“พวกเจ้า… พวกเจ้าอย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม …”เมื่อเห็นแสงเย็นยะเยือกในสายตาของจวินโม่ พวกเขาก็รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
ครั้งก่อน พวกเขาถูกซัดจนหวาดกลัวแล้ว
“ในหุบเขา ห้ามต่อสู้กันเอง ห้ามวางยาพิษ พวกเจ้าอย่าได้สร้างปัญหา…”
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อไม่สามารถต่อสู้กันเองได้ แล้วพวกเจ้ามาทำอะไรกัน?”
“แน่นอนว่าต้องมอบหมายภารกิจให้กับกลุ่มคนมาใหม่อย่างพวกเจ้า” มุมปากของพวกเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ลำพองใจ
แม้ว่าจะไม่สามารถซัดพวกเขาได้ แต่ก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีแน่
มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นศิษย์พี่ทุกท่าน มีภารกิจอะไรรึ?”
“สมุนไพรวิญญาณผืนนั้นที่ภูเขาด้านหลัง พวกเจ้ามีหน้าที่ปลูกมัน ตามข้ามา!”
จินเลี่ยฮั่วดึงมู่เฉียนซีไว้แล้วกล่าวว่า “พี่ซี ท่านว่าจะมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรหรือไม่!”
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะเด็กกว่าจินเลี่ยฮั่ว แต่จินเลี่ยฮั่วกลับให้มู่เฉียนซีเป็นแกนนำกลุ่มของพวกเขา
“ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่กล้าต่อสู้ มีกลโกงก็มี ลองไปดูกัน!” มู่เฉียนซีกล่าว
พวกเขาไม่กล้าลงมือ แต่สวนสมุนไพรของพวกเขาที่แบ่งให้มู่เฉียนซีและพวก ล้วนแต่เป็นกลุ่มสมุนไพรมรณะ
พวกเขาเห็นสีหน้าของมู่เฉียนซีไม่ดีจึงกล่าวว่า “ต้นเดือนหน้า สมุนไพรวิญญาณชุดนี้ก็จะต้องส่งมอบแล้ว ถ้าพวกเจ้าทำไม่ได้ ในอีกสามเดือนข้างหน้าก็อย่าหวังว่าจะได้รับสมุนไพรวิญญาณแม้แต่นิดเดียว ศิษย์น้องทั้งหลาย พวกเจ้าจงสู้ต่อไป!”
พวกเขาพูดจบ ก็จากไปอย่างลำพองใจ!
ปัง ปัง ปัง! จินเลี่ยฮั่วถีบหินตรงหน้าอย่างแรง
“จงใจ นี่มันจงใจชัดๆ!” จินเลี่ยฮั่วกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องเล่นกลอะไรสักอย่าง! แต่ ณ จุดนี้ยังไม่แน่ชัดพอ!”
จินเลี่ยฮั่วมองมู่เฉียนซีด้วยดวงตาเป็นประกาย “พี่ซี หรือว่าเจ้ามีวิธี!”
“กลับกันเถอะ! พรุ่งนี้ค่อยมาจัดการสวนสมุนไพรนี้อีกที!”
“พี่ซู คนพวกนั้นวางแผนจะละทิ้งแล้ว พอเห็นแปลงสมุนไพรนั่น ก็ยอมแพ้แล้ว!”
