เมื่อซือคงชัวคิดว่าจวินโม่ซีได้อยู่ใกล้กับมู่เฉียนซี อีกทั้งยังได้เห็นผิวขาวราวหิมะนั้นอย่างใกล้ชิด ก้นบึ้งในหัวใจเขาก็เกิดไฟแห่งความชั่วร้ายขึ้น
“เจ้าเด็กบัดซบ ไม่ยอมรับว่าตัวเองชอบศิษย์น้อง กลับยังกระทำตัวเช่นนี้อีก โกหกข้าชัด ๆ!
ตอนนี้จวินโม่ซีได้กลายเป็นศัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งของซือคงชัวไปแล้ว
ทั้งสองได้กลับไปยังที่พัก จวินโม่ซีกล่าว “นั่งลง!”
จากนั้นเขาได้เอายาทาออกมาเตรียมจะทาให้มู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีกล่าว “นี่เจ้าจะทายาให้ข้าจริง ๆ เหรอ?”
“เจ้าคิดว่าข้าแค่พูดไปงั้น ๆ ตั้งใจยั่วโมโหเจ้าไร้ประโยชน์นั่นเหรอฮะ?” จวินโม่ซีกล่าว
“แล้วเจ้าคิดว่าไงล่ะ!” มู่เฉียนซีฉกเอายาในมือจวินโม่ซีมาพลางกล่าว
“แผลเล็กน้อยแค่นี้ ผู้นำตระกูลอย่างข้าไม่รบกวนท่านหัวหน้านักปรุงยาหรอก ทำเองได้!”
ภายในชั่วพริบตาเดียว มู่เฉียนซีก็ได้จัดการแผลของตนเองเสร็จสิ้น จากนั้นก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง
“เจ้าก็ไม่ให้โอกาสนักปรุงยาอย่างข้าแสดงฝีมือเลย” จวินโมซีกล่าวตามหลังนาง
“โอกาสของเจ้า? หากให้เจ้ารักษาแผลภายนอก ก็เท่ากับว่าข้าเอาทรัพยากรล้ำค่ามาใช้ไม่เหมาะสมน่ะสิ”
จวินโม่ซีกล่าว “ก็จริง ข้าก็แค่กลัวว่าข้อมือของเจ้าได้รับบาดเจ็บ กลัวว่าวันนี้จะไม่มีของให้กินก็เท่านั้น”
“ที่แท้เจ้าโหยหาแต่สิ่งนี้อย่างนั้นเหรอ เอาล่ะ เจ้าพูดถูกแล้ว วันนี้ไม่มีของให้เจ้ากิน!” มู่เฉียนซีเดินออกมากล่าวอย่างไร้ความปรานี
“เจ้ามันโหดร้าย!” จวินโม่ซีแทบอยากจะร้องไห้
มู่เฉียนซียืดสองแขนขึ้นพลางกล่าว “การต่อสู้ไม่ได้ออกแรงอย่างเต็มที่ ไม่สนุกเอาซะเลย ดูท่าข้าต้องรีบหาทางฝังหุบเขาหมอเทวดาซะแล้ว”
จวินโม่ซีกล่าว “ใช่! ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้ากลัวว่าข้าจะทนไม่ได้ลงมือวางยาพิษเจ้าซือคงชัวผู้นั้น จากนั้นก็ถูกพวกหุบเขาหมอเทวดาตามฆ่าอีกครั้งเป็นแน่”
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเจ้าเกลียดชังคนคนนึงได้มากถึงเพียงนี้”
จวินโม่ซีกล่าว “เจ้าให้ค่าเจ้านั่นสูงเกินไปแล้ว เจ้านั่นมันเป็นคนซะที่ไหนกันล่ะ!”
“ข้าหนีเอาชีวิตรอดมาโดยตลอด น้อยมากที่จะได้คบค้าสมาคมกับผู้คน เขาเป็นหนึ่งในสองของคนที่ข้าเกลียดมากที่สุด”
มู่เฉียนซีตกใจผงะไปอีกครั้ง “ยังมีอีกคนนึงเหรอ คงจะไม่ใช้ข้าหรอกใช่ไหม?”
“หากข้าเกลียดชังเจ้า ข้าจะอยู่ให้เจ้าใช้ข้าตามใจชอบราวกับทาสเช่นนี้เหรอ?” จวินโม่ซีกรอกตามองบนพลางกล่าว
“คนตะกละอย่างเจ้าใครจะไปรู้ล่ะ อาจจะทำเพื่อปากท้องของตัวเอง ยอมกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าก็ได้!” มู่เฉียนซีกล่าวหยอกล้อ
ไม่นานนัก ก็มีคนมาหาพวกเขา!
