ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมา อีกทั้งยังเป็นคนที่คุ้นเคยเสียด้วย
เหล่าผู้ดูแลระดับจักรพรรดิเหล่านั้นกล่าว “ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้านี่เอง ข้าคิดว่าเป็นศัตรูเสียอีก!”
คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเหล่าองครักษ์ของเก๋อซือ
พวกเขายิ้มแล้วกล่าว “ในที่สุดก็หาพวกเจ้าเจอเสียที”
พวกเขาเข้ามาประชิด จากนั้นสีหน้าพวกเขาก็ได้ฉายแววอันโหดเหี้ยมออกมา
มู่เฉียนซีกล่าว “ระวัง!”
ชิ้ง! พวกเขาได้ทยอยกันชักกระบี่ออกมา แล้วแทงทะลุหน้าอกของผู้ที่อยู่ตรงหน้า
“ในเมื่อหาตัวพวกเจ้าพบแล้ว ก็สามารถที่จะส่งพวกเจ้าไปอีกโลกได้แล้ว”
“พวกเจ้า…พวกเจ้า…” ผู้ดูแลเหล่านั้นที่ถูกฆ่าเบิกตาโพลงจ้องมอง
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ที่ทำกิจต่างๆร่วมกันมาจะลงมือฆ่าเขา
ฉึก ฉึก ฉึก! องครักษ์ของซือคงชเวที่ถูกโจมตีในครานี้ได้ตายไปในทันทีถึงสองในสามส่วน
“นายน้อย รีบไปเร็วเข้า เกรงว่า…..”
“คิดที่จะหนี พวกเจ้าฝันไปเถอะ!” เสียงที่ชั่วร้ายเสียงหนึ่งดังลอยมา
“เก๋อซือ เป็นเจ้านี่เอง!” ซือคงชเวเบิกตากว้างแล้วกล่าว
“เจ้า…..เจ้ากลับกล้าทำร้ายคนสำนักเดียวกัน เจ้าบ้าไปแล้ว!”
เก๋อซือกล่าว “ข้าเป็นบ้า? แล้วที่เจ้าทำให้น้องชายของข้าต้องตายศพไม่สวย เจ้าไม่ต้องชดใช้หรืออย่างไร?”
ซือคงชเวโกรธจัด “เก๋อซือ เจ้าคิดที่จะกบฏหรือไง?”
“เจ้าตายอยู่ที่นี่ก็จะไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นคนทำ ในเมื่อเจ้ากล้าฆ่าน้องชายของข้า แน่นอนว่าเจ้าจะต้องชดใช้!”
“ฆ่าพวกมัน ไม่ต้องไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว!”
ภายใต้คำสั่งของเก๋อซือ เหล่าผู้ดูแลระดับมหาจักรพรรดิเหล่านั้นก็ได้ลงมือทันที
“นายน้อย รีบไป! พวกเราจะรั้งพวกนั้นเอาไว้!”
ด้วยศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าฝั่งของตน จึงทำได้เพียงแต่ต้องหนีไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที!
มู่เฉียนซีกล่าว “นายน้อย พวกเราไปกันเถอะ! รีบหนีออกไป มิเช่นนั้นคงได้ตายสถานเดียว!”
“ไปกัน!”
“ตามมันไป!”
คราวนี้เก๋อซือได้ตัดสินใจแน่แล้วว่าจะทำให้ซือคงชเวกับมู่เฉียนซีถึงแก่ความตาย และได้ไล่ตามพวกมู่เฉียนซีที่อยู่ในป่าฉงอวี่อย่างไม่ลดละ
เดิมทีซือคงชเวก็บาดเจ็บหนักอยู่แล้ว และมิอาจที่จะหนีไปได้ไวนัก เพียงระยะเวลาไม่เท่าไรก็ถูกตามได้ทันเสียแล้ว
ซือคงชเวกล่าว “ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องมาพลอยลำบากไปด้วยแล้ว พวกเจ้ารีบหนีไป! เป้าหมายของพวกนั้นคือข้า!”
เก๋อซือกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หนี? พวกเจ้ายังคิดจะหนีต่อไปได้อีก ฝันไปเถอะ!”
ซือคงชเวกล่าว “อย่าได้คิดว่าพวกเจ้าจะชนะ ข้าจะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดายแน่นอน!”
ซือคงชเวกัดยาเม็ดหนึ่งจนแตก บิดาของเขาได้ฟื้นคืนหายดีแล้ว เขากำลังจะได้กลับไปผงาดเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้ เขาจะไม่ยอมให้ตนเองต้องมาตายไปเช่นนี้แน่
ถึงแม้ว่าจะต้องแลกด้วยทุกสิ่งอย่าง เขาก็มิอาจที่จะให้เก๋อซือทำสำเร็จได้
หลังจากที่ซือคงชเวได้กลืนยาเม็ดนั้นลงไปแล้ว พลังความสามารถก็ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างยิ่งยวดฉับพลันจนถึงขั้นพลังของระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สาม
อย่างไรเสียเขาก็เป็นนายน้อยของกองกำลังของสำนักนิกายระดับสอง และนั่นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีไพ่ตายติดตัวมาเลยแม้แต่น้อย
“ฆ่าพวกมันซะ!”
