ซือคงชเวเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ช่างโง่เขลานัก ไขกระดูกราชาหยกเขียวธรรมดาทั่วไปกับไขกระดูกหยกเขียวระดับสูง มันไม่อาจเทียบกันได้!”
จวินโม่ซีก็อดพูดไม่ได้เช่นกันว่า “เจ้ามันโง่เง่าไร้ความสามารถจริงๆ ไม่รู้ว่าเจ้าตามเข้ามาแล้วมีประโยชน์อะไร!”
“เจ้า… เจ้ามันรนหาที่ตาย!” เก๋อเหลียงอยากจะสู้กับจวินโม่ แต่กลับถูกพี่ชายของเขาดึงเอาไว้
“อย่าสร้างปัญหา!”
ทั้งสองฝ่ายอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด และรอการควบแน่นของไขกระดูกราชาหยกเขียวขั้นสูง
ติ๋ง!
ติ๋ง!
“……”
หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง สีของไขกระดูกราชาหยกเขียวก็ค่อยๆเข้มขึ้น และกลิ่นหอมหนึ่งก็ได้แผ่กระจายออกไป
ใบหน้าของมู่เฉียนซีเปลี่ยนสี นางกล่าวว่า “กลิ่นของไขกระดูกราชาหยกเขียวระดับสูงเปลี่ยนไป ข้าเกรงว่าสัตว์อสูรเขียวจะรู้ตัวในไม่ช้า รีบเก็บไขกระดูกราชาหยกเขียวแล้วรีบจากไปเร็วเข้า มิฉะนั้นสัตว์อสูรเขียวจะบุกเข้ามาแล้วเราจะไม่สามารถจัดการกับมันได้แม้แต่คนเดียว”
ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
ในตอนนี้เอง ซือคงชเวและเก๋อซือก็ได้พุ่งเข้าไปแย่งชิงไขกระดูกราชาหยกเขียวระดับสูง
ซือคงชเวกล่าว “เจ้าสิ่งนี้ ข้าเอาแล้ว!”
เก๋อซือกล่าว “ซือคงชเว เจ้าอย่ามาวางมาดนายน้อยแห่งหุบเขาต่อหน้าข้า ไขกระดูกราชาหยกเขียวนี้ข้าจะเอา เจ้าอย่าได้มาทำให้ข้าโกรธ”
“เจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า? ขยะ!” ซือคงชเวกล่าวด้วยความโกรธ
“หากไม่ใช่เพราะบิดาของเจ้าผู้เป็นหัวหน้าหุบเขาที่ใช้ทรัพยากรไปมากมาย เช่นนั้นพลังของข้าคงเหนือกว่าเจ้าไปนานแล้ว” เก๋อซือกล่าวอย่างโกรธเคือง
ปัง! ทั้งสองคนเริ่มต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงไขกระดูกหยกเขียวขั้นสูง
มู่เฉียนซีพุ่งออกไป และเตรียมไปเอาไขกระดูกราชาหยกเขียวขั้นสูง
“นางผู้หญิงสารเลว! เจ้ากล้าแตะต้องของของข้าก็ลองดู!” เก๋อเหลียงพุ่งเข้าไป
จวินโม่ซีหยุดเขาไว้ “ศิษย์น้อง เจ้าไปเอามาเถอะ! ชายผู้นี้ให้ข้าจัดการเอง”
พวกเขามีมากกว่าหนึ่งคน พี่น้องตระกูลเก๋อนั้นเสียเปรียบอยู่แล้ว แต่เก๋อซือจงใจเข้ามาสู้เช่นนี้ ย่อมมีไพ่ตายอยู่แล้วอย่างแน่นอน
เมื่อเก๋อซือเห็นมู่เฉียนซีเก็บไขกระดูกราชาหยกเขียวขั้นสูงขึ้นมา เขาก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย “ซือคงชเว อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะชนะ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!”
ทันใดนั้น พลังของเก๋อซือก็พุ่งทะยานขึ้นสู่สามภพของมหาจักรพรรดิวิญญาณ
ซือคงชเวตะลึงงัน “นี่… นี่ไม่ใช่พลังความแข็งแกร่งของเจ้า!”
