“เป็นไปได้ยังไง?” อาจารย์ใหญ่ไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กหนุ่มที่อายุน้อยเช่นนี้จะสามารถช่วยชีวิตศิษย์ที่ภาคภูมิใจของเขาได้
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญไม่ใช่หรือ? สิ่งสำคัญคือผู้ป่วย”
สายตาที่ใสสะอาดและมุ่งมั่น ทําให้อาจารย์ใหญ่เหลยสงบลง
อย่างไรก็ตามเขาเองก็เป็นยอดฝีมือที่มีประสบการณ์ อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าว “เชิญด้านใน”
เมื่อเปิดประตู มู่เฉียนซีก็เห็นเหลยหมิงที่นอนเหม่อลอยอยู่บนเตียง
เหลยหมิงผู้นี้ไม่ใช่คนน่ารังเกียจ แม้ว่าสถานะตัวตนและความแข็งแกร่งของเขาจะสามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ในแดนใต้ได้ แต่เขากลับไม่ได้อวดดีเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าจะอยากได้คะแนนที่ยอดเยี่ยมและลงมือกับพวกเขา แต่หลังจากที่พ่ายแพ้ก็ยังรักษาคำพูด
เวลานี้มู่เฉียนซีมองไม่เห็นความฮึกเหิมของเขา แต่กลับเห็นเป็นความสิ้นหวังอย่างยิ่ง
ต่อให้สิ้นหวังเขาก็จะไม่หาเรื่องใส่ตัวจนทําให้อาจารย์ต้องเสียใจ และตอนนี้เขาได้ยอมแพ้ไปอย่างสิ้นหวังแล้ว
เมื่อนักปรุงยาบอกว่าโอกาสฟื้นตัวของเขานั้นน้อยมาก ตั้งแต่เด็กเขาอยากที่จะเป็นยอดฝีมือเหมือนอาจารย์มาก และยังมีความทะเยอทะยานอันแรงกล้าอีกด้วย
แต่ตอนนี้ทุกสิ่งอย่างกลับว่างเปล่า
“ยอมแพ้ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะสายไปเสียแล้ว” มู่เฉียนซีเอ่ยปากและปรากฏตัวต่อหน้าเหลยหมิงอย่างรวดเร็ว
“กินเข้าไปให้หมด!” มู่เฉียนซีหยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่งและยัดยาเข้าไปในปากของเหลยหมิง
“อุ๊บ!” เหลยหมิงเบิกตากว้าง และมองไปยังเด็กหนุ่มงดงามผู้หนึ่งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เห็นได้ชัดว่าความงดงามนั้นราวกับภูตมารก็มิปานแต่กลับเทยาที่ไม่รู้จักให้เขาหลายสิบเม็ดอย่างป่าเถื่อนเช่นนี้
อาจารย์ใหญ่เหลยเองก็ตกตะลึงเช่นกัน นี่…
นี่คือหมอปีศาจมู่ซีจริง ๆ หรือ ? ทําไมถึงดูราวกับเด็กที่ก่อเรื่องวุ่นวายไปวัน ๆ ? ยาสามารถกินได้ขนาดนี้เชียวหรือ ?
“แค่ก แค่ก แค่ก!” ภายใต้การบังคับของมู่เฉียนซี ทำให้เขาไอออกมา
ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและมองไปที่มู่เฉียนซี มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “เจ้าโกรธได้แล้วหรือ? ตอนนี้ค่อยดูเหมือนมนุษย์หน่อย ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นไม้ที่เคลื่อนไหวได้ ”
เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาเมื่อยิ้มแล้วราวกับสามารถทําให้ฟ้าดินสูญสิ้นไปได้จริง ๆ
บุรุษผู้หนึ่ง จะงดงามถึงขนาดนี้ไปทําไมกัน ? เหลยหมิงดูแคลน
ทันใดนั้นเขาก็พบว่าร่างกายของเขามีกระแสความร้อน ร่างกายที่อ่อนแอก็กลายเป็นดีขึ้นมาก และใบหน้าก็ไม่ซีดเซียวอีกต่อไป
อาจารย์ใหญ่เหลยพบว่าศิษย์รักของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เขาเชิญนักปรุงยาที่ดีที่สุดในทวีปเหลยโจวมา พวกเขาบอกเขาว่าเหลยหมิงต้องใช้เวลาสามวันถึงจะสามารถฟื้นฟูพลังลมปราณได้ แต่ตอนนี้…
เหล่าผู้อาวุโสกลุ่มนั้น ยังไม่น่าเชื่อถือเท่าเด็กผู้นี้!
มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “ในที่สุดข้าก็สามารถฟื้นฟูพลังลมปราณมาได้บ้างเล็กน้อยแล้ว ต่อไปจะเริ่มรักษาเส้นลมปราณของเจ้า”
“เจ้าว่าอะไรนะ?” เหลยหมิงมองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจ
“รักษาเส้นลมปราณของข้า? เส้นลมปราณของข้ายังสามารถรักษาให้หายได้” เขาได้สติขึ้นมาแล้ว และเขานั้นก็ยังไม่ลืมสิ่งที่นักปรุงยาที่ดีที่สุดของทวีปเหลยโจวได้กล่าวเอาไว้
“ไม่สามารถรักษาได้แล้วข้าจะมาทำไม? การรักษาบาดแผลภายนอกของเจ้า ช่างเป็นการลดตัวเองนัก!”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็หยิบกล่องที่ประณีตออกมา ภายในมีเข็มยาวางอยู่
“นี่… นี่ไม่ใช่อาวุธลับของมู่เฉียนซีหรอกหรือ? เจ้าจะฆ่าเขาเหรอ?”
เมื่อเหลยหมิงได้รับบาดเจ็บหนัก จินตนาการของเขาก็ยิ่งหลากหลายขึ้น
แม้ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือในการลอบสังหาร แต่ด้วยอาจารย์ใหญ่เหลยเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งทวีปเหลยโจว การลอบสังหารของนางจะไม่ใช่การรนหาที่ตายเอาหรอกหรือ?
อาจารย์ใหญ่ก็ไม่รู้ว่าเขาหยิบอาวุธลับออกมาทําอะไร ?
มู่เฉียนซีกล่าว “ถ้าอาจารย์ใหญ่เหลยเชื่อใจข้า ก็ไม่ต้องกังวลไป หากว่าข้าต้องการชีวิตของเหลยหมิง ข้าก็คงจะไม่เปิดเผยตัวโจ่งแจ้งเช่นนี้ การลอบสังหารจะเป็นการดีกว่ามาก!”
กล่าวจบมู่เฉียนซีก็ขยับปลายนิ้วและแทงเข็มยาทั้งหมดเข้าไปในเส้นสำคัญของเหลยหมิง
หากเป็นการโจมตี มู่เฉียนซีย่อมทําให้คู่ต่อสู้เจ็บปวดอย่างมาก
แต่หากเป็นการรักษา สำหรับคนไข้มู่เฉียนซีก็ยังอ่อนโยนต่อผู้ป่วยอยู่มาก
ดังนั้นเหลยหมิงจึงไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย มู่เฉียนซีรีบเก็บเข็มยาและกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่การรักษาที่จะให้หายขาดได้ภายในวันเดียว หลังจากรักษาไปได้สามครั้ง เขาก็จะฟื้นตัวขึ้น”
“เป็นไปได้ยังไง?” อาจารย์และศิษย์ต่างเผยสีหน้าตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
อาจารย์ใหญ่เหลยตรวจสอบเส้นลมปราณและเส้นเอ็นของเหลยหมิง และพบว่าเส้นลมปราณของเหลยหมิงได้รับการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมด้วยฤทธิ์ยา
เหลยหมิงเองก็รู้สึกเช่นกัน เขามองไปยังชายหนุ่มรูปงามที่สงบนิ่งดุจสายน้ำผู้นั้น เมื่อตอนที่เขารู้สึกสิ้นหวังที่สุด ชายหนุ่มผู้นั้นกลับทําให้เขาประหลาดใจ
มู่เฉียนซีกล่าว “อาจารย์ใหญ่เหลย ข้าอยากจะคุยกับท่าน”
“ได้!”
ในเวลานี้อาจารย์ใหญ่เหลยเชื่อมั่นในความสามารถของมู่เฉียนซีแล้ว ตราบใดที่มู่เฉียนซีร้องขอ เขาย่อมไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าว “การประลองในวันพรุ่งนี้ ไม่รู้ว่าอาจารย์ใหญ่เหลยจะมีแผนรับมืออย่างไร? หากมีโปรดชี้แนะด้วย นี้ถือว่าเป็นเงื่อนไขหนึ่ง”
นางยังสืบหาความแข็งแกร่งของว่านอู๋เทียนได้อย่างไม่ชัดเจน ดังนั้นนางจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก
นางไม่อยากตกระดับขั้นในตอนท้าย กว่าจะฝึกบำเพ็ญกลับมาได้ก็แสนยากเย็น
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าว “พรุ่งนี้ มู่เฉียนซีไม่คิดจะสละสิทธิ์หรือ? ”
“ไม่ได้มีแผนอะไร?”