ในตอนนี้จวินโม่ซีได้พุ่งตัวออกไป พลังวิญญาณรอบตัวเขาได้ระเบิดตัวขึ้นมา
เก๋อซือปากอ้าตาค้างแล้วกล่าว “มหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่หนึ่ง! เจ้าบรรลุระดับแล้ว”
จวินโม่ซีกล่าวตอบ “ช่วยไม่ได้ หมาบ้าตัวหนึ่งมันไล่ตามหลังข้าเสียจนใกล้จะกัดข้าได้แล้ว ข้าถูกบีบเสียจนบรรลุระดับขั้น”
มหาจักรพรรดิแห่งภูตที่มีอายุน้อยเช่นนี้ ช่างทำให้ผู้อื่นตกตะลึงเสียจริง!
ใบหน้าของเก๋อซือบิดเบี้ยวขึ้นมา “ตาย! ไปตายเสียให้หมด!”
ครืน!
ฝ่ายตรงข้ามมีผู้ดูแลระดับมหาจักรพรรดิอยู่ไม่น้อย ถึงต่อให้จวินโม่ซีจะเก็บซ่อนพลังความสามารถที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ต่อไป แต่เมื่อซือคงชเวเพิ่มพลังความสามารถขึ้น ผลของมันก็มิได้ต่างอะไรกัน!
พลังความสามารถของมู่เฉียนซีนั้นอ่อนแอที่สุด และกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากศัตรูทุกคน
มู่เฉียนซีกล่าว “พลังความสามารถของข้าอ่อนแอที่สุด ข้ามีแต่ความรวดเร็วเท่านั้น พวกเจ้าจงอดทนเอาไว้ ข้าจะไปตามพวกผู้อาวุโสมาช่วย”
ซือคงชเวกล่าว “เช่นนั้นก็ต้องฝากศิษย์น้องด้วยแล้ว ตอนนี้ข้ามีพลังความสามารถของระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สาม ข้าสามารถที่จะต้านทานพวกนั้นเอาไว้ได้!”
ถึงต่อให้นางตามหากลุ่มของผู้อาวุโสไม่พบ แต่นางก็สามารถดึงดูดศัตรูตามไปด้วยได้ส่วนหนึ่ง นั่นก็ถือว่าเป็นการสร้างคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแล้ว!
มู่เฉียนซีพุ่งไปที่ส่วนลึกที่สุดของป่าฉงอวี่ เก๋อซือกล่าว “พวกเจ้ารีบตามตัวผู้หญิงนั่นไปเร็ว ฆ่านางเสีย อย่าให้นางไปเรียกใครมาที่นี่ได้”
“ขอรับ!”
มหาจักรพรรดิแห่งภูตสามคนได้ถูกส่งออกไปตามล่ามู่เฉียนซี เมื่อได้เห็นฉากนี้เข้า มุมปากของจวินโม่ซีก็เริ่มพับเป็นรอยยิ้มมุมปากขึ้นมา
เจ้าสามคนนั้นจบสิ้นแน่แล้ว จากนี้เขาจะค่อยๆเล่นเป็นเพื่อนคนพวกนี้ไป อย่างไรเสียพวกสัตว์แสนน่ารักพวกนั้นของมู่เฉียนซีก็ยังมิได้ถูกเรียกตัวออกมาใช้!
ถึงอย่างไรเสียมู่เฉียนซีก็เป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตผู้หนึ่งก็เท่านั้น ต่อให้แม่นยำในเคล็ดวิชาไปมากกว่านี้ก็ไม่สามารถที่จะหนีพ้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตกลุ่มหนึ่งได้
เงาร่างทั้งสามได้กระโดดลงมา มู่เฉียนซีได้ถูกพวกลิ่วล้อของเก๋อซือล้อมเอาไว้เสียแล้ว
“สาวน้อย เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
“จงยอมรับความตายเสียดีๆ”
มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “ข้าเคยบอกเหรอว่าข้าจะหนี?”
“หึหึหึ! คนที่จะต้องรับความตาย คงจะเป็นพวกเจ้าเสียมากกว่า!”
แมวสีขาวตัวเล็กตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นที่บนไหล่ของผู้ดูแลผู้หนึ่งตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่มีผู้ใดทราบ กรงเล็บแมวได้ตบเข้าไปที่คอหอยของเขา
“อ๊าก!” เสียงร้องปานหัวใจแหลกปอดสลายได้ดังออกมา เลือดสดๆไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งแบบที่ไม่สามารถห้ามเลือดเอาไว้ได้เลย!
