็นจอมมารรุ่นใหม่ คิดไปคิดมาก็รู้สึกมีความสำเร็จเหมือนกัน
ไม่นานนักทั้งสองก็ได้ทำพันธสัญญากันเสร็จสิ้น
จินซ่านซ่านหยิบกระบี่มารขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและกล่าวว่า “คนงามมู่ เจ้าช่างใจกว้างเกินไปแล้ว กระบี่วิญญาณเช่นนี้เจ้าก็ให้ข้าได้ ข้าไม่รู้ว่าจะขอบคุณเจ้ายังไงแล้วจริง ๆ ขอบคุณด้วยกายและใจของข้าดีหรือไม่ ?”
“หึ!” อาถิงทำเสียงฮึดฮัดออกทางจมูก ดวงตาสีเขียวอ่อนนั้นเหลือบมองไปทางจินซ่านซ่าน