“ฮึ่ม! กล้าดียังไงมาล่วงเกินพวกเรา พวกเขาสมควรที่จะถูกงดอาหารเป็นเวลาสามเดือน พวกเขาอย่าได้คิดว่าจะอยู่ในหุบเขาหมอเทวดาได้อย่างมีความสุข”
ในฐานะนักปรุงยาผู้หนึ่ง ไม่เพียงแต่สามารถปรุงยาได้เท่านั้น แต่ยังต้องคุ้นเคยกับการปลูกและบ่มเพาะสมุนไพรวิญญาณอีกด้วย
มู่เฉียนซีเคยเพาะปลูกหญ้าสมุนไพรมาก็มากมาย และในมรดกของหม้อเทพนิรันดร์ก็มีข้อมูลอยู่ตั้งมาก หรือแม้แต่สมุนไพรวิญญาณที่คู่กับอาการป่วยเจียนตาย มู่เฉียนซีก็ยังมีวิธีจัดการกับมัน
กับเพียงแค่สมุนไพรวิญญาณที่ตายแล้วเหล่านี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เพียงหยิบเอาน้ำวิญญาณออกมาจากในมิติของศาลานิรันดร์ ก็สามารถทำให้สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นฟื้นฟูสภาพได้
และแน่นอนว่า ไม่สามารถทำมันอย่างรวดเร็วจนเกินไปได้
ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงวางแผนจะผสมยาบางอย่าง เพื่อชะลอความเร็วในการฟื้นฟูของสมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นให้ช้าลง
มู่เฉียนซีมอบยาให้จินเลี่ยฮั่วในวันรุ่งขึ้นและกล่าวว่า “ใช้สิ่งนี้เป็นน้ำ รดเป็นเวลาครึ่งเดือน สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นก็จะไม่เป็นไรแล้ว”
“เยี่ยมไปเลย!” จินเลี่ยฮั่นกล่าวด้วยความดีใจ มู่เฉียนซีจับจวินโม่ซีไว้และเริ่มปรึกษาเรื่องแผนการ จวินโม่ซีกล่าวว่า “ตอนนี้ต่อให้อยากเคลื่อนไหวก็มิอาจเคลื่อนไหวได้ ที่นี่คือหุบเขาส่วนนอก อยู่ห่างไกลจากตัวประหลาดเฒ่านั่นมาก แม้ว่าการวางยาพิษจะจัดการคนของหุบเขาส่วนนอกทั้งหมดได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อหุบเขาหมอเทวดามากนัก
“พวกเราควรกินดีและนอนหลับให้สบาย รอโอกาสที่จะเข้าไปในหุบเขาส่วนใน!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นเจ้าก็กินและนอนหลับให้สบาย เดี๋ยวข้าจะไปเก็บตัวฝึกฝนและพยายามทะลวงผ่านขั้นที่สามให้เร็วที่สุด ถึงอย่างไรพลังวิญญาณของหุบเขาหมอเทวดาก็ไม่เลวเลย”
“ช้าก่อน…” จวินโม่รีบดึงมู่เฉียนซีเอาไว้
“ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าคงกินไม่ดีนอนไม่สบายเอากระมัง?” จวินโม่ซีกล่าวอย่างน่าสงสาร
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย “อาหารในห้องครัวของหุบเขาหมอเทวดาส่วนนอกก็ไม่เลวเลย เจ้าอย่าเรื่องมากจนเกินไปนัก ดูแลตัวเองให้ดีล่ะ!”
มู่เฉียนซีจากไปอย่างไร้ความปรานี จวินโม่ซีรู้สึกท้อแท้!
“พี่ชายมู่ คำสารภาพรักถูกปฏิเสธหรือ? พยายามต่อไป!”
“ใช่! การจีบพี่ซี ต้องมีความเพียรถึงจะดี!”
“……”
กลุ่มคนที่ฟังอยู่ตรงมุมกำแพงห้องก็ต่างกระโดดออกมาให้กำลังใจจวินโม่ซีทีละคน
ใบหน้าของจวินโม่ซีหม่นหมอง “ข้าสารภาพ? หูข้างไหนของพวกเจ้าที่ได้ยินข้าสารภาพรักห๊ะ!”
เขาเพียงแค่ขออาหารเท่านั้น!
“หูตั้งหลายหูของพวกเราได้ยินหมดแล้ว อะไรนะที่ไม่มีเจ้าอยู่ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดไม่ถึงว่าพี่มู่จะมีเวลาหวานๆเช่นนี้ด้วย! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“ข้าว่าพวกเจ้านี่มันน่าถูกซัดเสียจริง!” จวินโม่ซีกล่าวอย่างโกรธเคือง
มู่เฉียนซีเก็บตัวฝึกฝนอยู่ ไม่นานก็จะถึงสิ้นเดือนแล้ว จินเลี่ยฮั่ววิ่งเข้ามาหาอย่างร้อนใจ “พี่ซี แย่แล้ว!”
มู่เฉียนซีเดินออกมาพลางกล่าวว่า “มีอะไรรึ?”
“สวนสมุนไพรของพวกเราถูกทําลายแล้ว พวกเขาคงเห็นว่าสมุนไพรวิญญาณของเราฟื้นตัวเต็มที่ดังนั้นพวกเขาจึงลงมือ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “พาข้าไปดูหน่อย!”