กรงเล็บแมวนี้คมกริบยิ่งนัก
ตัวของอู๋ตี้นั้นดูแล้วเหมือนจะเป็นแมวตัวเล็กๆ แต่ทว่ามันกลับเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับที่สี่เลยเชียว!
“เพลิงเผาสวรรค์!” เปลวเพลิงสีแดงฉานได้ล้อมพวกเขาเอาไว้ทั่วบริเวณ
“อู๋ตี้ผู้ไร้เทียมทานหนึ่งเดียวในใต้หล้า!”
บึ้ม!
อู๋ตี้เองก็ได้กลายร่างเป็นตัวใหญ่ยักษ์ขึ้นมา เหล่าผู้ดูแลล้วนแต่เบิกตากว้างโพรงและกล่าวว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวนี้ เจ้าสองตัวนี้ ทำไมมันถึงได้เหมือน….กับ…..เหมือนกับสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซี”
มู่เฉียนซีเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งที่ต้องกำจัดทิ้งของหุบเขาหมอเทวดา พวกเขาจึงรู้จักสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซียิ้มตาหยีแล้วกล่าว “พวกเจ้าเดาถูกแล้ว!”
“เจ้า….เจ้ามิใช่เฟิงเยี่ยซีอะไรนั่น เจ้าคือมู่เฉียนซี เจ้าคือดาวซวยมู่เฉียนซี!”
“ข้า….ข้าจะไปรายงานนายน้อยเก๋อ เจ้า เจ้า….เจ้าตายแน่….”
ช่างน่ากลัวยิ่งนัก นางผู้นั้นที่ทำให้ยอดฝีมือระดับมหาจักรพรรดิของหุบเขาหมอเทวดาต้องสิ้นลมหายใจไปจำนวนไม่น้อย เบื้องหลังของมู่เฉียนซียังมีบุรุษที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากถึงสองคนคอยปกป้องอยู่อีก และนางกลับปลอมตัวเป็นคนอีกคนและแทรกซึมเข้ามาในหุบเขาหมอเทวดา นาง….นางทำได้อย่างไรกัน?
อู๋ตี้กล่าว “ข้าว่า พวกเจ้าคงไม่มีโอกาสนั้นเสียแล้ว!”
ตูม! สำหรับอู๋ตี้ที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่แล้ว การจะจัดการสองคนนี้ที่ไม่ถึงระดับจักรพรรดิแห่งภูตขั้นที่สามนั้นมันง่ายเหมือนดั่งพลิกฝ่ามือ
มู่เฉียนซียิ้มแล้วกล่าว “หลังจากนี้ ก็ต้องไปหาคนมาช่วย”
ผีเสื้อตัวใสตัวหนึ่งโบยบินออกไป นางได้นำกลิ่นสำหรับเอาไว้ติดตามใส่ไว้ในกล่องที่เก็บไขกระดูกราชาหยกเขียวเอาไว้
สิ่งที่นางต้องการ ถึงต่อให้ส่งมอบให้ผู้อื่นไปชั่วคราว แต่นางก็ต้องนำกลับมาให้ได้
ทางพวกผู้อาวุโสสูญเสียกำลังคนไปแล้วมิน้อยถึงสลัดจากสัตว์อสูรเขียวมาได้ แต่บัดนี้ก็ได้พบเข้ากับผู้ที่วิ่งฝ่าเข้ามาด้วยตัวที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด
“นั่นมัน…สาวน้อยผู้นั้น!”
ร่างกายของมู่เฉียนซีเต็มไปด้วยเลือดทั้งตัว นางกล่าวอย่างอ่อนแรง “ท่านผู้อาวุโส รีบไปช่วยนายน้อยเร็ว พวกเขาอยู่ทางนั้น….”
มู่เฉียนซียื่นมือชี้บอกไปที่ทิศทางหนึ่ง และราวกับว่านางได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่ทั้งหมดไปแล้ว นางจึงสลบล้มลงไปในทันที
“เกิดเรื่องขึ้นกับนายน้อยแล้ว รีบไปเร็ว! เอาตัวสาวน้อยนี้ไปด้วย!”
เนื่องเพราะได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับนายน้อย พวกเขาจึงร้อนรนใจดั่งไฟสุมอก! เลยขี้เกียจที่จะสละเวลามาดูบาดแผลของมู่เฉียนซี จึงทำให้มู่เฉียนซีรอดผ่านไป
อู๋ตี้และเสี่ยวหงที่อยู่ในมุมมืดก็พึมพำกัน “ทักษะการแสดงของนายท่านนับวันจะดีขึ้นเข้าไปทุกที แม้แต่ข้าเองยังเกือบที่จะถูกนางหลอกเข้าเสียแล้ว”
“เลือดนั่นช่างสมจริงยิ่งนัก!”