อาจารย์ใหญ่เหลยขมวดคิ้วเล็กน้อย “พรสวรรค์ของเจ้ามู่เลวเลย น่าเสียดายที่อายุน้อยเกินไป แม้แต่เหลยหมิงก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของว่านอู๋เทียน เดิมทีจึงไม่มีแผนการที่จะเอาชนะได้”
“บวกกับเจ้าหมอนั่นที่จิตใจโหดเหี้ยม ถ้าสาวน้อยอย่างเจ้าต้องมาเจอเขาล่ะก็คงอันตรายอย่างมาก”
“ถ้าจะต้องสู้ขึ้นมาจริงๆ อาจารย์ใหญ่เหลยจะมีวิธีใดบ้าง?”
“ข้าก็ต้องการสักคนมาเอาชนะเจ้าหมอนั่น เพื่อแก้แค้นให้ลูกศิษย์ของข้า ทำไงได้ก็ข้าละอายที่จะลงมือเอง! ถ้าเป็นเหยียนหลัวข้าก็ยังพอมั่นใจอยู่ แต่มู่เฉียนซีพึ่งจะแค่ระดับสอง ไม่มีทางเป็นไปได้เลย!”
มู่เฉียนซีถามว่า “ถ้าเป็นเหลยหมิงล่ะ อาจารย์ใหญ่เหลยมีวิธีใดทําให้เขาชนะได้บ้าง?”
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวว่า “ถ้าเจ้าจะต้องสู้จริง ๆ ล่ะก็ คืนนี้มาหาข้าที่นี่”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “ได้!”
มู่เฉียนซีได้ไปมาพบอาจารย์ใหญ่เหลยตามที่ตกลงกันไว้ อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวอย่างจริงจังว่า “สาวน้อย เจ้าคิดดีแล้วหรือยัง?”
มู่เฉียนซีกล่าว “คิดดีแล้ว การประลองพรุ่งนี้มิอาจหลีกเลี่ยงได้”
“ที่จริงแล้วด้วยคะแนนโดยรวมของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้อันดับที่หนึ่งในรอบที่สาม แต่โดยรวมแล้วก็ยังเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี ไม่จําเป็นต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อการต่อสู้นี้”
มู่เฉียนซีตอบ “บอกอาจารย์ใหญ่ตามตรง ข้ารู้สึกว่าว่านอู๋เทียนมุ่งมาทางข้าโดยเฉพาะและเกรงว่าเหลยหมิงอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย”
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวว่า “อะไรกัน?”
“เรื่องนี้ข้ายังไม่แน่ใจนัก ต่อสู้ในวันพรุ่งนี้แล้ว ข้าถึงจะมั่นใจ”
อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็คงไม่อาจขัดเจ้าได้”
เขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าใครเป็นคนสั่งให้เจ้าว่านอู๋เทียนนั่นลงมือกับศิษย์รักของเขา
“ตามข้ามา!” อาจารย์ใหญ่เหลยกล่าว
“เจ้าเป็นจอมภูตธาตุน้ำ แต่อาวุธวิญญาณของข้าที่พอจะช่วยเหลือจอมภูตธาตุน้ำได้ก็มีไม่มากนัก ถ้าให้เจ้าใช้ธาตุสายฟ้า เช่นนั้นก็เหมือนเป็นการเปิดเผยว่าข้าโกง”
“นี่คือเกราะธาตุน้ำ ภายใต้ระดับมหาจักรพรรดิ มันจะปกป้องเจ้าไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ”
“นี่คือไข่มุกวิญญาณวารี ที่ทำให้เจ้าสามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งระดับสามได้ แต่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
“อาวุธมีกระบี่เล่มนั้นของเจ้า ข้าเองก็ไม่มีของอะไรจะให้แล้ว ทักษะวิญญาณเองก็เช่นกัน เช่นนั้นแล้วจึงมีแค่ของสองสิ่งนี้แล้ว”
“ยังมีสิ่งนี้อีก!” อาจารย์ใหญ่เหลยได้ยัดสิ่งที่ใช้เอาไว้สั่งสายฟ้าใส่มือมู่เฉียนซีไว้
“หากอันตรายจริง ๆ เอาสิ่งนี้โยนใส่เจ้านั่น ข้าเองก็ไม่ละอายแล้ว กล้าที่จะมาทำลูกศิษย์ของข้า เมื่อเห็นพยัคฆ์ไม่แสดงอำนาจก็คิดว่าข้าเป็นแมวป่วยตัวหนึ่งเท่านั้นสิ!”