ตามที่คาดไว้ สมุนไพรวิญญาณที่ฟื้นคืนชีพจากความตายนั้นได้กลายเป็นเหี่ยวเฉาอีกครั้ง
ดวงตาของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นยะเยือกขึ้น “ดูเหมือนว่าไม่สั่งสอนให้พวกเขาได้รับบทเรียนสักหน่อย พวกเขาก็คงอยู่อย่างสงบสุขไม่เป็น”
มู่เฉียนซีกลับไปเตรียมยา ชนิดหนึ่งเป็นยาฟื้นฟูสมุนไพรวิญญาณจากความตายในแปลงสมุนไพรของพวกเขา และอีกชนิดหนึ่งล่ะ!
แน่นอนว่าเป็นยาพิษที่ไปทำลายสมุนไพรวิญญาณในสวนสมุนไพรของคนอื่นให้พินาศ
ในตอนเย็น มู่เฉียนซีมอบยาให้กับพวกเขาทั้งหลายและกล่าวว่า “แยกกันไปจัดการซะ!”
“ได้!”
วันรุ่งขึ้น ศิษย์พี่ทั้งหลายแทบจะหมดอาลัยตายอยาก
ไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีใด ก็ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ นี่…
เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่?
“ต้องเป็นพวกมาใหม่นั้นแน่ๆ!”
“ต้องใช่แน่ๆ!”
“พวกเราไปหาพวกเขากันเถอะ!”
พวกเขามาหาเรื่องมู่เฉียนซีและพรรคพวกอย่างดุดัน มู่เฉียนซีกล่าวว่า “อะไรหรือ? พวกเจ้ามีหลักฐานไหม? หากไม่มีหลักฐานก็อย่าไม่ใส่ความกันมั่วๆ ไม่งั้นข้าจะไปหาคนดูแลกฎมาจัดการพวกเจ้า!”
จินเลี่ยฮั่วกล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว! การใส่ร้ายผู้อื่นมิใช่นิสัยที่ดีนัก!”
“พวกเจ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
แม้ว่าพวกเขาจะกล่าวคำพูดที่โหดร้ายออกมา แต่เมื่อพวกเขามองไปที่สมุนไพรวิญญาณที่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะรอดชีวิตได้อีก ไม่นานก็จะถึงสิ้นเดือนแล้ว พวกเขาล้วนแต่ต้องหมดหวังแล้ว
ถึงขอร้องใคร ก็ไม่มีใครสามารถช่วยพวกเขาได้ ในที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงแต่ขอร้องมู่เฉียนซีเท่านั้น
“ศิษย์น้อง ศิษย์น้อง ข้าขอร้องพวกเจ้าล่ะ! หากพวกเราไม่สามารถส่งมอบสมุนไพรวิญญาณชุดนี้ได้ พวกเราต้องขาดสมุนไพรวิญญาณเป็นเวลาสามเดือน!”
“ศิษย์น้อง ศิษย์น้อง พวกเรารู้ผิดแล้ว! ต่อไปจะไม่มายั่วยุพวกเจ้าอีกแล้ว หากเห็นพวกเจ้าก็จะเดิมอ้อมไป!”
“……”
แค่ต่างคนต่างอยู่ มู่เฉียนซีก็ไม่ได้จะคุกคามอะไรพวกเขาแล้ว
“จะให้ข้าช่วยพวกเจ้าก็ได้ แต่ต่อไปพวกเจ้าทั้งหมดก็ต้องอยู่อย่างสงบ และสมุนไพรวิญญาณที่แจกในเดือนหน้า ข้าต้องการสองเดือน! มิฉะนั้นเลิกคุย!”
“ได้สิ!”
“ได้สิ!”
“……”
ศิษย์ทั้งหลายจากหุบเขาส่วนนอกเชื่อฟังผู้มาใหม่ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหุบเขาหมอเทวดาส่วนนอก
ไม่มีใครสร้างปัญหามู่เฉียนซีก็ใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ๆ สิ่งเดียวที่ไม่ราบรื่นก็คือนางยังไม่ก้าวไปสู่ขั้นที่สาม
เมื่อต้นเดือนมีข่าวแพร่สะพัดออกไป การคัดเลือกของหุบเขาส่วนในกำลังจะเริ่มขึ้น ศิษย์ทุกคนในหุบเขาส่วนนอกสามารถลงทะเบียนได้ มู่เฉียนซียิ้มและกล่าวว่า “หลังจากรอมานาน โอกาสนี้ในการเข้าไปสู่หุบเขาส่วนในก็มาถึงแล้ว”