“ไม่ใช่พลังความแข็งแกร่งของข้าแล้วอย่างไรเล่า? เพียงแค่สามารถเอาชนะและฆ่าเจ้าได้ก็พอแล้ว”
ปัง! เก๋อซือฟาดฝ่ามือใส่ซือคงชเวอย่างไร้ความปรานี
ปัง! ร่างของซือคงชเวกระแทกเข้ากับกําแพงหินจนกระอักเลือดออกมา
“สาวน้อย ส่งขวดระดูกราชาหยกเขียวเหล่านั้น แล้วข้าจะให้เจ้าได้ตายอย่างศพสวย!” เก๋อซือมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเย่อหยิ่ง
“เจ้าอย่าได้ทําอะไรบุ่มบ่าม มิเช่นนั้นน้องชายของเจ้าจะไม่เหลือแม้แต่ซากกระดูก”
ตอนนี้เก๋อเหลียงได้อยู่ในกำมือของจวินโม่ซีแล้ว
“เจ้ากล้าดียังไง!” เก๋อซือกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ไม่มีอะไรที่ไม่กล้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “มีเวลาไม่มากแล้ว รีบออกไปเร็วเข้า!”
มู่เฉียนซีกล่าวกับซือคงชเวว่า “นายน้อยหุบเขา ยังเดินไหวไหม?”
ซือคงชเวพยักหน้าและกล่าวว่า “กินยารักษาอาการบาดเจ็บแล้ว ข้ายังเดินไหว รีบออกไปเร็วเข้า!”
เก๋อซือไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจละเลยน้องชายของตนได้ ทํำได้เพียงออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน อย่างไรพวกเขาก็หนีไม่พ้น
พวกเขาทั้งห้าได้มาถึงที่ปากถ้ำ ตอนนี้เองที่สัตว์อสูรเขียวได้สะบัดผู้อาวุโสเหล่านั้นออกไป และสามารถกลับไปยังรูถ้ำของตนเองได้
ไขกระดูกราชาหยกเขียวขั้นสูงสำเร็จแล้ว มันต้องรีบกลืนมันไปให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้มนุษย์กลุ่มนี้อยากได้!
แต่สุดท้ายมันกลับเห็นมนุษย์หลายคนออกมาจากปากถ้ำของมัน
เช่นนั้นไขกระดูกราชาหยกเขียวขั้นสูงของมัน มิใช่ว่า…
“พวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจ พวกเจ้าไปตายซะ!” แรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แผ่กระจายออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน
“นายน้อย!”
“นายน้อยเก๋อ!”
เมื่อเห็นเงาร่างเหล่านั้น เหล่าผู้อาวุโสก็แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาไปช่วยเหลือไม่ทันแล้ว
“บ้าเอ๊ย! พวกเขาเข้ามาได้ยังไง?”
“ยังปรากฏตัวอยู่ที่นี่อีก!”
สัตว์อสูรเขียวกระโจนเข้าใส่ มีเพียงซือคงชเวที่บาดเจ็บสาหัสเท่านั้นที่ยากจะต้านทานได้ เขาตะโกนว่า “ศิษย์น้องมู่ ช่วยด้วย!”
จวินโม่ซีรีบพุ่งเข้าไปช่วยเขา ส่วนเก๋อซือคิดจะฉวยโอกาสนี้ช่วยเก๋อเหลียงกลับไป
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสีหน้าของซือคงชเวจะเปลี่ยนเป็นเย็นชา และผลักเก๋อเหลียงไปยังสัตว์อสูรเขียวนั่น
“อ๊าาา! เก๋อเหลียงเห็นร่างกายของตนพุ่งเข้าหาเจ้ายักษ์สีเขียวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เขากลอกตาและสลบไปทันที
“น้องชาย!” เก๋อซือตะโกน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมดต่ำต้อยที่อยู่ตรงหน้า สัตว์อสูรเขียวก็ฉีกมันออกเป็นชิ้นๆทันที
เก๋อซือตะคอกเสียงดัง “ซือคงชเว ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า…”
“นายน้อยเก๋อ รีบออกไปเร็วเข้า!”
และเพราะซือคงชเวที่ได้ผลักคนคนหนึ่งออกไปเป็นโล่ คนอื่นๆจึงมีโอกาสมาช่วยพวกเขาได้ และพาพวกเขาไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย
แต่…
เก๋อเหลียงตายอย่างไม่อาจตายได้อีก ตอนนี้ดวงตาของเก๋อซือแดงระเรื่อ!