“คุณหนูเฟิง ท่านผู้ดูแลใหญ่เรียกคุณหนูไปพบขอรับ!”
มู่เฉียนซีตกใจผงะไป หรือว่าตอนที่ลงประลองนางจะเผยพิรุธออกมาแล้ว!
ไม่น่าจะเป็นไปได้! กระบี่มังกรเพลิงเมื่อก่อนใหม่เอี่ยม แต่กระบี่มังกรเพลิงในตอนนี้ ต่อให้เป็นอาจารย์ใหญ่ซวนก็ดูไม่ออก พวกเขาก็คงไม่ระแคะระคายอันใดหรอก
จวินโม่ซีกล่าว “ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้า”
“ดีเลย!”
ท่านผู้ดูแลใหญ่มองมู่เฉียนซี ใบหน้าของเขาไม่ได้เผยความแปลกใจแต่อย่างใด
“สาวน้อย เจ้ามาแล้ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ท่านผู้ดูแลใหญ่มีเรื่องอันใดเหรอ?”
ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าว “เป็นเช่นนี้นะ คือว่า เข็มที่เจ้าโจมตีช่างกวนเซียงนั้นมันมีความพิเศษเล็กน้อย นักปรุงยาของหุบเขาหมอเทวดาเราไม่กล้าเอาออกมาโดยพลการ กลัวว่าหากเอาออกมาใบหน้าของช่างกวนเซียงจะเป็นอัมพาตได้ ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าเป็นคนลงมือ”
มูเฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม! ข้าเข้าใจแล้ว ตอนนั้นสถานการณ์คับขันข้าจึงลงมือหนักไปหน่อย ไม่ทันระวัง”
ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าว “ข้าเข้าใจ เรื่องนี้ไม่โทษเจ้า เป็นช่างกวนเซียงที่หัวแข็ง เอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะลอบทำร้ายเจ้าในการประลองที่โจ่งแจ้งเช่นนี้”
ในเมื่อไม่ได้สงสัยในตัวนาง เช่นนั้นมู่เฉียนซีก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจแล้ว
ตอนนี้ช่างกวนเซียงกำลังนอนอยู่บนเตียง หางเข็มโผล่อยู่ที่ข้างปากของนาง ทว่าใบหน้าทั้งหน้าของนางบวมเป่งจนแทบจะเป็นภูเขาอยู่แล้ว
ตอนนี้นางไม่อาจขยับเขยื้อนปากพูดได้ เมื่อเห็นมู่เฉียนซีมา นางจึงทำได้เพียงแค่ถลึงตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่โหดร้าย
มู่เฉียนซีกล่าว “ท่านผู้ดูแลใหญ่ ดูเหมือนว่าศิษย์พี่ช่างกวนจะไม่อยากต้อนรับข้า ข้า……”
“ช่างกวนเซียง อย่าหาเรื่องเลยนะ หากเจ้าอยากหน้าพิการ ข้าจะให้สาวน้อยกลับไปตอนนี้เลย แล้วจะไม่สนใจเจ้าแล้ว” ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าว
ในที่สุดช่างกวนเซียงก็หยุดทำสายตาโหดร้ายนั่น เพียงแต่ว่าภายในส่วนลึกของนัยน์ตานั้นกลับซ่อนความพยาบาทคาดแค้นอยู่
มู่เฉียนซีกล่าว “ในเมื่อเป็นคำขอของท่านผู้ดูแลใหญ่ ข้าก็จะไม่ปฏิเสธ เจ้าเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ข้าจะดึงเข็มแล้ว”
ทันทีที่สองนิ้วของมู่เฉียนซีขยับ ภายในชั่วพริบตาเดียวเข็มเงินนั้นก็ถูกดึงออกมา
อ๊า! ชั่วครู่หนึ่งความเจ็บปวดอันรุนแรงนั้นทำให้ช่างกวนเซียงกลิ้งไปมาอย่างเจ็บปวดทรมานอยู่บนเตียง
ถึงแม้ว่าเข็มนั้นจะถูกดึงออกมาแล้ว แต่ใบหน้านั้นยังบวมเป่งขึ้นมาราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ ชั่วครู่ยามถึงจะหายไป
“ข้า……ข้าจะ..เจ้า……” มู่เฉียนซีช่วยนางดึงเข็มออก แต่นางยังจะถลึงตากล่าวเช่นนี้กับมู่เฉียนซีอีก มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ศิษย์พี่ช่างกวน รอให้หายดีแล้วค่อยมาท้าทายข้าได้ทุกเมื่อ ขอเพียงแค่ศิษย์พี่ช่างกวนมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะข้าได้ก็พอ แต่ข้าอยากจะเตือนศิษย์พี่ช่างกวนสักหน่อยนะ อาวุธลับใช้ไม่ได้ผลก็อย่าเอามาใช้อีกเลย ให้ทุกข์แก่ท่าน แต่ทุกข์นั้นถึงตัว มันรู้สึกเป็นทุกข์ใจใช่หรือไม่!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซี ใบหน้าของช่างกวนเซียงก็แดงก่ำขึ้นด้วยความโกรธ