“ซือคงชเว ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“นายน้อยเก๋อ ใจเย็นๆ!”
สัตว์อสูรเขียวกล่าว พวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจ มอบไขกระดูกราชาหยกเขียวออกมา!”
ผู้อาวุโสสูงสุดมองพวกเขาแล้วกล่าวว่า “ได้ไขกระดูกราชาหยกเขียวไปแล้วหรือ? ”
“ได้มันมาแล้ว” มู่เฉียนซีพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพัวพันกับสัตว์อสูรเขียวแล้ว พวกเรารีบออกไปกันเถอะ”
“ใช่!”
ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
พวกเขาออกไปโดยเร็วที่สุด แต่สัตว์อสูรเขียวจะปล่อยมนุษย์น่ารังเกียจที่ขโมยสมบัติของมันไปได้อย่างไร?
“พวกมนุษย์สารเลว พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
“พวกมนุษย์น่ารังเกียจ…”
“……”
ที่ที่สัตว์อสูรเขียวอยู่นั้นล้วนแต่มีพิษแพร่กระจายอยู่ อีกทั้งความรวดเร็วของมันยังเร็วเป็นอย่างมากอีกด้วย จึงไล่ตามอย่างไม่ลดละ
“ไขกระดูกราชาหยกเขียว อยู่ในมือของใคร!” ผู้อาวุโสสูงสุดถามขึ้น
“อยู่ในมือข้า” มู่เฉียนซีกล่าว
“เอามาให้ข้า ไว้ที่ข้ามันจะปลอดภัยกว่า” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
ซือคงชเวกล่าว “ผู้อาวุโสสูงสุดพูดถูก ส่งให้เขาปกป้องมันจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นถ้าเก๋อซือโกรธจนบ้าลงมือกับศิษย์น้องผู้หญิงอย่างเจ้าล่ะก็ คงลำบากแล้ว วางใจเถอะ เมื่อกลับมาถึงหุบเขาหมอเทวดา แน่นอนว่าจะต้องยกความดีความชอบให้กับศิษย์น้องอย่างแน่นอน”
“เช่นนั้นก็มอบให้ผู้อาวุโสสูงสุดไว้แล้วกัน” มู่เฉียนซีมอบไขกระดูกราชาหยกเขียวให้กับผู้อาวุโสสูงสุด
ตอนนี้เก๋อซือเป็นเหมือนเสือดาวที่กำลังหลับใหลก็มิปาน เมื่อได้ลงมือก็จะฉีกคนเป็นชิ้นๆ มันทำให้ทุกคนหวาดกลัวอย่างมาก
ตูม! ในเวลานี้ สัตว์วิญญาณในป่าฉงอวี่ก็ก่อจลาจลขึ้น
“บ้าเอ๊ย! สัตว์วิญญาณได้ก่อจลาจลในเวลานี้ พวกเราแยกย้ายกันไป!”
“รีบไปเร็วเข้า!”
“……”
การจลาจลของสัตว์วิญญาณ ได้พาคนกระจัดกระจายออกไป
สัตว์อสูรเขียวตามกลิ่นอายของไขกระดูกราชาหยกเขียวไล่ตามพวกผู้อาวุโสสูงอย่างไม่ลดละ
โชคดีที่รอดพ้นจากการจลาจลของสัตว์วิญญาณได้ ซีคงชเวจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้า… ร่างกายข้าทนไม่ไหวแล้ว พักก่อนสักครู่ ไม่น่าจะอันตรายอะไรแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ได้! นายน้อยหุบเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและยังไม่หายดี ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หยุดพักก่อนสักครู่หนึ่งแล้วค่อยออกจากป่าฉงอวี่ และรอที่จะรวมตัวกับผู้อาวุโสสูงสุดและพรรคพวก ”
ซือคงขเวกล่าว “ขอบคุณศิษย์น้องที่เมตตาข้า”
ดังนั้นพวกเขาจึงหยุดและพักผ่อน
แต่พักผ่อนยังไม่ได้เท่าไร อันตรายก็ใกล้เข้ามาแล้ว จิตสังหารพุ่งเข้ามา
ผู้ดูแลระดับมหาจักรพรรดิที่ปกป้องซือคงชเวเหล่านั้นกล่าวว่า “ใคร?” “ออกมา!”