พรวด! นางกระอักเลือดคำโตออกมา เลือดสีแดงสดนั้นได้ย้อมเตียงของนางจนเปียกชื้น
ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าว “ช่างกวนเซียง หลังจากอาการบาดเจ็บของเจ้าหาย ให้ไปกักบริเวณที่จั๋วเทียนหยาเป็นเวลาครึ่งปี”
ถูกกักบริเวณเป็นเวลาครึ่งปี เช่นนั้นการคัดเลือกศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่านางก็เข้าร่วมไม่ได้แล้วน่ะสิ
ช่างกวนเซียงกล่าว “ท่านผู้ดูแลใหญ่ ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด อย่ากักบริเวณข้าเลย ข้า……”
“นี่เป็นคำสั่งของท่านผู้เฒ่า ต่อให้เจ้าไม่ถูกกักบริเวณ เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าแล้ว” ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าวอย่างไม่แยแส
ตอนนี้ช่างกวนเซียงนอนอยู่บนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง นางพึมพำว่า “เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง? มันเป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง? ข้า……”
นางนึกไม่ถึงเลย เพียงแค่ท้าประลองกับผู้เป็นศัตรูหัวใจคนเดียวกลับเป็นการทำลายตัวนางเองได้ถึงเพียงนี้
สายตาของท่านผู้ดูแลใหญ่เย็นชา กล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยม อีกทั้งยังใช้อาวุธลับคิดจะฆ่าอัจฉริยะที่ท่านผู้เฒ่าจับจ้องอยู่ การลงโทษเช่นนี้ยังนับว่าน้อยไป
เมื่อหัวหน้าหุบเขารู้เรื่องนี้เข้าก็ตกอกตกใจเป็นอย่างมาก “สาวน้อยเฟิงเยี่ยซีผู้นั้น นึกไม่ถึงว่าจะเอาชนะช่างกวนเซียงได้”
ซือคงชัวพยักหน้าพลางกล่าว “ถึงแม้ว่าระดับพลังวิญญาณของศิษย์น้องจะไม่สูง แต่นางกลับมีทักษะกระบี่ที่แข็งแกร่งมาก สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้”
“ทักษะกระบี่ที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับได้……” สีหน้าของหัวหน้าหุบเขาซือคงเคร่งขรึมขึ้น ดูเหมือนว่าจะคิดในหลาย ๆ เรื่องได้
ซือคงชัว “ท่านพ่อ ท่านเป็นอะไรไป?”
“ทักษะกระบี่นั้นเป็นเช่นไร?” หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าวถาม
“ดูเหมือนจะเป็นบัวอัคคีที่เบ่งบานและงดงามที่สุด พลังก็แข็งแกร่งมากด้วย ไม่ว่าจะเป็นพลังในการโจมตีหรือว่าความเร็ว เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น เว้นเสียจากว่าผู้ที่มีพลังวิญญาณสูงกว่าศิษย์น้องมาก ๆ มิเช่นนั้นแล้ว ก็ยากที่จะรับมือได้” ซือคงชัวกล่าว
ในที่สุดใบหน้าของหัวหน้าหุบเขาซือคงก็เผยรอยยิ้มออกมา “ดูท่าข้าคงจะคิดมากไปแล้ว”
ต่อให้มู่เฉียนซีกำเริบสืบสานมากเพียงใด นางก็ไม่กล้ามาที่หุบเขาหมอเทวดาเป็นแน่ หัวหน้าหุบเขาซือคงกล่าว “เพื่อนาง ท่านผู้เฒ่าถึงกับสั่งกักบริเวณช่างกวนเซียงไว้ที่จั๋วเทียนหยา สิ่งนี้ทำให้เห็นแล้วว่าเขาให้ความสำคัญกับสาวน้อยนั่นเพียงใด เจ้าจะต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ให้ได้ ถึงอย่างไรเสีย การคัดเลือกศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าก็ใกล้จะเริ่มแล้ว หากรอให้นางกลายเป็นศิษย์สายตรง เกรงว่านางจะยิ่งไม่สนใจเจ้า”
ซือคงชัวกล่าว “ขอรับท่านพ่อ ข้าเข้าใจแล้ว”